สาลี่หมายถึงร้านคาราโอเกะที่ลูกสาวอีกคนทำงานอยู่ งานนั่งดื่มกับแขก เป็นงานที่พี่สาวของมินตราทำ มันคงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเจ้าตัวไม่มือใหญ่ใจโต เล่นแชร์หลายวงจนหมุนเงินไม่ทัน
“แล้วพี่นัสล่ะ”
“แกจะถามหาทำไมวะ ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ พี่เขาก็ไปทำงานทำการ” งานที่ว่าก็คืองานเด็กเสิร์ฟ มนัสชอบงานนี้เพราะมีเหล้าฟรีกินทุกวัน ทำงานหาเงินไม่เคยเก็บ มันละลายไปกับการพนันทุกรูปแบบ รวมถึงยาเสพย์ติดด้วย
“มินไม่มี ถ้าแม่จะด่าก็ด่าเถอะ ไม่มีแล้วจริงๆ” จะมีได้อย่างไร เงินที่กดเอาจากการ์ดของเตชิณไปคราวก่อน เธอยังไม่ได้คืนเขาเลย
สาลี่เห็นท่าไม่ดีก็รีบใช้สมอง
“เลิกงานได้ไหมล่ะ ถ้าเอาเงินให้นังเมย์ส่งแชร์เขาก่อน คืนนี้พอเปียได้ แกก็รอเอาตอนเลิกงานเลย”
“คงจะได้หรอกแม่ พี่เมย์เหนียวหนี้จะตาย ไม่เคยคืนมินสักบาท”
“เอ๊ะอีนี่! เรื่องมากจริง! เงินมันขาดไม่กี่บาทเอง สี่ห้าพันนี่แหละ แกไปคุยกับนังเมย์เองเถอะ ฉันขี้เกียจวุ่นวาย”
มินตราถูกบังคับให้โทรหาพี่สาว ก็อย่างที่แม่บอกนั่นแหละ เงินมันขาดอยู่ไม่กี่บาท เธอก็จำต้องไปกดมาให้ แต่ยังไงซะ เธอก็จะนั่งรอที่หลังร้าน ดึกแค่ไหนก็จะรอ
ที่ทำงานของมารีต้องนั่งรถเมล์ออกไปจากบ้านนานโขกว่าจะถึง พี่สาวเธอรีบวิ่งออกมาที่หลังร้าน มันเป็นร้านคาราโอเกะระดับกลางๆ ที่ลูกค้าเงินหนาส่วนมากจะเป็นชายแก่พุงพลุ้ย เงินห้าพันถูกเปลี่ยนมือ
เธอนั่งรอตั้งแต่สองทุ่มจนร้านเลิก ก็ไร้แววที่จะได้เงินคืน เธอฝากเด็กเสิร์ฟคนหนึ่งเข้าไปเรียกพี่สาว เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมออกมา
“ตามมานี่สิ ทางนี้” มนัส พี่ชายของมินตรา กวักมือเรียกน้องสาวอยู่ข้างประตูที่เชื่อมกับลานจอดรถ เสียงเพลงในร้านเงียบลงแล้ว เหลือเพียงแขกในห้อง VIP ที่ยังดื่มกินกันอยู่
“ฉันไม่เข้าไปหรอก พี่ไปเรียกพี่เมย์มาสิ”
“อะไรวะ บอกให้มาก็มาเถอะน่า แกจะมารออยู่ตรงนี้ทำไม มันมืด” บอกน้องสาวราวกับพี่ชายผู้หวังดี
มินตราสองจิตสองใจ ด้านหลังของร้านเป็นลานจอดรถ พวกลูกค้าที่เมาๆ ก็พากันเดินมาทางนี้ ทางที่รถของตนจอดอยู่ และพอตกกลางคืนที่แสงไฟวับแวม ผู้หญิงที่หน้าตาบ้านๆ ก็อาจจะสะดุดตาชายแก่ตัณหากลับได้
มินตราก้าวตามพี่เข้าไปในร้าน มันเป็นร้านเพดานต่ำ ค่อนข้างมืด โต๊ะเก้าอี้วางขวางทางระเกะระกะ เธอเห็นหลังพี่สาวไวๆ ที่บันไดขึ้นชั้นสอง
“พี่เมย์! พี่!?”
มินตราวิ่งขึ้นบันไดตามพี่สาวไป คนเป็นพี่ชายก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ ยืนเฝ้าอยู่ที่บันได ใครจะขึ้นไปก็ขวางไว้ บางอย่างมันก็ต้องรอบคอบ ถึงจะบรรลุเป้าหมาย
มารี พี่สาวของมินตราในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยอย่างผู้หญิงที่ทำงานกลางคืน ลอบยิ้มสมใจเมื่อเห็นน้องสาวตามมา เธอก้าวเข้าไปในห้อง VIP ห้องหนึ่งที่เจ้าของร้านนั่งอยู่ ตาแก่พุงพลุ้ยหน้าตาหื่นกาม ดูตื่นเต้นเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา
“ว่าไง มาหรือเปล่า”
“มาสิคะเสี่ยขา ว่าแต่...ที่ตกลงกันไว้ อย่าผิดคำพูดนะคะ”
“เถอะน่า ฉันให้พิเศษแน่ๆ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ไอ้มนัสด้วยเอ้า”
มารีเข้าไปนั่งข้างเสี่ย ยกมือกราบลงแทบอกก่อนจะชงเหล้าให้ เธอละหมั่นไส้ยัยมินเต็มแก่ มันชอบวางตัวว่าเป็นคนดี ทำงานหาเงินเรียนหนังสือ คิดจะถีบตัวเองให้อยู่สูงกว่าพี่ๆ ฝันไปเถอะ! ยังไงยัยนั่นก็ต้องมาทำอาชีพแบบเธอนี่แหละ เธอจะได้กดขี่โขกสับมันได้เหมือนเดิม
ประตูกระจกถูกผลักเข้ามา มินตราเป็นงงที่เห็นพี่สาวนั่งหน้าระรื่นกับอาเสี่ยที่เป็นเจ้าของร้าน
“เอาเงินมานะพี่เมย์ ได้เงินมาแล้วใช่ไหม”
“จุ๊ๆๆ หนูมิน หนูมาทวงเงินอะไรจ๊ะ”
เสี่ยถามพลางจิบเหล้าในแก้วที่มารีชงมาให้ มองหน้ามินตราใต้แสงสลัวในห้องคาราโอเกะ เจ้าหล่อนก็พอดูได้ สิวฝ้าไม่หนาตา ก็ถือว่าใช้ได้ เพราะสิ่งที่จะได้ใช้งานจริงๆ มันไม่ใช่หน้าตานี่นา
“นั่นสิคะเสี่ย มานี่มา แกนั่งก่อน เงินน่ะได้แน่ๆ รอหน่อยน่า”
“พี่เมย์!”
“ถ้ารีบนักก็มานั่งนี่ ฉันจะไปดูให้ว่าเปียกันไปถึงไหน ส่งกันครบทุกมือหรือยัง เอ...ผู้จัดการร้านอยู่ไหนล่ะเนี่ย” ทำทีเรียกหาผู้จัดการร้านที่เป็นเท้าแชร์ ก่อนจะเผ่นออกนอกห้อง มินตราตามออกไปแต่ไม่ทัน ไม่รู้ตาแก่ตัณหากลับมันลุกมาตั้งแต่ตอนไหน มันเข้ามากอดเธอ ซุกหน้าเข้ามาที่ซอกคอ มือไม้ก็ลวนลามเธอเต็มที่ พอเธอขัดขืนมันก็โยนลงโซฟา
ปึก!
แผ่นหลังบางๆ กระแทกเบาะ เธอคว้าได้ขวดเหล้าก็ขว้างใส่แต่อีกฝ่ายกลับหลบทัน
เพล้ง!!!
“อีนี่! คิดจะทำร้ายกูเหรอ แหม...พยศได้ใจจริงๆ มานี่มาอีหนู มาให้จูบสักทีแล้วเราค่อยคุยกันนะ”
“คุยอะไร ฉันไม่คุย!! ไอ้แก่ตัณหากลับ!”
เผียะ! เผียะ!
มินตราหน้าหันตามแรงตบ แขนถูกกระชาก ชุดนักศึกษาถูกดึงจนชายเสื้อหลุดออกจากกระโปรง เธอถีบเสี่ยรัวๆ แต่อีกฝ่ายก็โถมร่างเข้ามา
“จะพยศไปถึงไหนวะอีนี่ เอาที่พอดีเถอะ ถ้าอีเมย์ไม่บอกว่ามึงซิง จ้างให้กูก็ไม่สนหรอก”
“อย่านะ! ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
“ถ้าหลุดออกไปจากที่นี่ได้ก็เอาสิ! แต่ถ้ากูถูกจับ พี่ชายมึงตายแน่ กูจะให้ลูกน้องเอาปืนเป่าหัวให้หัวกระจุยเลย อีเมย์ด้วย”