EP.24

1095 Words
ดวงตาสวยหวานของพรบุหลันชำเลืองไปที่ประตูขนาดใหญ่บ่อยครั้ง เพราะกว่าสิบนาทีแล้วที่กายหายไป เขาบอกเธอว่าจะไปจัดการเรื่องเอกสารการรับสมัครงานและการสอบสัมภาษณ์ให้เธอ แต่กลับหายเงียบไปเลย ทิ้งเธอให้อยู่ในห้องพักสุดหรูนี้ตามลำพัง พร้อมกับน้ำแก้วใหญ่ที่เธอดื่มรวดเดียวหมด            ขณะนี้เธออยู่บนโซฟาหลุยส์สีดำปักลวดลายวิจิตร และทั่วทั้งออฟฟิศแห่งนี้ก็ใช้สีดำเป็นสีหลักในการตกแต่ง เพิ่มความน่าเกรงขามและหรูหราให้เจ้าของสถานที่มากขึ้นไปอีก และเพราะความหรูนี่ละที่ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะลุกเดินไปทางไหน ได้แต่นั่งนิ่งๆ รอให้กายกลับเข้ามาเท่านั้น แต่แม้จะนั่งอย่างเรียบร้อยเพื่อรอคอย ก็อดไม่ได้ที่จะมองดูรอบกาย            ‘นี่ออฟฟิศเหรอคะ’            ‘ครับ ออฟฟิศของบอส’                   คำยืนยันของกายไม่ได้ทำให้ความสงสัยกระจ่างชัด เพราะสิ่งที่เห็นนี้มองยังไงก็ไม่น่าจะใช่ออฟฟิศหรือสถานที่ทำงานได้ หรือคนกรุงเทพฯ จะทำงานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือคอนโดมิเนียมสุดหรู ณ ที่แห่งนั้นก็เป็นออฟฟิศได้ แต่หากเป็นออฟฟิศจริง ทำไมถึงไม่มีใครออกมาเลย ทำไมมีเธอนั่งเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งเดียวในห้องนี้            พรบุหลันมองตรงไปข้างหน้า จากตรงที่เธอนั่งอยู่เรื่อยไปจนสุดสายตา ประกอบไปด้วยห้องรับรองแขกที่เธอกำลังนั่งอยู่นี้ ถัดไปเป็นโซนทำอาหาร ซึ่งประกอบไปด้วยชุดโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ และห้องครัวสุดทันสมัย มีเครื่องใช้ไม้สอยครบครันไม่ต่างจากห้องครัวในมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนจบมา ถัดไปนั้นเป็นห้องที่ปิดประตูอยู่ ซึ่งเธอไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นห้องอะไร แต่ถ้าให้เดา เธอคิดว่านั่นคือห้องน้ำ เพราะทางเดินยาวไปอีกนั้นน่าจะเป็นส่วนซักล้างซึ่งหลบมุมสายตาผู้อื่นได้            ด้านซ้ายมือเป็นทางเดินกว้าง ตรงไปจัดเป็นโซนคล้ายห้องสมุดขนาดย่อม มีชั้นหนังสือวางเรียงรายกันอยู่ มีเก้าอี้กึ่งนั่งกึ่งนอนไว้สำหรับเอนหลังอ่านหนังสือ ถัดไปเป็นระเบียงกว้างที่ถูกเนรมิตให้เป็นสวนลอยฟ้าที่จับต้องได้จริงๆ ดอกไม้หลากหลายชนิดกำลังเบ่งบานให้ความสวยงาม จนพรบุหลันเผลอยิ้มออกมาได้            ส่วนด้านหลังของเธอนั้นก็คล้ายจะเป็นโซนส่วนตัว เพราะมีห้องหับปิดประตูมิดชิดอยู่ด้วยกันถึงสามห้อง ซึ่งเธอไม่รู้หรอกว่าแต่ละห้องนั้นเป็นห้องอะไรบ้าง แต่ก็เดาว่าห้องกระจกที่ปิดผ้าม่านสีทองจดเพดานถึงพื้นคงเป็นห้องทำงานแน่นอน เพราะหากต้องการเห็นผู้คนด้านนอกก็แค่รูดผ้าม่านออกแค่นั้น แต่ด้านในนั้นมีใครอยู่หรือเปล่าล่ะ            พรบุหลันพยายามชะเง้อชะแง้มองดู เพราะอาจมีสิ่งที่เคลื่อนไหวจากด้านในก็ได้ แต่เมื่อเห็นว่าม่านสีทองนั้นไร้การเคลื่อนไหว ดวงตาสุกสกาวที่แฝงความใคร่รู้อยู่เต็มก็ลอบสำรวจสิ่งอื่นทันที นอกจากเฟอร์นิเจอร์หลักของห้องพักสุดหรูที่เป็นสีดำแล้วนั้น ของตกแต่งตามชั้นวางของ ผนังห้อง โต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้แต่เคาน์เตอร์บาร์เหล้าเล็กๆ ก็ล้วนแต่เป็นตัวการ์ตูน หรือไม่ก็เป็นงานศิลปะของต่างประเทศ นั่นก็ยิ่งทำให้พรบุหลันมั่นใจว่าเธอไม่เหมาะกับที่นี่อย่างแน่นอน เพราะแม้ทุกอย่างรอบด้านจะดูสวยงาม แต่มันก็น่ากลัวอย่างประหลาดอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญที่นี่มีพนักงานอยู่จริงๆ หรือเปล่า!            แกร๊ก...            เสียงบางอย่างที่ดังจากด้านนอกก่อนที่ประตูจะถูกเปิดเข้ามาทำให้พรบุหลันลุกพรวดจากโซฟา พร้อมหันไปส่งยิ้มให้ผู้มาใหม่อย่างยินดี การรอคอยคงสิ้นสุดลงสักที ทว่าคนที่ยืนเด่นอยู่ตรงประตูนั้นกลับไม่ใช่กาย เขาใครบางคนที่เธอแอบคาดคิดว่าจะได้พบ คนที่มีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ คนที่ทำให้เธอละอายเหลือเกินที่คิดไปไกลกับเขา และก็ทำให้เธอได้แต่ยืนตะลึงพูดไม่ออกอยู่อย่างนี้            เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงประตูสวมชุดสูทสากลสุดหรู เนี้ยบ และดูดีจดปลายเท้า ออร่าความหล่อของเขาเปล่งประกายทะลุทะลวงออกมา 30,000 โยชน์ รูปลักษณ์ของเขาไม่ต่างจากนายแบบนิตยสารต่างประเทศที่กระโดดออกมามีตัวตนจริงๆ อยู่ตรงหน้า            พรบุหลันได้แต่ตะลึงมองเขาจนรับรู้ถึงกระแสเลือดที่แล่นขึ้นมาอยู่บนใบหน้า แต่เพราะเขายังคงยืนนิ่งไม่พูดไม่จา ทั้งที่ดวงตาคมวาบของเขาก็จับจ้องมองเธอไม่กะพริบ นั่นทำให้พรบุหลันต้องขยับตัวห่างออกจากโซฟาตัวหรูโดยอัตโนมัติ เพราะสัมผัสความไม่พอใจในสายตาของเขาได้            ใบหน้าสวยก้มมองพื้น ร่างกายคล้ายจะสั่นขึ้นมากะทันหันอีกแล้ว และอาการสะท้านสะเทือนก็ทำให้เธอต้องห่อไหล่เข้าหากัน ฝ่ามือประสานบีบกระชับกันแน่น ไม่กล้าพูด ไม่กล้ากระดิกตัว จนพานให้คำพูดที่ต้องการจะบอกเล่าให้เขารับฟังหายวับไปจากสมองเสียดื้อๆ ในเวลานี้เธอคิดเพียงว่าควรออกไปจากที่นี่ หรืออย่างน้อยกายก็น่าจะมาได้แล้ว มาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ไม่ให้เธอต้องเผชิญหน้ากับเขาเพียงลำพังอย่างนี้            “เอ่อ...สวัสดีค่ะ”            อะไรจะดีเท่าเธอเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายก่อน พร้อมพนมมือไหว้อย่างเรียบร้อยและสุภาพสุดๆ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่กล้าที่จะยืนอยู่ต่อหน้าเขาแน่ และความคิดที่จะวิ่งหนีออกไปข้างนอกก็ทำไม่ได้อีก เพราะเขายังคงยืนขวางประตูอยู่อย่างนั้น            อารัญกวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างงามระหงที่ยืนก้มหน้าอยู่ และกิริยาประหม่าที่เธอแสดงออกก็ไม่ได้ลอดพ้นไปจากสายตาของเขา รอยยิ้มเยาะปรากฏบนใบหน้าเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ในระยะใกล้ เพราะนี่ไม่ใช่ชุดทำงานที่เขาต้องการให้เธอใส่แน่ สายตากะขนาดได้อย่างแม่นยำ อก เอว สะโพก ก่อนจะเคลื่อนไปหยุดตรงใบหน้าที่ยังคงก้มงุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD