2 วันผ่านไป
ทำไมวันนี้ผมรู้สึกแปลกๆเหมือนมีคนคอยจ้องผมอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องสมุด จริงๆผมก็รู้นะว่าพวกผู้หญิงในมหาลัยชอบคอยแอบมองผม และก็ชอบส่งยิ้มหวานให้ แต่ผมไม่เคยสนใจหรอกเพราะผมไม่ชอบผู้หญิงที่เอาแต่อ่อยผู้ชายไปทั่วแล้วก็ทำเรื่องไร้สาระไปวันๆ แต่วันนี้ผมรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างจ้องมองผมแปลกๆ
“นี่แก้ม ฉันว่าแกทำแบบนี้พี่เขาจะหาว่าแกโรคจิตปะวะ...?”
ฉันที่นั่งอยู่มุมหนึ่งหลังพี่โอมยกหนังสือมากองเต็มหน้าเพื่อคอยแอบมองพี่เขาอยู่ห่างๆ
“แพร แกเงียบๆซิ เดี๋ยวพี่โอมก็ได้ยินหรอก”
“ก็ดูซิแกมานั่งแอบมองพี่เขาแบบนี้ ชาติไหนแกจะได้ทำตามแผนสักที แล้วแกบอกได้ยังว่าสรุปแผนแกคืออะไร...?”
“เออนะ...แกคอยดูก็แล้วกันฉันต้องทำให้พี่โอมยอมมาร่วมกิจกรรมในงานมหาลัยเราให้ได้ อีแก้มซะอย่าง...”
“ฉันจะคอยดู แต่ก็อย่าช้านะคะเพื่อนเพราะถ้าถึงวันงานแล้วแกพาพี่โอมมาไม่ทัน แกอดไปออสเตรียแน่ๆ 55555....”
ฉันต้องรีบเอามืออุดปากยัยแพรไว้ เพราะมันหัวเราะเสียงดังมากจนทุกคนหันมามองและที่ทำให้ฉันตกใจจะใครละคะ ก็พี่โอมนะซิหันมามองพวกเราด้วยสายตาไม่พอใจ...
“แกหยุดหัวเราะได้แล้วนะ ดูซิทุกคนหันมามองหมดแล้ว เสียแผนฉันหมด”
ฉันกับยัยแพรรีบหันไปมองตามสายตาของทุกคน และสายตาของฉันก็หันไปปะทะเข้ากับรังสีอำมหิตเข้าจนฉันต้องยิ้มแห้งๆส่งไป
“แกๆ เดี่ยวฉันมานะ แกรอฉันตรงนี้แปบ”
ฉันรีบลุกขึ้นเดินตามพี่โอมทันทีเมื่อเห็นเขากำลังลุกไปในโซนหนังสือโซนหนึ่ง
ฉันย่องตามพี่โอมไปเรื่อยๆ เดินไปแอบอยู่มุมหนึ่งตรงข้ามพี่เขา คอยมองจ้องว่าปกติพี่เขาชอบอ่านหนังสืออะไร คอยดูว่าพี่เขาให้ความสนใจในเรื่ิองอะไรอยู่ แต่.. แต่... แต่....
“หายไปไหนวะ…?”
ฉันแค่ก้มหน้าหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาปิดหน้าตัวเองแล้วก็เงยหน้ามาอีกที พี่โอมก็หายไปแล้ว
“แพรแกอย่าเพิ่งมายุ่งกับฉัน แพรฉันบอกว่าอย่าเพิ่งมายุ่ง”
มันนี่พูดไม่รู้เรื่องมาสะกิดอยู่ได้คนกำลังหาพี่โอมอยู่
“แพร แกนี่พูดไม่รู้...”
“…”
“พี่โอม...”
ฉันหันมาถึงกับตกใจที่เห็นเป็นพี่โอม
“ทำไมต้องคอยตามฉันด้วย..?”
“ปะ ปะเปล่าน่า..แก้มไม่ได้ตามพี่สักหน่อย”
“เธอตามฉัน ฉันรู้ว่าเธอตามฉันมาได้ 2 วันแล้ว เธอต้องการอะไร”
รู้อีกว่าฉันตามมา 2 วัน ก็ใช่คะฉันแอบสะกดรอยตามพี่เขามา 2 วันละ แต่ยังไม่ได้เรื่องเลย
“แก้มไม่ได้ต๊าม...แก้มจะตามพี่ไปทำไม แก้มไม่มีอะไรกับพี่สักหน่อย”
“เธอตามฉัน เธอแอบสะกดรอยตามฉัน”
“แก้มไม่ได้ตาม”
“เธอตามฉัน”
“เอ๊ะพี่โอม แก้มบอกแล้วไงว่าแก้มไม่ได้ตาม”
“เธอตาม”
“ไม่ตาม ไม่ตาม ไม่ตาม พูดไม่รู้เรื่องหรือไง แก้มจะไปตามพี่ทำไม เห็นแก้มเป็นอะไรเนี้ยแก้มไม่ใช่โรคจิตนะ”
ฉันเถียงพี่เขาข้างๆคูๆ ยังไงฉันก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาด
“ก็เหมือนผู้หญิงที่ชอบตามฉันไปทั่ว ผู้หญิงที่ไร้สาระชอบเอาแต่ตามผู้ชายไปวันๆ คลั่งคนหล่อ คลั่งคนหน้าตาดี พวกที่ชอบอ่อยผู้ชายไปทั่วเหมือนผู้หญิงไม่มียางอายไง”
เพี๊ยะ ฉันทนไม่ได้ที่เขาพูดดูถูกฉันเผลอไปตบหน้าเขา 1 ที
“....”
“พี่ไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากที่ไหนกัน แก้มไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้นที่ชอบพี่หรือต้องคลั่งไคล้พี่ ที่แก้มมาตามพี่ก็เพราะว่าแก้มมีเหตุผลของแก้ม เหตุผลที่ทุกคนไม่อยากเข้าใกล้พี่ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพี่ เลยต้องให้แก้มมาทำ พี่รู้ไว้สะด้วยนะว่าถ้าพี่เรียนไม่เก่ง หน้าตาไม่ดี บ้านไม่รวย ก็ไม่มีใครสนใจพี่หรอก เพราะพี่มันเป็นคนนิสัยแบบนี้ไง...”
“....”
“แก้ม ....”
ฉันหันไปมองตามเสียงเรียกของแพรก็ต้องตกใจ เพราะทุกคนต่างมายืนมุงกันเต็มห้องสมุดเลย แล้วก็เพิ่งรู้สึกตัวว่านี่ฉันทำเผลอพูดหรือทำอะไรลงไปกับเขา พอหันมามองหน้าเขาที่จ้องมาด้วยแววตาโกรธจัด
“เอ่อ....พี่โอม แก้มขอ...”
“ต่อไปนี้เธอห้ามเข้าใกล้ฉันแม้แต่นิดเดียว ถ้าฉันเห็นเธออีก ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่..”
เขาหันไปมองหน้าทุกคนแล้วหันมามองฉันอย่างโกรธจัด แล้วเขาก็เดินฝ่าฝูงคนออกไปทันที
“พี่โอม แก้มขอโทษ แก้มไม่ได้ตั้งใจ พี่โอม...”
“ฉันว่าแกถอดใจเถอะวะ แกเล่นไปตบหน้าพี่เขาแบบนั้น ไม่มีทางที่แกจะทำสำเร็จแน่ๆ”
“...”
ฉันไม่มีวันยอมแพ้หรอกฉันจะต้องทำให้สำเร็จ แต่เมื่อกี้ฉันรู้สึกผิดจริงๆนะ ฉันเผลอไปตบหน้าพี่เขาได้ไงเนี้ย อีแก้มนะอีแก้ม จากเรื่องที่จะให้เขายอมไปเข้าร่วมงานว่ายากแล้ว กลายเป็นแค่จะเข้าหน้าพี่เค้าตอนนี้ให้ได้ก่อนยากกว่าอีก
…
3 วันผ่านไป
“นี่แก้มแกจะเอายังงี้จริงๆหรอวะ..?”
“จริง”
ฉันหันมาหาแพรที่มาช่วยฉันขนของเพื่อย้ายคอนโด
“แต่คอนโดนี้มันแพงมากเลยนะเว้ย! แกจะลงทุนถึงขนาดย้ายมาอยู่ในคอนโดเดียวกันกับพี่โอมเลยหรอ..?”
ที่แก้มยอมย้ายมาคอนโดเดียวกับพี่เขาเพราะจะได้อยู่ใกล้พี่เขามากขึ้น ก็ไม่ได้เจอหน้าพี่เขามาจะ 3 วันแล้ว คิดมาทั้งคืน เอาวะยอมลงทุนเลยละกัน
“ฉันต้องทำแก ฉันต้องทำให้พี่เขายอมให้ได้”
“คอนโดนี้มีแต่พวกลูกคนมีตังมาอยู่ แล้วลุงกับป้าแกจะมีตังจ่ายให้แกหรอวะ...?”
“ไม่หรอกฉันคงรบกวนลุงกับป้าเท่าเดิม แต่ค่าห้องฉันจะทำงานพิเศษให้หนักขึ้น”
“งานเด็กเสิร์ฟในผับอะนะ แกจะไหวหรอ...?”
“ไหวซิ ฉันต้องทำให้มันไหว แกอย่าเพิ่งชวนฉันคุยได้มั้ย มาช่วยฉันขนของให้เสร็จๆเถอะ”
แพรช่วยฉันขนของจนเสร็จเรียบร้อย ค่าห้องนี้แพงมากอย่างที่แพรบอกจริงๆนั่นแหละคะ และยิ่งเป็นห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของพี่โอมอีกยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ เพราะชั้นนี้เป็นชั้นบนสุดของตึก มีแค่ 6 ห้องเองมีลิฟต์กั้นอยู่ตรงกางกลางระหว่างห้องของแต่ละคู่ พูดง่ายๆคือลิฟต์ของฉันมีฉันกับพี่โอมใช้ได้แค่ 2 คนเท่านั้นอะคะ น่าจะแพงตรงนี้ 555
“แกห้ามบอกเรื่องนี้กับลุงกับป้าฉันนะ เดี๋ยวถ้าท่าน2 คนมาหาฉัน ฉันคงต้องขอกลับไปนอนห้องเดียวกับแกอีก”
“เออๆ รู้แล้วน่า”
แกร๊ก...เสียงเปิดประตูจากห้องข้างนอก
ฉันรีบส่องตาแมวตรงประตูทันทีว่าคนที่เปิดประตูออกมาเป็นพี่เขาหรือเปล่า
“พี่โอมแก พี่โอม”
“เขากลับมาแล้วอะ”
“แกจะเอาไงจะออกไปเคาะห้องพี่เขาเลยมั้ย..?”
“แกจะบ้าหรอ ขืนฉันไปเคาะตอนนี้พี่เขาย้ายห้องหนีฉันแน่ ฉันจะยังให้เขารู้ตอนนี้ไม่ได้ว่าฉันอยู่ห้องตรงข้ามกับเขา”
“ทำไมวะ..?”
“ก็ฉันจะคอยสะกดรอยตามพี่เขาไปเรื่อยๆ ฉันอยากรู้จักเขาให้ดีก่อน จะได้ค่อยๆแทรกซึมเข้าไปทีละนิดๆ มันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป”
“แล้วชาติไหนจะสำเร็จวะ..?”
“โธ่เอ๊ย...ก็ชาตินี้แหละ แกคอยดูก็แล้วกัน”