บทที่ 2

1172 Words
“จ้าๆ ไม่ต้องจ้า” ปากบอกว่าไม่ร้อง แต่กลับยกมือปาดน้ำตาที่กำลังเอ่อคลอเบ้า          “อลินไปแล้วน่ะ” อลินนาต้องบังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือ กะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตา จากนั้นก็สวมกอดมนัสนันท์ไว้แน่น          “อย่าลืมสัญญน่ะ อลิน” มนัสนันท์ขอคำมั่นอีกครั้ง หลังจากผละออกจากอ้อมกอดแล้ว แต่ยังคงจับมือทั้งสอง ของอลินนาไว้          “ไม่ลืมจ้ะ อลินไม่ลืมแน่นอน” อลินนารับคำ ฝืนยิ้มหวานให้เพื่อน จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงมือออกเมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว          “อลินจะโทรมาหานันทุกวันตามสัญญา ดูแลตัวเองด้วยน่ะ...นัน”          “จ้ะ อลินก็เหมือนกัน”          อลินนายิ้มให้เพื่อนอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นบันไดเลื่อน เพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และขณะบันไดเลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ไม่ลืมหันมาโบกมือลาและส่งยิ้มให้มนัสนันท์เป็นครั้งสุดท้าย คงอีกหลายเดือน...กว่าเธอจะกลับประเทศไทย และแน่นอนว่าเธอไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับมนัสนันท์ เธอจะวีดีโอคอลมาหาเพื่อนรักในทุกวันตามที่สัญญาไว้          อลินนานั่งน้ำตาซึมรอเวลาพนักงานของสายการบินเรียกขึ้นเครื่องบิน ซึ่งในตอนนี้เริ่มทำการเรียกให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจได้ขึ้นเครื่อง ตามด้วยชั้นธรรมดาตามลำดับ หญิงสาวนั่งฟังเสียงประกาศที่เรียกชั้นธรรมดาและแบ่งตามคลาสของตั๋ว เมื่อหลุบสายตามองตั๋วเครื่องบินที่ถืออยู่ในมือ และถึงคิวของตนที่ต้องขึ้นเครื่องบินแล้ว ก็ยกมือปาดน้ำตาให้เหือดแห้ง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อระงับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปยังทางออกเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน ซึ่งตอนนี้ผู้โดยสารนับสิบๆ คนกำลังทยอยเดินขึ้นเครื่องบินอย่างเป็นระเบียบ          ด้วยผู้โดยสารมีมากเกือบสองร้อยคน พอเดินเข้ามาในเครื่องบินซึ่งมีทางเดินทางเดียว แถมผู้โดยสารบางคนกำลังยกกระเป๋าสัมภาระเก็บไว้ในช่องเก็บสัมภาระ ส่งให้การเดินเข้าไปภายในเครื่องบินยิ่งติดขัดสามารถเดินเข้าไปได้อย่างช้าๆ และเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ขณะกำลังเดินผ่านที่นั่งชั้นธุรกิจ หญิงสาวก็ถูกกระแทกจากข้างหลังเต็มแรง กระทั่งร่างบางเซถลาล้มลงไปปะทะกับผู้โดยสารคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในชั้นธุรกิจ          “I’m sorry...เอ่อ...ขอโทษค่ะ”          อลินนาเต็มไปด้วยความตกใจ ขณะดันตัวลุกขึ้นจากหน้าตักของอีกฝ่ายก็ละล่ำละลักเอ่ยขอโทษทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษปนเปไปหมด คิดว่าผู้โดยสารคนดังกล่าวคงให้อภัยเพราะเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ แต่แล้วก็ต้องนิ่งงันเมื่อได้ยินเสียงตอบกลับเป็นภาษาไทยอย่างเยาะหยันดูถูกกันเป็นที่สุด          “เป็นวิธีเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายที่แยบยลมาก แกล้งล้มมาบนหน้าตัก แถมหน้าอกหน้าใจก็ปะทะเข้ามาตรงใบหน้าของผมพอดิบพอดี”          อลินนาหน้าชาซะยิ่งกว่าถูกตบหน้า กับคำพูดดูถูกที่แล่นมากระทบโสตประสาทซึ่งหลุดออกมาจากปากของผู้โดยสารคนนี้          “นี่! ฉันไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากคุณหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น ไม่เห็นหรือยังไงว่าฉันถูกกระแทกจากทางด้านหลัง” อลินนาไม่ยอมให้ถูกด่าฟรีๆ เหมือนกัน หญิงสาวด่ากลับในทันควัน ใบหน้างามบึ้งตึงถลึงตาเขียวปั้ดใส่อีกฝ่าย          และหนุ่มลูกครึ่งไทย-รัสเซีย ผู้หล่อเหลา ซึ่งปากจัดซะยิ่งกว่าผู้หญิง ก็ไม่น้อยหน้า ไม่ยอมให้อลินนาด่าเขาแค่ฝ่ายเดียวเช่นกัน “มุขเก่าๆ อ้างว่าถูกกระแทกถูกผลัก แต่จริงๆ แล้วตั้งใจและจงใจล้มลงมาบนหน้าตักของผู้ชายที่หล่อและรวยเพื่อเรียกร้องความสนใจ”          “ไอ้บ้า! ฉันไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากคุณ!”          “ฮึ! มุขเชยๆ ของผู้หญิงที่ตั้งใจจับคนรวย ผมจะบอกว่ามันล้าสมัยแล้วคุณ” ชายหนุ่มยิ้มเยาะตรงมุมปาก มองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียดๆ          “เอ๊ะ!” อลินนายกมือเท้าสะเอว กำลังจะพ่นวาจาด่ากลับคืน แต่ถูกผู้โดยสารที่ยืนอยู่ข้างหลังสะกิดให้เดินต่อไป แถมแอร์โฮสเตสกำลังเดินตรงมาด้วย แน่นอนว่าแอร์โฮสเตสกำลังมาดูแลผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ไม่ได้มาดูแลอลินนาซึ่งเป็นผู้โดยสารแค่ชั้นธรรมดาเท่านั้น “ฝากไว้ก่อนเถอะ” อลินนาขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน จ้องมองเขม็งอย่างกับจะกินเลือด ฝากรอยแค้นไว้กับผู้ชายที่เป็นคู่กรณี และแน่นอนว่าชายหนุ่มผู้นี้ก็ส่งสายตาพิฆาตแบบเดียวกันให้กับอลินนา แถมยังเอ่ยแนะนำตัวแกมเยาะหยันตามหลังหญิงสาวด้วย “รีบมาเอาคืนแล้วกัน และจำให้แม่นว่าผู้ชายที่คุณตั้งใจจะ ‘จับ’ ชื่อ แดเนียล จรณินทร์ คาเรีย” “แล้วฉันจะจำไว้” อลินนาตอบกลับโดยไม่ได้หันไปมอง ยังหงุดหงิดไม่หายที่จู่ๆ ก็ถูกผู้ชายที่ชื่อแดเนียลกล่าวหาเช่นนี้ และไม่รู้ว่าเป็นความซวยของเธอหรืออย่างไรกัน เมื่อที่นั่งของเธออยู่ในแถวที่นั่งแรกๆ ของชั้นธรรมดา แน่นอนว่าอยู่ห่างจากชั้นธุรกิจแค่เพียงไม่กี่ก้าว หากแอร์โฮสเตสไม่ปิดผ้าม่านกั้นระหว่างชั้นธุรกิจกับชั้นธรรมดา หญิงสาวก็สามารถมองเห็นคู่กรณีที่ปากจัดซะยิ่งกว่ากรรไกรได้อย่างชัดเจน          อลินนาจ้องมองไปยังอีกฝ่ายเขม็งซึ่งตอนนี้เห็นแค่ศีรษะของเขา และไม่ลืมฝากคำเจริญพรไปถึงแดเนียล ปากปีจอด้วย          “ฮึ! ผู้ชายทุเรศ หล่อ รวย แต่ปากหมาและหัวสมองเต็มไปด้วยขยะ”          แน่นอนว่าแดเนียลได้ยินคำพูดของอลินนาชัดทุกถ้อยทุกคำ เพราะหญิงสาวจงใจด่าเสียงดังให้แล่นเข้าไปปะทะโสตประสาทของเขา          อลินนาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับดึงสายคาดเข็มขัดมาคาดเอว ความหงุดหงิดยังวิ่งวนอยู่ทั่วตัว ที่ถูกผู้ชายแปลกหน้าพูดจาดูถูกถากกาง และยิ่งเหลือบสายตามองไปยังที่นั่งโซนชั้นธุรกิจก็ยิ่งโมโห จนต้องรีบเบือนหน้าหนีหันไปมองนอกหน้าต่างเครื่องบิน ทอดสายตามองบรรยากาศของสนามบินสุวรรณภูมิในยามเย็น แม้ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าช่างสวยงาม ดวงอาทิตย์กลมโตสีส้มอมแดงค่อยๆ เคลื่อนตัวลงต่ำลาลับขอบฟ้า แต่ความงดงามเหล่านี้ไม่ได้ซึมซับเข้าสู่หัวใจของหญิงสาวแม้แต่นิดเดียว          ใบหน้างามยังคงหมองเศร้า ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยแววหม่นหมองมีหยาดน้ำตารื้นขอบตาแทบตลอดเวลา และเมื่อหัวใจเจ้ากรรมไพล่คิดถึงความเจ็บปวดที่ได้รับจากคนทรยศ หยาดน้ำตาใสก็ร่วงรินลงมาโดยไม่อาจหักห้ามไว้ได้ จนต้องยกมือเช็ดคราบน้ำตาพร้อมกับขบเม้มริมฝีปากจนแทบเป็นเส้นตรง ซึ่งหญิงสาวหารู้ไม่ว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของแดเนียลในทุกนาที 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD