“ผมขอโทษ…”
คำขอโทษหลุดจากปากของวิญญาณตนแรกที่ทำให้ก้านแก้วรู้สึกหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติ ภาพความน่าสยดสยองยังคงติดตา ตรึงใจจนเธอไม่อยากจะเปิดบทสนทนาใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเป็นไปได้ เธออยากหนีไปเดี๋ยวนี้เลย
“อย่าหนีไปไหนเลยนะ ไม่มีใครมองเห็นผมมานานแล้ว การที่คุณมองเห็นผม สัมผัสผม มันทำให้ผมรู้สึกดี...”
ระ รู้สึกดีกับผีหน่ะสิ!
เธออยากจะตอกกลับไปแบบนี้ แต่ความใจกล้าไม่ได้มีไปมากกว่าความกลัว จึงทำได้เพิ่งหลับตาปี๋อยู่ในอ้อมกอดของวิญญาณตัวเย็นเฉียบ จะหนีก็ทำไม่ได้ แต่จะให้ทนต่อไปก็เกรงว่าเธอนั้น จะประสาทหลอนในอีกไม่ช้า
“ผมจะไม่ทำให้คุณกลัว ขอแค่คุณอย่าไปจากผม”
คำขอที่ฟังดูน่าขนลุก มาพร้อมกับสัมผัสที่ทำให้คนในอ้อมแขนรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา เขาบอกว่าจะไม่ทำให้เธอกลัว แต่สิ่งที่เขาทำอยู่ ไม่ต่างอะไรจากครอบงำ โดยใช้ความเป็นวิญญาณ ในการกักขังเธอเอาไว้
พรึบ…
ทันทีที่ร่างบอบบางถูกวางลงบนเตียง
ภาพในหัวของก้านแก้วก็คิดไปไกลว่าจะต้องได้สมสู่กับผีตนนี้อย่างแน่นอน กลางดึกฟ้ามืด ไร้ผู้คนข้างห้อง ข้างนอกมีผีที่เตรียมจะวิ่งเข้าใส่ คงไม่ต้องถามว่าเธอจะเลือกหนีทางไหน เพราะมันไม่มีทางหนีให้เธอได้เลือกเลย
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก!
เสียงหัวใจที่เต้นถี่รัวยิ่งกว่าเสียงกลองกัมปนาท ทำให้บรรยากาศรอบข้างตกอยู่ในภวังค์อันน่าขนลุก ครั้นจะขยับตัวก็แข็งทื่อไปเสียทุกส่วน ครั้นจะปริปากห้ามปราม ก็ไม่กล้าพอที่จะต่อรองกับสิ่งที่เรียกว่า ‘วิญญาณ’
จึงทำให้ก้านแก้วได้แต่นอนนิ่ง แล้วตกเป็นเหยื่อกามอารมณ์ของผีหื่นตนนี้ ถึงจะเป็นเพียงการอำ แต่การแก้ผ้าให้เธอนอนเปลือยกายอยู่ข้างๆ ก็ไม่ต่างอะไรจากการเป็นเมียผี เพราะเขามีสิทธิ์กอด จูบ ลูบคลำ ทุกสัดส่วน
เวลาผ่านไปจนท้องฟ้าเริ่มกลับมาสว่างไสวอีกครั้งหนึ่ง สิ่งแรกที่ก้านแก้วคิดจะทำ คือแต่งตัวออกไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด แต่คำถามที่แทรกเข้ามาระหว่างนั้น คือเธอจะไปอยู่ที่ไหน ในเมื่อเธอจ่ายค่าที่พักล่วงหน้าของที่นี่ไปแล้ว
ไหนจะต้องหาเงินสามหมื่นไปให้ไอ้เศษสวะนั่นอีก
ถ้าภายในอาทิตย์นี้เธอยังหาเงินไม่ได้ ชีวิตที่เหลือก็คงไม่ต่างจากวิญญาณเพราะเธอต้องถูกมันฆ่าแน่ๆ เลย
“ผมพอที่จะช่วยคุณได้นะ”
จู่ๆ วิญญาณตนนั้นก็เอ่ยปากเสนอตัว
“แต่ติดตรงที่ว่า…ผมไม่รู้ว่าศพถูกฝังเอาไว้ที่ไหน”
ประโยคต่อมาทำเอาหญิงสาวถึงกับขนหัวลุก ถ้าต้องให้ไปหาศพ เธอบอกเลยว่าไม่เอา เธอไม่ไหวกับเรื่องนี้
“ในศพมีของมีค่า ผมยกให้คุณทั้งหมดเลย”
ก้านแก้วได้นอนแต่สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อช่วยประคับประคองสติตัวเองไม่ให้เป็นบ้าไปเสียก่อน ขืนให้เธอไปหาของมีค่าจากซากศพ พอได้เงินมาแล้วก็ตรงเข้าศรีธัญญาได้เลย ไม่บ้า ก็ประสาทหลอนมีอยู่สองอย่าง
“ผมอยากช่วยคุณนะ”
อ้อมแขนแกร่งกร้านกระชับอ้อมกอด เสมือนว่าเธอเป็นคนรักที่พลัดพรากกันมานานนม เธอไม่รู้ว่าจะต้องโฟกัสที่เรื่องไหนก่อนดี ระหว่างเอาชีวิตให้รอดพ้นจากภูตผี วิญญาณ หรือจะทนอยู่ที่นี่ต่อไป ไม่ให้ตัวเองต้องกลายเป็นวิญญาณในภายภาคหน้า [หมายถึงภายในอาทิตย์นี้เนี่ยแหละ เธอมีเวลาให้คิด เพียงน้อยนิดเท่านั้น]
“ถ้าอยากจะช่วยจริงๆ ช่วยคลายอ้อมกอดก่อนได้ไหมล่ะ ฉันอึดอัดจะตายแล้วเนี่ย” คำพูดผสมอารมณ์หงุดหงิด เป็นเพียงการกลบเกลื่อนความรู้สึกหวาดกลัว
ซึ่งวิญญาณหนุ่มก็ยอมทำตามที่หญิงสาวต้องการอย่างง่ายดาย พอหลุดพ้นจากอ้อมกอด ร่างเล็กก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนคิงไซซ์ คว้าเสื้อผ้าน้อยชิ้นขึ้นมาสวมใส่ด้วยความเร็วแสง ไม่ให้ยืนโป๊เปลือยต่อหน้าผีหื่นตนนั้น
“ผมขอโทษอีกครั้งนะ เรื่องเมื่อคืนนี้”
ไร้การตอบกลับจากคนตัวเล็ก สองขาเรียวยาวรีบเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ พร้อมกับแหงนคอระหงมองแสงอาทิตย์ที่กำลังสาดส่องในยามเช้า ภาวนาให้วิญญาณทุกตนในที่นี้ จางหายไปพร้อมกับแสงอัสดงวันใหม่ แต่พอมือสีแทนสอดเข้ามาโอบกอดเอวเธอเท่านั้นแหละ ความคิดที่ว่าผีกลัวแสง ได้หายวับไปในทันที ทันใด
“คะ คุณไม่กลัวแสงงั้นเหรอ?”
โทนเสียงเริ่มตะกุกตะกัก เมื่อไร้หนทางในการเอาตัวรอด ถ้าผีไม่กลัวแสง แล้วคนอย่างเธอจะหนีไปได้ยังไง
“ผมกลัวว่าคุณจะหนีผมไปมากกว่า”
ให้ตายสิ ทำไมต้องพูดจาแบบนี้ด้วย!?
“เรารู้จักกันมาก่อนหรือไง ถึงได้อาลัยอาวรณ์ขนาดนี้” เธอถามกลับโดยที่ไม่คิดจะหันไปประจันหน้า บอกตามตรง ว่าภาพจำที่เขาไม่มีลูกกะตา เลือดสีสดอาบชุ่มทั่วใบหน้า ยังคงติดอยู่ในความทรงจำของเธอ ต่อให้ตอนนี้จะกลับมาหน้าตาหล่อแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดี
“ผมตายมาสิบกว่าปี คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่มองเห็นผมแล้วอย่างนี้จะให้ผมปล่อยคุณหนีไปงั้นเหรอ?”
ทำไมเขาพูดเหมือนจะเอาเธอไปอยู่ด้วยเลยล่ะ
เธอไม่ได้คิดมากไปเองใช่ไหม เพราะโทนเสียงเย็นยะเยือกของเขาวัดอะไรไม่ได้เลย นอกจากความน่าขนลุก
“ผมรักคุณนะ”
ฮะ! ถามจริง เขารักเธอแล้วเหรอ!?
“ถ้าจะบอกรักเพื่อรั้งฉันเอาไว้ บอกเลยว่าไม่ได้ผล”
ก้านแก้วพอจะตามทันความคิดของผีตนนี้ เพราะคำพูดและการกระทำ พยายามฉุดรั้งไม่ให้เธอหนีไปไหน หรือต่อให้หนีได้ เขาก็อาจจะฆ่าเธอซะ เราจะได้อยู่ด้วยกัน
“ผมหลับนอนกับคุณแล้ว ผมจะรับผิดชอบ”
ไม่ต้องงง!
หลับนอนกับผีไม่มีใครเขาอยากให้ผีมารับผิดชอบหรอกนะ อีกอย่างเมื่อคืนนี้ เราก็ยังไม่ได้ถลำลึกไปจนถึงขั้นนั้น แค่นอนเปลื้องผ้าแล้วโอบกอดกันเท่านั้นเอง...มั้ง
“คุณห้ามไปนอนกับผู้ชายคนอื่น นอกจากผม”
วะ ว่าไงนะ!?
“ไม่อย่างนั้น ผมจะตามหลอกหลอนไม่จบไม่สิ้น”
ฮะ! คนรักกันเขาทำกันแบบนี้เหรอ?
อ้อ ลืมไป คุณมันไม่ใช่คน แต่คุณเป็นผี!
“คุณน่าจะยังไม่เข้าใจในอาชีพของฉันนะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ฟรี นั่นก็แสดงว่าฉันขายบริการ แล้วผู้หญิงที่ขายบริการ ก็คือผู้หญิงที่สามารถหลับนอนกับผู้ชายได้ทุกคนเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งฉันต้องหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคงทำตามที่คุณต้องการไม่ได้หรอก”
ถึงจะรู้สึกหวาดกลัว แต่เธอก็จำเป็นที่จะต้องอธิบาย ไม่อย่างนั้นผีตนนี้ก็จะไม่เข้าใจในความจำเป็นของคนเรา โดยเฉพาะคนที่มีชีวิตไร้ทางเลือกอย่างเธอ ถ้าไม่ขาย ก็ดูเหมือนจะหาเงินก่อนโตได้อย่างยากลำบาก ลำพังหาเงินซื้อข้าวยังไม่เท่าไร แต่ไอ้หาเงินให้คนอื่นใช้นี่สิ
แค่คิดก็อนาถชีวิตตัวเอง แต่ก่อนจะพูดอะไรต่อไป ขอไปอ้วกก่อนได้ไหม รู้สึกว่าแอลกอฮอล์ในกระเพาะอาหารจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ถ้ายังไม่ระบายออก น่าจะเละ!