บทที่ 2 ตอนที่ 5

2751 Words
โซฟาดูเหมือนจะคับแคบเกินไปสำหรับชายหนุ่ม เพียงเขาขยับตัวน้อยนิดก็เหมือนจะพลิกหล่นเสียให้ได้ พื้นพรมที่เต็มไปด้วยขวดเบียร์ล้มระเนระนาด จึงถูกใช้เป็นสถานที่รองรับความใคร่ในทันที เขาประคองร่างเล็กอุ้มและวางบนพรมด้านล่างอย่างไม่เบามือนัก เธอได้จังหวะถีบและดิ้นรนอีกครั้ง "อ๊ะ!" อัศม์เดชหงายหลังก้นกระแทกพื้น เพราะมีความเมาเป็นทุนเดิมทำให้เขาเริ่มเบลอสายตามองเห็นภาพทับซ้อน เขาสลัดศีรษะก่อนจะตั้งสติได้อีกครั้ง ก็พบว่าแม่ตัวดีพลิกคว่ำและกำลังจะลุกหนีเขาไป "จะไปไหน!" "ว้าย!!!" ร่างเล็กที่กำลังใช้เข่าและมือคลานหลังพยุงตัวลุกขึ้นต้องล้มครูดไปกับพื้นพรมอีกครั้ง...ร่างใหญ่ทอดทับด้านบนโดยไม่แยแสสถานภาพของอีกฝ่ายว่าต้องใช้ร่างแบกรับน้ำหนักที่มากกว่าตัวเอง อีกทั้งยังนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นพรมซึ่งแม้จะไม่แข็งกระด้างอย่างพื้นแต่ก็ไม่ได้อ่อนนุ่มเหมือนที่นอน เต้าอวบอัดทับไปกับพื้นพรม คนตัวใหญ่ที่เปลือยท่อนบนเช่นเดียวกับเธอ นาบทับเน้นเฟ้น นัวเนียอยู่กับผิวแผ่นหลังละมุน เรียวลิ้นแตะสัมผัสไปตามผิวเปลือยสล้าง แทะเล็มเอาความหอมกรุ่นแห่งความสาวเข้าปากและจมูก สองมือล้วงสอดเข้าด้านใต้ขยำกำสองเต้าเอาไว้ในมืออย่างเมามัน คลึงเม็ดถันสีสดด้วยปลายนิ้ว นึกถึงปานโดยรอบสีชมพูปนน้ำตาลอ่อนๆ ที่ประดับประดาไว้รอบฐานก่อนจะชูยอดอวดปลายเม็ดตึงเครียดนั้นแล้ว... ลำคอของชายหนุ่มก็กระหายแห้งผาดเอาเสียเหลือเกิน เขากดส่วนกลางลำตัวที่พองผงาดเข้าหาสะโพกนูนผาย แล้วครางเสียงหลง น้ำเมา...พอเข้าปากก็เปลี่ยนคนให้กลายเป็นอีกคนหนึ่งได้เสมอ รวมไปถึงยังกระตุ้นกำหนัดเพศให้ระอุอุ่นซ่าน ตัณหาที่แฝงอยู่ในตัวหลอมรวมกับกระแสเลือดและเพรียกหาการปลดปล่อยที่ล้ำลึก... และร่างกึ่งเปลือยที่อยู่ตรงหน้าเขานี้...ก็คือที่ระบายความใคร่ที่ก่อตัวเพิ่มขึ้นทุกที...ทุกที... อัญญดาดิ้นและร้องโอดครางด้วยความเจ็บปวดไปทั้งกายและใจ แต่พอเธอดีดตัวคู้งอขึ้นกลับเป็นโอกาสให้คนเหนือร่าง ใช้มือล้วงลึกลงไปส่วนล่าง....ส่วนที่อยู่กลางลำตัว และเธอรู้ว่าควรพึงสงวนเอาไว้สุดชีวิต "อย่า!! ฮือๆ" ปีศาจร้ายมิได้ฟังคำขอนั้นจากเธอ เขาสอดผ่ามือผ่านขอบกางเกงซึ่งถูกปลดซิบหมดแล้ว ล้วงซุกแพนตี้ตัวจิ๋วกอบกำเนินเนื้ออวบอูมเต็มกำมือ คลี่นิ้วแยกแย้ม กลีบกุหลาบสาวที่ชื้นแฉะอยู่เพียงเล็กน้อย ยิ่งเธอดิ้น...เรียวนิ้วของเขาก็ยิ่งเสียดสีกับร่องหลืบและกลีบเนื้อบอบบาง เขาตวัดนิ้วรัวสัมผัสกับความเป็นอิสตรีเพศอย่างถึงพริกถึงขิง เสียงทุ้มครวญครางเสียวซ่านไปทั้งตัว ลำลึงค์ขยายใหญ่พร้อมพรั่งสำหรับการถูกปลดปล่อยให้ควานหาความสุขสมแห่งเพศรส อัญญดารู้สึกเจ็บสะโพกเพราะถูกส่วนแข็งขึงของเขาทั้งกดดันและเน้นเสียดสี เธอไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาอะไรนักถึงจะได้ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร จิตใจเด็กสาว เหมือนจะแตกยับดับสลายจากสัมผัสระหว่างชายหญิงของเขา เธอไม่มีวันหลีกหนีวิบากกรรมครั้งนี้ได้พ้นแน่แล้วใช่ไหม... "คุณหมอ...อย่า...อือ..." "อย่าช้าหรืออย่าหยุด...หืม...ดูสิว่าพวกผู้ชายที่มันซื้อไปเอาเป็นทีๆ กับพี่ที่เอาเธอได้ทุกวัน วันละหลายๆ ครั้งใครมันจะทำให้เธอติดใจได้มากกว่ากัน" "หนูไม่เคยทำแบบนั้น เชื่อหนูเถอะ...เชื่อหนู!!..." เธอร้องเสียงหลง สะดุ้งจนใบหน้าหงายแหงน น้ำตายังคงรินไหล รู้สึกเจ็บหนึบตรงจุดพึงสงวน เมื่ออัศม์เดชกดนิ้วขยี้ปุ่มเนื้อส่วนกระตุ้นอารมณ์ ก่อนจะลากเลื่อนเรียวนิ้วสัมผัสกับร่องหลืบและกลีบสาวขึ้นลง ไม่บันยะบันยัง เพื่อให้สะดวกแก่ตัวเอง ชายหนุ่มจึงยกตัวเธอให้เข่าตั้งชันกับพื้น มือสองข้างช่วยรองรับน้ำหนักอีกที กางเกงและชั้นในตัวจิ๋วยังคงอยู่ แต่มันไม่ได้มีความหมาย อัญญดาเหม็นเอียนกลิ่นเบียร์ และกลิ่นจากกายของเขา ผนวกกับจิตใจอันบอบช้ำแปรปรวน ส่งผลให้รู้สึกวิงเวียน หวาดกลัวเป็นอย่างมาก เธอสำลักน้ำลายของตัวเองในบางครั้งที่ถูกรุกล้ำรุนแรง เพราะความใหม่ประสบการณ์และถูกกระทำทารุณจิตใจ ความโกรธเกลียดชิงชังในตัวผู้ชายผู้สร้างแต่ความเลวร้ายให้เธอจึงมีแต่เพิ่มมากขึ้นทุกที อัญญดาขยับสะโพกได้เพียงน้อยนิด เพียงเพื่อดิ้นรนหนีก้านนิ้วของเขา มือหนึ่งเคลื่อนไปบีบขย้ำเต้านมที่หย่อนถ่วงหน่วงอยู่ใต้ร่าง บีบเคล้นยอดเม็ดถัน ในขณะที่เรียวลิ้นเล็มเลียผิวเนื้อหอมหวนด้านหลังของเธอ ทิ้งรอยชื้นและบอบช้ำเป็นริ้วๆ ไว้ให้โดยทั่ว เพราะมีผิวขาวและบอบบาง แม้ถูกสัมผัสเพียงน้อยนิด ก็ฝากริ้วรอยไว้ให้เนื้อสาวอย่างง่ายดาย... "อ๊า!!! หมอ....หมอ!" เสียงหวานเรียกหาชายหนุ่มที่กำลังข่มเหงเธออย่างกระหาย เมื่อเขาแทงกระทุ้งเรียวนิ้วร้ายเข้าสู่เรือนร่างอันล้ำลึกอุ่นซ่าน ซึ่งไม่เคยพบพานสิ่งแปลกปลอมมาก่อน มันเจ็บ...แม้เพียงครึ่งหนึ่งที่จวบจ้วงเข้าหา เขาวนเวียนสอดเสียบและดึงเข้าออกอย่างรู้งาน มืออีกข้างก็ขยำเคล้นสองเต้าสลับกันเพื่อกระตุ้นอารมณ์หวามให้กับเธอ โพรงสาวโอบรัดตอดกระตุกและเกร็งเครียดเมื่อเขายิ่งจะดันเข้าหา หยาดน้ำอุ่นๆ ค่อยๆ กลั่นไหลเป็นการตอบสนอง... "เริ่มแฉะแล้ว...อา...." ชายหนุ่มครางหวิวเสียงพร่า พลางมโนถึงการสอดใส่ตัวตนที่พองผงาดของตัวเองแทนก้านนิ้วเรียวนั้น จะสุขสมเร้าระอุสักเพียงไหน เพียงแค่คิด...ความปวดร้าวก็เล่นงานจนย่อยยับ... "อื้อ!!" อัญญดาเม้มริมฝีปากไม่ยอมปล่อยน้ำเสียงหวานพร่าให้เล็ดลอดออกมา เธอกลั้นหายใจทุกครั้งที่การเสียดสีเท่าทวีคูณ ความรู้สึกแปลกใหม่ค่อยๆ แทรกอารมณ์โศกสลดก่อนหน้า ร่างกายโอนอ่อนไปโดยอัตโนมัติ ทั้งที่สะกดใจให้เกลียด...แต่ทำไม...กลับรู้สึกหวามไหวต่อสัมผัสน่าขยะแขยงนั้นเหลือเกิน อัศม์เดชขยับนิ้วเร็วถี่ขึ้นพลางส่งนิ้วร้ายอีกนิ้วตวัดเขี่ยเม็ดเนื้อกระสัน หูได้ยินเสียงก้านนิ้วของตัวเองทำปฏิกิริยากับของเหลวที่ร่างเล็กกลั่นกรองออกมา แล้วก็ต้องกดแท่งเนื้อบดบี้กับสะโพกผายได้รูป "พี่ไม่ไหวแล้วน้ำมนต์...อา ตอดดีเหลือเกิน น้ำก็เปียกชุ่มเต็มนิ้วพี่เลย อืม..." เสียงทุ้มพร่าครางครวญไม่เป็นศัพท์ ตัดสินใจดึงดัชนีร้ายออกจากร่างอันร้อนผ่าวของเธอ แล้วผละห่างให้คนตัวเล็กฟุบลงกับพื้นหันมาจัดการเสื้อผ้าส่วนที่เหลือของตัวเอง ซึ่งก็มีแค่ชั้นในกับกางเกงเนื้อดี เพียงไม่นาน มันก็อันตรธานหายไป เหลือเพียงร่างบุรุษเต็มวัยหนุ่มที่ยืนผงาดพร้อมพรั่งสำหรับการเสพรักเต็มอารมณ์ อัญญดาค่อยๆ พลิกตัวนอนหงาย เธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้ากำลังเหลือเกิน อาจเพราะทั้งดิ้นทั้งต่อสู้กับอัศม์เดชในตอนแรก  ผนวกกับถูกเขาบั่นทอนจิตใจและปลุกเร้าบางอย่างในตัวให้ฉีดพล่านอยู่ในตัว หญิงสาวจึงทำได้เพียงนอนหายใจรวยริน เสี้ยวใจหนึ่งอยากจะปลีกหนีแต่เรี่ยวแรงกลับทรยศต่อความต้องการนั้น อัศม์เดชครางซี๊ดสูดปากไม่ขาด เขากอบกำความเป็นชายแล้วรูดตามความใหญ่ยาวขึ้นลงอย่างไม่อาจทนต่อความเจ็บปวดได้ไหว ก้าวย่างแผ่วเบาเข้าหาร่างระหงที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นพรม เธอกลืนน้ำลายลงคอเมื่อมองเห็นร่างเปลือยสมบูรณ์แบบตรงหน้า...และเขาก็มองเธอราวเป็นของหวานอันโอชะ อัญญดาสำนึกรู้ถึงเป้าหมายที่สายตาคมกล้านั้นจดจ้อง เธอรีบใช้มือกอดปิดบังเต้าเปล่าเปลือยที่อวดช่อชูชันท้าทายสายตาของเขา แต่ก็ยังไม่อาจบดบังได้มิด ก่อนจะกระเถิบถอยเมื่อฝ่ายนั้นรุกคืบเข้ามาถึงตัว "คุณหมอ...อย่าทะ...อย่าทำหนูเลย..." "ทีคนอื่นยังทำได้...ทำไมพี่จะทำบ้างไม่ได้ พี่ควรทวงสิทธิ์ของตัวเองบ้าง" น้ำเสียงทุ้มพร่าอิดออดบอกให้รู้ว่าอัศม์เดชเมามายแค่ไหน หน้าตาเขาแดงก่ำ ผิวเนื้อหนุ่มแน่นร้อนผ่าวเมื่อแตะต้องสัมผัส กลิ่นอายที่สูดดมเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า เธอยังรู้สึกถึงมันได้อย่างสุดใจ... อัศม์เดชค่อยๆ ย่อตัวลงคร่อมร่างแบบบางของหญิงสาว เธอสั่นเทิ้มด้วยความกลัวและอายต่อสายตาคมกล้านั่น แล้วเขาก็โน้มตัวทาบทับ...ค่อยๆ เนิบช้า และ... "ว้าย! คุณ...อ๊ะ!!" ตะครุบร่างอรชรเอาไว้ในกรงแขน กดเธอให้นอนลงและซุกใบหน้านัวเนียไปตามผิวเนื้อนวล ส่งเสียงคำรามทุ้มกระหึ่มอยู่ในลำคอตลอดเวลา เหมือนราชสีห์ร้ายกำลังขย้ำเหยื่ออย่างสมใจ กางเกงตัวจิ๋ว พร้อมด้วยชั้นในถูกดึงร่นถอดทิ้งจนอัญญดาเหลือแต่กายทิพย์เปลือยเปล่า ผิวนวลเนียนบอบบางน่าทะนุถนอมกลับแดงจ้ำไปทั้งตัวด้วยถูกเขาลูบคลำดูดเม้มด้วยความตะกละตะกลาม สองมือยกแยกขาเรียวเล็กออกกว้างก่อนจะทอดทับร่างของตัวเองเข้าระหว่างกลาง... "อา...." ลำสวาทแข็งขึงสัมผัสกับความเป็นหญิงอย่างจงใจ อัญญดาพยายามหนีบขาแต่ไร้ผล ตัวของเขาทับอยู่บนเธอและอยู่ระหว่างใจกลางคั่นระหว่างของขาที่ถูกแยกถ่างเสียแล้ว ความอ่อนไหวถูกสัมผัสจากบางอย่างที่หยาบโลน แข้งกระด้างเป็นลำ... "อื้อ!" "อย่าทำเป็นไม่เคยหน่อยเลย หึ...หรือกลัวพี่จะทับรอยได้นนท์นั่น" เขายังเย้ยหยันไม่หยุดปาก พร้อมส่งเสียงครางเป็นระยะ ใบหน้ากร้านซุกลงกลางทรวงอกเต้าอวบอีกครั้ง ก่อนไล้เลียด้วยปลายลิ้นชื้น กระตุ้นกำหนัดให้พุ่งทะยานเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็จับลำเอ็นของตัวเองถูไปตามร่องสวาทที่หยาดเยิ้มพรั่งพรูไปด้วยน้ำหวาน ซึ่งเธอกลั่นออกมาตอบสนองตามสัญชาตญาณเมื่อถูกกระตุ้นเพศรส อัญญดาใช้สองมือดันศีรษะที่นัวเนียเน้นอยู่กับสองเต้าสล้าง แต่เรี่ยวแรงน้อยนิดของเธอดูจะอิดโรยลงไปทุกที ไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนเพียงไร ในที่สุดก็ยังไม่อาจหยุดความกักขฬะของคนเหนือร่างได้สักที น้ำตาแห่งความอ่อนไหวยังรินหลั่งเป็นทาง ภาวนาให้มีบางสิ่งดลใจอัศม์เดชได้คิดทบทวนถึงสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ แต่ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งลี้ลับใดฟังคำขอจากจิตใต้สำนึกนั้น... "อื้อ! คุณหมอเจ็บ!!" เธอดิ้นแอ่นหยัดและถอยหนีเท่าที่ตัวเองจะทำได้เมื่อท่อนเอ็นใหญ่สอดเสียบเข้าหาโพรงสวาทที่ยังไม่เคยถูกแตะต้อง "อา...รัดแน่นดีเหลือเกินน้ำมนต์ ทำยังไงถึงฟิตได้ขนาดนี้" สติของอัศม์เดชนั้นจดจ่ออยู่แต่กับการสอดประสานเป็นหนึ่งในยามนี้ ด้วยมีความคิดว่าหญิงสาวผ่านมือชายมาแล้วจึงไม่ได้มีใจพะวงเรื่องความเจ็บปวดมากมายของเธอ เขาล่วงล้ำตามแรงอารมณ์ที่ฉีดพล่านอยู่ในตัว "อา...น้ำมนต์..." ความเสียวซ่านสุดท้ายกำลังคืบคลานเคลือบลำเอ็นทีละน้อย โพรงสวาทสาวน้อยทั้งอุ่นชื้นและตอดขมิบจนเขาแทบจะเป็นบ้า แม้จะล่วงล้ำเข้าไปไม่ถึงครึ่งทางก็ตาม "น้ำเยิ้มขนาดนี้....ยังฟิตเหมือนจะรัดพี่ให้ตาย..." อัศม์เดชกระเด้าตัวเองส่งเข้าหาความสุขสม ในขณะที่คนใต้ร่างเริ่มเจ็บปวดกับถูกสิ่งแปลกปลอมแทรกเข้ามาในตัว เหมือนเธอกำลังถูกจับดึงแยกตัวให้แตกปริออกเป็นเสี่ยงๆ เต้าเปลือยสะเทิ้นสั่นไปตามแรงหายใจหอบถี่ น้ำตาไหลเป็นทางเมื่ออัศม์เดชเสียบสอดลึกเข้าไปเรื่อยๆ และดูเหมือนความยับยั้งชั่งใจของเขาจะอวสานลงแล้ว... "โอ๊ย!! ฮือๆๆ เจ็บ คุณหมอ...เจ็บ!!" หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลง เมื่อความสิ่งแปลกปลอมนั้นทิ่มแทงล้ำลึกในคราเดียว จนสุดลำรัก... เจ็บปวด แสบสัน...ทรมาน "น้ำมนต์..." และดูเหมือนอีกฝ่ายจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างแล้วเหมือนกัน เขาชะงักนิ่ง...หายใจกระเส่า ฟุบพักร่างลงบนตัวเธอที่ยังสะอื้นฮักไม่หาย "มิน่าถึงตอดรัดแน่นดีเหลือเกิน...อา..." อัศม์เดชครางในลำคอ เสียงรำพันได้ยินเพียงตัวเองเท่านั้น แม้จะรู้ถึงความจริงว่าตัวเองเข้าใจผิดแต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะหยุดมัน เขายังเดินหน้าเคลื่อนขยับตัวเมื่อรู้สึกว่าเธอคุ้นชินกับตัวตนของเขาบ้างแล้ว "อย่า..." ความเจ็บปวดเริ่มเคลื่อนตัวอยู่ในร่างเธออีกครั้ง อัญญดาร้องขออย่างน่าสงสารแต่มีหรือคนไร้สติสัมปชัญญะเช่นอัศม์เดชจะเข้าใจ  เขาเร่งลำรักเข้าออกอีกครั้ง แรงบีบตอดกระตุกรัดตัวตนของเขาเป็นระยะ ช่างซาบซ่านกระสันทรวงยิ่งนัก การเสียดสีระหว่างผิวเนื้อส่วนสวาทถูไถเข้าออกเป็นระยะ จนความเจ็บปวดเมื่อครู่เลือนรางเต็มที "หมอ... อืม..." อัญญดาเผลอสอดมือกำที่เต้าอวบข้างหนึ่งของตัวเอง เพื่อระบายความเสียวซ่านที่ก่อเกิด อัศม์เดชรับรู้อากัปกิริยานั้นและกระหยิ่มใจยิ่งนัก เขาผละออกจากอกอวบและผิวเนื้อนวลเนียนขึ้นมาในลักษณะตัวตรง ก่อนจะสอดมือเข้าใต้โคนขาและดันโยกสูงขึ้น สะโพกผายลอยเด่นอวดความขาวผ่อง กลีบสาวบอบช้ำผลิบานแยกปริรับลำลึงค์ที่สอดเสียบอยู่เกือบจมมิดความยาว หยาดน้ำหวานและโลหิตสีแดงเจือจางปะปนเปรอะอยู่ข้างต้นขาทั้งของเธอและเขา อัญญดายามนี้ได้แต่นอนครางหวิวไม่เป็นศัพท์ เธอกำทึ้งพรมและทุกอย่างใกล้มือแม้แต่ขวดเบียร์เพราะความรู้สึกหนักหน่วงบางอย่างจู่โจมรุนแรงเหลือเกิน จนต้องหาทางระบายความเปลี้ยเปล่าเพื่อบรรเทาความกระสันซ่านเหล่านั้น เธอบิดตัวร่อนร่ายทุกครั้งที่เขาขยับประหนึ่งโหยหากลัวจะถูกทิ้งขว้างจากไป มวลสารปริศนาแปลบปลาบบิดเกลียวอยู่ตรงหน้าท้องจนต้องหดเกร็งทุกครั้งที่ร่างใหญ่กระแทกกระทั้นเข้าหา อกอวบล้นทะลักกระเพื่อมสั่นไปทั้งพุ่มทรวง เมื่อความแรงและเร็วทวีคูณขึ้นทุกขณะ เหงื่อกาฬไหลท่วมตัวของทั้งคู่ ปอยผมที่ยาวเคลียไหล่ของอัศม์เดชชื้นไปด้วยหยาดเม็ดเหงื่อ เขาหอบ เขากระหน่ำตัวเองเข้าสู่โพรงสวาทอย่างไม่บันยะบันยัง เมื่อหญิงสาวใต้ร่างนั้นมีอารมณ์หวามไหวเช่นเดียวกันแล้ว "เสียวสุดๆ ไปเลยน้ำมนต์..." ความชื้นแฉะในตัวอัญญดารินไหลอาบลำเอ็นที่พวยพุ่งทะยานเข้าออกซอกสวาทของเธอ มือหญิงสาวควานคว้าจับท่อนแขนล่ำสันของเขาไว้กำจิกสุดแรง เมื่อความเสียวทั้งหมดหลอมรวมอยู่ที่การเสียดสีด้วยความหนักหน่วง จากนั้นเธอก็กรีดร้องส่งเสียงหวานๆ ออกมาราวกับถูกทารุณให้เจ็บระทมเอาหนักหนา ร่างเล็กเกร็งตอดรัดลำเอ็นที่ยังกะซวกสอดไม่ว่างเว้น ก่อนที่เธอจะผ่อนคลายสิ้นเรี่ยวแรงสมประดี มือตกลงข้างตัวและนอนแผ่หลาให้ชายหนุ่มกระหน่ำเสียบสอดหนักหน่วงกว่าเดิม อัศม์เดชก้มลงจูบซับแก้มขาวที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาและหยาดเหงื่อ แล้วกระซิบคำผรุสวาทข้างหูเบาๆ... "..." คนตัวเล็กได้แต่ฟังและนอนหายใจหอบถี่อย่างคนสิ้นแล้วทุกอย่าง ร่างของเธอยังสั่นคลอนจากแรงโยกของเขา สองมือใหญ่กดโคนขาให้ต่ำลงจนขนาบข้างลำตัว จ้วงกระโจนสุดกำลังหลายครั้งติดต่อกันจนอีกฝ่ายครางรับทั้งเสียวซ่านทั้งเจ็บ ก่อนจะปลดปล่อยธารฉีดพุ่งเข้าสู่ตัวเธอจนหมดสิ้น สายสวาทขาวขุ่นล้นทะลักออกมาด้านนอก อาบชโลมซอกหลืบและกลีบสาวจนโชกชุ่ม อัศม์เดชครางระงมครั้งสุดท้ายก่อนจะฟุบลงไม่ลืมใช้ปากงับยอดถันที่ชูช่ออีกครั้ง และค้างอุ้งปากไว้อย่างนั้นลงคาอกเธอ..หายใจหอบถี่จนลำคอแห้งผาด สิ้นสุด...ราคะที่ฟังจมอยู่ในตัว...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD