EP#11 “เจอคนร้าย”

1791 Words
“นี่ครับ คุณจอร์จ” ปราณนต์ยื่นเอกสารข้อเสนอให้จอร์จดู เลขาจอร์จยื่นมือไปรับแทน ปราณนต์ไม่พอใจนิดหน่อยที่อีกฝั่งไม่ให้เกียรติตนเอง แต่พยายามปล่อยผ่าน “นี่ครับ” เลขายื่นเอกสารให้จอร์จ เขารับแล้ววางไว้บนโต๊ะ ไม่ได้สนใจสักนิด ก็แหม บังอาจมาขวางอาหารตาของเขา “วันนี้ผมต้องรีบไป ไว้คุยกันทีหลังนะครับ” จอร์จกำลังเดินทางกลับ ความจริงเขาเองอยากลงทุนมากๆ เพราะที่ประเทศเขายังไม่มีตัวแทนนำเข้ารถแบรนด์นี้ ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของคนในประเทศ แต่เขาไม่ชอบปราณนต์สักเท่าไหร่ “ได้ครับ” ปราณนต์ไม่ชอบขี้หน้าไอ้จอร์จเหมือนกัน เขาหาคู่ค้าใหม่ก็ได้ ขนาดพูดกับเขาแต่สายตากลับจ้องแต่ยัยนี่ เอกรัตน์นะเอกรัตน์ แนะนำให้พายัยนี่มาทำไม น่ารำคาญจริงๆ กลับไปต้องจัดการเอกรัตน์ซะหน่อย “ผมขอตัวก่อนนะครับ” ปราณนต์ขอตัว “ลุกขึ้นสิ” หันไปสั่งเอิง “ค่ะ” “ขอตัวก่อนนะคะ” เอิงโค้งศีรษะ “เดี๋ยวก่อนสิครับคุณเอิง” จอร์จเรียกไว้ “มีอะไรคะ” “ถ้าผมสนใจข้อเสนอ ผมจะติดต่อคุณเอิงได้ทางไหนบ้างครับ” “เอ่อ” มองหน้าท่านประธานของเธอ ปราณนต์ยื่นนามบัตรให้ “ทางผมได้โดยตรง” “ผมว่าคุณปราณนต์งานยุ่ง ผมติดต่อคุณเลขาก็ได้ครับ” ไอ้จอร์จไม่ยอมรับนามบัตร “งั้นก็ไปหาผมที่บริษัทแล้วกัน” ปราณนต์ตัดบท แล้วดึงแขนเอิงออกมาทันที “คุณปราณ แบบนี้จะดีเหรอคะ” เธอเอ่ยถามขึ้นหลังออกจากห้อง เธอเป็นห่วงเขา กลัวจะมีผลกระทบกับงาน “ดี” เขาเองก็เหม็นขี้หน้า ไม่ถูกชะตากับไอ้จอร์จนี่เอาซะเลย ไม่ต้องเป็นคู่ค้ากันจะได้ไม่ต้องเจอหน้ากันอีก “อ่อ ค่ะ” ถ้าไม่อยากจะร่วมธุรกิจ จะถ่อมาหาเขาถึงที่นี่ทำไม เธอบ่นในใจ “ปัง ปัง ปัง” เสียงปืนดังขึ้น ปราณนต์กดศีรษะเอิงลงอัตโนมัติ “เสียงอะไรคะ” “ปืน” “เกิดอะไรขึ้นคะ” “ก็อยู่ด้วยกัน ผมจะรู้มั้ย” “ขอโทษค่ะ” “ปัง ๆๆ” เสียงปืนดังถี่ขึ้น “มานี่” เขาดึงมือเธอเข้าไปหลบตรงบันไดหนีไฟ “เห้ยๆ มันหนีไปทางนั้น” เสียงดังมาจากข้างนอก “ตามไปสิ อย่าให้มันหนีไปได้” เสียงฝีเท้าคนวิ่งผ่านไปมา “โรงแรมหรูขนาดนี้ การรักษาความปลอดภัยไม่ได้เรื่องเลย” เอิงบ่น ปราณนต์ใช้มือซ้ายรวบเอวขอดของเธอดึงเข้าหาตัว แล้วรีบเอามือขวาปิดปากเธอทันที เพื่อให้เธอเงียบ ทำให้ตอนนี้เธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดชายหนุ่ม ส่วนสูงของเธอแค่คางชายหนุ่มเท่านั้น สายตาของเธอเริ่มจับจ้องไปที่ลูกกระเดือกของเขา ‘คนอะไร หล่อยันลูกกระเดือก ลูกรักพระเจ้าชัดๆ’ เธอนึกบ่นในใจ ส่วนปราณนต์ไม่ได้สนใจมองคนในอ้อมกอดสักนิด สายตาของเขาจ้องมองไปที่ทางเข้าประตูหนีไฟเท่านั้น เมื่อเสียงเริ่มสงบลง จึงคลายมือที่ปิดปากเอิงเอยออก แต่มือซ้ายยังกอดเอวของเอิงเอยแนบเข้าหาตัวเขาไว้อยู่เช่นเดิม เอิงเอยไม่ได้ขัดขืนการกระทำของเขา เพราะเข้าใจสถานการณ์อันตรายตอนนี้ดี จนเวลาผ่านไปสักพัก เธอได้ยินเสียงหัวใจเต้น ไม่รู้เสียงมาจากเขา หรือมาจากเธอ หรือมาจากเราทั้งคู่กันแน่ ด้านปราณนต์ เขากำลังให้ความสนใจกับเหตุการณ์ด้านนอก ยัยนี่ก็พูดไม่หยุดเขาจำเป็นต้องรีบทำให้เธอเงียบ หลังจากเขาเห็นว่าด้านนอกน่าจะสงบแล้ว จึงปล่อยมือที่ปิดปากเธอออก เพื่อจะโทรหาเอกรัตน์ ให้ส่งคนมา แต่ยัยนี่ก็หายใจซะแรง จนลมหายใจของเธอไปปะทะกับบริเวณลูกกระเดือกของเขา อยู่ๆ ใจของเขาก็เต้นโครมครามอย่างกับกลองแถมตัวเขาเองก็ควบคุมไม่ได้ซะด้วย..บ้าจริง ยัยนี่ต้องเป็นปีศาจแน่ๆ แค่อยู่ใกล้หน่อยเดียวก็ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขนาดนี้ เขาเริ่มหงุดหงิดที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ “ข้างนอกน่าจะไปกันหมดแล้วนะคะ” เอิงยื่นหน้าไปใกล้ชายหนุ่ม เพื่อจะได้พูดเสียงให้เบาที่สุด แต่มันยิ่งทำให้หัวใจชายหนุ่มเต้นอย่างบ้าคลั่งขึ้นไปอีก ตึกๆๆๆ ตึกๆ ตึก จนแทบจะทะลุออกมาจากอกของเขา เขารีบถอยหลัง 1 ก้าวทันที ขืนปล่อยไปแบบนี้เขาต้องช๊อคตายก่อนแน่ๆ ยัยปีศาจนี่ ร้ายกาจจริงๆ “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ คุณร้อนมากเหรอ ทำไมหน้าแดงจัง” เธอเดินเข้ามาใกล้เขา แล้ว กระซิบถามที่ข้างหูเขาเสียงเบา ลมหายใจของเธอลดต้นคอเขาอีกครั้ง ครั้งนี้มันทำให้ท่อนล่างของเขาตระหนก ตื่นขึ้นมา เขารีบถอยออกห่างเธอ “อย่าเข้ามานะ” พูดจบเขาหันหลังให้เธอทันที ยัยนี่น่ากลัวกว่ามือปืนพวกนั้นอีก เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ทำไมอยู่ดีๆ ผลักเธอ แล้วหันหน้าหนี “ไม่” เขาตอบตัดบทไป “แต่…” เธออยากจะถามต่อ แต่โดนสั่งให้หยุดซะก่อน “หยุด” ยัยปีศาจนี่ถามมากจริง จะให้เขาบอกได้ไงว่า.. ตรงนั้นของเขามันตื่น ขืนเขาไม่รีบดันเธอออก ยัยปีศาจนั่นต้องรู้แน่ๆ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แม้บ้างครั้งเขาไปติดต่อคุยธุรกิจกับคู่ค้า อีกฝ่ายจะหาผู้หญิงเซ็กซี่นุ่งสั้นแทบจะแก้ผ้าอยู่แล้วมาบริการมายั่วยวนเขาเพื่อเอาใจ ตรงนั้นของเขายังนิ่งสงบ ไม่เคยแตกตื่น จนเขาภูมิใจในตัวเองมาตลอด ว่าเขาสามารถควบคุมสิ่งนั้นได้ แถมเวลาผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยเข้าใกล้เขาจะรู้สึกเหม็นเขียวจนทนไม่ไหว ต้องไล่ผู้หญิงเหล่านั้นออกไป แล้วรีบกลับไปอาบน้ำทันที เขามัวแต่ตกใจที่หัวใจเต้นแทบระเบิด จนลืมโทรบอกให้เอกรัตน์ส่งคนมาช่วยเลย บ้าจริง เรื่องเร่งด่วนขนาดนี้ ยัยนี่ยังทำให้เขาลืมได้ แต่โทรไปหลายสาย เอกรัตน์ก็ไม่รับสายเขาเลย ‘นายทำบ้าอะไรอยู่นะ’ เสียงปืนเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง แต่เสียงอยู่ไกลออกไปจากที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่พอสมควร “ขืนอยู่ที่นี่ต่อ แล้วฝั่งไหนสักฝั่งมาเจอเข้า มันคงไม่ปล่อยพวกเราไปแน่ ต้องรีบหาทางออกไป” เขาบอกเอิงเอย เขาเลือกโทรไปขอความช่วยเหลือจากแม่ของเขา แต่ไม่ทันได้โทร ก็ได้ยินเอิงเอยโทรหาตำรวจ ถ้าตำรวจมาแล้วเขายังอยู่ที่นี่ หุ้นบริษัทเขาดิ่งลงนรกแน่ เขาต้องออกไปจากตรงนี้ก่อนตำรวจมาให้ได้ ส่วนเอิงเอย เห็นปราณนต์กำลังโทรหาใครสักคน แต่อีกฝั่งไม่รับสายสักที เธอจึงโทร 191 เพื่อแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือ “คุณตำรวจคะ” ปราณนต์ที่กำลังจะโทรขอความช่วยเหลือจากมารดาได้ยินเอิงเอยคุยกับตำรวจ รีบคว้าโทรศัพท์มากดวางสายทันที “ทำอะไรของคุณ” เอิงเอยโวยวาย “เธอนั่นแหละจะทำอะไร” “ก็โทรให้ตำรวจมาช่วยเราไงคะ” “แล้วก็มีนักข่าวตามมาทำข่าว ถ่ายรูปพวกเราไปลงหน้าหนึ่ง แล้วตลาดหุ้นของบริษัทก็ดิ่งลงเหว เธอจะให้เป็นแบบนั้นเหรอ” “แต่เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนะคะ” “แค่เราอยู่ในที่เกิดเหตุ คนก็โยงได้หมดแล้ว” “คุณห่วงบริษัท มากกว่าชีวิตอีกเหรอ” เธอเริ่มเสียงดัง เธอคงไม่รู้ว่า บริษัทเขามีพนักงานกี่พันคน ถ้าบริษัทเกิดอะไรขึ้น คนนับพันจะทำยังไง แต่เขาไม่ได้อธิบายออกไปให้เธอฟัง “พูดเบาหน่อยสิ” เขาได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาทางนี้ ~ทางด้านนอกยังคงชุลมุนกันอยู่~ “ยังไงต้องจัดการไอ้จอร์จให้ได้ มันยังอยู่ในโรงแรมนี่แหละ แยกกันหา” “ครับ” เสียงคนกำลังเปิดประตูทางหนีไฟ แต่โชคดีที่ชายหนุ่มล๊อกไว้ตอนเข้ามา ชายหนุ่มดึงมือเธอวิ่งลงบันได คนร้ายได้ยินเสียงวิ่งจึงใช้ปืนยิงพังประตูเข้ามา แล้วรีบวิ่งลงบันไดตามลงไป ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวเริ่มวิ่งไม่ไหว “เธอรีบลงไป” “แล้วคุณหละ” “ไปสิ เดี๋ยวก็ได้ตายทั้งคู่หรอก” เขาดันเธอให้รีบวิ่งลงไป “เอิงจะไปให้คนมาช่วยนะคะ” เธอพยายามวิ่งต่อ แม้จะหายใจแทบไม่ทัน ส่วนปราณนต์หลบตรงมุมบันได พอคนร้ายวิ่งมาถึงไม่ทันระวังตัว เพราะยังได้ยินฝีเท้าคนวิ่งลงบันไดอยู่ ปราณนต์แกล้งวางโทรศัพท์ไว้ที่พื้น เพื่อให้คนร้ายชะงักหยุดเก็บ แล้วจัดการถีบมือคนร้าย ทำให้ปืนหลุดตกลงไปกองอยู่ที่บันได ปราณนต์รีบเข้าไปชกคนร้ายทันที คนร้ายสู้กลับ ทั้งสองจึงพลัดกันต่อยอีกฝั่ง เอิงวิ่งลงมาได้ 1 ชั้น ได้ยินเสียงต่อสู้จากชั้นบน ทำให้รู้สึกเป็นห่วงปราณนต์ เขาบอกให้เธอหนี แต่ตัวเองกำลังสู้คนร้ายอยู่คนเดียว เธอรีบวิ่งขึ้นไปช่วยปราณนต์ทันที เขากำลังยืนอยู่บนขั้นบันได ทำให้เสียเปรียบโดนคนร้ายง้างมีดกำลังจะแทงเขา เธอเหลือบไปเห็นปืนตกอยู่ รีบหยิบขึ้นมา “หยุดนะ” คนร้ายชะงัก มองไปตามเสียง “ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้” “ฮ่าๆ” คนร้ายหัวเราะ เพราะมันรู้ว่าปืนไม่มีลูกแล้ว ปราณนต์ได้โอกาสจับมือคนร้ายแล้วบิดข้อมือให้มีดตก คนร้ายจึงใช้อีกมือดันเขาให้กลิ้งตกบันได เอิงเอนลั่นไกทันที แก๊ก แก๊ก แก๊ก~~ เธอตกใจ ทำไมปืนยิงไม่ออก “ปืนไม่มีลูกจ๊ะสาวน้อย อย่าเสียเวลาเลย รอจัดการไอ้หมอนี่เสร็จ เราค่อยมาสนุกกันนะ” คนร้ายพูดพรางเดินไปหาปราณนต์ที่กำลังดันตัวขึ้น มีเลือดไหลอาบหน้า เธอเห็นคนร้ายหยิบมีดจะไปแทงปราณนต์ซ้ำอีก จึงรีบวิ่งเข้าไปทันที เธอใช้เท้าเตะมีดกระเด็นออกไปไกล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD