“แล้วเจ้านายทำยังไงครับ ปล่อยให้เธอตบหน้าเฉยๆ นี่หรือครับ”
โรซอฟเอ่ยถามพร้อมกับเดินเร็วๆ ตามเจ้านายหนุ่มเข้าไปในภายในคฤหาสน์หลังใหญ่
“บรั่นดีสักแก้วสิ โรซอฟ แล้วเราจะเล่าให้นายฟังตามที่นายอยากรู้”
“เอ่อ...เอ่อ...ก็อยากรู้จริงๆ นี่ครับว่าทำไมเจ้านายถึงถูกตบหน้า”
โรซอฟยิ้มเจื่อนๆ กับคำเหน็บแนม ก่อนจะรินบรั่นดีราคาแพงมายื่นให้เจ้านายหนุ่ม และของตนเองอีกแก้ว แล้วทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเพื่อรอฟังคำแถลงการณ์
“ท่าทางจะอยากรู้มาก” แดเนียลเหน็บลูกน้องอีกครั้ง กระดกบรั่นดีจนหมดแก้ว ก่อนจะเล่าให้โรซอฟฟัง “ตอนขึ้นเครื่องบินจากประเทศไทย อลินนาล้มลงมานั่งแหมะอยู่บนหน้าตักของเรา แถมหน้าอกอวบอิ่มยังปะทะกับปากของเราแบบเต็มๆ ด้วย”
“เจ้านายคิดว่าเธอจงใจใช่ไหมครับ”
“แน่นอน เราคิดแบบนั้น ใครๆ ก็จงใจจับเรา เรียกร้องความสนใจจากคนที่เป็นเจ้าของสายการบิน”
แต่ละคำพูดที่หลุดออกมาช่างหยิ่งทะนงยิ่งนัก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสาวๆ ทั่วทั้งรัสเซีย ต่างก็ต้องการเป็นหญิงคนรักของแดเนียล จรณินทร์ คาเรีย หนุ่มลูกครึ่งรัสเซีย-ไทย ผู้หล่อเหลาและร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของรัสเซีย
“แล้วเจ้านายทำยังไงต่อครับ”
โรซอฟตีสีหน้าจริงจังขณะเอ่ยถาม อยากรู้เรื่องของเจ้านายหนุ่มเป็นที่สุด
“ก็ทะเลาะกัน และอลินนาด่าเราว่าเป็นผู้ชายปากหมา”
“ฮ่ะ!”
โรซอฟกำลังยกบรั่นดีขึ้นจิบ พอได้ยินเช่นนั้นถึงกับสำลักพ่นบรั่นดีออกมาจากปาก
ไอโคลกๆ อยู่หลายครั้ง ก่อนจะเอ่ยถามออกมาได้
“ด่าว่าปากหมาเลยหรือครับ”
“ใช่ ไม่ได้ด่าแค่ครั้งเดียว แต่อลินนาด่าเราหลายครั้งด้วย”
ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความโมโห ตอนถูกอลินนาด่าว่าปากหมา เขาถึงกับสะอึกไปหลายนาทีเหมือนกัน
“ผู้หญิงอื่นมีแต่ป้อนคำหวาน แต่คุณอลินนาเล่นด่าเจ้านายซะยกใหญ่”
โรซอฟชักจะชอบหญิงสาวชาวไทยคนนี้ขึ้นมาแล้ว หญิงสาวกล้าต่อกรกับแดเนียลโดยไม่มีกลัว หากได้ปะทะฉะดะกันอีกคงสนุกน่าดู
“เพราะเหตุนี้ยังไงล่ะ เราถึงสนใจอลินนามากเป็นพิเศษ ยิ่งอลินนาต่อต้านหรือเกลียดเรามากเพียงใด เราก็ยิ่งสนใจและอยากเอาชนะหญิงสาวมากเท่านั้น”
“ทำไมคุณอลินนาถึงตบหน้าเจ้านายครับ”
คราวนี้โรซอฟค่อยๆ จิบบรั่นดีเพราะกลัวสำลักเหมือนเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ตั้งอกตั้งใจฟังเรื่องราวจากเจ้านายหนุ่ม
“เราชวนอลินนามาเป็นแขกพักในบ้านของเรา แต่เธอก็ยืนกรานปฏิเสธ เราคิดว่าเธอคงเล่นตัวเพราะอยากอัพราคาค่าตัว ก็เลยเสนอราคาให้เธอไม่อั้น และเราก็ได้ฝ่ามือหนักๆ เป็นคำตอบ”
“คุณอลินนาปฏิเสธไม่อยากเป็นแขกของเจ้านาย แถมยังตบหน้าเจ้านายด้วยที่ดันไปเสนอค่าตัวให้กับเธอ ผมคิดว่าคุณอลินนาน่าจะโกรธที่ถูกเจ้านายดูถูกเช่นนั้น”
“เราตอบไม่ได้ว่าเธอโกรธด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เห็นว่าตัวเล็กๆ หุ่นสะโอดสะอง แต่มือหนักชะมัด เล่นเอาเราหน้าชาไปทั้งแถบ”
แดเนียลยกมือขึ้นลูบตรงแก้มสากข้างที่ถูกอลินนาฝากรอยไว้ เกิดมาเพิ่งเคยถูกผู้หญิงด่าว่าปากปีจอ และตบจนหน้าหันก็คราวนี้นี่แหละ
“ถ้าผมไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่คอยจับผู้ชายรวยๆ หากถูกเสนอราคาแบบนี้ ผมก็คงตบผู้ชายคนนั้นหน้าหันเหมือนกันครับ”
“ไอ้โรซอฟ!”
แดเนียลเค้นเสียงเรียกชื่อลูกน้องพร้อมกับถลึงตาใส่หลังจากอีกฝ่ายพูดจบ ทำเอา
โรซอฟต้องยิ้มแห้งๆ ขยับตัวอยู่ไม่เป็นสุขด้วยเกรงว่าจะถูกเจ้านายหนุ่มประเคนหมัดให้สักหมัดสองหมัดที่บังอาจพูดเช่นนั้น
“เอ่อ...ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับ” โรซอฟแก้ตัวตามความเป็นจริง แล้วเอ่ยถามในสิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในใจ “ว่าแต่เจ้านายจะให้พวกผมเฝ้าตามดูคุณอลินนาเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลยหรือครับ”
“ตอนนี้แค่เฝ้าดูเท่านั้น”
แดเนียลกระตุกยิ้มตรงมุมปาก ดวงตาคมกริบวาบไหวก่อนจะเอ่ยบอกต่อ
“แล้วเราจะบอกนายอีกทีว่าต้องทำอย่างไร”
เพียงเท่านี้โรซอฟก็รู้ได้ในทันที ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำสั่งของเจ้านาย “ได้ครับ ผมจะเฝ้าคุณอลินนาไม่ให้คลาดสายตาเลยครับ”
“เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย โทร.มารายงานเราด้วยเมื่อพบอลินนาแล้ว เราจะไปพักสักสองสามชั่วโมง อยู่บนเครื่องบินไม่ได้นอนแม้แต่นาทีเดียว เหนื่อยชะมัด”
“ผมจะโทร.รายงานเจ้านายในทันทีที่พบคุณอลินนาครับ”
แดเนียลพยักหน้ารับ พลางลุกขึ้นยืนบิดกายเพื่อไล่ความเมื่อยขบที่แผ่ซ่านไปทั้งตัว จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตน ในหัวนั้นเต็มไปด้วยใบหน้าของอลินนา ทั้งในยามโกรธและในยามร่ำไห้
และขณะล้มตัวลงบนเตียงหนานุ่ม แดเนียลก็ฝากถ้อยคำไปถึงอลินนาว่า “ผมจะทำให้คุณลืมผู้ชายเลวๆ คนนั้นเอง”
แน่นอนว่าเขาจะทำให้อลินนาลืมอดีต ลืมผู้ชายที่สร้างบาดแผลไว้ในใจของเธอ และเขาจะเป็นคนรักษาแผลใจให้กับอลินนา
อลินนาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนภายในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนอารบัตด้วยความเหน็ดเหนื่อย ไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลยกับการลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินท่อมๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บและหิมะโปรยปรายในตอนบ่ายของวันนี้ กว่าจะเดินหาโรงแรมที่จองไว้พบ หญิงสาวทั้งเหนื่อย ทั้งหิว แถมยังหนาวเข้ากระดูกกับสภาพอากาศติดลบของกรุงมอสโคว์
“ขอนอนสักงีบก่อน แล้วค่อยออกไปหาอะไรกิน”
แม้ท้องจะร้องด้วยความหิว แต่อลินนาก็เหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะออกไปหาอะไรรับประทานในตอนนี้ หญิงสาวเคลื่อนตัวไปนอนกลางเตียงใหญ่ คว้าผ้าห่มมาคลุมกาย
แม้ภายในห้องพักจะมีเครื่องทำความร้อน แต่ก็ยังคงหนาวเหน็บอยู่ดี และด้วยอ่อนเพลียจากการเดินทางไกลข้ามทวีป ไม่ต้องใช้เวลานานหญิงสาวก็ผล็อยหลับไปในทันที
อลินนาไม่รู้ว่าหลับไปนานกี่ชั่วโมง แต่เมื่อความหิวร้องประท้วงอย่างหนักส่งให้หญิงสาวต้องตื่นจากการหลับใหล เมื่อเหลือบสายตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ก็ต้องร้องออกมาเบาๆ เพราะตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มเข้าไปแล้ว
“เราหลับไปนานขนาดนี้เลยหรือ”
อลินนาพึมพำกับตัวเอง ร่างบางเคลื่อนตัวลงจากเตียงนอน เข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ พร้อมกับบ่นอุบไปด้วย