ดวงใจหมอกิต ตอนที่ 8

1395 Words
เรื่องที่ฉันทะเลาะกับแม่แล้ววิ่งหนีออกจากบ้านคงไม่มีใครรู้ดีเท่ากับคนในบ้านและคนรอบข้าง เพจซุบซิบของมหาวิทยาลัยปั่นเรื่องนี้กันใหญ่ “นามสกุลใหญ่โตไม่คิดเลยว่าจะทำตัวแบบนี้” “รวยอย่างเดียวสินะ สมองไม่มี5555” “ได้ข่าวว่าหนีไปอยู่กับผู้ชาย อีกไม่นานก็คงลาออกไปคลอดลูก” ปัง! “มันจะมากไปแล้วนะ กล้าดียังไงถึงได้พิมพ์ประโยคน่าเกลียดแบบนั้นออกมา รู้จักฉันดีแล้วหรือไง” “ก็บอกแล้วไงว่าเรื่องใหญ่ แกไปทำอะไรมาญาริน” “ก็อย่างที่เขาลือกันนั่นแหละ” “รู้ว่ากำลังโกรธ ญาติแกเนี่ยไม่เคยแผ่วเลยนะเรื่องแบบนี้” บางทีฉันก็อยากหายๆ ไปซะ หรือไม่ก็เปลี่ยนนามสกุลไปเลย “ไหนๆ ก็ไม่มีดีละ” “จะไปไหนญาริน” ไอติมรีบคว้าข้อมือฉัน “ไปคณะแพทย์” เพราะยัยญาติตัวดีอยากเอาใจคุณปู่ก็เลยเรียนแพทย์ พวกบ้าสมบัติ นิสัยไม่ดีชอบใส่ร้ายคนอื่น คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ปู่รักฉันน้อยลงอย่างนั้นเหรอ ก็ได้ อยากเล่นแบบนี้ก็ได้ คณะแพทย์ “ญาริน ญาริน แกอย่า” “แกกลับไปเถอะ เดี๋ยวจะถูกมองไม่ดีไปด้วย” ไอติมไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันไม่อยากให้เพื่อนถูกมองไม่ดีไปด้วย “ได้ไงวะ เอาไงเอากัน” “แล้วจะมาห้ามเพื่อ” “ไปดิ” ฉันถามเด็กปีหนึ่งว่าเห็นยัยมิลล์หรือเปล่า เป็นถึงดาวคณะแพทย์คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “อยู่โรงอาหารค่ะ” พอรู้พิกัดฉันก็รีบเดินนำไอติมไปที่โรงอาหารทันที “รอด้วยดิแก” เรื่องนี้ฉันคิดดีแล้ว ต่อให้พูดหรือไม่พูดทุกคนก็มองว่าฉันแย่อยู่ดี ไม่รู้ว่ายัยนั่นเอาเรื่องของฉันมาบิดเบือนยังไงถึงทำให้คนในมอมองฉันแปลกๆ หมดทุกคน “พี่โบ๊ทมาคณะแพทย์ด่วนเลย” “แกโทรบอกพี่โบ๊ททำไม” ฉันหันไปถามไอติมที่กำลังทำท่ากระซิบกระซาบกับมือถือ “หาแบล็กไง กันไว้ก่อน” คิดว่าฉันจะกระชากยัยนั่นมาตบเลยหรือไง เฮ้อ แต่ก็ไม่แน่เพราะมันหลายครั้งแล้วไม่ใช่แค่ครั้งเดียว โรงอาหารคณะแพทย์ เป้าหมายของฉันกำลังนั่งหัวเราะอย่างมีความสุข ทำชีวิตคนอื่นวุ่นวายแล้วยังหน้าระรื่นได้อยู่อีก ถูกเลี้ยงมายังไงถึงได้ทำตัวน่าเกลียดขนาดนี้ พ่อแม่ไม่สั่งสอนบ้างหรือไง หรือว่ายัดแต่เรื่องสมบัติและวิธีประจบคุณปู่ให้อย่างเดียว “อีมิลล์” ฉันเรียกญาติที่นามสกุลเดียวกันเสียงดังลั่นโรงอาหาร ชอบใช่มั้ยแบบนี้ ทุกคนหันมามองกันเป็นตาเดียวและความเงียบก็เริ่มปกคลุม มีเพียงบางกลุ่มที่พยายามเปล่งเสียงซุบซิบ “มีอะไรเหรอญาริน” “ปากหมา อย่ามาตีหน้าเศร้าทำเป็นไม่รู้เรื่องได้ปะ” “เราไม่รู้เรื่อง” “แล้วอีไหนที่มันเอาเรื่องฉันมาบิดเบือน” “เป็นญาติกันแท้ๆ มีเหตุผลอะไรต้องใส่ร้าย บ้าหรือเปล่า” เพื่อนรักคนแรกก้าวออกมาพร้อมเปล่งวาจาปกป้อง “ฉันไม่นับอีนี่เป็นญาติหรอกนะ เอากลับไปฟ้องพ่อกับแม่ด้วย ถ่ายคลิปไปเลยก็ได้นะ ญาติๆ ทุกคนจะได้รู้ว่าอีญารินมันเถื่อนขนาดไหน” “ญาริน” ไอติมกระตุกแขนซ้ำๆ แต่เวลานี้มีอะไรสำคัญไปกว่าได้ฉะคนตรงหน้า “เรื่องเธอ ฉันไม่ได้พูด” “จะดูคลิปมั้ย” “อย่ามาหาเรื่อง ที่นี่คณะแพทย์ไม่ใช่บริหาร” “ยังคุยไม่จบ อย่าเสือกได้มั้ยนี่มันเรื่องของฉันกับอีนี่ ไม่ใช่เธอ ไม่ได้ถามอย่าเสือก” ฉันหันไปพูดนิ่งๆ ใส่เพื่อนสนิทที่ชอบเสนอหน้าปกป้อง อีมิลล์มันเอาอะไรให้กินถึงได้กางปีกปกป้องมันนัก “คลิปอะไร เอามาดูสิ อย่าเอาแต่ขู่” “ไอติม โพสต์ลงเพจเดี๋ยวนี้” ฉันหันไปบอกไอติมให้ลงคลิปลงเพจซะ ทุกคนจะได้เห็นและได้ยิน ติ๊ง “มาแล้วๆ” พวกอยากรู้อยากเห็นนี่เป็นอะไรกันนัก ชอบจริงเรื่องของคนอื่น จริงไม่จริงไม่รู้ขอให้ได้วิพากษ์วิจารณ์ก่อน “ภาพไม่ชัดเลย” “ฉันว่าใช่” “ดูอะไรกัน” เพื่อนสนิทคนดีที่พยายามปกป้องรีบหยิบมือถือขึ้นมาดู สีหน้าเปลี่ยนไปไม่เหมือนในตอนแรกที่แหกปากห้ามเข้าข้างคนข้างๆ ที่กำลังเสแสร้งแกล้งทำว่าถูกใส่ร้าย “คิดว่าตัวเองสวยมากมั้ง ที่พูดอะไรแล้วคนอื่นต้องเชื่อหมด” หลังจากทุกคนก้มดูคลิปจบก็มองมาที่ตัวต้นเรื่องแล้วกระซิบกระซาบด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ “แล้วยังไง สุดท้ายความจริงมันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ต่อให้เร็วหรือช้ายังไง เธอก็คือเด็กมีปัญหาที่หนีตามผู้ชายอยู่ดี” “แล้วถ้าฉันเป็นเด็กมีปัญหา ทำไมต้องยุ่งวะ ปั่นเรื่องเพื่อ ให้ตัวเองดูดีแล้วให้ฉันดูแย่ เหรอ” “เพื่ออะไรล่ะญาริน ในเมื่อที่ผ่านมาเธอก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นอยู่แล้ว ว่าเธอไม่เอาไหน” กูจะทนไม่ไหวแล้วนะ “ทั้งไม่เอาไหนแล้วก็หนีตามผู้ชาย แย่จังเลยเนอะ คงเทียบกับงานพาร์ทไทม์ติดเบอร์ของใครบางคนไม่ได้หรอกมั้ง” ซ่า “ว้าย” “อะไรอ่ะ” ทุกคนในโรงอาหารร้องตกใจ บางคนก็หยุดมองแล้วอุทานออกมาต่างๆ นานา ไม่ต่างจากฉันสักเท่าไหร่ ถูกสาดน้ำใส่เสื้อนักศึกษาจนเปียกชุ่มแบบนี้ก็ต้องมีบ้างไอ้อาการตกใจน่ะ แต่สะใจมากกว่า “น้องญาริน” พี่โบ๊ทพาเพื่อนๆ มาถึงพอดี หนึ่งในนั้นคือพี่ซีเจย์ที่รีบถอดช็อปตัวนอกมาคลุมให้ฉันทันที “คลุมไว้” “ขอบคุณค่ะ” เป็นถึงดาวคณะวิศวะมีเหรอที่ทุกคนจะไม่ให้ความสนใจ “เป็นอะไรมากมั้ย” “แค่เปียกเอง โดนพี่โบ๊ทลากมาเหรอคะ” “ก็ไม่เชิง” พอสวมให้เสร็จ พี่ซีเจย์ก็มายืนบังฉันจากผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังโกรธและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ฉันเจ็บและอายมากกว่านี้ “พี่เจย์ ถอยค่ะ” “เป็นอะไร” พี่ซีเจย์คือญาติอีกคนของฉัน เขาคือพี่ชายที่แสนอบอุ่นและพร้อมปกป้องฉันทุกครั้งที่มีโอกาส พ่อของพี่ซีเจย์คือพี่ชายของพ่อฉันเอง “ก็มันว่ามิลล์” “หยุดสร้างปัญหาสักที เป็นญาติกันก็ต้องปกป้องกันสิ” “หึ มิลล์ดูร้ายไปเลยสินะคะ” “ทำอะไรไว้ก็ต้องรู้ตัวสิ” พี่ซีเจย์มีเหตุผลเสมอ “มิลล์ผิด พอใจหรือยังคะ ต้องก้มกราบเลยมั้ย” “อยู่ที่เธอ อยากทำหรือเปล่า” “พี่ซีเจย์” “พี่คิดว่าญารินคงไม่อยากได้ยินคำขอโทษที่ไม่จริงใจจากเธอ อย่าทำแบบนี้อีกถ้าเรื่องถึงคุณปู่ คงรู้ว่านะว่าจะเป็นยังไง” ฉันอมยิ้ม พี่ซีเจย์รู้ใจฉันจริงๆ แผ่นหลังกว้างตรงหน้าที่สาวๆ หลายคนหมายปองหวังว่าสักวันจะมีผู้หญิงสักคนที่เหมาะสมกับพี่ชายคนนี้ของฉัน นึกถึงแล้วก็อิจฉาผู้หญิงคนนั้นจัง “ไม่คิดจะขอโทษอยู่แล้วค่ะ แล้วถ้าเรื่องถึงคุณปู่จริงๆ คุณพ่อกับคุณแม่คงไม่อยู่เฉยแน่ แต่ว่า น้องสาวพี่ซีเจย์คนนั้น ใครจะช่วยล่ะคะ พ่อกับแม่ก็” พลัก! “อย่ายุ่งกับพ่อแม่ฉัน” “ญาริน” พี่ซีเจย์พยายามเข้ามาห้ามถึงกับอุ้มฉันลอยเพื่อไม่ให้มีเรื่อง “ครอบครัวมีปัญหา ถึงได้ทำตัวอันธพาลแบบนี้ไง” ปึก! ฉันดิ้นจนหลุดจากแขนพี่ซีเจย์แล้วไม่ยอมฟังใครทั้งนั้นกำหมัดแน่นแล้วปล่อยตรงไปข้างหน้าเข้าเบ้าตายัยมิลล์เต็มๆ “ว้าย ขวาตรง” “เชรดดดด ไอดอล” “กูว่าแตก เล่นกับกูมั้ย” ตามมาด้วยเสียงของเพื่อนพี่ซีเจย์ “อย่าพูดถึงพ่อกับแม่ฉันแบบนั้นอีก ครั้งต่อไปมันจะไม่ใช่แค่เบ้าตา” "อาจารย์มา"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD