เซ็กส์โฟน..ชวนเสียว...

3395 Words
มาร์คัสหายไปทั้งวัน วัสยาก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เธอจะได้พักร่างกายบ้าง เธอนอนเต็มอิ่มแล้วก็เดินสำรวจเพนท์เฮ้าส์หรูซึ่งมีสองชั้น กว้างกว่าบ้านของเธอหลายเท่า “ราคาจะแพงขนาดไหนเนี่ย..” วัสยามองความหรูหราโดยรอบแล้วถอนหายใจ เธอไม่เหมาะกับสถานที่แบบนี้ ทำไมเธอจะต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่! ฝั่งมาร์คัสเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยอย่างที่ตั้งใจเขาก็ขอตัวกลับ “ผมต้องกลับก่อนนะครับยาย..” “แวะมาคุยกับยายอีกนะพ่อหมาก” “ครับยาย..ผมจะแวะมาคุยกับยายบ่อยๆ” มาร์คัสเดินออกมาหน้าบ้านโดยมีตรีกมลเดินตามมาส่ง “พี่อยากจ้างน้องให้อยู่ดูแลยายเฉพาะแค่ช่วงกลางคืน จะจ่ายเงินให้เป็นรายเดือน น้องจะทำมั้ย” “ทำค่ะพี่..” “ถ้าหวายถามก็ไม่ต้องตอบไม่ต้องบอกว่าพี่จ้างเข้าใจมั้ย..” “ค่ะ” ออกจากบ้านยายปลาย มาร์คัสติดต่อศูนย์ดูแลรักษาโรคไตหาพยาบาลพิเศษสำหรับดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เพื่อจ้างพยาบาลให้ดูแลยายในช่วงกลางวัน เขาบอกรายละเอียดข้อตกลงการดูแลยายปลายกับนลินชยาหรือพี่นลิน พยาบาลวิชาชีพที่ทางศูนย์แนะนำเขามา จัดการธุระทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยมาร์คัสก็รีบขับรถกลับคอนโด กลับมาถึงคอนโดเขาก็ตรงดิ่งเปิดประตูเข้าไปในห้อง วัสยากำลังนอนหลับ มาร์คัสนั่งลงบนเตียงใกล้ร่างบาง เลิกปลายเสื้อเชิ้ตที่เธอสวมเปิดขึ้นจนถึงเอว วัสยารู้สึกเย็นวูบบริเวณหน้าท้อง เธอลืมตาเอามือดึงเสื้อปิดเหมือนเดิมทันทีโดยสัญชาตญาณ “คุณ!” “ยังเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า” (ถ้าเธอบอกว่าเจ็บเขาก็จะฉวยโอกาสรักษาให้อีกใช่มั้ย) “ไม่! ไม่เจ็บแล้ว..” วัสยาคิดแล้วก็ตอบออกมา “ไม่เจ็บก็ดี..จะได้ลองทำท่าต่อไปกัน” “อะไรของคุณเนี่ย! ไม่ ไม่เอาแล้ว..” ไม่ว่าเธอจะตอบยังไงก็เข้าทางเขาหมดเลยสินะ บอกว่าเจ็บก็โดนรักษา ไม่เจ็บก็ยังจะโดนอีก เธอลุกขึ้นจะถดตัวหนีอีกฝ่ายก็ถูกเขาโอบรัดไว้ทางด้านหลัง มาร์คัสเก็บข้อมูลส่วนตัวของวัสยาจากยายปลาย รู้จุดอ่อนจุดแข็งของเธอมาพอสมควร ลวงข้อมูลส่วนตัวเธอมาแล้วเขาก็อยากจะล้วงข้อมูลจากร่างเธอโดยตรง..มือหนาก็เริ่มทำหน้าที่ล้วงเข้าไปในกางเกงบ็อกเซอร์ลูบไล้เนินเนื้อนุ่มอย่างเร้าอารมณ์ให้เจ้าของรู้สึกปั่นป่วน “ฮื้อออ..” มือหนาใช้นิ้วโป้งบดคลึงจุดเสียวเบาๆก่อนจะขยี้ขึ้นลงช้าๆจนใบหน้าหวานหลับตาพริ้มเอนหลังพิงอกแกร่งแหงนหน้าขึ้นเอาหัวเกยบ่าของเขาไว้ “อ๊าา..” เสียงหวานแหบพร่า เคลิ้มไปตามแรงกระตุ้นจากการสัมผัสของเขา ยิ่งนิ้วยาวสอดใส่เข้าไปในร่องคับแน่น ร่างบางก็บิดกายตาม “อา..ขมิบดูดนิ้วฉันทันทีเลยนะ” มาร์คัสหงายมือขึ้นสอดใส่นิ้วกลางเข้าร่องสวาทที่เริ่มไหลลื่นไปด้วยน้ำหวาน เขาเร่งนิ้วชักเข้าออกเร็วขึ้น.. “อ๊ะ อ๊ะ พ่ะ..พอก่อน..” วัสยาหายใจหอบถี่ตามจังหวะนิ้วของมาร์คัสจนหายใจแทบไม่ทันจนต้องห้ามปรามเขาออกไป “ดูดนิ้วฉันแน่นถี่รัวซะขนาดนี้อยากได้อะไรที่ใหญ่กว่านิ้วใช่มั้ย..” ยิ่งได้ยินเสียงหวานห้าม มาร์คัสก็ยิ่งเร่งจังหวะความเร็วซอยนิ้วเข้าออกร่องนุ่มคับแน่นถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ “ฮ๊า..คุณมาร์ค..อ๊ะ อ๊า อ๊ายยย!” วัสยาครางด้วยความซ่านเสียวจนตัวสั่นกระตุกเกร็งเสร็จคานิ้วของเขาจนร่องสวาทปล่อยน้ำหวานออกมาชุ่มมือหนา มาร์คัสกระตุกยิ้มร้ายกาจอย่างพอใจที่ทำให้เธอสยบคานิ้วของเขาได้ วัสยาจะหลบหลีกเขาไปไหนก็ไม่ได้ ถุงยางเขาก็ไม่ยอมใส่ ยาคงยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ได้กิน โทรศัพท์ก็ไม่มี จะโทรสั่งไลน์แมน สั่งเคอรี่ก็ไม่ได้ เอะอะเขาก็จะกระแทกกระทั้นเธอเพลียจนแทบสลบ.. มาร์คัสกังวลว่าวัสยาจะไม่สบายเพราะเธอถูกเขาจัดหนักจัดเต็มอย่างต่อเนื่องติดต่อกันทุกวัน แต่เธอกลับแข็งแรงและอึดมากกว่าที่เขาคิด นอกจากจะเก่งต่อปากต่อคำกับเขาแล้วน้องสาวของเธอยังสู้เขาเก่งเหมือนกับเจ้าของอีกต่างหาก สู้ของเขาดีแบบนี้จะได้กินกันยาวๆ... ในที่สุดช่างภาพสาวก็เป็นอิสระได้รับอิสรภาพจากนายแบบหนุ่มหื่นกาม ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ตั้งแต่วันแรกที่เธอพลาดหลงเข้าไปติดกับในเพนท์เฮ้าส์ของเขาจนถึงวันที่เขาปล่อยตัวเธอกลับบ้าน เขาจับเธอกดจับเธอกินเป็นว่าเล่นทั้ง7วันเต็มๆ แทบจะไม่ได้ทำอย่างอื่นกันเลย เขาขยันหาท่าใหม่ๆมาสอนเธอไม่ซ้ำ กินกันแล้วนอนแล้วตื่นมากิน กินกันต่อแล้วนอน วนเวียนอยู่อย่างนั้นไม่หยุด ชุดชั้นในเธอไม่ได้ใส่มันเลย เสื้อเชิ้ตของเขาใส่แค่แป๊บเดียวก็ต้องถูกเขาถอดออก ในคอนโดเพนท์เฮ้าส์ของเขามีครบทุกอย่าง แต่เอ๊ะ! เธอก็สงสัยว่าใครเตรียมของไว้ในครัวเยอะแยะไปหมด 7วัน..ที่วัสยาไม่ได้เห็น ไม่ได้แตะโทรศัพท์มือถือของเธอเลย ถูกมาร์คัสยึดไปเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ และทั้ง7วันนั้น..เขาก็ไม่ได้ป้องกันเลยสักครั้ง ยาคุมเธอก็ไม่ได้กิน แม้ว่ากินตอนนี้ก็คงจะไม่ทันและไม่มีผลดีต่อร่างกายของเธอแล้ว วัสยาถอนหายใจ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าเกิดเด็กจะมา..เธอก็จะรับผิดชอบเลี้ยงดูด้วยตัวของเธอเอง! ครบหนึ่งสัปดาห์ตามที่มาร์คัสบอกว่าจะปล่อยเธอกลับ เขาขับรถพาเธอมาส่งที่หน้าปากซอย ไม่รู้ว่าเขารู้มาจากไหนว่าบ้านเธออยู่ที่นี่ เขาคงจะไม่ตามมาฆ่าปิดปากเธอหรอกนะ วัสยาคิดว่าเธอไม่น่ามาเจอคนอย่างเขาเลย เขาส่งเธอแล้วก็ขับรถกลับไป วัสยาเดินเข้าซอยมาถึงหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจกับสภาพบ้านที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ดูใหม่แข็งแรงขึ้นและดูกว้างขึ้นมากกว่าเดิม เธอเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อนเพลียเหมือนไปกรำศึกหนักมา “ยายขา..” “กลับมาแล้วเหรอลูก..” “ค่ะยาย..ทำไมบ้านของเราถึงดูเปลี่ยนไปเยอะเลยล่ะคะยาย” “เป็นโครงการพิเศษอะไรก็ไม่รู้น่ะลูก ยายจำไม่ได้ เขาบอกว่ามาปรับปรับให้ผู้ป่วยเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” “เหรอคะยาย” แม้วัสยาฟังแล้วแปลกๆ แต่ก็เป็นผลดีสำหรับยาย เธอจึงไม่ติดใจสงสัยจะซักถามยายต่อ “หวายไปทำงานที่ไหนมาลูก ตั้งสัปดาห์ เขาไม่ให้พักไม่ให้ผ่อนเลยเหรอลูก กลับมาถึงกับเพลียแบบนี้..” สภาพของวัสยาที่ยายปลายเห็นก็คือหลานสาวมีท่าทางอิดโรยอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด อย่างกับคนอดหลับอดนอนถึงขนาดทิ้งตัวนอนลงบนพื้นใกล้ๆเตียงของเธอ “เอ่อ..ค่ะยาย” “ทำอะไรกันล่ะลูก ถ่ายอะไรกันทั้งวันทั้งคืนไม่ได้นอน” “ทำ..โดนทำทั้งวันทั้งคืน เขาคงจะถ่ายภาพทุกซอกทุกมุมจนหวายไม่ได้นอนเลยค่ะ” วัสยาพึมพำออกมาเบาๆ “หวายว่าอะไรนะลูก” “เอ่อ..เปล่าค่ะยาย” “แล้วพรุ่งนี้กะจะไปทำงานต่ออีกเหรอลูก” “หวายคงไปไม่ไหวค่ะยาย กะว่าจะหยุดพักสักหน่อย” “หวายจะหยุดพักกี่วันล่ะลูก ยายไม่เคยเห็นหวายได้หยุดพักเลย หยุดเสียบ้างก็ดี” “ค่ะยาย” เธอไม่อยากจะบอกยายว่าเธอเพลียมากจนเดินแทบไม่ไหว เป็นเจ็ดวันที่เธอโดนเขาเอาคืนจนไม่มีทางจะลบเลือนออกไปจากกายและใจของเธอได้เลย วัสยาเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง เก็บอุปกรณ์กล้องถ่ายรูปเครื่องมือทำมาหากินของเธอเรียบร้อยก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาหายายก็เจอกับตรีกมล “ต่าย..อาการของยายเป็นยังไงบ้าง..” “ก็ปกติดีค่ะพี่หวาย พี่กลับมาแล้ว คืนนี้ต่ายกลับไปนอนที่บ้านนะคะ” “จ้ะ..เดี๋ยวคืนนี้พี่จะดูแลยายเอง พี่ขอบใจต่ายมากนะที่ช่วยดูแลยายให้พี่ในช่วงที่พี่ไปทำงาน” “ไม่เป็นไรค่ะ พี่ก็ช่วยเหลือเรื่องเงินกับครอบครัวต่ายมาตลอด” ตรีกมลกลับบ้านไปแล้ววัสยาก็เตรียมอาหารเย็นให้ยาย เธอตั้งใจปรุงอาหารให้ยายด้วยตัวเองเพราะผู้ป่วยโรคไตต้องควบคุมเรื่องอาหารการกินพอสมควร จำเป็นต้องลดอาหารประเภทโปรตีน กินเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายและมีคุณค่าทางอาหารสูง อย่างเนื้อปลา กินเนื้อไก่และเนื้อหมูได้แต่น้อยลง ต้องหลีกเลี่ยงอาหารเค็มทุกชนิด รวมถึงซอสปรุงรสต่างๆ อาหารไขมันก็ต้องหลีกเลี่ยงทั้งกะทิ เนื้อติดมัน ของทอด ไข่แดง ปลาหมึกและอาหารทะเล เมื่อทำอาหารให้ยายทานเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ยายนั่งพักก่อนที่เธอจะไปเตรียมอุปกรณ์ล้างไตให้ยาย ซึ่งการล้างไตทางช่องท้องสามารถทำด้วยตัวเองที่บ้านได้ ต้องล้างอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยเปลี่ยนน้ำยาล้างไตในช่องท้องครั้งละ 1,500-2,000 มิลลิลิตร วันละ 4-6 ครั้ง แต่ละครั้งแช่น้ำยา ค้างไว้ในช่องท้อง 4-6 ชั่วโมง ยกเว้นครั้งสุดท้ายของวันที่น้ำยาจะถูกแช่ไว้ในช่องท้องนานกว่าปกติ เพราะต้องแช่ไว้ตลอดทั้งคืน ล้างไตให้ยายเสร็จเรียบร้อยวัสยาให้ยายนอนพัก ส่วนเธอก็นำเบาะปิคนิคมาปูนอนเฝ้ายายข้างๆเตียง รุ่งเช้าขณะที่วัสยากำลังเตรียมอาหารเช้าให้ยาย นลินชยาพยาบาลสาวก็เปิดประตูเข้ามาในบ้านและจัดการล้างไตให้ยายปลายตามปกติอย่างที่ทำมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา วัสยาเตรียมอาหารเสร็จออกจากครัวมาเห็นพยาบาลสาวยืนอยู่กับยายก็แปลกใจ “คุณ..” “พี่ชื่อนลินค่ะ” “เอ่อ..พี่นลิน..” “พี่เป็นพยาบาลที่ทางศูนย์ส่งมาติดตามดูแลอาการของยายปลายค่ะ” “อ๋อ..ค่ะ” วัสยารู้สึกแปลกๆ เธอไม่อยู่บ้านแค่ไม่กี่วันแต่รู้สึกว่าความเป็นอยู่ของยายเปลี่ยนแปลงไป ได้รับการดูแลรักษาที่ดีขึ้น เธอก็พลอยสบายใจไปด้วย ยิ่งทางศูนย์มาดูแลให้ฟรีเธอก็ไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น วัสยานึกแปลกใจว่างานของเธอที่รับงานไว้ช่วงที่เธอถูกนายแบบหนุ่มหื่นกามรายนั้นกักตัวไว้ ผู้ว่าจ้างงานไม่ติดต่อมาต่อว่าหรือขอเงินค่าจ้างคืนเลยแม้แต่รายเดียว เธอติดต่อไปก็ได้ความว่างานเรียบร้อยดี แต่เธอไม่รู้รายละเอียดเลยว่าใครที่ทำงานแทนเธอ วัสยาหยุดพักผ่อนไม่ได้ไปทำงานเกือบสัปดาห์ เธออยู่ดูแลยายและนอนพักร่างกายทั้งวันทั้งคืนไม่ได้ออกไปไหน เธอไม่อยากก้าวขาไปไหนก็เพราะจระเข้ตัวดีนั่น! “แฟนของหวายไม่มาหาหวายบ้างเหรอลูก” ยายปลายเอ่ยถามหลานสาวเมื่อเห็นหลานนั่งอ่านนิตยสารอยู่ไม่ห่างจากเตียงมากนัก “แฟนที่ไหนคะยาย..หนูไม่เคยมีแฟน” สงสัยยายจะเริ่มเลอะเลือน แต่ไม่รู้ทำไมภาพเขาก็แว๊บเข้ามา..เอ่อ..เธอไม่เคยมีแฟนแต่ข้ามขั้นมี..หลัวไปแล้ว เธอไม่รู้จะบอกยายยังไง กลัวยายจะตกใจแล้วช็อกจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ “ก็พ่อหมากไงล่ะลูก..” (พ่อหมากอะไรของยายอีกแล้ว..) วัสยากำลังคิดเพลินๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้น.. “ตื๊ด..ตื๊ดดด...” เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายทันทีเพราะคิดว่าเป็นลูกค้าจ้างถ่ายภาพ “ฮัลโหล..” (“เสียงใคร?..คุ้นๆ”) “เธออยู่ไหน!” “จิ้งจก!” เธอกำลังคิดถึง เอ๊ย! นึกถึงเขาอยู่พอดี เขาก็โทรเข้ามา.. “อะไรนะ!?อย่าให้ฉันได้ยินอีกนะ ไม่งั้นฉันจะเอาเธอตายคาเตียงแน่!” “เอ่อ..คือจิ้งจกมันตกลงมาน่ะ ฉันตกใจ!” โอ๊ย! แล้วทำไมเธอจะต้องกลัวเขาด้วยล่ะ ก็แค่..ฮื้ออ..นั่นล่ะ เขาทำให้เธอไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาหลายคืนติดต่อกัน ไม่ได้ไปทำงานหลายวัน? “ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป..อย่าเรียกของฉันว่าจิ้งจกให้ฉันได้ยินอีกละกัน” “คุณเอาไลน์ฉันมาจากไหน” “ก็จากเธอนั่นแหล่ะ” วัสยาผละหน้าออกจากโทรศัพท์ดูบนหน้าจอก็เห็นคำว่า...ผัว! (“โอ๊ยยย! อิตาบ้า! เม็มชื่อเฉยๆไม่ได้หรือไง”) วัสยาด่าเขาในใจอย่างเคืองๆ “โทรมามีอะไร!” เธอถามเสียงขุ่น “คิดถึง..อยาก..” “อยากก็ไปเรียกใช้บริการสาวๆไซด์ไลน์ของคุณสิ โทรมาหาฉันทำไม” “โทรมาฟังเสียงเธอไง คิดถึงเสียง..อื้ออ..อ๊ะะ..อ๊าา..” เขาล้อเลียนเสียงครางของเธอ “คนบ้า! ลามก!” “ฉันจำเสียงเธอได้ขึ้นใจ..อยากได้ยิน..ฮื้ออ..อ๊ะ..อ๊า..อ๊ายยย..เสียงหวานๆของเธออีก” “คนบ้า!” โอ๊ยยย! แล้วทำไมเธอต้องหายใจหอบถี่ๆแรงๆแบบนี้ตามเสียงของเขาด้วยล่ะ “อึ๋ย!” วัสยาพยายามสลัดความคิดที่นึกถึงเหตุการณ์ที่เขาทำให้เธอเปล่งเสียงแบบนั้นออกมา จนเธอขนลุก เหงื่อซึมขึ้นมาเลยทีเดียว เธอนั่งหนีบขาบิดกายไปมาโดยไม่รู้ตัวจนยายทักขึ้นเสียงดัง.. “หวาย..ปวดฉี่ทำไมไม่ไปฉี่ซะล่ะลูก..นั่งบิดอยู่แบบนั้นกลั้นไว้นานๆไม่ดีนะลูก เดี๋ยวจะเป็นนิ่ว! “ยาย!” วัสยาจะห้ามยายจะปิดโทรศัพท์ก็ไม่ทันเสียแล้ว.. “หึ ๆ ปวดฉี่..หรือว่ากำลังคิดถึงตอนที่ของฉันอยู่ในตัวเธอจนทำให้เธอเสียวอยู่ล่ะยัยช่างภาพ” เขากรอกเสียงกลับมาทันที “คุณ!” “ครับ..ว่าไงครับ กำลังทำอะไรอยู่? หรือว่าช่วยตัวเอง..” “บ้า! จะให้ทำอะไร? ฉันก็กำลังคุยกับคนลามกบ้ากามอยู่น่ะสิ” วัสยากัดฟันตอบออกไปเบาๆ ไม่อยากให้ยายได้ยิน “อย่าไปแอบดูจิ้งจกใครเขาอีกล่ะ! ถ้าเธออยากจะปลดปล่อย..ก็โทรมาหาฉันละกัน ฉันยินดีทำให้ฟิน..อ๊าา..อ๊ะ..อ๊ะ..อั๊ยย..สะ..เสียววว..” พูดจบเขาก็ตัดสายไปทันที “ไอ้คนบ้า! โรคจิตลามก!” วัสยาเผลอด่าเขาออกมาเสียงดัง “ใครบ้า ใครลามกกันลูก..” “เอ่อ..เปล่าค่ะยาย..ยายนอนพักนะคะ หวายขอโทษค่ะที่เสียงดัง” วัสยาหยิบนิตยสารเดินเข้าไปในห้อง คนร้ายกาจทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแปลกๆ “ฉันไม่ได้แอบดูของใครสักหน่อย คุณนั่นแหละเปิดให้ฉันดูจนเป็นเรื่อง! แล้วทำไมมันต้องติดตาติดใจเธอขนาดนี้ อื๊ย..ติดตาอย่างเดียวสิ! ติดใจอะไร? ฉันจะบ้า! เลิกคิดถึงมัน!” วัสยานั่งบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่บนเตียง เธอพยายามสะบัดหัวไล่ความคิดถึงเจ้าจระเข้ยักษ์นั่นออกไป ยิ่งตอนที่มันอยู่ในตัวเธอทำให้เธอรู้สึกวูบวาบในช่องท้องจนไปถึงมดลูก มาร์คัสทำให้วัสยาหงุดหงิด แม้จะทำให้ตัวเขารู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาด้วยก็ตาม แต่นายแบบหนุ่มกลับยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่ได้โทรไปปั่นป่วนช่างภาพสาว เช้านี้วัสยาเตรียมตัวจะออกไปทำงานถ่ายภาพนอกสถานที่ ส่วนยายปลายมีพี่นลินมาดูแลในช่วงกลางวัน เธอออกจากบ้านตั้งแต่เช้าประการแรกก็เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรของสังคมเมืองที่แออัดและเธอไม่อยากผิดเวลานัด เธอค่อนข้างจะเคร่งครัดเรื่องการตรงต่อเวลาซึ่งเป็นวินัยที่ดีในการทำงาน ไม่ทำให้ผู้ร่วมงานต้องเสียเวลาหรือว่าเสียความรู้สึกอีกด้วย ที่สำคัญคือเธอไม่อยากเสียลูกค้าที่ไว้วางใจจ้างให้เธอถ่ายงาน วัสยาก้าวขึ้นรถโดยสารประจำทางด้วยความเคยชินอย่างคล่องแคล่วว่องไวปะปนไปในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาบ้างคนทำงานออฟฟิศบ้างคนทำงานรายวันหาเช้ากินค่ำแบบเธอบ้าง ต่างคนก็ต่างหาที่นั่งที่ยืนโดยไม่สนใจกันและกัน ต่างกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ขึ้นทางด้านประตูหลังของรถแบบเก้ๆกังๆ เขาสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ใส่หมวกแก๊บใส่แว่นเพื่อช่วยปิดบังใบหน้าอันโดดเด่นไม่ให้เป็นที่จับตามองของผู้คนรอบข้างมากเกินไป เขาจับราวหาที่ยืนที่สามารถมองเห็นหญิงสาวที่เขาตามเธอมาได้อย่างชัดเจนว่าเธอจะลงตอนไหน เขาสังเกตเธอมองไปข้างหน้าโดยไม่สนใจจะหันมองผู้ร่วมเดินทางเลยว่าเป็นใครบ้าง ใครจะขึ้นจะลงเธอก็ไม่หันมองไม่สนใจ เขาก็โชคดีไปที่เธอไม่หันมามองทางด้านหลัง ด้วยความสูงของเขาก็แปลกจากคนอื่นๆมากอยู่แล้ว อาศัยผู้โดยสารที่มีจำนวนมากช่วยอำพรางไปได้ ชายหนุ่มยืนอยู่บนรถโดยสารนานเกือบชั่วโมงจนเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยขา ด้วยระยะทางกับการจราจรที่ติดขัด จนกระทั่งเห็นหญิงสาวขยับตัวแทรกผู้โดยสารคนอื่นๆไปยืนรอหน้าประตู เขาก็รีบขยับไปยืนที่หน้าประตูหลังเช่นกัน รถค่อยๆชะลอความเร็วเข้าจอดหน้าป้ายประจำทาง รถจอดแทบจะไม่สนิท รถก็เคลื่อนออกจากป้าย เขาก้าวลงแทบไม่ทัน “จะรีบไปไหนหนักหนาวะ!” มาร์คัสบ่นตามหลังรถโดยสารคันนั้น ก่อนจะรีบมองหาหญิงสาวที่เขาตามเธอมา.. วัสยาก้าวลงจากรถก็รีบเดินไปยังจุดนัดหมายในการถ่ายภาพวันนี้ เธอเดินเข้าไปในสวนสาธารณะมองหาบัณฑิตที่ติดต่อให้เธอมาถ่ายภาพชุดปริญญาโดยไม่รู้เลยว่ามีใครแอบตามแอบมองเธออยู่ตลอดเวลามาตลอดทาง มาร์คัสเดินตามเธอไปห่างๆ หญิงสาวก็เปลี่ยนมุมโลเคชั่นในสวนสาธารณะเพื่อถ่ายภาพไปเรื่อยๆทั้งทางเดิน ใต้ต้นไม้ ริมสระน้ำ แปลงดอกไม้หรือปฏิมากรรมต่างๆภายในสวน มาร์คัสไม่ได้สนใจผู้คนหรือบรรยากาศรอบข้างแม้แต่น้อย เขาจ้องมองเธอเพียงแค่คนเดียว เห็นเธอเดินไปแบกกล้องไปก็ปาดเหงื่อไปด้วย แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือวัสยาไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยหรือเบื่อหน่าย ดูใบหน้าเธอกลับมีความสุขมีแต่รอยยิ้มที่ออกมาจากใจไม่ใช่การเสแสร้ง มาร์คัสมองช่างภาพสาวแล้วรู้สึกหัวใจพองโตไปกับรอยยิ้มของเธอ แม้ว่าเธอไม่ได้ยิ้มให้เขาก็ตาม “ฉันไม่ใช่โรคจิตนะยัยช่างภาพ” มาร์คัสเฝ้ามองวัสยาอย่างไม่กะพริบตา “ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าผู้หญิงของฉันไปทำอะไรกับใครบ้างในแต่ละวัน” เขายังคงสะกดรอยตามเธอต่อไปเรื่อยๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัว เขาอยากรู้ว่าแต่ละวันเธอไปไหนทำอะไรบ้าง จากงานแรกไปงานที่สองของวัน เธอทั้งขึ้นรถลงเรือ เดินทางทุกรูปแบบจนงานที่สามของวัน แต่เธอไม่เหน็ดเหนื่อยเลย ดูมุ่งมั่นทะมัดทะแมงแข็งขัน ทำงานอย่างมีความสุข (“อึดจริงๆแม่คุณ! ถึงว่าเรื่องเซ็กส์ก็อึดก็ทนฉันได้นาน สู้ฉันได้ทุกท่วงท่า”) คิดแล้วเขาก็อยากจะซ้ำรอย...เขาไม่ได้ปลดปล่อยมาเป็นเวลาสัปดาห์กว่าแล้วก็เพราะเธอ ซึ่งก็นับว่านานและต้องใช้ความอดทนมากสำหรับคนร้อนแรงเซ็กส์จัดอย่างเขา เขาคงจะต้องลงมือทำอะไรจริงๆจังๆสักอย่างเสียแล้ว!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD