...รับสมัครแม่บ้านดูแลคุณท่าน 1 อัตรา อายุ 20-25 ปี รูปร่างพอดี ไม่อ้วน ถ้ามีประสบการณ์ในการทำงานจะพิจารณาเป็นพิเศษ ทำงาน 18.00 น.- 00.00 น. ทุกวัน เงินเดือน 45,000 บาท มีเงินเพิ่มสำหรับงานพิเศษ...
พิมพ์มาดา หรือพิมพ์ กำลังยืนอ่านป้ายรับสมัครงานที่ติดไว้หน้าบ้าน แต่เท่าที่เห็นควรจะเรียกว่าคฤหาสน์เสียมากกว่า เพราะมันใหญ่โตเหลือเกิน ทั้งยังสวยงามราวกับปราสาทในหนังที่เธอเคยดูบ่อย ๆ
“เรามีคุณสมบัติครบเลยนี่นา”
พิมพ์มาดายืนพูดอยู่กับตัวเองหน้าป้าย หญิงสาวอายุ 20 ปี พอดิบพอดี รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นส่วนเว้าส่วนโค้งเด่นชัด ทั้งยังเวลาในการทำงานนั้นก็ไม่รบกวนกับเวลาเรียนและเวลาที่เธอจะต้องดูแลคุณยายเพียงคนเดียวของตัวเองอีกด้วย
พิมพ์มาดากดกริ่งที่อยู่หน้าประตูคฤหาสน์หลังนั้นไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู เขาเป็นผู้ชายที่น่าจะอายุราว 30 ปี ใส่ชุดที่ดูเหมือนไม่น่าจะใช่พ่อบ้านธรรมดาแน่นอน
“สวัสดีค่ะ พอดีหนูเห็นป้ายรับสมัครงานน่ะค่ะ ก็เลยอยากจะลองสมัครดูค่ะ”
รอยยิ้มหวานคลี่ให้คนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร เขายืนมองพิจารณาเธออยู่ครู่เดียวก็เปิดประตูให้เธอเข้ามาข้างใน
“เข้ามาสิ แต่จะได้ทำงานหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับคุณท่านนะ เพราะท่านจะเป็นคนพิจารณาเองทั้งหมด”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ”
สองเท้าก้าวเดินตามคนข้างหน้าโดยเว้นระยะไว้พอสมควร ส่วนดวงตาคู่สวยก็หันมองซ้ายมองขวาไม่หยุด ภายในตัวคฤหาสน์แม้จะสวย แต่ก็ดูน่ากลัวอยู่ในตัว แถมบรรยากาศก็มืดมนแปลก ๆ มีเพียงแสงไฟสลัว ๆ ที่เปิดอยู่ตามทางเดิน ทางที่เธอเดินผ่านมีแม่บ้านคนอื่นทำงานอยู่บ้าง และทุกคนก็ใส่ชุดยูนิฟอร์มแม่บ้านอย่างกับในหนังแถบตะวันตกทุกคน
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ”
พิมพ์มาดาชะงักฝีเท้าแทบไม่ทันจนเกือบจะชนกับคนข้างหน้า เมื่อผู้ชายที่เดินนำอยู่หยุดเดิน ก็เพราะมัวแต่มองนั่นมองนี่เพลินจนลืมมองข้างหน้าน่ะสิ เมื่อสังเกตดี ๆ ก็เห็นว่าเธอหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง ๆ หนึ่ง บานประตูไม้ 2 บาน ทั้งใหญ่ทั้งสูงราวกับประตูวังไม่มีผิด ทั้งยังสลักลวดลายงูตัวใหญ่แลดูน่ากลัวไว้อีก
“คุณท่านอยู่ข้างในห้องนี้ แต่เธอยืนอยู่ตรงนี้ก็พอ หน้าประตูมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ ท่านสามารถมองเห็นเธอจากข้างในได้ ..คุณท่านครับ มีคนมาสมัครงานครับ..”
เขาพูดกับเธอเสร็จ ก็หันไปพูดกับสปีคเกอร์ที่ติดอยู่ตรงข้างประตู เสร็จแล้วก็เดินออกไปทิ้งให้พิมพ์มาดายืนอยู่หน้าประตูห้องเพียงคนเดียว
“แนะนำตัวเองว่าทำไมฉันถึงต้องรับเธอเข้าทำงาน”
เสียงทุ้มลึกแต่ทรงพลังดังผ่านลำโพงตัวเล็กที่ติดอยู่หน้าประตูห้อง แค่ได้ยินเสียงก็ทำเอาพิมพ์มาดาขนลุกซู่ แต่เพื่อเงินเดือนที่สูงมากเมื่อเทียบกับงานอื่น ๆ เธอก็จำเป็นต้องทำใจดีสู้เสือเข้าไว้
“สวัสดีค่ะคุณท่าน หนูชื่อพิมพ์มาดานะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิมพ์ค่ะ อายุ 20 ปีเต็ม หนูมีคุณสมบัติตามที่คุณท่านต้องการทุกอย่างค่ะ หนูอายุไม่เกิน ไม่อ้วน ทำงานบ้านได้ ทำอาหารได้ แล้วก็มีประสบการณ์ในด้านดูแลผู้สูงอายุค่ะ”
พิมพ์มาดาแนะนำตัวเองอย่างละเอียด ภายในใจตอนนี้เต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่เธอลุ้นลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งเสียอีก
“มีประสบการณ์ในด้านดูแลผู้สูงอายุอย่างนั้นเหรอ”
เสียงทุ้มของคนข้างหลังประตูพูดกับเธออีกครั้ง พิมพ์มาดาข่มความรู้สึกตื่นเต้นเอาไว้ข้างในใจแล้วก็รีบตอบกลับไปทันที
“ใช่ค่ะคุณท่าน พอดีหนูต้องดูแลคุณยายของหนูที่อายุมากแล้วค่ะ แล้วก็มีโรคประจำตัวด้วย หนูคิดว่าหนูน่าจะดูแลคนมีอายุอย่างคุณท่านได้ดีแน่นอนค่ะ”
“หืม?”
เสียงเบา ๆ ที่ลอดออกมาจากลำโพงนั้นทำเอาพิมพ์มาดาเย็นวาบไปทั้งตัว กำลังคิดว่าเธอพูดอะไรผิดไปเลยทำให้คุณท่านไม่พอใจหรือเปล่า
“ตกลงฉันรับเธอเข้าทำงาน พร้อมจะเริ่มงานเมื่อไหร่”
“ระ รับแล้วเหรอคะ”
“อืม”
“พร้อมค่ะ พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้เลยค่ะคุณท่าน
“ดี พรุ่งนี้มาทำงาน ห้ามสายเด็ดขาด ฉันไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลาเข้าใจไหม ยืนรอที่เดิมนั่นแหละ เดี๋ยวมาตินมาพาเธอไปเซ็นสัญญาทำงาน”
พิมพ์มาดาตื่นเต้นจนแทบทำตัวไม่ถูก เธอยืนรออยู่ไม่นานผู้ชายคนเดิมก็มาพาเธอเดินไปยังห้องเอกสาร และเธอก็ได้รู้ว่าผู้ชายหน้าเข้มคนนี้ชื่อมาติน
“เซ็นตรงนี้นะ แล้วนี่ก็ชุดของเธอ พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้ มาเร็วหน่อยก็ดี เดี๋ยวจะให้แม่บ้านคนอื่นช่วยสอนงานให้”
พิมพ์มาดาพยักใบหน้าขึ้นลง แม้จะยังสงสัยกับเอกสารที่จะเซ็นสัญญาแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะถาม เพราะในเอกสารนั้นมีเพียงข้อความเดียวอยู่บนหน้ากระดาษ
...ลักษณะงานมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับคำสั่งของคุณท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น..
เธอจรดปลายปากกาและรีบเซ็นชื่อตัวเองลงไปทันที ขืนเธอชักช้าก็กลัวว่าจะโดนยกเลิกงานเสียก่อน
หลังจากพิมพ์มาดากลับไปแล้ว มาตินก็เดินกลับมายังห้องเดิมที่เขาพาพิมพ์มาดามาเมื่อกี้ ประตูบานใหญ่ที่สลักรูปงูไว้เปิดออกเพื่อให้เขาเข้าไปข้างใน
ภายในห้องใหญ่ อาร์เดน หนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น อายุ 32 ปีนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวประจำ และเขาก็เป็นคุณท่านของที่นี่
“ทำไมคุณท่านถึงรับเธอเข้าทำงานเหรอครับ”
มาตินถามออกไปด้วยความอยากรู้ เพราะมีผู้หญิงมากมายที่มาสมัครตำแหน่งนี้ แต่ไม่มีใครผ่านการคัดเลือกเลยสักคน
“เพราะเด็กคนนั้นคิดว่าฉันเป็นตาแก่น่ะสิ”
เขาพูดแล้วก็หัวเราะอยู่ในลำคอ ทิ้งให้บอดี้การ์ดคนสนิทได้แต่ยืนเกาหัวด้วยความสงสัยต่อไป
อาร์เดน เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้ก่อตั้งกลุ่มมาเฟียที่มีชื่อว่า ไททันสเนค มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางและก็มีศัตรูมากมายอยู่รอบตัวเช่นกัน เขาสานต่อการดูแลกลุ่มจากพ่อที่จากโลกนี้ไปเมื่อสองปีที่แล้วจากการถูกลอบวางระเบิดรถยนต์ ส่วนแม่ของเขาที่เป็นชาวญี่ปุ่นได้หนีหายไปตั้งแต่เขายังเด็ก ธุรกิจหลักของไททันสเนคก็คือคาสิโนขนาดใหญ่ และการค้าแทบทุกประเภทที่เป็นสีเทา ยกเว้นยาเสพติด
ส่วนเหตุผลที่อาร์เดนรับพิมพ์มาดาเข้ามาทำงาน ก็เพราะเธอดูท่าทางไม่มีพิษมีภัย อีกทั้งคำพูดคำจายังดูใสซื่อ มีอย่างที่ไหนเสียงของเขาไม่ได้ดูแก่เลยสักนิด แต่เธอกลับคิดว่าเขาเป็นเพียงตาแก่ที่ต้องมีคนคอยดูแลซะได้
อีกด้าน พิมพ์มาดาที่พึ่งได้งานทำหมาด ๆ แถมยังเงินเดือนสูงชนิดที่ว่าคงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เธอรีบกลับมาที่บ้านเช่าของเธอที่อยู่ถัดมาอีกแค่สองซอยเท่านั้น พิมพ์มาดาอาศัยอยู่กับยายที่อายุเยอะมากแล้ว ทั้งยังมีโรคประจำตัวรุมเร้าหลายโรค ไปหาหมอแต่ละครั้งก็ใช้เงินหลายพันบาท
“ยายจ๋า หนูได้งานทำแล้วนะ เงินเดือนดีด้วยล่ะ ต่อไปนี้เราจะไม่ลำบากอีกแล้วนะยาย หนูจะมีเงินซื้อยาแล้วก็พายายไปหาหมอแล้วนะจ๊ะ”
พิมพ์มาดาสวมกอดยายที่นอนอยู่บนที่นอนไว้เบา ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเธอก็มียายเพียงคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้าง ส่วนพ่อกับแม่ไม่รู้ว่าหายไปไหนตั้งแต่เธอยังแบเบาะ
“งานอะไรล่ะพิมพ์ งานหนักหรือเปล่าลูก แล้วอยู่ไกลไหมล่ะ เอ็งจะไปทำงานลำบากหรือเปล่า”
ด้วยความเป็นห่วงหลานสาวเพียงคนเดียว ทั้งยังหน้าตาสะสวยไร้ที่ติ แม้จะไม่ค่อยมีแรง คุณยายของพิมพ์มาดาก็ยังมีคำถามมากมาย
“เป็นงานแม่บ้านดูแลคนสูงอายุจ้ะยาย ท่าทางจะรวยมาก บ้านใหญ่ยังกับคฤหาสน์ เขาให้เงินเดือนดีมากเลยนะจ๊ะยาย ทำงานช่วงกลางคืน ไม่กระทบกับเวลาเรียนหนูด้วย อีกอย่าง อยู่ถัดไปแค่สองซอยเองจ้ะ”
พิมพ์มาดาอธิบายให้คุณยายฟังยาวเหยียดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เพราะเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เธอมีอยู่ พิมพ์มาดาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ยายได้อยู่กับเธอได้นานที่สุด แม้ว่างานจะหนักแค่ไหนเธอก็ไม่เคยบ่นให้ยายฟังแม้แต่คำเดียว
//////////