หลังจากแสร้งโศกเศร้าซับน้ำตาเบาๆ ก่อนจะโบกผ้าเช็ดหน้าแรงๆ เพื่อเป็นการล่ำลาคนจากหอเหินหย่า เย่เสียกับลี่เซียนยังยืนมองรถม้าของบรรดาคณิกาที่เคลื่อนตัวออกจากค่ายทหาร มองให้มั่นใจว่าพวกนั้นไปไกลจนลับตา มองให้แน่ใจว่าพวกนางหลุดพ้นจากหอเหินหย่าแล้วจริงๆ ท่ามกลางฝุ่นตลบฟุ้งของล้อรถม้า เย่เสียคลี่ยิ้มเฉิดฉันจับจูงมือลี่เซียนให้เดินไปด้วยกันอย่างรื่นรมย์ยินดี นางไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชาตินี้จะได้รับโอกาสเป็นอิสระ เนื่องจากนางเป็นดาวเด่น ค่าตัวของนางจึงแพงมาก ยากไถ่ตัว ขณะกำลังกรีดกรายอย่างเพลิดเพลิน ชี้นกชี้ไม้ชักชวนให้ลี่เซียนชื่นชมบรรยากาศรอบกายประดุจฟ้าหลังฝนในความรู้สึก เย่เสียพลันชะงักเท้ารับรู้ได้ถึงรังสีพิฆาตแผ่ซ่านกระทบหางตา เมื่อเหลือบไปมองก็ได้เห็นเว่ยฉียืนถมึงทึงไม่ไกล แม่ทัพหนุ่มเดินเข้าใกล้ก่อนคำรามเสียงต่ำใส่หน้าเย่เสีย “ไฉนพากันแต่งกายเยี่ยงนี้?” หญิงสาวมองคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจ