หลังจากที่เธอพิมพ์ประโยคนั้นมาทุกคนเชื่อไหมละว่าแก่นกายของผมแข็งเพียงเพราะเห็นข้อความจากเธอ
แค่ประโยคที่บอกว่า
พริกอยากทำอย่างอื่นกับพี่ขุนทัพมากกว่าอาบน้ำอีกค่ะ
ทำไมคำพูดเธอถึงมีอิทธิพลต่อแก่นกายของผมขนาดนี้
ผมไม่ตอบอะไรกลับแต่เลือกที่จะกดโทรไปแทนเพราะผมอยากได้ยินเสียงมากกว่าและมันเสียเวลาถ้าหากเราจะต้องมานั่งพิมพ์แชทกัน
“พี่โทรมากวนหรือเปล่า” ผมถามขึ้นทันทีเมื่อเธอรับสาย
“เปล่าค่ะ พริกแค่กำลังจะถอดเสื้อ” ได้ยินพริกไทยพูดขึ้นแบบนั้นแก่นกายความเป็นชายของผมก็ปวดหนึบไปหมดทั้งลำ
“งั้นน้องพริกจะอาบน้ำก่อนไหมครับ” ผมถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับใช้มือปลดกางเกงลงก่อนจะใช้มือจับก่อนแก่นกายของตัวเองและรูดขึ้นรูดลงสองสามที
“ค่อยก็ได้ค่ะ พอดีพริกมีเรื่องอยากให้พี่ขุนทัพช่วย” พริกไทยพูดขึ้นอีกครั้งส่วนผมก็จัดการกับแก่นกายของตัวเองโดยใช้มือและเหมือนยิ่งได้ยินเสียงของเธออารมณ์ความดิบในตัวผมก็เพิ่มขึ้นมากขึ้น
“ชะ…ช่วยอะไรครับ” ผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“พอดีพรุ่งนี้พริกต้องส่งหัวข้อนำเสนองานอาจารย์ แต่พริกไม่รู้จะใช้หัวข้ออะไรเลยอยากให้พี่ขุนทัพช่วยคิด” เสียงเธอเหมือนยาพิษที่กำลังดังก้องในหัวผมส่วนมือของผมก็จัดการรูดขึ้นรูดลงอยู่กับแก่นกาย
“ได้ครับ แต่พี่ว่าเราไปอาบน้ำก่อนไหมพี่ก็จะอาบเหมือนกันเสร็จจากอาบน้ำมาช่วยกันคิดดีไหมครับ” เพราะตอนนี้ตัวผมเองก็ทรมานไม่ไหวอยากจะปล่อยออกสักทีเพราะมันอึดอัด
“งั้นเดี๋ยวพริกเสร็จพริกโทรหานะคะ”
“ครับ” ผมตอบกลับไปแค่นั้นพร้อมกับวางสาย
จากนั้นก็จัดการกับแก่นกายของตัวเองโดยที่ไม่ลืมที่จะเปิดหนังอย่างว่าจากโทรศัพท์และเดินเข้ามาในห้องน้ำ
“อ๊ะ อ่าาาา อ๊ะ อ่าาาา เสียวจัง” ตอนนี้ผมกำลังจินตนาการว่าเสียงนางเอกหนังคนนี้คือเสียงของพริกไทย
“อ่าาา ซี๊ดดดด พริกไทย”
ใครจะว่าผมโรคจิตก็พูดไปเถอะ
เพราะตอนนี้ผมเริ่มคิดแล้ว ว่าผมโรคจิตจริงๆ
“อ๊าา อ่าาา อ๊ะ สะ...เสียวมากเลยค่ะ ซี๊ดด” เสียงนางเอกหนังยังคงร้องครางขึ้น ส่วนมือของผมก็สาวขึ้นลงตามจังหวะจนในที่สุดผมก็เสร็จ
“พี่เสร็จแล้วครับ” ผมทักไลน์ไปแทนการโทรเพราะคิดว่ายังไงผู้หญิงก็ต้องอาบน้ำนานกว่าอยู่แล้ว
ภายในเวลาไม่นานเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นแต่ครั้งนี้ไม่ใช่โทรแต่เป็นการวิดีโอคอล ผมกดรับสายในสภาพไม่ใส่เสื้อและหัวเปียกส่วนพริกไทยเธอก็กำลังอ่อยผมด้วยชุดนอนสายเดี่ยวแหวกอกลึกจนเห็นเต้า
ให้ตายเถอะผมมั่นใจว่าเธอจงใจ !
อึก !
“กลืนน้ำลายทำไมคะพี่ขุนทัพ” เธอพูดพร้อมกับปัดผมที่อยู่ด้านหน้าให้ไปด้านหลัง สัส เห็นมากกว่าเดิมอีก
“เอ่ออ...”
“พี่ขุนทัพคะ พริกเสนออาจารย์เรื่องอะไรดีคะ” เธอถามผมขึ้นอีกครั้ง
“น้องพริกเรียนสาขาอะไรครับ” เพราะผมก็ไม่รู้ว่าเธอเรียนสาขาอะไรรู้แค่เรียนคณะเดียวกันเท่านั้น
“โยธาค่ะ” สาขาเดียวกันแต่ผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนี้มาเรียนโยธามันแปลกนิดนึงนะแต่มันก็อาจจะเป็นความชอบก็ว่าได้
“ทำไมเรียนคณะนี้ละพี่ขอถามได้ไหม” อันนี้ที่ถามเพราะอยากเสือกล้วนๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับหัวข้องานเธอ
“ความต้องการของพ่อค่ะ” เด็กดีของพ่อแต่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นเด็กดีของผม
“น้องพริกอยากทำเรื่องอะไรเป็นพิเศษไหม” ผมถามขึ้นอีกครั้งเพราะเวลาเป็นการเป็นงานแบบนี้ผมก็จริงจังถึงจะไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็เถอะ
“พริกอยากทำเกี่ยวกับโครงสร้างสะพานค่ะ” ผมคิดว่ามันดีเลยทีเดียวเพราะมันตรงกับสายงานโยธาอยู่แล้ว
จากนั้นผมก็ช่วยเธอคิดเกี่ยวกับโครงสร้างต่างๆ กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบตีสามอยากจะกราบตัวเองจริงๆ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้ใครแต่กับพริกไทยผมทำให้ได้
“ยังไงพริกขอบคุณพี่ขุนทัพมากนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ขุนทัพพริกแย่แน่ๆ” เธอพูดขึ้นอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับพี่เต็มใจช่วยน้องพริกอยู่แล้ว ไปนอนได้แล้วนะดึกมากแล้ว” เพราะตอนนี้มันดึกพอสมควรแล้วผมเองก็ง่วงเหมือนกัน
“ฝันดีนะคะพี่ขุนทัพ…ว๊าย !”
ปัก !
ฉิบหาย
ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจหรือเปล่าแต่เมื่อเธอบอกฝันดีเสร็จ โทรศัพท์ก็ดันตกลงมาบนตักของเธอโดยที่กล้องหงายขึ้นจนผมเห็นหน้าอกใหญ่ทั้งสองกล้าพูดได้เต็มปากว่าใหญ่ฉิบหาย
“เป็นอะไรไหมครับ ” ผมถามขึ้นทันทีแม้ในหัวจะจดจ่อกับหน้าอกอวบตรงหน้าก็เถอะ
“ไม่เป็นไรค่ะยังไงฝันดีอีกรอบนะคะ”
“ฝันดีครับ”
ผมก้มมองความปวดหนึบภายใต้กางเกงนอนที่ตอนนี้มันแข็งขึ้นมาอีกแล้ว ให้ตายเถอะเธอมันเป็นยัยแม่มดที่สามารถทำให้แก่นกายของผมเป็นได้ถึงขนาดนี้
วันต่อมา
ตอนนี้ผมมาดักรอพริกไทยอยู่ที่หน้าห้องเรียนของเธอส่วนถ้าถามว่ามาทำไม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันรู้ตัวอีกทีก็เดินมาหน้าห้องเรียนของเธอแล้ว
“พี่ขุนทัพ” พริกไทยเรียกผมขึ้นพร้อมกับเดินมาหาผมรวมถึงเพื่อนเธอด้วย
“นี่เพื่อนพริกค่ะ กัสกับน้ำตาลเมื่อคืนพริกลืมแนะนำ” เธอพูดขึ้นอีกครั้ง
“หวัดดีค่ะพี่ขุนทัพ” ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
“ครับ”
“มีอะไรกับพริกหรือเปล่าคะ มาหาพริกหรือมาหาใคร” พริกไทยถามผมขึ้นอีกครั้ง
“มาหาน้องพริกครับ พี่จะมาถามว่าหัวข้อที่นำเสนอเป็นไงบ้าง” จริงๆผมมายืนตรงนี้ด้วยเหตุผลอะไรผมก็ยังไม่รู้ เลยแกล้งๆถามไปแบบนั้น
“ดีเลยค่ะต้องขอบคุณพี่ขุนทัพนะคะ”
“งั้นมึงคุยกับพี่เขาไปกูกับอีตาลไปก่อน” เพื่อนของพริกไทยที่ชื่อกัสพูดขึ้นจากนั้นก็พากันไปเดินออกไปพร้อมกับน้ำตาลเพื่อนอีกคนของพริกไทย
“พี่ขุนทัพว่างไหมคะ ถ้าว่างพริกขอเลี้ยงข้าวตอบแทนที่ช่วยพริกได้ไหมคะ”
“แย่จัง วันนี้พี่ต้องเข้าไปทำงานครับไว้วันหลังได้ไหม” ผมตอบไปตามตรงเพราะตอนนี้ใกล้จะบ่ายแล้ว ผมไปไม่ได้เพราะผมต้องเข้าบริษัทไปเซ็นเอกสาร ไม่งั้นป๊าคงตัดผมออกจากกองมรดกเป็นแน่
“งั้นไม่เป็นไรค่ะ ถ้างั้นพริกขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ให้พี่ไปส่งไหมครับ” เพราะผมก็ไม่ใช่คนแล้งน้ำใจกับผู้หญิงที่สนใจอยู่แล้ว
“พริกรบกวนด้วยนะคะ” จากนั้นทั้งผมและเธอเดินไปซุปเปอร์คาร์ของผม
คอนโดของพริกไทยอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมากนักเราจึงใช้เวลาไม่นานในการมาถึงที่นี่
“พริกไปนะคะ”
“ครับ”
“พี่ขุนทัพคะ” เธอเรียกผมขึ้นอีกครั้งพร้อมกับปลดเข็มขัดและโน้มตัวมาใกล้ๆมันทำให้กลิ่นหอมจากตัวเธอลอยเข้าจมูกผม
“ขับรถดีๆนะคะ” พูดจบเธอหอมแก้มผมพร้อมกับลงจากรถไปทันที
ผมว่าผมคงเป็นเหยื่อให้เสือสาวอย่างเธอขย้ำผมเล่นแล้วแหละครับ