วันต่อมา หลังจากที่พิมพ์มาดากลับจากมหาวิทยาลัย เธอก็รีบเตรียมอาหารเย็นไว้ให้ยายแล้วก็เตรียมตัวที่จะไปทำงาน ใบหน้ารูปไข่ที่ไม่ต้องแต่งเติมอะไรให้มากนักก็ยังดูสวยโดดเด่น เธอเก็บชุดทำงานใส่กระเป๋าเพื่อจะไปเปลี่ยนที่ทำงาน เพราะขืนใส่ชุดนี้เดินไปเรียกวินมอเตอร์ไซค์ มีหวังคงโดนมองตั้งแต่ท้ายซอยยันปากซอย
“ยายจ๋า หนูไปทำงานแล้วนะจ๊ะ ข้าวเย็นหนูวางไว้ให้แล้ว ยายกินเสร็จถ้าง่วงก็นอนได้เลยนะ ไม่ต้องรอหนู”
“ไปดีมาดีนะลูก กลางค่ำกลางคืนก็ระวัง ๆ ตัวหน่อย มันอันตราย”
“จ้ะยาย ยายไม่ต้องเป็นห่วงนะ หนูจะดูแลตัวเองอย่างดีเลย”
พิมพ์มาดาหอมแก้มที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นของผู้เป็นยายฟอดใหญ่แล้วก็เดินออกมาจากบ้านเพื่อจะไปขึ้นรถหน้าปากซอย
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที พิมพ์มาดาก็มาถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เป็นที่ทำงานใหม่ของเธอ ยืนกดกริ่งอยู่ไม่นาน ก็มีผู้หญิงที่คงจะเป็นแม่บ้านเหมือนกันมาเปิดประตูให้
“แม่บ้านคนใหม่ใช่ไหมเราน่ะ มาทางนี้ ไปเปลี่ยนชุด จะได้เตรียมอาหารเย็นไปให้คุณท่าน”
พิมพ์มาดาเดินตามหลังไปอย่างว่าง่าย เท่าที่สังเกตดู เหมือนเธอจะอายุน้อยที่สุดในแม่บ้านที่เธอเห็นทั้งหมด
ในห้องเปลี่ยนชุดพิมพ์มาดาในชุดเมดแขนตุ๊กตาสีดำขาว มีผ้ากันเปื้อนลูกไม้ผูกไว้ที่เอวอย่างกับในหนังไม่มีผิด เธอหันซ้ายหันขวาเช็คความเรียบร้อยเสร็จแล้ว ก็รีบไปยังห้องครัวที่คุณน้าแม่บ้านแจ้งไว้เมื่อกี้นี้
“นี่อาหารของคุณท่าน เธอยกไปเสิร์ฟได้เลยนะ เดินระวัง ๆ ล่ะ อย่าให้หกเด็ดขาด”
“รับทราบค่ะ หนูจะระวังอย่างดีเลยค่ะ”
พิมพ์มาดารับคำแล้วก็เดินมาตามทางเพื่อไปยังห้องของคุณท่าน ขณะที่เดินมาเธอก็พิจารณาเมนูอาหารที่อยู่ในถาด ทั้งไก่อบ ไข่ยางมะตูม ผัดผัก แล้วก็เนื้อตุ๋น ซึ่งบางอย่างมันดูจะย่อยยากไปหน่อยสำหรับคนที่มีอายุแล้ว
“คุณท่านคะ หนูเอาอาหารมาเสิร์ฟค่ะ”
เธอกดสปีคเกอร์ที่อยู่หน้าห้องเพื่อแจ้งกับคนข้างใน
“เข้ามาแล้วก็วางไว้ที่โต๊ะตรงนั้นแหละ”
ประตูบานใหญ่เปิดออกอัตโนมัติให้เธอเดินเข้ามาข้างใน แต่เธอกลับไม่เห็นใครเลยสักคน มีเพียงโต๊ะที่ใช้สำหรับทานอาหารตั้งอยู่เท่านั้น
“เสร็จแล้วก็ออกไป จะยืนอยู่ทำไมอีก”
เสียงทุ้มนั้นดังมาจากหลังม่านสีดำที่กั้นระหว่างส่วนที่เธอยืนอยู่กับอีกด้าน
“เอ่อ คือคุณท่านคะ หนูขอเสนออะไรสักหน่อยจะได้ไหมคะ”
ทีแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะพูดดีไหม แต่พิมพ์มาดารู้สึกว่าเธออยากจะทำหน้าที่ดูแลคุณท่านให้ดีที่สุด ก็เพื่อหน้าที่การงานที่มั่นคงของตัวเองด้วยนั่นแหละ
“มีอะไรจะเสนอก็รีบ ๆ พูดมา”
ฟังดูเหมือนคนหลังม่านจะเริ่มหงุดหงิด เธอจึงรีบพูดในสิ่งที่อยากจะเสนอออกไปอย่างรวดเร็ว
“คือคุณท่านทานอาหารประเภทนี้ประจำเลยหรือเปล่าคะ พอดีหนูคิดว่าในคนที่มีอายุแล้วอาหารบางอย่างค่อนข้างที่จะย่อยยาก ควรจะเลี่ยงการทานบ่อย ๆ จะดีกว่าค่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ”
ครั้งนี้เหมือนเจ้าของเสียงทุ้มจะสนใจในสิ่งที่เธอสนออยู่ไม่น้อย เพราะฟังจากน้ำเสียงแล้วเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้อยู่มาก
“ถ้างั้นจากนี้ไปเธอเป็นคนรับผิดชอบอาหารเย็นให้ฉันก็แล้วกัน เธอบอกว่าทำอาหารได้นี่ คงไม่ลำบากเกินไปใช่ไหม”
“คะ หนูเหรอคะ”
“หรือว่าทำไม่ได้”
“ได้ค่ะ ได้แน่นอนค่ะ หนูจะตั้งใจทำเมนูที่ดีต่อสุขภาพให้คุณท่านทุกวันเลยค่ะ”
พิมพ์มาดารีบรับปากทันที ก็แน่ล่ะ ถ้าขืนเธอบอกว่าทำไม่ได้แล้วโดนไล่ออกจะทำยังไง
/////
หลังจากแม่บ้านคนใหม่ออกจากห้องไป อาร์เดนก็เปิดผ้าม่านสีดำทึบออกมานั่งลงที่โต๊ะทานข้าว จู่ ๆ รอยยิ้มเล็ก ๆ ก็ปรากฎขึ้นมาบนใบหน้านิ่งเฉยที่น้อยครั้งนักจะเปื้อนรอยยิ้ม เขาตักอาหารเข้าปากทีละคำ พลางในหัวก็กำลังคิดถึงเมนูอาหารมื้อต่อ ๆ ไปที่แม่บ้านตัวเล็กจะทำมาให้ แค่คิดหัวใจข้างในก็เหมือนจะพองโตขึ้นมาแปลก ๆ อาร์เดนยกมือขึ้นมากุมไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย อวัยวะที่อยู่ภายในเต้นเร็วจนแทบจะนับจังหวะไม่ได้ แค่สาวใช้คนเดียวทำไมถึงทำให้หัวใจเต้นแรงขนาดนี้..
พิมพ์มาดาเดินกลับมายังห้องครัวเพื่อที่จะเอาถาดเปล่ามาเก็บและจะได้ถามเกี่ยวกับการเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารให้คุณท่านในวันถัดไป
“น้าวิคะ ปกติวัตถุดิบที่จะทำอาหารให้คุณท่านใครเป็นคนไปซื้อเหรอคะ”
วิภา หันมามองหน้าเธอก่อนที่จะเริ่มตอบ
“ตอนเช้าจะมีแม่บ้านอีกชุดหนึ่งไปซื้อ จะทำอะไรให้คุณท่านทานก็เขียนใส่กระดาษแปะเอาไว้ตรงกระดานโน้ตตรงโน้น แล้วก็จะมีคนไปซื้อวัตถุดิบมาให้ ว่าแต่จะถามทำไม”
แม่บ้านรุ่นพี่ตอบคำถามของพิมพ์มาดา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแม้บ้านใหม่อย่างเธอจะอยากรู้ไปทำไม
“พอดีตั้งแต่วันพรุ่งนี้คุณท่านให้หนูเป็นคนจัดอาหารเย็นให้ท่านค่ะ”
พิมพ์มาดาตอบเสร็จก็เดินไปจดรายการสิ่งที่ต้องการลงบนกระดาษแล้วก็แปะลงบนกระดานโน้ตตามคำบอกของวิภา
วันต่อมา พิมพ์มาดารีบมาทำงานเร็วกว่าเมื่อวาน เพราะต้องมาเตรียมทำอาหารเย็นให้คุณท่านตามคำสั่งที่ได้รับมา เรื่องทำอาหารสำหรับคนสูงวัยนั้นเป็นงานถนัดของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะเธอต้องทำอาหารให้คุณยายทานทุกวัน
พิมพ์มาดาจัดแจงเตรียมวัตถุดิบที่แม่บ้านตอนเช้าซื้อมาให้ แล้วก็รีบลงมือทำทันที ใช้เวลาแค่ชั่วโมงนิด ๆ เมนูอาหารทั้งสามอย่างก็เสร็จพร้อมเสิร์ฟทันเวลา
สองมือเล็กถือถาดอาหารอย่างระมัดระวังเดินตรงไปยังห้องของคุณท่าน เมื่อมาถึงเธอก็แจ้งให้คนที่อยู่ข้างในทราบ
“คุณท่านคะ อาหารเย็นมาเสิร์ฟแล้วค่ะ”
ประตูบานใหญ่เปิดออกให้อัตโนมัติ พิมพ์มาดาวางถาดอาหารลงบนโต๊ะตัวเดิมแล้วจัดแจงวางจานและช้อนส้อมไว้อย่างเรียบร้อย
“วันนี้เมนูอะไร”
เสียงทุ้มที่ดังมาจากหลังม่านทำเอาเธอขนลูกซู่ทุกครั้งที่ได้ยิน น้ำเสียงนั้นเย็นเฉียบและทรงพลังจนทำให้คนฟังประหม่า
“วันนี้มีปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว ฟักทองผัดไข่ แล้วก็แกงเลียงกุ้งสดค่ะคุณท่าน เมนูอาจจะไม่หรูหราเท่าไหร่ แต่หนูรับรองได้ว่าดีต่อร่างกายคุณท่านแน่นอนค่ะ เพราะหนูทำให้คุณยายทานบ่อย ๆ แล้วก็อร่อยมากด้วยนะคะ”
อาร์เดนที่อยู่หลังม่านแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว ที่จนถึงตอนนี้พิมพ์มาดายังคิดว่าเขาเป็นตาแก่อายุเยอะ นี่แสดงว่าเธอไม่ได้สอดรู้สอดเห็นเรื่องเจ้านายแม้แต่น้อย เพราะหากแค่ถามมาตินก็คงจะรู้แล้วว่าตัวเขานั้นอายุเพียง 32 ปี
“อืม ขอบใจ ออกไปได้แล้ว”
“ค่ะ คุณท่าน”
หลังจากพิมพ์มาดาออกไปและประตูห้องปิดลง อาร์เดนก็เปิดม่านออกมานั่งลงที่โต๊ะทานข้าว เขามองดูเมนูอาหารที่ธรรมดาอย่างที่คนทำบอก แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะกินให้หมดจนไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว รอยยิ้มฉาบบนใบหน้าเขาอีกครั้งเมื่อตักอาหารคำแรกเข้าปาก มันอร่อยอย่างที่เธอคุยเอาไว้ไม่มีผิด..
/////////////