“ผมว่าจะอยู่กับพ่อแม่อีกสักสองวันครับ พอดีงานที่กรุงเทพฯ ไม่ยุ่งเท่าไรครับ” เหรียญเงินเอ่ย
“นายก็กลับมาหาพ่อกับแม่บ่อยๆ บ้างนะห่า อยู่กับพ่อแม่แท้ๆ ยังออกไปค้างข้างนอก ก็รู้ๆ อยู่ว่าพ่อกับแม่ของเราขี้เหงาแค่ไหน” อดว่าน้องชายคนเล็กไม่ได้ ขนาดเขาอยู่กระบี่ยังเทียวไปเทียวมาทุกๆ สองอาทิตย์เลย
“ครับพี่หอก” เหรียญชัยรับคำ ก็อยากมาทุกวันนั่นแหละ ถ้าไม่ติดสาว
“พวกเราไปนอนกันเถอะ ดึกมากแล้ว” พี่คนโตเอ่ย
“ฝันดีนะพี่ ออ! ห่าเวลาพี่โทรหาก็รีบรับสายพี่ด้วยล่ะ ไม่ใช่ปล่อยให้พี่รอทั้งวัน รอจนลืมเลยก็มี” เหรียญเงินเอ่ยบอกน้องคนเล็กก่อนจะเดินตามพี่คนโตไป
“ครับผม พี่ก็รู้ว่าผมติดธุระสำคัญ พี่ก็ดูเวลาบ้างก็ดีนะก่อนจะโทรหาห่า” น้องชายเอ่ยตะโกนไล่หลังผู้เป็นพี่ไป
“ฮึฮึ ธุระสำคัญคือจ้ำจี้น่ะสิห่า” เหรียญเงินร้องโต้ตอบกลับมา
เหรียญชัยหยักไหล่ให้พี่ตัวเองก่อนจะเดินตามพี่ชายทั้งสองไปบ้าง ตอนนี้เขาเองก็ง่วงเหมือนกัน พรุ่งนี้แล้วสินะยัยแว่นของเขาจะกลับมาทำงานปกติ ครั้งหน้าถ้าจะลาแบบไม่แจ้งล่วงหน้าแบบนี้อีกเขาจะไม่อนุมัติแล้ว ทำอะไรไม่เป็นระบบแบบนี้งานเขาก็เสียตามไปด้วย เพราะเลขาของพ่อใช่ว่าจะรู้งานของเขาไปเสียทุกอย่าง
*******************************
หมดวันลางานหล่อนก็กลับเข้าสู่โหมดทำงานปกติ เธอมาแต่เช้าเหมือนทุกวัน แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในสามวันที่ไม่อยู่คือใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ จากที่ไม่เคยแต่งมาก่อน ชุดคุณป้ามิดชิดก็เปลี่ยนเป็นชุดเดรสปาดไหล่ตามสมัย แถมรองเท้าก็เป็นรองเท้าส้นสูงประมาณสามนิ้ว จากที่ปกติใส่แต่รองเท้าคัทชูไร้ส้น และแว่นตาที่เคยใส่ถูกถอดเก็บไว้ใส่คอนแทคเลนส์แทน
ชุดที่ใส่วันนี้อวดสัดส่วนกลมกลึงที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้ามิดชิด วันนี้เป็นวันพิเศษหล่อนจึงแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน ร่างเล็กลุกขึ้นมายืนก้มๆ เงยๆ หาของที่ตกอยู่หน้าโต๊ะทำงานของตน จนไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้านายหนุ่มได้มาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของตัวเอง
“คุณเป็นใคร?” ถามคนตัวเล็กที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าโต๊ะทำงานของเลขาตน การแต่งตัวที่แตกต่างออกไปมองยังไงก็ไม่ใช่ยัยแว่นของเขาเป็นแน่
เนตรนภาหยุดการหาของแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเจ้านายของตน พลางยิ้มแห้งๆ ให้คนตัวโต ก่อนจะเอ่ยทักทายสวัสดีผู้เป็นนายของตน
“สวัสดีค่ะคุณเหรียญชัย” หล่อนยกมือไหว้เขาเหมือนทุกครั้งที่ทำ
ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันด้วยความสงสัย น้ำเสียงเล็กใสเหมือนเนตรนภา แต่ทำไมเธอไม่ใส่แว่น แม้ว่าหน้าตาจะดูคุ้นหน้าคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนก็เถอะ ผู้หญิงตรงหน้าช่างสวยหวานน่าทะนุถนอมอะไรแบบนี้ ช่างแตกต่างจากยัยแว่นเลขาของเขาเหลือเกิน
“เธอเป็นใคร แล้วยัยแว่นไปไหน” ถามพลางสอดส่องสายตาหาแม่เลขาสาวแว่นหนาของตน
“ก็อยู่นี่ไงคะ อ้อ! คุณคงไม่เคยเห็นฉันถอดแว่นเลยจำฉันไม่ได้ ดิฉันเนตรนภาค่ะ” หล่อนเอ่ยขำๆ นายหนุ่มของตัวตน
“ไม่จริง ยัยแว่นไม่ได้สวยแบบนี้”
เอ่ยราวคนละเมอ พร้อมจับร่างเล็กตรงหน้าหมุนไปหมุนมาอย่างสังเกต แล้วมันก็ใช่จริงๆ ด้วย เธอคือเนตรนภาคนที่เขาว่าขี้เหร่ แต่ตอนนี้มันกลับตรงกันข้าม หล่อนเป็นนางฟ้าองค์ใดจำแลงแปลงกายมาตบตาเขากันแน่
“พอค่ะคุณเหรียญชัย ดิฉันเวียนหัวหมดแล้วค่ะ” หล่อนปัดมือใหญ่ที่จับไหล่ตัวเองออก
“ฉันตาฝาดแน่ๆ ” พูดพร้อมกับยกมือหยาบกร้านของตนขึ้นแตะแก้มนวล พอจะแตะอีกข้างก็ถูกมือเล็กตีไว้ก่อน
“ไปทำงานได้แล้วค่ะ วันนี้ดิฉันขอลางานครึ่งวันนะคะ พอดีตอนบ่ายมีนัดสำคัญกับที่บ้านค่ะ” หล่อนเอ่ยบอกเรื่องของตน
“ลาไปตั้งสามวันแล้วยังไม่เสร็จธุระอีกเหรอ” เมื่อดึงสติตัวเองกลับมาได้ก็รีบเอ่ยทันที