บทที่ 5 สวมรอย
09 : 00 น.
ฤกษ์งามยามดี ขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวก็แห่กันมา ตีกลอง ร้องรำ มาในเขตรั้วบ้านของเจ้าสาวแล้ว พบกับประตูเงินประตูทองที่เรียงรายกันดักรอ
หัวใจฉันมันกระตุกถี่ๆ มันรู้สึกประหม่า ตื่นเต้นยังไงไม่รู้ มันบอกไม่ถูก มันมีหลายอาการ มีความกังวลในใจด้วย ถ้าเกิดเลย์รู้ว่าเป็นฉันตั้งแต่เข้ามารับตัวเจ้าสาวแล้วเขาโวยวาย งานจะล่มหรือเปล่า? พ่อแม่ฉันจะเสียหน้ามากไหม แล้วถ้าเกิดเขาโกรธขึ้นมาทำไง จะเสียเพื่อนด้วยไหมเนี่ย?
“ แกโอเคปะ ” บุ๋มที่แต่งชุดเป็นเพื่อนเจ้าสาวเดินมาใกล้ฉันพร้อมกุมมือหวังปลอบประโลม
“ อะ...โอเคสิ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ”
” แกจะแต่งงาน อยู่ด้วยกันแค่เดือนเดียวแล้วเลิกจริงๆเหรอ? แกจะกลายเป็นแม่หม้ายทันทีนะฝัน ” บุ๋มพูดอย่างห่วงใย
“ ใช่ เป็นแม่หม้ายดีกว่าอยู่กันแบบไม่รักนะ ”
“ บอกเรื่องนี้กับพี่บอยยัง ”
“ เมื่อคืนโทรไป แต่พี่เขาดันปิดเครื่องโทรไม่ติดเลย จนตอนนี้ข้อความยังไม่เข้าว่าสามารถติดต่อได้ ไม่รู้เป็นไงบ้าง ”
“ เอาเป็นว่าโฟกัสเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นก่อนแล้วกัน ถ้าผ่านไปได้ด้วยดีมันก็คงไม่มีอะไรมาก แกก็ค่อยอธิบายให้เลย์ฟังก็แล้วกัน ”
“ อืม ” ใจเต้นตึกตักๆ ใกล้เข้ามาแล้ว
ประมาณสิบนาทีต่อมา ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับเจ้าบ่าวที่เข้ามา คือแบบ อึ้งไปเลย ไม่คิดว่าเพื่อนจะหล่อขนาดนี้ ในตอนที่แต่งชุดไทย
ไม่ได้กล่าวทักทายอะไรกัน เจ้าบ่าวทำเพียงส่งยิ้มแล้วจับมือเจ้าสาวสวมรอยอย่างฉันเดินออกไปนอกห้องนอนเพื่อทำพิธี สายตาหลายคู่หันมาจับจ้องทางพวกเราที่เป็นบ่าวสาว ทำเอาเขินเลยทีเดียวเพราะคนมาเยอะมาก
แอบถอนหายใจเล็กน้อยอย่างโล่งอก คิดว่าเลย์คงไม่รู้ ทั้งที่ฉันแอบกังวลว่าเขาจะจับได้ แต่ที่ไหนได้เขาก็เหมือนคนอื่นนั่นแหละที่เข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นพี่ดาว
พิธีเช้าผ่านไปด้วยดี แขกเหรื่อพากันไปหาอะไรกิน ส่วนฉันกับเจ้าบ่าวรั้งท้าย เพราะกำไลข้อมือฉันหลุด เพื่อนเจ้าสาวเลยมาจัดการสวมใหม่ให้
“ ดาวไปไหน? ” พอเพื่อนเจ้าสาวออกไปหมด ฉันกำลังจะเดินตามไป เลย์มาใกล้แล้วพูดขึ้น ฉันนี่อึ้งปนตกใจ หันไปมองหน้าเขาในทันที
“ คิดว่าฉันจำไม่ได้เหรอ? ”
“ นะ...นี่ดาวไง ” เอาแล้วไง
“ แค่เธอส่งเสียงออกมาฉันก็จำได้แล้วฝัน ”
“ ... ” ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้เลย
“ ทำไมต้องสวมรอยเป็นพี่สาว ”
“ ฉัน... ”
“ เธอคงไม่ได้ชอบฉันหรอกนะฝัน! ”
“ ไม่ ”
“ งั้นก็บอกมาว่าดาวไปไหน ”
“ เอ่อ... ” ดวงตาคมจ้องมาที่ฉันอย่างเขม็งจนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“ ลูกทั้งสอง มากับแม่ แม่จะพาไปแนะนำญาติๆให้รู้จัก ” จู่ๆเสียงแม่ของฉันก็ดังแทรกขึ้นมา ฉันเผลอถอนหายใจออกมาเล็กน้อย หัวใจจะวาย กลัวสายตาของเลย์ในตอนนี้มากๆ
“ ครับ ” เขาหันไปยิ้มให้แม่ฉัน แล้วฉวยข้อมือเล็ก ดึงให้เดินตาม เขาจะมาไม้ไหนอีก!
หลังจากที่รู้จักเครือญาติทั้งสองฝ่ายแล้ว เราทั้งคู่ต้องออกไปต้อนรับแขกหน้าทางเข้างาน ตรงซุ้มที่มีรูปคู่ของพี่ดาวกับเลย์ที่ถ่ายกันตอนเป็นแฟน ถ่ายในทุกที่ที่ไปเที่ยวกัน ยกเว้นรูปพรีเวดดิ้งที่ใส่ชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าวไม่มีโผล่ออกมาให้เห็น
“ ฉันจะไม่ว่า ถ้าเธอบอกความจริงมาฝัน ” พอนั่งลงบนเก้าอี้แค่นั้นแหละ เขาก็เริ่มพูดในทันที เอาแล้วไง ฉันควรจะบอกเขาดีไหม คงเห็นว่าฉันเงียบ เขาเลยเอาเก้าอี้อีกตัวมานั่งตรงหน้าฉันทันที สายตาก็จ้องมองมา
“ ฝัน...เธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า? ” ฉันพยักหน้าทันที
“ ตอบมาเถอะ! ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ”
“ เอ่อ...ขอบอกพรุ่งนี้ได้ไหมอะ ”
“ จำคำที่ฉันพูดกับเธอเมื่อวานตอนที่ไปลองชุดแต่งงานก่อนจะแยกย้ายกันได้ไหม ” เขาพูดมาหลายคำเลยนะ
“ ... ” ส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ คืนนี้เข้าหอ แล้วเธอจะรู้เอง ”
สิ้นเสียงเขาดวงตากลมเบิกโพลง มือเล็กรีบเอาปิดปากที่เหว่อ ชะ...ใช่ ฉันลืมไปได้ไง เขาเคยขู่ว่าถ้าฉันสวมรอยเป็นเจ้าสาว เขาจะ....ทำให้ฉันขาลากเลย ไม่ใช่ว่าไม่เคยผ่านจุดนั้นมา ไม่ใช่ว่าเป็นสาวบริสุทธิ์ แต่เรื่องอย่างว่าฉันไม่เคยนึกชอบมันเลย ทุกครั้งที่ยอมให้มีอะไรกันกับแฟนหนุ่มเพราะคำว่ารักเอง! จึงยอม
“ เลย์! ”
“ สวัสดีครับน้าพู่ เชิญข้างในนะครับ ”
เขาทำเป็นไม่สนใจที่ฉันเรียก แต่หันไปพูดคุยกับแขกที่เพิ่งมาถึง ฉันก็เลยต้องทำตามเขาไปด้วย แล้วช่วงนี้คนก็มาเยอะมาก ฉันยิ้มแฉ่งจนกรามจะค้างแล้ว นั่งได้สองวิก็ต้องยืนขึ้นมา พร้อมยิ้มพนมมือไหว้แขกที่มาและกลับอีก
“ เลย์ ”
“ ค่อยคุยคืนนี้ ” เขาพูดหน้านิ่งๆ
“ นายต้องฟังฉันก่อนสิ ”
“ เห็นหรือเปล่าว่าไม่ว่างอะ ”
วันนี้จัดงานบ้านฉัน คิดว่างานไม่ใหญ่แล้วนะ แต่แขกจะเยอะไปไหน แล้วพรุ่งนี้ล่ะต้องไปจัดงานบ้านเจ้าบ่าว มันไม่เยอะกว่านี้เป็นสิบเท่าเลยเหรอ ฝั่งนั้นจัดงานใหญ่มาก
พอเลยเวลาเที่ยง คนน้อย แม่ใช้ให้คนมาตามไปกินข้าว ฉันนี่มองหน้าเลย์ตลอด เขาหันมาสบตาบ้างไม่หันมาบ้าง
พอลับตาคน เราสองคนต้องไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดราตรี และเขาก็ต้องไปเปลี่ยนที่ห้องฉัน มันคือโอกาสของฉันแล้วสินะ
“ ทำงานกันเป็นทีมสินะ ” พอเข้ามาในห้อง เขาก็เปิดปากพูด
“ ... ” ฉันเงียบ
“ เห็นแม่เธอเรียกเธอว่าดาวตลอด ไม่มีหลุดปากเลย ซ้อมกันมาหลายวันแล้วเหรอ? ” เขาพูดต่อ
“ ... ” ผิดจริงไม่สามารถเถียงได้เลย
“ ตอนที่รับตัวเจ้าสาวพาไปห้องดาว แล้วตอนนี้พามาห้องเธอ นี่กะจะบอกทางอ้อมใช่ไหมล่ะ ” เออ ใช่ เขานี่มันช่างสังเกตจริงๆ
“ ฉันมีข้อตกลงกับนาย ”
“ ดาวไปไหน ” เขาทำเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉันพูด
“ คุยข้อตกลงกันก่อนได้ไหม เราจะอยู่ด้วยกันแค่เดือนเดียวแล้วค่อยแยกย้ายกันทางใครทางมัน โอเคไหม ”
“ ครอบครัวเธอก็ได้กำไรสิ ค่าตัวเธอกับพี่สาวเธอมันแพงมากเลยนะ ”
“ สินสอดที่ได้มาทั้งหมดฉันจะคืนให้นาย ”
“ ตั้งแต่ตอนหมั้นเลยไหม ” ฉันนี่สะดุ้งเลย
“ ฉันจะผ่อนคืนให้นายเอง ”
“ ทำไมเธอต้องผ่อนด้วยล่ะ ” เขาพูดพลาง พาร่างโตไปนั่งปลายเตียง
“ ... ”
“ ฝัน เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเธอเลยด้วยซ้ำ ตัวปัญหาควรมาแก้ปัญหาเองสิ ”
🌻________🌻
นามปากกาผกายมาส