แผนซ้อนแผน

1487 Words
ผมรู้สึกว่าช่วงนี้เหมือนมีคนคอยแอบมองผมอยู่ตลอดเวลา หรือผมจะคิดไปเองเพราะตั้งแต่วันที่ยัยนั้นตบหน้าผม ผมก็ยังไม่เห็หน้าเธออีกเลย เธอคงไม่กล้ามาเจอผม..ก็ใช่ซิ ยัยนั้นตบหน้าผมต่อหน้าทุกคนจนทำให้ผมอายผมไม่มีวันให้อภัยยัยนั้นเด็ดขาด “ไอ้โอม มึงรู้แล้วใช่มั้ยว่าอาจารย์ที่คณะจะให้มึงไปร่วมกิจกรรมเดินขบวนของมหาลัยอะ...?” “เดินขบวนอะไร กูไม่รู้เรื่อง..” “อ้าว น้องแก้มยังไม่ได้มาคุยกับมึงหรอ กูเห็นผ่านไปเป็นอาทิตย์ละนะ นี่มึงยังไม่รู้เรื่องอีกหรอ” “ไม่มีทาง...กูไม่มีทางเข้าร่วมงานไร้สาระพวกนั้นหรอก ไปบอกยัยนั้นด้วยว่าไม่ต้องมาตื้อซะให้ยาก ไม่มีวัน” ผมเดินหัวเสียออกจากโต๊ะมาเลยที่รู้ว่าต้องได้ไปร่วมงานไร้สาระแบบนั้น ผมไม่ชอบคนวุ่นวาย มันอึดอัดแล้วก็น่ารำคาญ ....... “นี่แก้ม แกจะนั่งหลบมุมอยู่ตรงนี้จริงๆหรอ ฉันว่าแกเริ่มเหมือนคนโรคจิตเข้าไปทุกวันละนะ” “แพร แกเลิกว่าฉันสักทีได้มั้ย ฉันต้องรีบหาวิธีเพื่อเข้าใกล้พี่โอมให้มากขึ้น นี่ฉันกำลังตามติดชีวิตพี่โอมอยู่” “เออๆ แล้วนี่จะไปกินข้าวไหม...ฉันจะไปแล้วนะหิวจะตายละ” แพรมันเดินหนีฉันไปเลยพอมันพูดว่าหิว “แพร รอฉันก่อนซิ แกนี่ไม่คิดจะรอฉันเลยนะ” แพรมันเดินอย่างเร็วโดยไม่รอฉันเลย มันคงหิวมากจริงๆเดินไปต่อแถวเพื่อซื้อข้าวกิน ฉันเลยรีบมาต่อแถวจากมัน “แกเอาไร เหมือนเดิมใช่ไหมเดี๋ยวฉันสั่งให้ แกเดินไปซื้อน้ำไป” ฉันพยักหน้ารับแล้วก็เดินไปต่อแถวซื้อน้ำ แต่... “พี่โอม....” พี่โอมกำลังเดินผ่านหน้าฉันไป เขากำลังจะไปที่ไหนฉันต้องรีบตามเขาไป ฉันแอบเดินตามพี่โอมมาเรื่อยๆจนได้มาเห็นเขานั่งอยู่ในห้องชมรมดนตรีแล้วเขาก็หยิบกีต้าร์ขึ้นมาเล่น ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาเล่นดนตรีเป็นด้วย คนอะไรวะเก่งไปซะทุกอย่าง บ้านก็รวย เรียนก็เก่ง แถมยังหล่ออีก เพอร์เฟคไปซะหมด “มิน่าละผู้หญิงทุกคนถึงได้ชอบพี่กันเป็นแถว...” “....” ฉันยืนเหม่อหลงเคลิ้มไปกับเสียงเพลงของพี่เขาจนลืมไปว่ายัยแพรให้ฉันมาซื้อน้ำ “ตายห่าละ ซวยแน่ๆอีแก้ม” ฉันรีบหันหลังจะเดินหันไปทันทีแต่ก็ “โอ๊ย...” ดันไปเตะเข้ากับกระถางต้นไม้ซะได้ อีแก้มเอ้ย...ซุ่มซ่ามจริงๆ “นี่เธอตามฉันมาอีกแล้วหรอ...?” ฉันถึงกับต้องสะดุ้งที่ได้ยินเสียงของพี่โอมอยู่ข้างหลัง “ฉันเคยบอกแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าตามฉันอีก ถ้าฉันเห็นเธออีกรู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น?” “แก้ม ไม่ได้ตามพี่นะ แก้มแค่เดินผ่านมาเฉยๆ ก็แก้มได้ยินเสียงคนเล่นกีต้าร์อะ แก้มก็เลยเดินมาดู..” ฉันแก้ตัวไปดูฟังไม่ขึ้นใช่มะ “ฉันเชื่อก็ได้...” “ทำไมเชื่อง่ายจัง” ทำไมเขาถึงเชื่อง่ายจัง แปลก “ก็ไม่ดีหรอ ฉันเชื่อเธอ...” “มันก็ดี แต่มันแปลกนี่ แต่ก็ช่างเถอะพี่เชื่อแก้มก็ดีแล้ว เพราะพี่ต้องรู้ไว้แก้มไม่ได้เหมือนกับผู้หญิงของพี่ทุกคนที่พยายามเข้าใกล้พี่เพราะแค่หวังในตัวพี่ แต่แก้มแค่หวัง...” “หวังอะไร..?” “ก็หวัง...” ฉันหยุดชะงักทันทีที่นึกขึ้นได้ “เธอหวังอะไร ฉันมีอะไรที่เธอต้องการหรอ..?” ฉันจ้องหน้าพี่โอมนิ่งแต่ก็ไม่กล้าพูดกับเขา กลัวจริงๆว่าจะโดนเขาฉีกอกเอา “ไม่มีอะไร แก้มว่าแก้มไปดีกว่า…” ฉันตัดบทเพราะไม่อยากให้เขาเซ้าซี้ฉันไปมากกว่านี้ “เดี๋ยว..” ฉันหยุดชะงักทันทีที่พี่โอมเรียกฉัน “...” ฉันหันมามองหน้าพี่โอม แต่เขาก็ไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่จ้องหน้าฉัน “ไม่มีอะไร เธอไปเถอะ” ฉันงงอยู่ดีๆก็เรียกฉัน แต่พอฉันหันมาเขาก็ไล่ฉัน อะไรของเขาเนี้ย ฉันเดินไปอย่างงงๆแต่พอนึกขึ้นได้ว่าต้องไปซื้อน้ำให้ยัยแพร ฉันก็รีบวิ่งไปทันทีแล้วพอซื้อน้ำเสร็จฉันก็วิ่งไปที่โต๊ะกินข้าวที่ยัยแพรนั่งรออยู่ “แก ฉันขอโทษนะที่มาช้า ฉันมัวแต่.....” ฉันวิ่งหอบมาอย่างเหนื่อย เอาแก้ววางที่โต๊ะแต่พอเงยหน้ามาเห็นยัยแพรกินข้าวหมดแล้ว พร้อมกับน้ำที่เพิ่งกินไปจนหมดแก้วก็หน้าจ๋อยทันที “ให้ฉันรอแกนะข้าวคงติดคอฉันตายพอดี...ชิส์” “ฉันขอโทษ พอดีตอนฉันไปซื้อน้ำให้แกฉันเห็นพี่โอมเดินผ่านมาฉันเลยเดินตามไป แล้วก็....” “แล้วก็ลืมฉัน เห่อ..ฉันจะทำยังไงกับแกดีนะ ทิ้งเพื่อนอย่างฉันแล้วตามผู้ชายไป แกนะแก...” “ขอโทษ...” ฉันต้องรีบยกมือไหว้มันทำท่าออดอ้อนจนมันเริ่มใจอ่อนยิ้มๆออกมา “เอ่อๆ...ไม่ต้องมาทำท่าอุบาทเลย ฉันไม่ใช่ผู้ชาย...อะนี่ข้าวของแก รีบๆกินจะได้ไปเรียน” ฉันยิ้มให้มันแล้วก็รีบก้มหน้าทานข้าวจนหมด ...... วันนี้ผมมีนัดทานข้าวกับที่บ้านพร้อมกับครอบครัวของเพื่อนพ่อผม ผมรู้ว่าท่านนัดผมมาทำไม ผมเคยเลี่ยงมาหลายครั้งแล้วแต่ครั้งนี้ผมปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ผมนั่งอยู่ในวงทานข้าวแต่มันรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แต่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มออกมาได้ก็เป็นเพราะผมหันไปเจอเข้ากับใครคนหนึ่งพอดี “ผมคงหมั้นกับน้องเชอร์รี่ไม่ได้หรอกครับ” ทุกคนหันมามองหน้าผมพร้อมกับน้องเชอร์รี่ที่มองผมอย่างอึ้งๆ “แกพูดอะไรของแก...?” “ผมขอโทษครับที่ผมต้องพูดแบบนี้เพราะผมมีคนรักอยู่แล้ว ผมขอโทษครับคุณอา น้องเชอร์รี่พี่ขอโทษนะครับ” ผมหันไปหาน้องเชอร์รี่ที่มองผมด้วยใบหน้าหน้าที่ดูไม่พอใจนัก “ทำไมแม่ไม่รู้เรื่องว่าโอมมีคนรักอยู่แล้ว โอมอย่ามาหลอกแม่ แม่ไม่เชื่อ” ผมหันไปหาแม่แล้วจับมือแม่ไว้ “วันนี้เธอก็อยู่ที่นี่ด้วยครับ ผมบอกว่าจะมาทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ผมเลยพาเธอมาด้วย แต่เธอไม่ยอมเข้ามาร่วมโต๊ะด้วย...” แม่จ้องหน้าผมอย่างหาความจริงเพราะแม่คงไม่เชื่อว่าผมมีแฟนแล้ว ผมจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่โต๊ะของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ “นี่...ตามฉันมานี่หน่อย” ผมจับมือเธอให้ลุกขึ้นแล้วเดินตามผมไปที่โต๊ะ “อย่าพูดอะไรจนกว่าฉันจะสั่ง เดินตามฉันมา” ผมพาเธอมาหยุดที่โต๊ะทานข้าวของผม “....” ทุกคนหันมามองหน้าผมแล้วผู้หญิงที่ผมจับมืออยู่ “นี่พ่อกับแม่ฉัน...” ผมบอกเธอเธอหันมามองหน้าผม ผมจึงบังคับเธอทางสายตาว่าให้ยกมือไหว้ท่านทั้ง 2 เธอจึงหันไปสวัสดีพ่อกับแม่ผม “และนี่คุณอาเชน กับน้องเชอร์รี่ลูกสาวคุณอา” ผมหันไปเห็นเธอยกมือไหว้คุณอากับน้องเชอร์รี่ แต่ดูทั้ง 2 จะไม่สนใจเพราะหันหน้าไปทางอื่น “นี่หรอ..แฟนของโอม..?” “ครับแม่...เราคบกันมาได้ 3 ปีแล้วครับ แต่เธอไม่ยอมให้ผมบอกใครเพราะอยากให้ผมเรียนจบก่อน แล้วเราก็อยู่ด้วยกันแล้วด้วยนะครับ..” ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่ผมพูดและคนที่น่าจะช็อกที่สุดตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นคนที่ยืนข้างผมตอนนี้ “ทำไมแม่ไปที่ห้องโอม แม่ถึงไม่เคยเจอเธอมาก่อน” “ทุกครั้งที่แม่ไปที่ห้อง ผมจะให้เธอออกไปจากห้องก่อนเพราะเธอยังไม่อยากให้แม่รู้เรื่องของเรานะครับ” “ทำไม..?” ผมโดนคาดคั้นจากพ่อกับแม่จนเริ่มจนมุม ผมตัดสินใจหันไปหาเธอแล้วจับมือเธอไว้ “ผมคงยังทำให้แก้มมั่นใจในตัวผมไม่ได้ แก้มเลยไม่ยอมให้ผมบอกกับใคร...” ผมมองหน้าเธอนิ่งจ้องเข้าไปในแววตาเธอ “มั่นใจในตัวพี่นะแก้มว่าพี่รักแก้มจริงๆ...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD