“ไปรอที่รถก่อน” เขายัดกุญแจรถใส่มือให้หล่อน ร้านขายยาไม่ได้ไกลอะไร ข้ามถนนตรงทางม้าลายนี่ก็ได้
มินตราเดินมาถึงรถแล้ว เธอไม่ได้ขึ้นไปนั่ง แต่ยืนมองเตชิณที่เดินอยู่บนฟุตบาทของอีกฝั่ง เขาเพิ่งออกมาจากร้านขายยา และราวกับจะรู้ว่าเธอมองอยู่ เขาส่งยิ้มมาให้ ทั้งชี้ให้ดูถุงกระดาษในมือ เธอเฝ้ามองผู้ชายร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองสบายๆ เขาดูโดดเด่นตอนเดินอยู่ริมฟุตบาทอย่างนี้ แสงตะวันตอนใกล้เที่ยงเหมือนจะส่องแสงลงที่ร่างเขาเพียงจุดเดียว ผิวขาวๆ เหมือนกำลังเปล่งประกาย ยิ่งเวลาเขายิ้ม ความหล่อเหลาก็ทำเอาเธอแทบลืมหายใจทีเดียว
เตชิณโบกมือให้คนที่ยืนอยู่ข้างรถ กำลังจะข้ามถนนกลับไป กลิ่นของดอกไม้ที่กรุ่นอยู่แถวนั้นก็รั้งให้เขาก้าวไปหามัน เขาชี้ไปที่ประตูร้านดอกไม้ ให้มินตรามอง หล่อนโบกมือรัวๆ ว่าไม่ต้องการ แต่เขาต้องการไง เขาอยากซื้อให้ เลยเข้าไปสั่งกุหลาบขาวมาช่อโต
มินตราอยากจะกรี๊ดให้กับผู้ชายที่กำลังหอบกุหลาบช่อใหญ่ เขากำลังเดินตรงมาหาเธอจริงๆ ใช่ไหม ในชีวิตของผู้หญิงที่ไม่เคยถูกผู้ชายรักใคร่ นี่คือสิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะได้พบเจอ เธอไม่สวย เธอจน เธอไม่มีเวลาให้ความรักทุกรูปแบบ นั่นเพราะตั้งแต่เกิดมาต้องดิ้นรนทำงานหาเลี้ยงตัวเอง เธอคือลูกที่แม่ไม่รัก พี่น้องก็จ้องแต่จะเอาเปรียบและทำร้ายกัน เตชิณคือสิ่งเดียวที่เธอมี เขาดูแลเธอมานานในฐานะพี่ชาย และบัดนี้สถานะของเขาได้เปลี่ยนไป เพราะเขาคือผู้ชายของเธอ ชายผู้ที่จุดเทียนแห่งแสงสว่างในหัวใจที่มืดมน
“รักพี่นะคะ มินรักพี่นะคะพี่เต” เธอบอกเขาเบาๆ และเขาคงอ่านปากเธอได้ เขามองมา มีรอยยิ้มเต็มวงหน้า เธอเดินไปหา และเขากำลังก้าวข้ามถนนมา ในเวลาที่รถกระบะคันหนึ่ง พุ่งเข้ามาหาเขาราวกับว่าเฝ้ารอ
เอี๊ยดดด!! โครม!!!
“พี่เต!!” เสียงร้องของเธอดังลั่นถนน รถคันนั้นเฉี่ยวร่างเขาไป ความเร็วของรถที่แล่นมา ทำให้เขาเสียหลักล้มหงาย ช่อกุหลาบลอยละลิ่วก่อนจะร่วงลงพื้น เหมือนหัวใจของเธอที่กำลังแหลกสลายไม่ต่างกัน รุกระบะคู่กรณี ขับผ่านหน้าเธอไป แค่จอดรถแล้วลงมาดูคนเจ็บสักนิดก็ไม่ได้ ใจมนุษย์ช่างโหดร้ายสิ้นดี
“พี่เต! พี่เต!?” มินตราแทบจะโดนรถชนไปอีกคน เธอวิ่งข้ามถนนไป ร่างของเตชิณพาดอยู่กับฟุตบาท ผู้คนกำลังห้อมล้อมร่างเขา ร่างที่เหมือนผักเฉาๆ ที่ถูกเทเลือดใส่จนชุ่ม
“พี่คะ! พี่! ฮือออ...ช่วยด้วย! ช่วยพี่ด้วยค่ะ ช่วยด้วย ฮือออ...”
เหมือนหัวใจจะขาดรอนๆ เสียงพลเมืองที่มาห้อมล้อม ต่างพากันโทรหาหน่วยกู้ชีพ เธอได้แต่นั่งตัวชาอยู่ข้างเขา ไม่กล้าแม้แต่จะกอดเขาไว้ กลัวว่าตัวเองจะทำแขนขาเขาบุบสลาย ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น กระทั่งรถกู้ชีพมาถึง และช่วยพาเขาไปส่งโรงพยาบาล เธอขึ้นรถมาด้วย พยายามตั้งสติแล้วโทรหาคนที่ควรโทร เธอไม่รู้จักเบอร์แม่เขา เลยต้องโทรหาใครอีกคนแทน ต้องรอสายอยู่หลายนาทีกว่าอีกฝ่ายจะรับ
‘ว่าไงมิน’
“ฮะ..เฮีย...เฮีย! เฮียช่วยมินด้วย! พี่เตถูกรถชน!”
‘อะไรนะ!!’
สองมือที่วางบนตักของมินตรายังมีเลือดเกรอะกรัง เลือดของผู้ชายที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังกอดเธอ ยิ้มให้เธอ ยังทำอาหารให้เธอกิน มันเหมือนไม่ใช่ความจริงที่ตอนนี้เขายังไม่รู้สึกตัว หัวเขากระแทกฟุตบาท อาการสาหัสและยังอยู่ในห้องผ่าตัด เฮียโตมาถึงโรงพยาบาลในเวลาต่อมา มาพร้อมแม่ของเตชิณ
ผอ. นวลฉวีเอาแต่ร้องไห้ และไม่ยอมพูดอะไรกับใครเลย
“ไม่ต้องกลัว ถึงมือหมอแล้ว”
บุรุษหน้าเรียว รูปร่างสูงโปร่ง มีเค้าโครงความหล่อเหลา เอ่ยกับมินตราอย่างปลอบประโลม เขานั่งลงข้างหล่อน เป็นคนเดียวที่ยังมีสติเจรจากับหมอและพยาบาลในตอนนี้ เขาคือเพื่อนแสนดีของเตชิณ คนที่ครั้งหนึ่ง แม่ของมินตราเคยไปทำงานที่บ้านเขา
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง” โตมร ถามเอากับคนเดียวในตอนนี้ที่รู้เรื่องราว
“พี่แค่ข้ามถนนไป แล้ว...รถคันนั้นก็พุ่งมาชน”
“จำทะเบียนได้ไหม”
เธอส่ายหน้า น้ำตาใสๆ หยดลงบนฝ่ามือที่มีเลือดแห้งๆ ติดอยู่
“เพราะเธอใช่ไหม! ต้องเป็นเพราะเธอแน่ๆ ฉันรู้เลยว่าใครคือต้นเหตุ”
“คุณป้าครับ?”
“เงียบไปเลยเจ้าโต เห็นๆ กันอยู่ว่าแม่คนนี้ไม่แก้ตัวด้วยซ้ำ”
ริมฝีปากของมินตราสั่นระริก น้ำตาไหลพรั่งพรู ไม่มีประโยชน์ในการโต้เถียงแม่ของเขา หากตอนนี้การโทษว่าเป็นความผิดเธอ คือสิ่งเดียวที่จะทำให้อีกฝ่ายสบายใจก็เอาเลย โทษเธอได้เลย เพราะแท้ที่จริงแล้ว นั่นมันก็เป็นความจริง
“ใจเย็นๆ ก่อนเถอะครับ ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดี ที่นี่หมอเก่ง เชื่อผมนะครับคุณป้า” ได้โปรดเชื่อเขาเถอะ เพราะอย่างน้อยทุกคนที่นี่ก็ยังจะมีความหวัง โรงพยาบาลแห่งนี้ค่ารักษาพยาบาลไม่ใช่ถูกๆ ต้องรักษาเตชิณได้แน่
คนถูกปลอบไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาเลย แต่กระนั้นก็ยังนั่งรออย่างมีความหวัง สามชั่วโมงให้หลัง เตชิณก็ถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด เขายังต้องรอดูอาการอีกที และใช่ มินตราถูกนางนวลฉวีไล่กลับด้วยว่าอยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ โตมรเลยต้องพาหล่อนมาส่งที่คอนโดฯ ทว่าตอนที่กลับมาห้องแล้วเจอเพียงความว่างเปล่า มินตราก็ได้ร้องไห้โฮ มันไม่เหมือนกับทุกครั้งที่เขาไม่อยู่ หากเลือกได้ เธอยอมเจ็บอยู่ตรงนี้ เธอยินดี หากเขาจะกลับไปทำตัวเหมือนวันก่อนๆ อย่างเช่นการเที่ยวดึกดื่น กลับบ้านทีก็มีผู้หญิงติดสอยห้อยตามมา เธอยอมได้นะ เธอยอมทุกอย่าง แลกกับการที่เขาไม่ต้องอยู่โรงพยาบาล