ดวงใจหมอกิต ตอนที่ 9

867 Words
“เจ็บค่ะแม่” “นักเรียนหรือนักเลง ทำไมถึงได้ป่าเถื่อนแบบนี้” “ก็ถามลูกสาวคุณป้าเอาสิคะ ว่านั่นน่ะปากหรือว่าส้วม” คุณป้าบุหงาง้างมือจะตบฉันแต่ถูกพี่ซีเจย์จับเอาไว้ก่อน “ป้าบุหงาควรฟังความจริงจากทั้งสองฝั่งก่อนนะครับ” “ที่จริงมันไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ” ป้าบุหงาดูหงุดหงิดและไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น ฉันเข้าใจ ทำลูกสาวเขาเจ็บนี่เนอะใครบ้างจะไปยอม ขนาดมีคนมาแตะพ่อแม่ฉัน ฉันยังไม่ยอมเลย “มันจะไม่เกิดขึ้นถ้ามิลล์ไม่ใส่ร้ายหนูก่อน” “มิลล์เปล่าคะคุณแม่ เรื่องจริงทั้งนั้นที่มิลล์พูด” ฉันกำหมัดแน่น ถ้าไม่มีพี่ซีเจย์อยู่ข้างๆ ฉันก็คงไม่เหลือใครเลย “ญาริน โทรบอกผู้ปกครองหรือยัง” อาจารย์หันมาถามเพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้ปกครองต้องรู้ “ยังค่ะอาจารย์” “เด็กคนนี้ก็หลานของดิฉัน ไม่ต้องกังวลนะญารินป้าจะโทรบอกแม่หนูให้เอง” ฉันไม่อยากเจอแม่ในสถานการณ์แบบนี้ ป้าบุหงาต้องใส่ร้ายฉันแน่นอนและเรื่องมันก็จะใหญ่มากกว่าเดิม “ไม่ต้องค่ะ ญารินจัดการเอง ขอเวลาสักครู่นะคะอาจารย์” ฉันขอตัวออกมาข้างนอกเพื่อใช้มือถือ ลังเลอยู่นานกว่าจะกดโทรออกได้ “นี่มันเวลางานพี่นะ” เขารับสายแล้วทำเสียงเข้มแต่ก็ทำให้ฉันเบาใจได้อย่างบอกไม่ถูก “หมอ” “ไปก่อเรื่องอะไรมาอีก” “หมอรู้ได้ยังไงคะ ยังไม่ได้บอกเลย” “เห็นพี่เป็นอะไร” “เป็นหมอไง” ฉันเลิ่กลั่กเพราะรู้ว่ามันเป็นการรบกวนมากเกินไป แต่จะให้ทำยังไง นึกไม่ออกแล้วจริงๆ “ใช่ เป็นหมอ” “ขอโทษค่ะที่รบกวน แต่หนูไม่รู้จะหันไปหาใครแล้วจริงๆ” ทำเสียงให้น่าสงสารที่สุดเพราะไม่เหลือใครแล้วจริงๆ “สรุปเรื่องอะไร” “ช่วยมาที่มหา’ลัยหนูหน่อยได้มั้ยคะ” “ต้องไปเป็นผู้ปกครองสินะ” รู้ไปหมดทุกอย่างจริงๆ “จะไม่ทำอีกแล้วค่ะ” หมอกดตัดสายไปเลย ระหว่างนั่งรอคุณป้าบุหงาก็ไม่เคยมองฉันด้วยสายตาที่เป็นมิตรเลยสักครั้ง ทำอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่อยากเชื่อว่านี่คือญาติแท้ๆ เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่กันจะหลุดพ้น “สวัสดีครับ ผมมาในฐานะผู้ปกครองของญาริน” ไม่เกินครึ่งชั่วโมงชายหนุ่มที่ฉันเฝ้ารอก็โผล่เข้ามา ออร่าความหล่อนั้นทำให้คุณป้าบุหงากับลูกสาวนั่งเงียบไปเลย “คุณหมอกิตนี่เอง” “ญารินทำอะไรผิดเหรอครับ” คุณหมอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมเลื่อนเก้าอี้หย่อนตัวลงนั่งขาไขว่ห้างในท่ารอพร้อมฟัง “คุณไม่ใช่ผู้ปกครองของญารินนี่” ป้าบุหงาค้าน คงอยากให้แม่ฉันมาให้ได้เลยมั้ง “ผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อและแม่เสมอไป ที่จริงคุณป้าก็น่าจะเป็นผู้ปกครองให้ญารินได้นะครับ” หมอไปรู้อะไรมาอีก พูดแบบนี้เดี๋ยวคุณป้าบุหงาก็คลั่งอีกหรอก “คงไม่ได้หรอกค่ะ เรื่องร้ายแรงแบบนี้คนเป็นพ่อแม่ต้องรู้ว่าลูกตัวเองทำตัวอันธพาลมากแค่ไหน” “ผมว่าเรื่องนี้ต้องมีชนวนเหตุ” “คุณกำลังใส่ร้ายว่าลูกสาวดิฉันเป็นคนเริ่มนะคะ” “ผมหมายความแบบนั้นเหรอครับ” ยัยมิลล์สะกิดแขนแม่ตัวเองใหญ่ “ยังไงก็ต้องเรียกผู้ปกครองมาคุยค่ะ ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้” “คุณป้าต้องการอะไรพูดมาเลยดีกว่าครับ ผมพร้อมรับผิดชอบ” “หมอ” ฉันเรียกหมอแล้วส่ายหน้ารัวๆ อย่าไปให้ค่าคนพวกนี้ “ว่าไงครับ ผมมีเวลาไม่มาก” “ลูกฉันตาเขียวขนาดนี้ รับผิดชอบได้เหรอ” “แล้วต้องการอะไรครับ อยากชกคืนมั้ย” ทุกคนอึ้ง ไม่ต่างจากฉันที่หันมองหน้าหมอแล้วขมวดคิ้ว ให้มาช่วยนะไม่ได้ให้มาซ้ำ “หมอกิตครับที่จริงเรื่องไม่ได้ใหญ่มากขนาดนั้นครับ ที่ต้องเรียกผู้ปกครองมาเพราะญารินแล้วก็มิลดาเป็นญาติกัน เราก็เลยต้องเรียกผู้ปกครองให้มาเคลียร์กันครับ” อาจารย์รีบอธิบายเพราะกลัวว่าหมอจะจัดเวทีมวยขนาดย่อมภายในห้องที่เรากำลังนั่งคุยกันตอนนี้ “เหรอครับ ผมก็นึกว่าฝั่งตรงข้ามรู้สึกเสียเปรียบอยากเอาคืนเสียอีก” “คุณเป็นหมอจริงหรือเปล่า” “ไม่ต้องเชื่อก็ได้ครับ รู้ไว้ว่าหมอแบบผมพูดตรงและไม่เคยใส่ร้ายใครก็พอ” ยัยมิลล์หน้าเสียไปเลย ทำแบบนี้คงเสื่อมเสียไม่น้อย ว่าที่หมอและความภูมิใจของครอบครัว “แม่ พอแล้วค่ะ” “เรื่องแผล เชิญที่โรงพยาบาลได้นะครับ โรงพยาบาลไหนก็ได้ทั่วประเทศ ผมรับผิดชอบเอง วันนี้มีเรียนต่อหรือเปล่า เธอน่ะ” หมอหันมาถาม “ไม่ค่ะ ไม่เรียนแล้ว” “งั้นก็กลับพร้อมกันนี่แหละ” ไม่ได้เรียนเลยทั้งวันเพราะมัวแต่มีเรื่อง วันนอะไรวะ โคตรซวย ! ___________________________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD