ดินเนอร์
“สวัสดีค่ะพี่เชนท์” ร่างบางในวันนี้แต่งตัวสวยเป็นพิเศษในชุดเดรทรัดรูปสีดำดูสง่าสวยหรูซ่อนเปรี้ยวนิดๆ
“สวัสดีครับแมวน้อยของพี่” มือหนาของเชนท์จับไปที่จมูกโด่งรั้นแสนสวยเข้ากับดวงหน้ารูปไข่ของน้ำชาอย่างเอ็นดู
“นี่ค่ะของฝากจากทริปหนีเที่ยวสวิต” ใบหน้างดงามหยิบกล่องใบเล็กในกระเป๋าแล้วยื่นให้กับแฟนหนุ่มยิ้มและส่งยิ้มให้จนตาหยี
“โห!!…อะไรกันน๊า??…ใจดีจัง” เชนท์ยิ้มรับกล่องของขวัญเพราะวันนี้เป็นวันครบรอบในการคบกันของคนทั้งคู่
“Anniversaries ค่ะพี่เชนท์ในวันครบรอบ 3 ปีของเรา”
“ขอบคุณครับ”
“คืนนี้พี่ขออนุญาตเป็นเจ้ามือนะครับแล้วไปฉลองต่อที่ห้องพี่ด้วยพี่มีอะไรจะให้เราเหมือนกัน” เชนท์ยิ้มกริ่มเขาเองก็มีของขวัญในวันครบรอบให้กับแฟนสาวอย่างน้ำชาเช่นกัน
“งื้อ!!…ทำไมต้องมีความลับด้วยต้องไปดูที่ห้องพี่เชนท์เลยเหรอ??”
“หึ!!….ไม่บอกอยากได้ก็ต้องไปเอาเองสิ”
“อย่าหลอกชาให้ไปขึ้นห้องพี่นะ”
“โถ่ว!!…ชา…เราก็คบกันมาตั้งนานเรื่องนี้ก็ไม่เห็นจะต้องอายหรือคิดมากเลยอีกหน่อยเราก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว”
“บ้า…พี่เชนท์ถ้าหม่อมแม่รู้คงจะไล่ชาออกจากบ้านแน่ๆที่แอบไปนอนค้างกับพี่เชนท์”
“พี่รักน้ำชาจริงๆนะครับ”
“ชาก็รักพี่เชนท์ค่ะ…ขอบคุณที่ทำให้ชาอยากเป็นคนที่ดีขึ้น”
มือหนาของเชนท์จับไปที่มือบางของน้ำชาอย่างอ่อนโยนยกขึ้นมาจุมพิตที่หลังมือเบาๆ ร่างบางยิ้มเขินอายที่แฟนหนุ่มนั้นแสดงออกถึงความรักและความคลั่งไคล้ในตัวเธอ แววตาออดอ้อนเป็นประกายนัยน์ตาบ่งบอกว่าค่ำคืนที่แสนโรแมนติกนี้เขาต้องได้อยู่กับน้ำชาแฟนสาวคนสวยผู้งดงามทั้งรูปโฉมและชาติตระกูลทั้งคืน ทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกันกระหนุงกระหนิงตามประสาคู่รักหนุ่มสาว แววตาที่น้ำชามองดูเชนท์แฟนหนุ่มผู้เพรียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาบุคลิกอันแสนอบอุ่นมีเสน่ห์ และพ่วงตำแหน่งทนายหนุ่มสุดฮอตมากความสามารถดีกรีค่าตัวว่าความทำคดีแพงอันดับต้นๆของประเทศ ในอนาคตไม่ช้าเขาก็จะได้เป็นอัยการที่ยังอายุน้อยซึ่งถือว่าเขานั้นมีความพร้อมแล้วในทุกด้าน
@คอนโดหรูของเชนท์
หลังจากผ่านการดินเนอร์แสนโรแมนติกเชนท์จึงอาสาขับรถแล้วพาน้ำชาขึ้นมาที่คอนโดส่วนตัวของเขา น้อยครั้งมากที่น้ำชาจะมานอนค้างกับเขาที่คอนโดเพราะเธอและเขานั้นให้เกียรติซึ่งกันและกัน จะมีเฉพาะวันพิเศษหรือโอกาสพิเศษเท่านั้น เชนท์เองก็งานเยอะไม่ค่อยมีเวลาว่างให้เธอสักเท่าไหร่ทั้งคู่จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง
“หืม!!!…หอมจังห้องพี่เชนท์สะอาดกว่าห้องชาเสียอีก”
“ชอบก็มานอนค้างกับพี่บ่อยๆสิครับ”
“งื้อ!!!…อย่าท้านะ”
“พี่อยากมีแม่บ้านส่วนตัวแล้ว”
“พี่เชนท์อย่าให้ความหวังชาแบบนี้”
“พี่จริงจัง…รอพี่นะครับพี่ได้เป็นอัยการเมื่อไหร่เราแต่งงานกันนะชา”
“ชาไม่ติดค่ะ”
“อาบน้ำก่อนมั๊ย?”
“ได้ค่ะงั้นชาขอตัวก่อนนะคะร้อนมากวันนี้อากาศ”
“ให้พี่อาบให้รึเปล่า??..”
“ไม่เอา….ชิ!!”
น้ำชาจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวของเธอนิดหน่อยเลือกชุดนอนและผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำธุระส่วนตัว เชนท์จึงส่งยิ้มหวานแล้วมองตามแผ่นหลังบางเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ หลังจากนั้นน้ำชาจึงเดินออกมาแล้วมานั่งเป่าผมตรงกระจกเชนท์จึงเดินเข้าไปห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายต่อ
“ Rrrrrrrrrrr!!!….. ”
“ Rrrrrrrrrrrrr!!!!…”
เสียงโทรศัพท์ของเชนท์ดังขึ้นมา 2 สาย เป็นเบอร์แปลกที่เขานั้นไม่ได้เมมชื่อเอาไว้น้ำชาจึงเดินเข้าไปดู เธอเองก็ไม่กล้ารับสายเพราะเกรงใจกลัวว่าจะเป็นการเสียมายาท จึงรอให้สายนั้นเงียบไปรอให้เชนท์ออกมาจากห้องน้ำแล้วค่อยบอกเขาอีกที
เชนท์เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพท่อนบนที่เปลือยเปล่าท่อนล่างสวมกางเกงนอนขายาวสีกรม อวดหนุ่นล่ำๆซิกแพคแน่นเป็นลอนสวยงามที่มีหยดน้ำเกาะติดตามผิวหนังและเช็ดผมที่เปียกหมาดๆ เข้ามาหาร่างบางที่กำลังจ้องมองดูมือถือของเขาอยู่
“แอบเช็คมือถือพี่อยู่เหรอครับ??” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกริ่มน้ำชาสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเพราะกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น
“เปล่าค่า!!!…พอดีมีเบอร์ที่พี่เชนท์ไม่ได้บันทึกไว้โทรมาตั้ง 2 สายเขาน่าจะมีธุระด่วนรึเปล่าพี่เชนท์ควรจะโทรกลับนะคะ”
“น่าจะลูกความนะครับตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยโทรกลับ”
“อ้อ!!!..ค่ะ”
“ชา!!!..เช็ดผมให้พี่ด้วยสิ”
“ได้ค่ะ”
หลังจากนั้นเชนท์และน้ำชาจึงได้ขึ้นมานอนบนเตียงหนานุ่มของเชนท์ น้ำชาเองเธอก็เขินเล็กน้อยที่เชนท์นั้นเอาแต่จ้องมองใบหน้าหวานของเธออย่างไม่วางตา เธอเองจึงแก้เขินด้วยการแกล้งหลับตาลงแสร้งว่าหลับไปแล้ว
“ชา…ลืมตาสิ”
“อื้อ!!!..พี่เชนท์ชาง่วงแล้วค่า”
“พี่จะนับ 1 - 3 นะถ้าชาไม่ลืมตาขึ้นมาดูพี่จะปล้ำ” สิ้นคำพูดของเชนท์น้ำชาจึงรีบเบิกตาโตมองไปตรงหน้าก็พบกับกล่องใบเล็กๆเป็นกล่องจิวเวลรี่แบรนด์ดัง น้ำชาตื่นเต้นในใจนั้นเต้นโครมครามเธอคิดว่าเชนท์กำลังจะขอเธอแต่งงานหรือเปล่า??
“Anniversary ครับแมวน้อยของพี่”
มือหนาของเชนท์จึงเปิดกล่องของขวัญข้างในเป็นสร้อยข้อมือประดับเพชรเม็ดเล็กๆ สวยงามวิบวับเหมาะกับข้อแขนเรียวของน้ำชามาก จากนั้นจึงสวมใส่ที่ข้อมือของน้ำชาอย่างเบามือ
“สวยจังเลยค่ะพี่เชนท์”
“เห็นมั๊ย??…ว่าพี่ไม่ได้หลอกให้ชาขึ้นห้องพี่มีของขวัญจะให้จริงๆ”
“จุ๊บ!!..”
น้ำชาจึงหอมไปที่แก้มของเชนท์เพื่อเป็นการขอบคุณ เชนท์จึงดีใจและกอดร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขน บรรยากาศและอารมณ์ของชายหนุ่มและหญิงสาวจึงพาไป ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองใบหน้าสวยหวานปากจิ้มลิ้มสีชมพูระเรื่อ จึงเลื่อนเข้ามาจูบที่ปากบางเบาๆน้ำชาจึงยอมให้เชนท์จูบอย่างละมุน ทั้งคู่จูบกันอย่างอ่อนโยนและเนิ่นนานผลัดกันดูดดุนแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม มือหนาจึงโอบรัดร่างบางให้เข้ามาแนบชิดกับตัว น้ำชาปล่อยกายปล่อยใจให้เชนท์นั้นเชยชมร่างงามอย่างหลงใหล
“Rrrrrrrrrrr!!”
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งน้ำชาและเชนท์จึงหยุดชะงักหลุดออกมาจากภวังค์ เชนท์จึงทำหน้าหงุดหงิดเขาจึงหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วกดรับสายแล้วนั่งลงตรงปลายเตียง น้ำชาจึงลุกขึ้นมานั่งมองดูแผ่นหลังกว้างของเขาก็ต้องแปลกใจที่พบกับรอยข่วนเป็นทางยาวทั้งสองด้านซ้ายขวาเป็นรอยเหมือนรอยเล็บ จึงพยายามมองเข้าไปดูใกล้ๆไม่ให้เชนท์รู้ตัว
“ผมอยู่กับแฟนเวลานี้ไม่สะดวกครับ…ต้องขออภัยด้วยพรุ่งนี้จะโทรกลับทันที”
หลังจากที่เชนท์วางสายเสร็จเขาเองก็หันหน้ามามองน้ำชาที่เธอนั้นนั่งอยู่ด้านหลังของเขาห่างเพียงแค่ไม่กี่คืบ เขาจึงยิ้มกริ่มคิดว่าน้ำชาแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์
“ลูกความขอร้องให้พี่ช่วยคดีน่ะ”
“อื้ม!!!..สงสัยจะเดือดร้อนมากนะคะโทรมาตอน 5 ทุ่ม”
“หึ!!..หึงพี่เหรอ?”
“เปล่าค่ะ”
“แล้วทำไมต้องทำหน้าบูดขนาดนั้น”
“พี่เชนท์มีคนอื่นนอกจากชาใช่ไหม??”
“ชา!!!…พูดอะไรพี่เนี้ยนะจะไปมีใครได้??”
“แล้วรอยข่วนตรงแผ่นหลังพี่จะอธิบายชาว่ายังไง?”
“พี่แค่เป็นผื่นลมพิษแล้วเผลอเอามือไปเกาก็แค่นั้นชาคิดมากนะเรา”
“เหอะ!!!..พี่เชนท์เล็บคงจะไม่ยาวขนาดนั้นแล้วรอยตรงนี้พี่ไม่น่าจะเกาถึง”
“ชา!!!..ไม่เอาแบบนี้สิ”
“พี่เชนท์ชาไม่ตลกนะ….พี่ควรจะบอกชามาตรงๆไม่ใช่แถแบบนี้”
“ชา!!!…พี่บอกว่ามันไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ” เชนท์เริ่มเสียงดังตะคอกใส่น้ำชาซึ่งปกติเขานั้นเป็นคนสุภาพไม่เคยทำกิริยาแบบนี้ใส่น้ำชาเลยสักครั้ง
“ชาขอตัวก่อนนะคะเอาไว้พี่พร้อมอธิบายเมื่อไหร่เราค่อยมาคุยกัน”
“ชา!!!…น้ำชาจะไปไหน??”
“ชาจะกลับไปนอนที่ร้าน”
ร่างบางที่ฝืนกลั้นน้ำตารีบเก็บกระเป๋าและสวมเสื้อคลุมทับชุดนอนเดินออกจากห้องของเชนท์อย่างรวดเร็ว ซึ่งเชนท์เองก็โกรธจัดไม่คิดว่าน้ำชานั้นจะทิ้งเขาไว้ในห้องเพียงคนเดียวในค่ำคืนพิเศษแบบนี้
“บ้า!!!.. บ้าที่สุดทำไมต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ด้วย”
เชนท์บ่นพึมพำกับตัวเองไม่คิดไม่ฝันว่าเขานั้นจะหลุดโป๊ะ…ซึ่งมีร่องรอยเล็บปริศนาทิ้งเอาไว้บนแผ่นหลังเขาเองก็มองไม่เห็นและไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ตอนนี้เขากระวนกระวายใจพยายามหาข้อแก้ต่างแต่น้ำชานั้นเป็นผู้หญิงฉลาดมีไหวพริบเธอเองนั้นคงจะระแวงและไม่เชื่อใจเขา
@ห้องนอนน้ำชาที่ร้าน
“ฮือๆๆๆๆๆๆ…..พี่เชนท์”
“ฮือๆๆๆๆๆๆ…ทำไมถึงทำกับชาแบบนี้??”
น้ำชานอนร้องไห้ทั้งคืนเธอคิดไม่ออกว่าเธอนั้นต้องทำตัวแบบไหน? ต้องรู้สึกอย่างไร ? จากที่เลิกคิดระแวงไปแล้วในตอนแรกมาตอนนี้กลับยิ่งเสียใจและผิดหวังมากๆ เธอเองนั้นไม่กล้าจะพูดเรื่องนี้กับใครเพราะอายและกลัวไปหมดจึงเผลอนอนหลับไปทั้งน้ำตา
เช้าวันต่อมา
มีนาได้เดินไปปลุกน้ำชาที่ห้องเธอด้านบนของร้านทั้งโทรหาน้ำชาหลายสายแต่ก็ไม่ยอมรับส่งข้อความก็ไม่เปิดอ่าน จึงโทรหาเพนนีให้มาดูน้ำชาเป็นเพื่อนเพราะเป็นห่วงคิดว่าน้ำชาอาจจะป่วย ปกตินั้นน้ำชาจะเปิดร้านแต่เช้าเธอจะเป็นคนลงมาเตรียมของและดูแลความเรียบร้อยในทุกๆเช้าเป็นคนแรก
“ก๊อก!!…ก๊อก!!!…ก๊อก!!!”
“ชา….น้ำชา….น้ำชาตื่นรึยัง??”
เพนนีและมีนายืนเคาะประตูห้องเรียกน้ำชาเสียงดังทั้งคู่พยายามเรียกให้ดังจนสุดเสียง แต่ก็ไร้วี่แววการตอบรับจากคนข้างใน
“มีนาแกมีกุญแจสำรองไหม??”
“หึ!!…ไม่มีว่ะแกทำไง?” มีนาส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“หรือว่าไอ้ชามันจะหลับลึกเมื่อคืนเป็นวันครบรอบ 3 ปีของมันกับพี่เชนท์คงจะแฮ้งค์หรือว่าออกกำลังกายทั้งคืนจนหมดแรง คิคิ!!”
“ลูกค้าแน่นร้านเลยเพนนียังไงฉันฝากแกปลุกน้ำชาด้วยถ้าไม่สบายก็ให้พักผ่อนหรือแกพาไปหาหมอที” มีนาทำสีหน้าเรียบเฉยแล้วขอตัวไปดูลูกค้า
“ได้ๆไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันดูมันเองแกรีบไปดูร้านเถอะ” มีนาจึงรีบเดินลงไปที่ชั้นล่างเพื่อรับออเดอร์ของลูกค้า
“ก๊อก!!…ชาฉันเองเพนนี…ก๊อก!!…ก๊อก!!!”
“แกร๊ก!!”
น้ำชาที่ยืนฟังมีนาและเพนนีคุยกันอยู่เมื่อมีนาเดินออกไปเธอจึงเปิดประตูแล้วรีบดึงเพนนีให้เข้ามาภายในห้อง เพนนีเองก็ตกใจกับสภาพของน้ำชาที่ดูโทรมมาก ตาแดงปูดบวมเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“ขุนพระ!!!..ชามันเกิดอะไรขึ้น??”
“ฮือๆๆ…..เพนนี”
น้ำชาสวมเข้ากอดเพนนีทันทีปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก เพนนีเองก็ตลึงไม่เคยเห็นเพื่อนมีอาการแบบนี้มาก่อน จึงลูบไปที่หลังของน้ำชาเบาๆ เป็นการปลอบประโลม รอให้น้ำชามีสติและไม่พูดอะไรทั้งนั้น