กำราบรัก 6
เช้าอีกวันคุณหนูคนใหม่ประจำบ้านเดินลงจากบันไดมาด้วยท่าทางร่าเริงกว่าวันอื่นๆก่อนจะพุ่งตรงไปยังห้องครัวเพื่อจัดอาหารเช้า
“วันนี้อารมณ์ดีเชียวนะคะคุณหนูซอล”
แม่บ้านเอ่ยทักขณะช่วยกุญแจซอลเตรียมของ วันนี้เธอตั้งใจจะทำข้าวต้มทรงเครื่อง แม่บ้านเลยเข้ามาช่วยเธอเตรียมจำพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ
“วันนี้หนูซอลจะได้ไปเที่ยวค่ะ”
กุญแจซอลตอบ รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าน่ารักทำให้คนมองอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้
ไม่นานข้าวต้มทรงเครื่องหอมกรุ่น อัดแน่นไปด้วยหมู กุ้ง หมึกและปลาได้ถูกแม่บ้านนำมาขึ้นโต๊ะอาหารซึ่งมีเจ้าของบ้านนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“คุณทีแต่งซะเต็มยศแต่เช้าเลย หนูซอลว่าเราออกไปสายๆก็ได้นะคะ”
กุญแจซอลเดินตามหลังแม่บ้านออกมาเอ่ยทักทีซึ่งใส่สูท ผูกไทเต็มยศ
“ไปเย็นๆล่ะกัน ฉันต้องไปประชุมก่อน”
รอยยิ้มบนใบหน้าเด็กสาวหุบลงทันทีเมื่อได้ยิน ดวงตากลมโตตวัดมองผู้ชายตรงหน้าเขม็ง
“อย่ามองแบบนั้น”
“ทีเร็กจอมโกหก”
ดวงหน้าหวานมู่ทู่ ปากกระจับบ่นขมุบขมิบ ทีเห็นอย่างนั้นจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ โบกมือไล่แม่บ้านออกไปก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปด้านหลังคนตัวเล็ก
“อย่าขี้งอนนักสิ”
“คุณทีไปทำงานเถอะค่ะ”
กุญแจซอลพูดเสียงเบาอย่างตัดพ้อ ก้มลงตักข้าวต้มในชามเข้าปาก
“ไม่น่ารักเลยนะหนูซอล”
“ใครอยากให้มารักกันล่ะ”
“แต่อยากรักไม่ได้หรอครับ”
ทีก้มลงกระซิบข้างใบหูของเด็กขี้งอน แก้มใสแดงระเรื่อ หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักอย่างไม่ทราบสาเหตุทั้งที่เธอรู้ดีว่าทีแค่แหย่เธอเล่น
“ถอยไปเลย หนูซอลจะกินข้าว”
“หึหึ สัญญาว่าเสร็จงานจะรีบกลับมานะครับ”
มือหนาโยกศรีษะเล็กด้วยความเอ็นดูก่อนจะเดินอ้อมกลับไปนั่งทานข้าวต้มของตัวเองต่อ ทีคอยเหลือบมองกุญแจซอลเป็นระยะ ซึ่งทุกครั้งที่เขาสบตากับเธอ เจ้าของดวงตากลมโตก็จะถลึงตาใส่เขาแต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเคืองเธอแม้แต่นิด เขากลับขบขำเสียด้วยซ้ำเพราะเขารู้ดีว่าเด็กน้อยตรงหน้ากำลังเขินยังไงล่ะ นั่นถือเป็นสัญญานที่ดีสำหรับเรื่องที่เขาวางแผนไว้ต่อจากนี้
วันนี้การประชุมเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนด เขาจึงรีบมุ่งหน้ากลับบ้านแถมยังให้กรจองรอบหนังที่กุญแจซอลอยากดูไว้ด้วยเมื่อเธอรู้ข่าว ในวินาทีแรกเธอดีใจจนเผลอกระโดดกอดทีแต่วินาทีต่อมาใบหน้าหญิงสาวก็งองุ้มแทบทันทีด้วยเหตุผลที่ว่า
“แล้วอย่างนี้หนูจะแต่งตัวทันรอบหนังที่คุณจองได้ไง”
“หือ?”
“คุณทีถอยไปเลย หนูซอลรีบเพราะคุณทีนั่นแหละ ทำไมเสร็จงานไวขนาดนี้”
กุญแจซอลผละออกจากอ้อมกอดแกร่งด้วยความหงุดหงิด รีบเดินขึ้นห้องตัวเองไปทิ้งให้ทียืนเกาหัวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ นี่อุส่าต์รีบกลับมาเพื่อจะเอาใจเด็กไหงมาโดนเด็กหงุดหงิดใส่แบบนี้ล่ะ
เวลาล่วงเลยไปเกือบสามสิบนาที คนที่บอกว่าจะไปเปลี่ยนชุดก็ยังไม่ลงมา ทีจึงต้องขึ้นไปตามเธอเพราะเกรงจะไปไม่ทันรอบหนัง
“ถ้าช้าก็ไม่ต้องไปนะ”
ร่างสูงกอดอกยืนพิงขอบประตู มองคนตัวเล็กหน้ากระจกที่ยืนหมุนไป หมุนมาเป็นสิบรอบ
“ชุดนี้อ้วนมั้ยคะ?”
“อ้วน”
ทีตอบเสียงนิ่ง เขาแค่แกล้งเธอเล่นเท่านั้นแหละ กุญแจซอลตัวเบาจนเขาแทบจะหิ้วเธอมือเดียวได้อยู่แล้วจะเอาอะไรมาอ้วน
“จริงหรอ ถ้าอย่างนั้นหนูซอลเปลี่ยนชุดดีกว่า”
“ไม่ต้อง รู้ว่าตื่นเต้นกับเดตแรกแต่ชุดไหนก็ไปเถอะ ฉันไม่ถือ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง กระพริบตาปริบๆกับคำพูดของอีกคน ก่อนจะเสียงดังกลบเกลื่อนเมื่อเห็นรอยยิ้มตรงมุมของที
“เดตอะไร คุณทีต้องไปไถ่โทษต่างหาก”
“หึ ฉันให้เวลาเธออีกสิบวิ”
ริมฝีปากบางกระตุกยิ้ม มือสองข้างล้วงกระเป๋าก่อนจะเริ่มนับเวลา
“1 2 3”
“คุณทีขี้โกง อย่านับเร็วสิ”
คนโดนเร่งร้อนลน หยิบนั่นหยิบนี่ใส่กระเป๋ามั่วไปหมด
“เธอจะหยิบรีโมตแอร์ไปด้วยหรอ”
มือเล็กชะงักมองสิ่งของในมือ เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังหยิบใส่เป็นรีโมตแอร์จริงๆ เจ้าตัวจึงรีบวางลงแล้วหันไปค้อนใส่อีกคนซึ่งยืนหัวเราะอยู่
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ”
“หึหึ ยัยบ๊องเอ้ย”
ทั้งคู่มาถึงโรงหนังในเวลาฉิวเฉียด มือเล็กหันไปลากอีกคนให้รีบเข้าโรงหนังอย่างลืมตัว ทีก้มลงมองมือเล็กที่จับมือเขาไว้ก่อนจะระบายยิ้มออกมากระชับมือให้แน่นกว่าเดิม
“คุณทีปล่อยมือได้แล้ว หนูซอลจะกินป๊อบคอร์น”
กุญแจซอลหันไปกระซิบข้างหูแต่คนหน้ามึนยังไม่ยอมปล่อยมือเธอ เขาจับมันอย่างนี้ตั้งแต่เข้ามาแล้ว เธอพยายามดึงมือออกเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
“อยู่นิ่งๆ”
ทีปรามเสียงนิ่งเมื่ออีกคนยังไม่หยุดพยายามเอามือตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขา กุญแจซอลกำลังจะอ้าปากต่อว่าเขาแต่ทีกลับดึงป๊อบคอร์นในมือเธอไปถือไว้
“ป้อนด้วย”
ดวงตากลมโตเบิกกว่าก่อนจะส่งสายตาทิ่มแทงไปให้เขา แต่ก็นั่นคนอย่างทีจะไปรู้สึกอะไร กุญแจซอลเลยต้องหยุดพยายามทวงคืนมือตัวเองแล้วใช้มือข้างที่ว่างหยิบป๊อบคอร์นกินเองและไม่ลืมเผื่อแผ่ให้คนหน้านิ่ง ซึ่งอ้าปากรับป๊อบคอร์นจากเธอ สบายเป็นคุณชายด้วย
งับ
ทีตั้งใจแกล้งงับนิ้วเล็กที่ป้อนป๊อบคอร์นมาให้เขาเบาๆ ส่งผลให้เจ้าของนิ้วซึ่งกำลังตั้งใจดูหนังหันขวับมามองเขาเตรียมจะอ้าปากต่อว่าเขาแต่กลับโดนริมฝีปากบางของอีกคนทาบทันลงบนปากอวบอิ่มมอบความอบอุ่นมาให้แทน ในตอนแรกเธอยังคงตกใจ เคลิบเคลิ้มกับรสชาติจูบแสนหวานที่ที่มอบให้แต่เมื่อได้สติ เธอจึงรีบหันหน้าหนีซึ่งมันทำได้ไม่ง่ายอย่างใจคิดเพราะโดนมือหน้ากดท้ายทอยไว้ บังคับไม่ให้เธอหนีจูบเขาไม่ได้
“อย่างอแงหน่า เดี๋ยวพามาดูใหม่ก็ได้”
“ไม่ดูแล้ว”
ประสบการณ์ดูหนังครั้งนี้ กุญแจซอลจำไม่มีวันลืมแน่ ความยาวหนังตั้งสามชั่วโมงแต่เธอได้ดูจริงๆไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ เธอเดินก้มหน้าตั้งใจใจจะหลบซ่อนความแดงบนใบหน้าของตัวเองไว้ ใจอยากเดินหนีไปเสียด้วยซ้ำแต่กลับโดนมือหนาจับไว้แน่นไม่ยอมให้เธอได้ห่างตัวเลยสักนิด
“Hi หนูซอลเพื่ิอนรัก”
“นึกใจดีอะไรวะ เลี้ยงชาบูพวกกู”
สายฟ้าและพายุซึ่งยืนอยู่หน้าร้านชาบูรอกุญแจซอลรีบเข้ามาทักทายเพื่อนเมื่อเห็นเธอเดินมาก่อนที่สายตาจะหันไปเห็นเจ้าของใบหน้านิ่งด้านข้างเธอ
“สวัสดีครับคุณที”
“ครับ”
ทีพยักหน้ารับไหว้ทั้งคู่ กุญแจซอลคงกะพาเพื่อนมาถล่มเขาเลยล่ะสิ ร้ายนักนะ
“เดี๋ยววันนี้คุณทีเลี้ยง ไปกันเถอะเพื่อนรัก”
กุญแจซอลเดินเข้าไปควงแขนเพื่อนสนิททั้งสองคนเข้าร้าน ทีมองภาพตรงหน้าพลางขบกรามตัวเองแน่น เขาไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นักที่กุญแจซอลสนิทกับเพื่อนผู้ชายขนาดนี้
“เดี๋ยวซอลไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
สายฟ้าและพายุเงยหน้ามองเพื่อนตัวเองนึกสงสัยว่าทำไมเพื่อนต้องเอ่ยเหมือนขออนุญาต แต่เมื่อเงยหน้าจึงกระจ่างว่าเพื่อนไม่ได้บอกกับพวกเขาแต่บอกบุคคลหน้านิ่งด้านข้างต่างหาก
“ให้ไปเป็นเพื่อนมั้ย”
“หนูซอลไม่ใช่เด็กนะ”
หลังจากกุญแจซอลเดินออกไปสายฟ้าและพายุหันมองหน้ากันก่อนจะกลั้นใจพูดกับที ปกติพวกเขาไม่เคยกลัวเกรงใครอยู่แล้วแต่สำหรับทีบอกได้เลยว่ารังสีเย็นยะเยือกจากตัวเขาทำให้พวกเขาเกร็งไม่น้อย
“คุณทีครับพวกผมขอคุยกับคุณแบบจริงจังนะครับ”
“ครับ”
“พวกผมรู้จักกุญแจซอลมานาน พวกผมรักมันเหมือนน้องสาว” พายุเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นก่อน
“ถ้าคุณคิดจะมาเล่นๆกับเพื่อนพวกผม แนะนำให้คุณหยุดเถอะครับ”
ทีวางตะเกียบลง เงยหน้ามองทั้งสองคนนิ่ง แววตาทั้งคู่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริงและพวกเขาพร้อมจะปกป้องเพื่อนตัวเอง
“พวกคุณวางใจเถอะ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ผมว่าคุณคิดดีๆก่อนมั้ยครับ คุณพึ่งเคยเจอเธอนะครับ”
ทียกยิ้มมุมปาก ยกน้ำขึ้นจิบด้วยท่าทางสบายๆ อย่างน้อยกุญแจซอลกุญแจซอลก็โชคดีที่มีเพื่อนรักและเป็นห่วงขนาดนี้
“พวกคุณรู้จักรักแรกพบมั้ยครับ”
——————