“เฟียส”
“มีอะไรเหรอ?”
“...เมื่อคืนฉันปล่อยในหลายรอบ ฉันกับเธอคงไม่อยากให้มีอะไรมาผูกกัน อย่าลืมกินยาคุม ห้ามลืมเด็ดขาด”
ถึงเขาไม่ย้ำฉันก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองพลาดหรอกค่ะ เพราะถ้าพลาดก็เท่ากับซวย แล้วถึงเวลานั้นชีวิตใครล้มล่ะถ้าไม่ใช่ฉัน
เวลานี้ฉันกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว กินตั้งแต่คนของเขาแวะร้านขายยาพร้อมกับลงไปซื้อให้ ซื้อยาพร้อมกับน้ำดื่มมาให้เรียบร้อย ฉันได้ยาคุมฉุกเฉินมาก็กินทันที กินเสร็จก็ตั้งนาฬิกาปลุกรอเวลาที่จะกินเม็ดที่สองในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” ฉันขอบคุณพี่ชายชุดดำคนเดิมที่คอยทำหน้าที่ของเขาตลอดระยะเวลา 1 เดือน แต่พี่แกชื่ออะไรฉันก็ไม่เคยถามหรอกค่ะ ยกมือไหว้ขอบคุณเสร็จฉันก็ลงจากรถแล้วพาร่างกายที่ภายนอกไม่โทรมแต่ฉันรู้ดีว่ามันโทรมจากข้างในขึ้นห้อง
ฟุบ!
ทันทีที่ถึงห้องฉันก็พาตัวเองทิ้งดิ่งลงที่เตียงทันที เหนื่อย เมื่อย แล้วก็ล้า ล้าไปทั้งตัว ตรงกลางร่างกายก็เจ็บระบมแต่พยายามฝืนให้ดูปกติจะได้ไม่อายใครทั้งที่เจ็บแทบตายเวลาที่ก้าวขาเดินแต่ละก้าว
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...มิริน
“อื้อ ว่าไงแก”
“ฮาย~ ยังนอนอยู่เหรอเพื่อน” เสียงใสๆ ของเพื่อนรักอย่างมิรินดังทักทายฉันทันทีที่ฉันรับสาย
“อื้อ มีไรเปล่า”
“ไม่มีไรแค่จะถามว่าเมื่อคืนไปปาร์ตี้วันเกิดแฟนสนุกไหม”
“ก็ดีนะ แต่แกก็รู้ว่ามันไม่สนุก” มิรินรู้เรื่องที่ฉันรับจ้างเป็นแฟนให้ซีเจย์ค่ะ เราสองคนไม่เคยมีเรื่องปิดบังกัน และฉันมั่นใจว่าเพื่อนของฉันคนนี้ไว้ใจได้
“ฮ่าๆๆ รู้ย่ะ แต่แอบเชียร์ไง เผื่อแกกับนายนั่นอยู่ใกล้กันบ่อยๆ แล้วรักกันขึ้นมาจริงๆ”
“เพ้อเจ้อ” ฉันพูดออกมาสั้นๆ แล้วก็หลับตาเพราะความง่วง ส่วนมือก็ยังถือโทรศัพท์แนบหูรอฟังว่ายัยเพื่อนรักจะโทรมาเม้าท์เรื่องอะไรให้ฟัง
“ไม่รู้แหละเมื่อวานฉันไปบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว” มิรินพูดออกมาอย่างอารมณ์ดีแต่ฉันที่ได้ฟังกลับขมวดคิ้ว
“อะไรวะ ขอหวยเหรอ? ”
“ขอหวยบ้าอะไรล่ะคนละเรื่องเลย ฉันไปบนให้แกกับนายนั่นลงเอยกันจริงๆ ต่างหาก ได้ผัวรวยเมื่อไหร่ซื้อไข่ต้มพันฟองให้เพื่อนไปแก้บนด้วยนะเพื่อนรัก อิอิ”
“มิริน! แกเริ่มบ้าแล้วนะเนี่ย” ฉันตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่คิดว่าเพื่อนฉันจะแอบจิ้นฉันกับซีเจย์จนเป็นไปได้ขนาดนี้
“ฮ่าๆๆ ไม่รู้แหละ ตามนั้นนะเพื่อนรัก นอนต่อเถอะฉันไม่กวนแกแล้ววันจันทร์เจอกัน บาย~” มิรินหัวเราะอารมณ์ดีก่อนจะตัดสายไปดื้อๆ ทิ้งให้ฉันนอนอึ้งจนตาสว่าง
เมื่อวานไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ฉันกับซีเจย์ลงเอยกันงั้นเหรอ?
...ได้ผัวรวยเมื่อไหร่ซื้อไข่ต้มพันฟองให้เพื่อนไปแก้บนด้วยนะ
บ้า! เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี่เมาล้วนๆ เลยค่ะไม่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้น แล้วฉันยังไม่ได้ผัวรวย เมื่อคืนแค่ความผิดพลาดเราตกลงกันแล้วว่าให้ลืมมันไป เพราะฉะนั้นซีเจย์นี่นับเป็นผัวไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่รับ สรุปแล้วก็คือฉันยังไม่มีผัวเข้าใจกันตามนี้เลยนะคะ
“เฮ้อ!” ฉันถอนหายใจหลายรอบหลังจากที่พยายามนอนหลับตาแล้วก็ข่มตาให้หลับ เหนื่อยนะคะ ง่วงมากด้วยแต่มันมีเรื่องราวในใจที่ทำให้ฉันนอนไม่หลับ
กำลังคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนั่นล่ะค่ะ จริงๆ แล้วที่เป็นอยู่ไม่ได้เสียดายที่ไม่ให้ซีเจย์รับผิดชอบหรอกนะ แต่ฉันเสียดายซิงของตัวเอง คิดๆ ไปก็เสียดาย เข้าใจความรู้สึกไหมคะ มันเป็นเรื่องของเราเองมันต้องรู้สึกบ้างอยู่แล้ว จะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็เป็นไปไม่ได้หรอก แบบนั้นมันหลอกตัวเองชัดๆ
คิดแล้วก็ตลกดีนะคะ นึกว่าจะได้งานสบายที่ไหนได้เพิ่งได้เงินเดือนๆ แรกมา 1 แสนบาท เข้าเดือนที่ 2 ก็เสียตัวให้นายจ้างแล้วเฟียสเอ้ย แล้วถ้าเกิดยัยมิเชลรู้สึกว่าตัวเองทนให้ซีเจย์มีแฟนตำตาตำใจแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้วมาทวงแฟนกำมะลอคืนไปฉันจะทำยังไงคะ แน่นอนว่าซีเจย์คงไม่ปฏิเสธผู้หญิงคนนั้น แล้วฉันก็ต้องโดนเขาเลิกจ้าง งานหายเงินก็หาย
1 แสน แลกกับงานสบายแต่เสี่ยงเสียตัวและตอนนี้ก็เสียทั้งตัวเสียทั้งซิงไปแล้ว มันคุ้มไหมเฟียส?
ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้สองคนนั้นเล่นแง่ เป็นพ่อแง่แม่งอนทำประชดไม่รู้ใจตัวเองไปอีกสักพักเถอะ ให้ฉันได้เงินค่าจ้างเยอะกว่านี้หน่อย พูดตรงๆ ขอให้มันคุ้มกับการเสียตัวเถอะ ที่จริงไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนี้นะคะแต่เสียไปแล้วเรียกกลับมาไม่ได้อย่างน้อยก็ขออะไรทดแทนให้มันบ้าง
ฉันนอนไม่หลับอยู่ดีๆ สมองก็คิดย้อนกลับไปจุดเริ่มต้น จุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนชีวิตฉันแบบงงๆ
- 1 เดือนก่อน –
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...090-999-99XX
ระหว่างที่ฉันกำลังจะทิ้งตัวลงนอนหลังจากที่เพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในห้องด้วยความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายที่เรียนหนักทั้งวันแล้วต้องเดินไปสมัครงานพาร์ทไทม์ต่อ แล้วก็เหนื่อยล้าที่ใจที่ปัญหาครอบครัวกับการเงินรุมเร้าก็มีเบอร์แปลกที่มองแล้วไม่กล้ารับโทรมา
เบอร์มันสวยไปค่ะ สวยจนไม่น่าไว้ใจ
“ใคร?” ฉันจ้องเบอร์โทรที่โชว์อยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์แล้วก็พึมพำกับตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นคำพึมพำโง่ๆ ก็ตามเถอะ ถามตัวเองไปก็ไม่ได้คำตอบวิธีเดียวที่จะรู้ก็คือรับสาย แต่เบอร์มันสวยจนฉันไม่กล้ารับ ถ้าเกิดว่าเป็นเบอร์ของเจ้าหนี้พ่อกับแม่ฉันขึ้นมาล่ะ ไม่เอาไม่รับดีกว่าค่ะ ฉันปล่อยให้มันดังรอสายอยู่แบบนั้นจนกระทั่งสัญญาณถูกตัดไปเอง
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...090-999-99XX
พอมันตัดไปคนที่โทรมาก็โทรซ้ำเข้ามาอีกครั้ง ฉันนั่งจ้องเบอร์โทรชั่งใจอยู่สักพัก ไม่รู้ว่าเป็นใครโทรมาแต่จะเลือกใช้วิธีไม่รับสายแบบนี้มันดีเหรอเผื่อว่าปลายสายมีเรื่องด่วนหรือเรื่องสำคัญอย่างอื่นล่ะ คิดได้แบบนี้ฉันถึงได้ตัดสินใจรับสาย
ติ๊ด!
“ฮัลโหล”
“กว่าจะรับ” พอฉันรับสายพูดได้คำเดียวปลายสายก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังเบื่อปนเย็นชา ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือเขาไม่ได้วีน แต่เสียงหล่อนะคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหน
“...ใครคะ”
“ฉันเอง ซีเจย์”
“ซีเจย์?” พอฉันได้ยินชื่อคนที่โทรมาคิ้วฉันนี่น่าจะขมวดเป็นเงื่อนอะไรสักเงื่อนที่ครูเคยสอนในคาบลูกเสือแล้วล่ะค่ะ
“อืม มีเรื่องจะคุยด้วย ลงมาหน่อยรออยู่หน้าหอเธอ” อะไรนะ?
“รอหน้าหอฉัน มีอะไรรึเปล่า” ฉันงงไปหมดเลยค่ะ คนอย่างซีเจย์เนี่ยนะมีเรื่องจะคุยกับฉัน ตั้งแต่เราเรียนด้วยกันเป็นเพื่อนร่วมคณะกันมาตั้งแต่ปี 1 จนตอนนี้อยู่ปี 4 และกำลังจะเรียนจบฉันกับเขาเคยคุยกันถึง 10 ครั้งรึเปล่า ไม่เคยแน่นอนแล้วเขาจะมีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกับฉัน
“มีเรื่องจะคุยไง ฉันรอหน้าหอเธอ” เขาพูดจบก็ตัดสายปล่อยให้ฉันนั่งงงมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ไม่มีอะไรแล้ว แต่จะไม่ลงไปก็ไม่ได้เพราะรู้สึกค้างคาใจก็เลยต้องลงไป พอลงไปก็เห็นรถคันหรูจอดอยู่ท่ามกลางสายตาหลายๆ คู่ที่มองมาที่รถราคาหลายสิบล้านด้วยความสนใจ
ฉันเดินช้าๆ ไปใกล้ๆ รถเขา พยายามหรี่ตามองให้ทะลุเข้าไปในกระจกรถที่ติดฟิลม์ดำสนิทว่าเขาอยู่ในรถไหมแต่ก็ไม่เห็นอะไร จนสุดท้ายพอเดินเข้าไปใกล้มากๆ เขาถึงได้ลดกระจกลงครึ่งหนึ่งแล้วพูดสั้นๆ ว่า...ขึ้นมา ฉันก็เลยเดินอ้อมไปเปิดประตูรถเขาแล้วขึ้นไปนั่งแบบงงๆ งงทั้งเขาแล้วก็งงตัวเอง
“มี...อะไรเหรอ” ฉันเข้าไปนั่งแล้วก็ถามเขาด้วยท่าทางเกร็ง จะไม่ให้เกร็งได้ยังไงล่ะคะในเมื่อไม่สนิทกันสักนิดเดียวแต่มาหาแล้วบอกมีเรื่องจะคุยด้วยถึงหน้าหอ เจอแบบนี้ก็ลุ้นสิว่ามีเรื่องอะไร
“ได้ข่าวว่าเธอกำลังหางานพาร์ทไทม์” เขาหันมามองหน้าฉันแล้วก็พูดนิ่งๆ ฉันก็เลยพยักหน้ารับแบบงงๆ เหมือนเดิม
“อื้อ แล้ว...มีอะไรรึเปล่า?”
“ฉันอยากจ้างเธอทำงานหน่อย” เขาพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อมแต่พอได้ยินว่าเขาจะจ้างฉันทำงานหูฉันก็ผึ่งเลยค่ะ
“จ้างทำงาน งานอะไรเหรอ” ถึงจะหูผึ่งแต่ก็อดคิดมากไม่ได้อยู่ดี กลัวเขาจ้างไปทำอะไรไม่ดีค่ะ
“ไม่ใช่งานยากหรอก งานง่ายๆ ไม่ใช่พาร์ทไทม์นะเป็นแบบฟลูไทม์ แต่ก็ไม่ได้ทำทั้งวันทำแค่ตอนที่ฉันต้องการ”
“หะ? นี่คงไม่ได้หมายความว่า...” ได้ยินเขาพูดประโยคสุดท้ายใจฉันเต้นเลยค่ะ อย่าเป็นแบบที่กูคิดนะมึงไม่งั้นแม่จะตบให้หน้าคว่ำบนรถนี่เลย
“ไม่ใช่งานไม่ดีแบบที่เธอคิดหรอก แค่จะจ้างเป็นแฟน ไม่ได้มีไรกันให้เดือนละ 1 แสน สนใจไหม?” เขาอธิบายให้ฉันกระจ่างใจทันทีที่ฉันทำหน้าเหวอและเริ่มจะคิดไปไกล แต่พอได้ฟังคำพูดเขาหน้าฉันมันเหวอกว่าเดิมอีกมั้งคะ
“จ้างเป็นแฟน? เดือนละ 1 แสน?” บ้า! นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ แต่เขากลับพยักหน้ารับสายตาก็ไม่มีแววล้อเล่น แต่คนเย็นชาอย่างซีเจย์จะล้อเล่นได้ยังไงกันล่ะ
“อืม จ้างเป็นแฟน ไม่มีความสัมพันธ์ผูกมัด ไม่มีนัดเจอกันสองต่อสอง แค่เล่นละครตบตาคนในมหาลัยแล้วก็คนในสังคมของฉันตอนที่ฉันต้องการ สนใจไหม?” สนสิวะงานง่ายๆ แบบนี้ใครจะไม่สน
“แล้วนานเท่าไหร่? ฉันต้องทำอะไรบ้าง” ฉันสนใจมาก~ แต่อยากรู้รายละเอียดของงานอีกสักนิด
“หน้าที่ของเธอแค่เป็นแฟนหลอกๆ ของฉัน ทำให้คนอื่นเชื่อว่าเราเป็นแฟนที่รักกันมาก ส่วนนานเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับว่าคนที่ฉันชอบจะสนใจฉันเมื่อไหร่” หน้านิ่งเสียงเย็นชามากเลยค่ะ อีตานี่ติดเย็นชากับผู้คนไปทั่วจริงๆ
“อ๋อ จะจ้างฉันไปเรียกร้องความ...” ฉันพยักหน้ารับแล้วก็เผลอหลุดปากพูดออกไปแต่ก็พูดไม่จบเพราะสายตาขวางๆ ของเขาที่มองมา
“ฉันจ้างเดือนละ 1แสน แต่ถ้าเธอทำให้มิเชลหึงแล้วก็กลับมาฉันได้ เธอจะได้โบนัส 5 แสน”
“5 แสน?” คุณพระ! นี่เขารักผู้หญิงคนนั้นขนาดหนักเลยนะเนี่ย ลงทุนสุดๆ เลยค่ะ
“อื้ม ตกลงจะรับงานนี้ไหม แต่ละหว่างที่รับงานนี้เธอห้ามมีแฟน ห้ามมีแม้แต่คนคุยเพราะฉันไม่อยากโดนคนนินทาว่าโดนสวมเขา” แต่นายให้คนที่ไม่รู้เรื่องคนอื่นนินทาฉันได้งั้นเหรอ ในอนาคตถ้าผู้หญิงที่ชื่อมิเชลสนใจหรืออะไรกับนายนี่ขึ้นมาฉันรับรองได้ว่าเขาต้องวิ่งโร่ไปซบอกเธอคนนั้นแน่นอน และสุดท้ายอีเฟียสคนนี้ก็จะได้ชื่อว่าโดนแฟนทิ้ง
“ว่าไงตกลงจะรับไหม”
“...รับ รับสิโอเคเลย” ฉันพยักหน้ารับ เรื่องโดนนินทาไม่สำคัญเท่ามีงานมีเงินตอนนี้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องไร้สาระแบบนั้นตัดทิ้งไปจากสมองได้เลย
“เป็นอันว่าตกลงตามนี้ พรุ่งนี้ฉันจะไปขอเธอเป็นแฟน ไม่ต้องตกใจล่ะ ยิ้มหวานๆ ก็พอ”
นี่ล่ะค่ะคือต้นเรื่องทั้งหมด แล้ววันต่อมาเขาก็มาขอฉันเป็นแฟน ขอตอนที่ฉันนั่งรออาจารย์เข้าสอนในห้องเรียนวิชาเลือกที่มีนักศึกษาทั้งต่างเอกและต่างคณะมาเรียนรวมกัน แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก ความสำคัญมันอยู่ที่มิเชล ผู้หญิงคนนั้นที่เขาต้องการเรียกร้องความสนใจก็เรียนวิชานี้ด้วยต่างหาก
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...ซีเจย์
ฉันสะดุ้งเพราะกำลังคิดเรื่องเก่าเพลินๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พอมองดูเบอร์ที่โทรเข้ามาก็รีบหยิบมันขึ้นมาเพื่อรับสาย ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่เคยปล่อยให้เขารอสายนานหรอกค่ะเพราะเขาอยู่ในสถานะของเจ้านาย ฉันเป็นลูกจ้างนะคะจะปล่อยให้เจ้านายรอนานๆ ได้ยังไง
“ฮัลโหล”
“อยู่ที่หอรึเปล่า” เสียงติดเย็นชาเหมือนปกติของเขาดังลอดออกมาจากปลายสาย
“อื้ม มีอะไรเหรอ”
“...ฉันไม่สบายใจ ฉันว่าเราน่าจะเคลียร์กันอีกรอบ ลงมาหน่อยฉันรออยู่หน้าหอ”