“มาแต่เช้าเชียว”
โตมรเอ่ยอีก ยังไม่มีท่าทีว่าจะพามินตราผ่านประตูเข้าไป
มินตราลุกยืน จับกระเป๋าผ้ามาคล้องไหล่ เธอพร้อมแล้ว พร้อมไปเจอเตชิณ “พาไปเจอพี่เตได้ไหมคะ ไหนว่าพี่ฟื้นแล้ว พี่ไม่ถามหามินบ้างเหรอ”
“เอ่อ...คือ...ไอ้เตมันยังคุยอะไรมากไม่ได้ วันๆ ก็เอาแต่นอน หมอให้ยาเยอะน่ะ”
“แล้วไม่เป็นไรแน่ๆ ใช่ไหมคะ พี่เขาโอเคใช่ไหม อาการไม่ได้ทรุดใช่ไหม”
“อ่า...คือ...”
เห็นท่าทีโตมรแล้วมินตราใจไม่ค่อยดี เหมือนเฮียลำบากใจที่จะพูด
“แล้ว...เรื่องคนร้าย..”
โตมรแตะศอกน้องสาวให้พากันนั่งลงเก้าอี้ จะได้คุยกันดีๆ
“ว่าไงคะ จับคนร้ายได้ไหม”
“จับได้ คนของเสี่ยร้านคาราโอเกะน่ะ”
“เสี่ยร้านคาราโอเกะเหรอคะ”
“ใช่ ไม่รู้ว่าไอ้เตมันไปมีเรื่องกับทางโน้นได้ยังไง ร้านแบบนั้นมันไม่เคยเข้าไปนั่งด้วยซ้ำ”
มินตราตัวชาวาบเมื่อได้ยิน คงไม่ใช่ไอ้เสี่ยหื่นกามที่พยายามจะปล้ำเธอหรอกนะ ใช่...ต้องใช่แน่ๆ เลย นี่เขาต้องมาเจ็บตัวเพราะเธออย่างนั้นเหรอ
“แล้วจะทำยังไงต่อคะ ลากคอพวกมันเข้าคุกได้ไหม”
“คงต้องเป็นไปตามขั้นตอน รายละเอียดเฮียไม่รู้มากนัก ไม่อยากซักเอากับคุณป้า รู้ๆ กันอยู่ว่าสภาพจิตใจแกเป็นไง”
“มินอยากเจอพี่ เฮียพาเข้าไปหน่อย มินเทียวไปเทียวมามาเป็นอาทิตย์แล้วนะ ให้มินเจอพี่ทีเถอะ”
“มิน...คือว่า...”
“อะไรคะ หรือว่าพี่เตเป็นอะไรไป พี่ไม่ได้ปกติใช่ไหม” ถามแล้วน้ำตาจะไหล สิ่งที่เธอกังวลใจ มันเกิดขึ้นจริงๆ
“เฮียว่ามินไม่ควรเจอไอ้เตตอนนี้”
“ทำไมคะ”
“เอ่อ...ถ้าเดาไม่ผิด มินกับไอ้เต ไม่ได้เป็นแค่แฟนหลอกๆ ใช่ไหม”
เรื่องแฟนหลอกๆ นี่เขารู้ดี เพราะเขารู้เห็นเป็นใจ ด้วยสงสารมินตรา อยากให้หล่อนมีชีวิตที่ดีขึ้น
“ทำไมคะ เรื่องมันเกี่ยวกันด้วยเหรอ เฮีย...พี่เตเป็นอะไรกันแน่”
โตมรยังไม่ทันได้อธิบาย ประตูลิฟต์ที่อยู่สุดทางเดินก็เปิดออก แม่ของเตชิณก้าวออกมา พอเห็นเขานั่งอยู่ตรงนี้กับมินตรา ก็เดินเข้ามาหา ไม่ได้เดินผ่านเลยเช่นวันที่หล่อนนั่งอยู่คนเดียว
“คุณป้าคะ”
“ถ้าฉันไม่อยากให้เข้าเยี่ยม เธอก็น่าจะรู้สิว่าไม่ควรมาที่นี่”
“ไม่มาได้ยังไงคะ พี่อยู่ในนั้นนะ ยังอยู่บนเตียงโรง’บาล จะให้มินรอเฉยๆ มินทำไม่ได้หรอกค่ะ ให้มินเข้าเยี่ยมเถอะนะคะ พี่เตต้องรอมินอยู่แน่ๆ”
“เขาไม่รอหรอก”
“คุณป้าครับ! คือ...”
“ไม่รู้วันนี้ พรุ่งนี้ก็ต้องรู้อยู่ดีนะโตมร”
มินตรามองหน้าหญิงสูงวัยที มองหน้าโตมรที นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
“ตามฉันมาสิ”
มินตราตาม ผอ. ไปอย่างไว เธอผ่านประตูเข้าไปได้ เมื่อคนที่เดินนำหน้าคือญาติของผู้ป่วย พวกเธอก้าวตรงไปเกือบสุดทางเดิน ห้องพักของเตชิณอยู่ทางขวามือ
“มิน...อย่าเพิ่งเจอไอ้เตมันเลย เชื่อเฮียเถอะ”
โตมรแอบกระซิบคนที่เดินอยู่ข้างหน้า
“อะไรกันคะ มีอะไรก็พูดมา”
โตมรลำบากใจนัก เขาไม่อยากเห็นสีหน้าของมินตราตอนรู้เรื่องเลย
“เข้าไปสิ ฉันกับเฮียของเธอ จะรอตรงนี้ บอกเอาไว้อย่าง ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร ก็ไม่ต้องพูด แค่ไปเยี่ยมเขา เหมือนคนรู้จักที่มาเยี่ยมไข้ปกติก็พอ”
นั่นคือคำเตือนหรือคำสั่ง มินตราก็ไม่แน่ใจ แต่ไม่สนแล้ว เธอรู้แค่ว่าต้องก้าวเข้าไปในห้อง เธออยากเจอเขาเต็มทีแล้ว
“พี่เต!”
คนบนเตียงถึงกับสะดุ้งโหยง เตชิณมองคนที่กำลังเดินเข้ามา เขายิ้มให้มินตรา แต่ก็อด ‘ประหลาดใจ’ ไม่ได้ ที่เห็นหล่อนมาที่นี่
“พี่! พี่เป็นยังไงบ้างคะ เจ็บปวดตรงไหนหรือเปล่า!” เธอเข้าไปยืนข้างเตียง สองมือจับแขนจับขาของพี่ ศีรษะเขามีผ้ากอซพันไว้ ท่อนแขนหลายจุดมีร่องรอยของการทำแผลใส่ยา
เตชิณมองคนที่กำลังแตะเนื้อต้องตัวเขา เขารีบดึงแขนตัวเองคืนมา อีกฝ่ายทำหน้าเหมือนตกใจ
“เธอมาได้ยังไง”
“คะ?”
“ก็มาได้ยังไง ไม่ไปเรียนเหรอ”
มินตราเอียงคอราวกับจะถามเขาคืน เรียนอะไร เธอเรียนจบแล้ว พี่ลืมเหรอ
“เอ่อ...เรื่องที่เราคุยกันไว้น่ะ เธอจะว่ายังไง”
“คะ?” เรื่องอะไร หรือเขาจะหมายถึงเรื่องแต่งงาน
“เรื่องที่จะให้มาเป็นแฟนปลอมๆ ไง มีค่าจ้างให้นะ มีห้องให้ด้วย แต่เธอต้องช่วยพี่ทำความสะอาด”
ตัวของมินตราชาวาบอีกครั้ง การตกลงเป็นแฟนปลอมๆ นั่นมัน...เมื่อสองปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ
“หมายความว่าไงคะ นี่พี่...”
“ไอ้โตมันห่วงมินนะ อยู่กับพี่ไม่มีเรื่องพรรค์นั้นเกิดขึ้นแน่ๆ มินไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่พี่ชอบหรอก รู้ใช่ไหม” เขาพูดยิ้มๆ
ขาของมินตราอ่อนยวบลง ดีที่คว้าเก้าอี้ไว้ได้เลยนั่งลงไปทัน เขาจำไม่ได้ เตชิณจำเรื่องระหว่างพวกเธอไม่ได้!