Chapter ไปโปรยเสน่ห์ผู้ชายคนไหนมาอีก

1417 Words
หญิงสาวชูแฟ้มในมือให้ชายหนุ่มดู “งานยังไม่เสร็จ แล้วก็ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยค่ะ” ชายหนุ่มยืดอกบอกติดตลก “ตอนนี้ผมใหญ่ที่สุด ไปมั้ย” ปารวียิ้มกว้าง “อย่าดีกว่าค่ะ รวีไม่อยากให้เจ้าของไร่มาค่อนขอดทีหลังว่าหนีงาน แค่นี้เขาก็หาเรื่องมาว่าไม่หยุดหย่อน” ก้องหล้ายกนาฬิกาข้อมือดูเวลา “งั้นผมรออีกชั่วโมงครึ่ง รอคุณเลิกงาน วันนี้แวะไปทานข้าวในเมืองกัน” หญิงสาวยิ้มกว้าง “โอเคค่ะ” นับตั้งแต่ที่ก้องหล้าบอก ปารวีก็มาทานอาหารที่บ้านใหญ่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มทุกวัน ตอนแรกก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ไม่เจอเขาสักครั้ง แต่ตอนนี้เธอถึงบางอ้อ...เพราะไม่อยู่ไร่นี่เอง ตลอดสัปดาห์หญิงสาวพยายามเข้ากับคนที่ไร่ให้ได้มากที่สุด เธอมักอยู่คุยกับแม่บ้านเก่าแก่ในไร่ รวมไปถึงสอนเด็กใบบัวทำเบเกอรี่...มันคงเป็นงานครัวอย่างเดียวที่เธอทำได้ “แม่นิ่มคะ วันนี้รวีกลับบ้านก่อนนะคะ เย็นมากแล้ว ไม่อยากกลับมืดมาก” หญิงสาวบอกลาแม่นิ่ม หลังจากที่สอนใบบัวทำอาหารเช้าแบบฝรั่งเศสเสร็จ แม่บ้านเก่าแก่พยักหน้าเนือย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีมากขึ้นมากกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะรษาที่โทรมาฝากฝังให้ดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่เพราะความอ่อนน้อมช่างคุยของหญิงสาว ทำให้คนแก่อย่างนางรักได้ไม่ยาก “ป้าไม่เข้าใจความคิดของพ่อเลี้ยงเลยจริงๆ คุณมาช่วยงาน...เป็นถึงผู้ช่วย แต่กลับให้ไปพักที่เรือนพักพนักงานท้ายโรงงาน คุณเมธาวียังได้พักที่นี่เลย จักรยานที่คุณก้องหามาให้ก็ไม่ต่างจากเศษเหล็ก ห้องหับในบ้านก็เหลืออีกหลายห้อง เป็นผู้หญิงเดินกลับมันอันตราย ผู้ชายในไร่ส่วนมากก็เป็นคนงานบนดอย จะไว้ใจได้มากแค่ไหนก็ไม่รู้” แม่นิ่มอดบ่นออกมาไม่ได้อีกครั้ง จากตอนแรกที่ไม่ค่อยชอบหน้าสักเท่าไร ในเวลาผ่านไปไม่นาน นางก็อดเอ็นดูเธอไม่ได้ และในใจลึกๆ ก็อดห่วงหญิงสาวไม่ได้ “อย่าไปว่าเขาเลยค่ะ รวีอยู่ที่นั่นมีความสุขดีออกค่ะ ได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยไร่ดอกไม้ ขุนเขา ทะเลหมอก ตอนกลับก็ยังได้ปั่นจักรยาน ได้เดินชมดอกไม้ในไร่ไปด้วย ยิ่งมีความสุข” หญิงสาวเล่าด้วยแววตามีความสุข แม่บ้านเก่าแก่พยักหน้ารับ ยิ้มให้หญิงสาวอย่างเอ็นดู การแต่งตัวไม่ได้บ่งบอกตัวตนที่แท้จริงได้ทั้งหมด อย่างที่นางเคยตั้งป้อมรังเกียจปารวีตั้งแต่แรก เพราะยิ่งนานวัน นางก็ได้เห็นความเป็นตัวตนของปารวีมากขึ้น “รวีกลับเลยนะคะ พรุ่งนี้จะรีบมาทานอาหารไทยฝีมือแม่นิ่มแต่เช้า” หญิงสาวบอก แล้วเดินลิ่วออกไปทางหลังบ้านทันที เพราะเธอได้ยินเสียงรถเจ้านายจอมกวนประสาทของเธอมาจอดที่หน้าบ้านพอดี ทั้งที่ก้องหล้าบอกว่าเขาจะมาถึงดึกๆ แต่จักรยานคู่ใจกลับจอดอยู่หน้าบ้าน ตอนนี้ก็คงไม่สะดวกที่จะไปเอา เพราะเธอไม่อยากเจอหน้าเขาที่สุด “กลิ่นหอมอะไร น่ากินจัง ไปหลายวันคิดถึงฝีมือแม่นิ่มที่สุด” ลับร่างบางของอีกคน ชายหนุ่มหัวข้อสนทนาเมื่อครู่ก็เดินเข้ามาพอดี “ทำไมกลับมาเร็วจังพ่อเลี้ยง เห็นคุณก้องบอกว่ากลับมาถึงดึกๆ” “พรุ่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจโรงงาน ผมก็เลยต้องรีบกลับมาเตรียมเอกสารด่วนให้เสร็จก่อนเจ้าหน้าที่มา” พ่อเลี้ยงหนุ่มบอก แต่สายตาเขากลับเหมือนจะมองหาใคร “ใบบัวเอากระเป๋าท้ายรถไปเก็บด้วย” เจ้าของร่างสูงกำยำหันไปสั่งใบบัว เดินเลยเข้าไปในครัวเป็นที่แรก ทิ้งให้แม่นิ่มมองตามอย่างไม่เข้าใจ “แม่นิ่ม! แล้วคนดีของยัยรษาไปไหนเสียล่ะ เห็นนายก้องบอกว่ามาทานข้าวที่บ้านทุกวัน หรือไปวันนี้ไปมัวโปรยเสน่ห์ผู้ชายคนไหนอีก” พ่อเลี้ยงหนุ่มรัวคำถาม “คุณรวีเพิ่งกลับไปตอนพ่อเลี้ยงกลับมานี่เองค่ะ ออกทางหลังบ้าน ป่านนี้คงยังเดินไม่ถึงบ้านพักหรอก” แม่นิ่มบอกชายหนุ่มตามความจริง ไม่วายจับผิดอาการแปลกไปของชายหนุ่มและมองอย่างคาดคั้น “เอ่อ...ผมขอตัวก่อนนะ” คนเดินทางเหนื่อยห่วงงานเมื่อครู่...เดินออกไปทางหลังบ้านทันที หลังจากที่บอกแม่บ้าน สตรีสูงวัยส่ายหน้าอีกรอบ อย่างไม่เข้าใจ พูดตามหลังชายหนุ่มที่เธอรักเหมือนลูกไป “เฮ้อ! นี่ก็อีกคน ท่าทางแปลกๆ รีบมาทำงานด่วน...แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างที่ปากบอก มันชักยังไงยังไงแล้วนะพ่อเลี้ยง ปากก็บอกว่าเกลียด รังเกียจเขา แต่เดินทางมาเหนื่อยๆ แทนที่จะพัก กลับรีบตามไปหาเรื่อง” แสงอาทิตย์คล้อยต่ำ...ลดหลั่นลงอิงแอบยอดเขา เหล่านกกากู่ร้องแว่วหวานขับขานชวนกับกลับเข้ารังรัก เสียงเจื้อยแจ้วเพราะพริ้งราวท่วงทำนองเพลงหวาน “พี่รวี...มาอยู่ตรงนี้เอง รษาเดินตามหาทั่วไร่เลย ไปหาที่บ้านพักก็ไม่เจอ” หญิงสาวเจ้าของชื่อหันกลับมาตามเสียงเรียกของคนมาใหม่ พร้อมกับรอยยิ้มหวานเคลือบใบหน้า “น้องรษามาได้อย่างไรคะ...” ทันทีที่หญิงสาวหันกลับมา รษามองเห็นใบหน้าของปารวีได้ชัด เธอก็มองตาค้าง...ไม่เชื่อสายตาตัวเอง รษาขยับเขามาใกล้พร้อมกับยกมือบางของปารวีขึ้นมา “พี่รวีไปทำอะไรมาคะ ทำไมตัวดำเมี่ยมแปลกตาขนาดนี้ ดูสิผิวหน้าก็กร้านแดด...แดงหมดเลย” “ไม่มีอะไรหรอกน้องรษา พี่มาทำงานก็ต้องทำตามคำสั่งของเจ้านาย” “คำสั่งของเจ้านาย” รษาทวนคำพูดของหญิงสาว ยิ่งแปลกใจขึ้นมาอีกเท่าตัว...คนเป็นนักเคมีที่เธอขอร้องให้มาช่วยพี่ชายทำโรงงานน้ำหอม แต่กลับต้องมาทนทำงานตากแดดตากลมตัวดำกลืนไปกับคนงาน ภายในเวลาไม่ถึงเดือน “คือ...พี่มาเป็นผู้ช่วยค่ะ แต่ตอนนี้พ่อเลี้ยงให้พี่มาเป็นผู้ช่วยนายปลั่งหัวหน้าคนงาน คอยดูแลเรื่องวัตถุดิบที่จะส่งเข้าโรงงานน้ำหอม” หญิงสาวตอบกลับด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม ในแววตาไม่ได้มีความรู้สึกไม่พอใจแต่อย่างใด รษาพยักหน้าเหมือนเข้าใจ...ทว่าก็ไม่พูดอะไรออกมามากไปกว่านั้น พร้อมกับเปลี่ยนเรื่องไป เห็นอย่างนี้เธอก็คงเลือกคนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้เธอไม่ผิด แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่ชายของเธอจะตาไร้แววไปอีกนานแค่ไหน “อ๋อค่ะ!” “น้องรษามีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่าคะ” “รษาจะมาทำงานที่ไร่แล้ว จะมาชวนพี่รวีไปอยู่ที่บ้านด้วย รษาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่ธามส์ให้พี่รวีมาอยู่ที่บ้านพักพนักงาน พี่ธามส์นี่แย่จริงๆ” น้องสาวเจ้าของไร่บอกเป็นเชิงตำหนิพี่ชายของตัวเอง “พี่ขอพักที่เดิมดีกว่าค่ะ จะสะดวกใจมากกว่า..แล้วพี่ก็ชินกับที่นั่นแล้ว” “แต่ว่า...” รษากำลังจะอ้าปากค้าน ทว่าอีกคนก็แทรกขึ้นมาก่อน “พี่ขอนะคะ...แล้วก็ขอร้องน้องรษาด้วย อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่ปรินทร์ พี่รู้ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันมากนัก ถ้ายิ่งพี่ปรินทร์รู้เรื่องนี้อีก...คนที่จะลำบากใจที่สุดจะเป็นน้องรษาเอง” ปารวีบอกไปตามความจริง เธอรู้จักพี่ชายของเธอดี...มากพอกับที่ปรินทร์รู้จักเธอ “ถ้าพี่ปรินทร์ถามอะไรถึงพี่...ก็บอกแต่ว่าพี่สบายดี พี่มีความสุขกับที่นี่ เขารู้จักนิสัยพี่ดี” ปารวีบอกด้วยสีหน้าและแววตาจริงจังไม่แตกต่างจากคำพูด รษากุมมือหญิงสาวขึ้นมาอีกครั้ง มองคนตรงหน้าอย่างซึ้งใจ...เธอมองคนไม่ผิดจริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD