ตอนที่ 1 บทนำ

2237 Words
เสียงกลองสันทนาการดังกึกก้องพร้อมกับเสียงร้องเพลงปลุกความสนุกสร้างสีสันในงานรับน้องของคณะวิศวกรรมศาสตร์ นิสิตนักศึกษาต่างพากันปล่อยฝีไม้ลายมือออกลวดลายขยับกายเต้นตามจังหวะทั้งที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยแป้งสีขาวโพลน ฉันเองก็ออกลายเต้นอย่างเมามันไปกับเสียงกลองที่ดังเป็นจังหวะชวนเร้าใจจนไม่อาจยืนอยู่เฉยได้ ก่อนรุ่นพี่จะกรูเข้ามาปะแป้งฉันจนใบหน้าสวย ๆ ของฉันวอกไปด้วยแป้งเด็ก เกือบจะสำลักออกทางจมูก “น้องนิดานี่เต้นเก่งจริง ๆ เลยนะ” รุ่นพี่พากันเอ่ยแซวอย่างขำขัน ฉันเองก็หัวเราะแหะตอบรับอย่างเก้อเขิน แหมเมื่อกี้มันก็มันอยู่หรอกค่ะแต่พอมีคนมาเอ่ยแซวอย่างนี้แล้วฉันเองก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาเสียอย่างนั้น ฉันเองก็ไม่ใช่คนหน้าหนาอะไร ออกจะบางเสียด้วยซ้ำยิ่งต้องมาทาแป้งขาวเต็มหน้าแล้วก็รู้สึกประหม่าจนแทบทำตัวไม่ถูก ฮือ อยากจะผ่านวันนี้ไปไว ๆ จัง อ๋อ ฉันลืมแนะนำตัวไปเลย แต่ทุกคนคงได้ยินที่รุ่นพี่เรียกฉันแล้วใช่ไหมคะ ใช่ค่ะ ฉันชื่อ ฐานิดา หรือ นิดา นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ปีหนึ่ง ตอนแรกพอบอกคุณพ่อสุดที่รักของฉันว่าฉันอยากจะเรียนคณะนี้คุณพ่อนี่แทบจะลมจับเลยค่ะ ท่านห่วงฉันมากกลัวว่าฉันจะเรียนหนักเกินไปเพราะฉันก็เป็นเพียงลูกสาวตัวเล็ก ๆ อันที่จริงท่านหวงฉันเรื่องผู้ชายมากกว่า แต่เห็นอย่างนี้ฉันเป็นเด็กที่เรียนเก่งมากเลยนะคะ เหลือเชื่อใช่ไหมล่ะ ถึงฉันจะเป็นสาวโก๊ะ ๆ แต่จะบอกว่าสอบติดเข้ามาด้วยคะแนน ท็อปต้น ๆ เลยนะจะบอกให้ เฮ้อ สะบัดผมหนึ่งที เพราะอย่างนั้นวันนี้ฉันเลยได้มาร่วมกิจกรรมรับน้องครั้งแรกของคณะ วันนี้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกครื้นและความอบอุ่นของพวกรุ่นพี่ที่มาร่วมกิจกรรมรับน้องกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นอกจากกิจกรรมสันทนาการที่ฉันดูจะสนุกเกินหน้าเกินตาก็ยังมีกิจกรรมเฉลยพี่รหัสที่จะคอยดูแลเราไปจนจบอีกด้วย แอบตื่นเต้นว่าจะได้รุ่นพี่หล่อแล้วจบเหมือนในนิยายบ้าง คริคริ แค่คิดก็ฟินแล้ว “แหม ทำหน้าเคลิ้มแบบนี้เจอของเด็ดเข้าแล้วอะดิ” ฉันหันขวับไปมองเพื่อนสนิทอย่าง กชมน หรือ มน หญิงสาวผมดัดลอน สวย แซ่บ เบอร์ที่ว่าแค่เดินผ่านผู้ชายก็เหลียวตามกันเป็นแถว สายสะพายดาวคณะปีนี้ไปไหนไม่พ้นเธอแน่ “พูดอย่างกับว่าแกเจอแล้วอะ” อีกฝั่งหนึ่งของฉันคือเพื่อนสนิทฉันอีกคนชื่อ เทวิกา หรือ วิ สาวหวาน ขี้อาย กุลสตรีเบอร์หนึ่ง ขั้วตรงข้ามของมนแต่ทว่าดันเป็นเพื่อนที่มนหวงมากที่สุดจนแอนตี้ผู้ชายทุกคนที่เข้ามาจีบเพื่อนรักน้องเล็กของกลุ่ม “แล้วแกอะ สนใจใครปะ” ฉันลองถามหยั่งเชิงเพื่อว่าเพื่อนรักของฉันคนนี้จะได้ลงจากคานกับเขา เอ่อ อันที่จริงกลุ่มเราก็ยังไม่เคยมีใครหย่อนก้นลงมาจากคานหรอกนะ แหะ ๆ “คนเยอะตาลายไปหมดเลย เรามองไม่เห็นหรอก นิดากับมนอะเจอแล้วเหรอ” ฉันส่ายหน้าระรัว วันนี้รู้สึกเหมือนภาพมันพร่ามัวไปหมดจับหน้าใครไม่ได้เลยสักคน หรือว่าแป้งเด็กมันเข้าตา ฉันจะตาบอดไหมเนี่ย “ฉันเจอแล้วจ้ะ” ทั้งฉันและวิต่างรีบหันไปมองด้วยความเร็วแสงจนคอแทบเคล็ดไปทางสาวสวยที่เผยสายตาเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะหันไปจับจ้องทางกลุ่มของรุ่นพี่ที่ยืนใส่เสื้อช็อปมองรุ่นน้องสวยใบหน้าที่นิ่งขรึมจนฉันสงสัยว่าจะเก๊กกันไปทำไม ปีนี้ไม่มีพี่ว้ากซะหน่อย “ใครอะ” ฉันขมวดคิ้วเอ่ยถามด้วยความสงสัยพลางสายตาก็ยังคงจับจ้องไปที่กลุ่มรุ่นพี่อย่างไม่วางตา “กลุ่มนั้นน่ะ เป็นรุ่นพี่ปีสี่ที่รวมคนหน้าตาดีไว้ด้วยกันตั้งห้าคนเลยนะ” ฉันและวิฟังมนอธิบายไปก็จ้องมองพวกพี่เขาไป กลุ่มพี่เขาที่ยืนเกาะกลุ่มกันมีทั้งหมดห้าคน คนแรกที่มนแนะนำคือพี่ ปิยธิดา หรือ ธิดา ผู้หญิงคนเดียวของกลุ่มที่ทำเอาสาว ๆ อิจฉากันเป็นแถบ ๆ เพราะได้ใกล้ชิดกับหนุ่ม ๆ ที่สาวหมายปองกันเกือบทั้งคณะ แต่ทว่าพี่ธิดาดีกรีไม่ธรรมดาเพราะเป็นถึงดาวคณะ ทั้งสวยและเท่ในคราวเดียว ต่อด้วยพี่ รามิล หรือ มิน เพราะเป็นหนุ่มที่แพรวพราว เจ้าชู้เข้าถึงง่ายสุด หักอกสาวมาแล้วนับไม่ถ้วนจนกลายเป็นกิตติศัพท์เลื่องลือไปแล้วว่าเขานั้นเป็นเสือตัวพ่อ คนต่อมาพี่ ภากร หรือ กร หนุ่มเฟรนด์ลี่ ขี้เล่นแถมยังสายเปย์สุด ๆ คนนี้เป็นเหมือนเป้าหมายของสาว ๆ ที่อยากมีแฟนสายซัปพอร์ตพร้อมเปย์ จนหัวกระไดไม่เคยแห้ง ตัดกับพี่ ต้นคิด หรือ ต้น ที่เนิร์ดสมชื่อ หนุ่มที่สวมแว่นตาสี่เหลี่ยมไว้ตลอดเวลา ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่ว่ากันว่าฉลาดเป็นกรด ตัวท็อปของรุ่นมันสมองของกลุ่ม และคนสุดท้าย คนนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะเป็นเดือนคณะคู่กับพี่ธิดา หนุ่มฮอตที่เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั้งหล่อ รวยและเก่ง ทายาทของนักธุรกิจชื่อดังตระกูลบูรณ์พิภพ พี่ อคิราห์ หรือ คิณ แต่ใครเขาก็บอกกันว่าพี่คิณเป็นคนที่เข้าถึงยากที่สุดเพราะทั้งหยิ่งและขรึมสุด ๆ ใครเฉียดเข้าใกล้นะเหมือนอุณหภูมิรอบตัวลดฮวบติดลบกันเลยทีเดียว ฟังดูเวอร์นะ ฉันเองก็ว่าอย่างนั้นแหละ ฉันหรี่ตามองเพื่อนรักเหลือเชื่อขณะที่มนกำลังสาธยายเรื่องราวของพี่คิณให้พวกเราฟัง คนอะไรมันจะแผ่รังสีอำมหิตออกมาได้น่ากลัวเบอร์นั้น แต่แล้วฉันก็ต้องข่มความสงสัยไว้เท่านั้นเพราะกิจกรรมดำเนินมาถึงช่วงจับพี่รหัส เครื่องชี้ชะตาว่าใครจะได้เนื้อคู่ เอ๊ย พี่ที่แสนดีกลับมาเทกแคร์เราในระหว่างที่ตรากตรำพรากเพียรอยู่ที่นี่ พอถึงตาฉันก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก อยู่ดี ๆ ยางอายก็ทำงานหลังจากช่วงสันทนาการเต้นจนลืมว่าตัวเองอยู่ในสังคม ฉันได้แต่คลี่ยิ้มกว้างอย่างฝืนใจจนแป้งที่แห้งติดขอบปากปริแตกแล้วล้วงมือเข้าไปในกล่องสุ่มเพื่อจับฉลากสายรหัสตัวเอง เนื่องจากปีนี้อยากให้การรับน้องเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีของรุ่นน้องและรุ่นพี่ในเวลาอันสั้นเพื่อลดการรับน้องที่อาจจะใช้ความรุนแรงจึงใช้การจับฉลากเพื่อเลือกสายรหัสกันเดี๋ยวนั้นเลย ฉันหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกล่องสุ่มก่อนจะยื่นให้รุ่นพี่ที่เป็นพิธีกร รุ่นพี่คนนั้นเปิดกระดาษที่ถูกพับเอาไว้ออกดู สายตาเลื่อนขึ้นมามองฉันอย่างเจ้าเล่ห์ชอบกลจนฉันเสียวสันหลังวาบ “น้องนิดาได้เป็นน้องรหัสของพี่เมนิลสุดสวยประจำคณะของเราเลยนะเนี่ย” ฉันรีบหันไปตามมือของรุ่นพี่ที่ผายไปทางสาวสวยที่ยืนส่งยิ้มหวานมาทางฉันก่อนหน้านี้แล้ว พี่ เมนิลา หรือ เมนิล ฉันพอรู้จักอยู่ พี่เขาเป็นดาวคณะปีที่แล้ว ตัวจริงสวยกว่าในรูปตั้งเยอะ ฉันยืนตะลึงกับความสวยของรุ่นพี่ที่จะมาเป็นพี่รหัสตัวเองจนขาก้าวแทบไม่ออก ฮือ น้ำตาจะไหล ฉันได้พี่เมนิลเป็นพี่รหัสจริง ๆ เหรอเนี่ย “น้องนิดาคะ มาหาพี่สิ” คนอะไรหน้าก็สวย เสียงก็เพราะ ฉันรีบก้าวเท้าเข้าไปหารุ่นพี่สุดสวยเรากับลอยไป พี่เมนิลเผยรอยยิ้มอย่างเอ็นดูจนต้องยกมือขึ้นมาปิดปาก มารยาทก็ดีด้วยเหรอเนี่ยช่างเป็นคุณสมบัติที่ตรงข้ามกับฉันโดยสิ้นเชิงเลยสินะ “สวัสดีค่ะพี่เมนิล” น้ำเสียงของฉันประหม่าอย่างเห็นได้ชัด “ไม่ต้องเกร็ง ๆ คนกันเองทั้งนั้น” พี่เมนิลว่ากลั้วหัวเราะ “อ้อ เดี๋ยวพี่จะพาไปแนะนำสายรหัสให้รู้จักนะ” “พี่คะ คือหนูขอไปล้างหน้าก่อนได้หรือเปล่าคะ” ฉันเอ่ยถามพร้อมกับยกนิ้วชี้มาที่ใบหน้าตัวเองที่ตอนนี้ขาววอกไปด้วยแป้งเด็กจากกิจกรรมเมื่อครู่จนมันผสมกับเหงื่อที่ไหลเยิ้มแถมยังเหนียวเหนอะหนะติดหน้าอีก “อือได้สิ” พี่เมนิลอนุญาตฉันเลยรีบเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วล้างหน้าล้างตาให้สะอาดหมดจด อย่างน้อยหน้าสดแสนซีดเซียวของฉันก็คงจะดีกว่าแป้งขาวโพลนนั่นเป็นไหน ๆ ฉันเงยหน้าขึ้นมาส่องกระจกก่อนจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้แห้ง ไหน ๆ ก็ไหนแล้วขอเติมลิปบาล์มสักหน่อยให้ดูเป็นผู้เป็นคนสักนิด ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าพี่เมนิลยืนรออยู่แล้ว ฉันรีบเดินเข้ามาหารุ่นพี่เพราะไม่อยากให้เธอต้องรอนาน “มาแล้วค่ะ” “หน้าสดก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย น่าส่งเข้าประกวดดาวเดือนเหมือนกันนะเรา” พี่เมนิลว่า ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเคอะเขินพร้อมกับยกมือขึ้นลูบท้ายทอยด้วยความรู้สึกประหม่า ฉันเดินตามรุ่นพี่มาที่โรงอาหารของคณะที่มีรุ่นพี่ปีสามและปีสี่ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในสายรหัสเดียวกัน “พี่อ้าย พี่คิณคะ น้องนิดาสายรหัสคนใหม่ของเรา” รุ่นพี่ทั้งสองที่กำลังนั่งคุยกันที่โต๊ะเงยหน้าขึ้นมาจับจ้องที่ฉันพร้อมกัน เดี๋ยวนะ พี่คิณ? ฉันแทบจะขยี้ตาแล้วเพ่งมองชายหนุ่มที่นั่งหน้านิ่งมองมาที่ฉันราวกับว่าตอนนี้ฉันเป็นส่วนเกินในบทสนทนาอย่างไรอย่างนั้น “พี่คิณคะ อย่าไปมองอย่างนั้นน้องเกร็งหมดแล้ว” พี่อ้ายว่าอย่างขำขันแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้พี่เขามีแววตาที่แปรเปลี่ยนเลยสักนิด “ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” พี่คิณว่าก่อนจะหันกลับไปไม่ได้สนใจอะไร “เรามาผูกข้อมือรับขวัญน้องเข้าสู่สายรหัสเรากันดีกว่าไหมคะ นะพี่คิณ นะพี่อ้าย” “เอาสิ” พี่อ้ายพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “พี่คิณล่ะคะ” “ได้หมด” หนุ่มรุ่นพี่ตอบกลับเพียงสั้น ๆ ก่อนที่พี่เมนิลจะหยิบด้ายผูกข้อมือสีขาวจากโต๊ะที่ถูกตั้งเตรียมไว้อยู่แล้ว “เริ่มจากพี่ก่อนแล้วกัน ยินดีต้อนรับเข้าสู่สายรหัสนะคะ มีอะไรปรึกษาพี่ได้ตลอดเลยนะ” พี่เมนิลว่าพร้อมกับยิ้มอย่างสดใสก่อนจะตั้งใจผูกด้ายที่ข้อมือของฉันต่อด้วยพี่อ้ายที่พูดอวยพรให้ฉันสำเร็จการศึกษาไปอย่างลุล่วงจนมาถึงตาของพี่คิณ ฉันกลืนน้ำลายดังเอื้อก สายตาเย็นชาของหนุ่มรุ่นพี่ทำเอาฉันตัวแข็งทื่อไม่รู้ตัว มือหนาค่อย ๆ ผูกด้ายสีขาวที่ข้อมือบางของฉันอย่างเบามือความอุ่นจากมือของพี่เขาแตะโดนฉันในบางทีแต่มันก็รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตเลยค่ะ หัวใจฉันเต้นระรัวจนฉันกลัวว่าความเงียบระหว่างเราจะทำให้พี่คิณเกิดได้ยินเสียงหัวใจเจ้ากรรมของฉันจนต้องขบเม้มริมฝีปากเอาไว้ “ไม่ต้องกลัวพี่ขนาดนั้นหรอก พี่ไม่กัด” ดวงตาตมช้อนขึ้นมาสบตากับฉันยิ่งทำใจที่สั่นระรัวแทบจะเต้นไปทั่วหน้าอก แววตาที่เย็นชาแต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนพิลึก พี่เขาปล่อยมือออกจากด้ายหลังจากที่ผูกข้อมือให้ฉันเสร็จแล้วหันไปคว้ากระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมาสะพายไว้ “พี่ไปทำธุระก่อนนะ ฝากดูน้องด้วยล่ะ” พี่คิณว่าก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่ท่าเดิม หลังจากฉันเห็นแผ่นหลังของร่างสูงเดินออกไปพ้นจากโรงอาหารฉันก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาราวกับเมื่อกี้ฉันกลั้นหายใจจนใบหน้าแดงก่ำไปเลย “เกร็งเหรอ พี่คิณเขาก็เป็นอย่างนี้กับทุกคนแหละ” พี่เมนิลว่าก่อนจะยกมือขึ้นมาป้องปากแล้วเข้ามากระซิบที่ข้างหูฉัน “แต่ที่จริงพี่เขาเป็นคนขี้อายนะ” ฉันหันหน้าไปมองพี่รหัสอย่างเหลือเชื่อ ใบหน้ายิ้มแย้มยามที่พูดถึงพี่คิณทั้งยังลดสายตาลงอย่างเขินอายทำให้ฉันเข้าใจได้ทะลุปรุโปร่งเลยล่ะ พี่เมนิลชอบพี่คิณชัด ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD