ตอนที่ 5 หมายหัว

1834 Words
รถยนต์ที่แล่นเข้ามาในบ้านทำให้ผู้ที่ยังอยู่ในสวนหันไปมอง จะว่าเป็นสองแม่ลูกก็น่าแปลกใจเพราะเพิ่งออกไปกันยังไม่ถึงชั่วโมงเลย แต่นั่น รถสปอร์ตราคาแปดหลักสีดำดูคุ้นตาว่าเป็นรถของลูกชายเธอ หญิงวัยหกสิบปีจึงเดินออกไปดู กันต์ธรลงจากรถมาพร้อมกระเป๋าสะพายใส่ของ แบบนี้ทุกครั้งไม่ว่าออกจากบ้านหรือกลับเข้าบ้าน คุณสายใจจึงเรียกแม่บ้านให้รีบออกมาเอาของไปเก็บให้ลูกชาย "ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจังเลยล่ะ" อีกสิบนาทีสี่โมงเย็น ทั้งที่ลูกชายเธอไม่ค่อยกลับเร็วสักครั้ง "คนไข้หมดเร็วน่ะครับ" นานๆ มาทีตั้งแต่ช่วงบ่ายสองโมง เขาคิดว่านานๆ จะมีคนไข้น้อยจึงคุยกันกับเพื่อนว่ากลับไปพักผ่อนกันดีกว่า เป็นหมอที่รักษาคนไข้ก็ต้องเซฟสุขภาพตัวเองเช่นเดียวกัน "แล้วน้องแก้มล่ะครับแม่" ปกติแล้วเวลาเขาเลิกงานก็จะมีเด็กหญิงตัวอวบอ้วนแต่วิ่งเร็วมากรีบมารับพ่อ ทั้งกอดทั้งหอมให้ชื่นใจ "ออกไปข้างนอกกับแม่เขา แม่อนุญาตเอง" รีบบอกลูกชายเพราะกลัวลูกชายจะไปลงกับแม่ของลูก เธอคิดว่าเรื่องเล็กน้อยอย่าเอามาทะเลาะกันเลย ปกติเกศรากับลูกสาวก็ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แล้ว เธอเห็นว่าครั้งนี้หลานสาวอยากไปจริงๆ ก็สงสารเกศราด้วยนั่นล่ะอยู่แต่บ้าน ลูกสะใภ้เธอยังเด็กอยู่เลย จะให้อยู่แต่บ้านเหมือนคนแก่อย่างเธอได้ยังไง "ไปที่ไหนครับ" ไม่เห็นบอกอะไรเขาสักอย่าง มือถือก็มีไม่โทร ทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้นะ! "ไปห้าง ก็ลูกสาวกันต์น่ะสิตื๊อแม่ของเขาให้พาออกไปเปิดหูเปิดตา บอกว่าเบื่อบ้านแล้วว่างั้น" "แล้วไปกันผู้หญิงสองคนแบบนั้นน่ะเหรอครับ ไม่คิดเลยว่ามันจะอันตราย" คนถามติดน้ำเสียงหงุดหงิดขึ้นมา ถ้าเกิดอะไรขึ้นใครจะไปช่วยไว้ได้ทัน "เปล่าหรอกกันต์ แม่ให้ลุงศักดิ์พาไปน่ะกันต์อย่าห่วงเลยนะ เดี๋ยวก็กลับมากันแล้ว ลูกสาวเราเหนื่อยเดี๋ยวแม่เขาก็พากลับมาเองนั่นแหละ" "งั้นผมไปพักแล้วครับ" ไม่อยากสาวความต่อให้อารมณ์หงุดหงิดมากไปกว่านี้จึงเดินเข้าไปในบ้านแล้วขึ้นไปยังห้องด้านบน แม่เขาก็แบบนี้ตลอด เข้าข้างเกศราทุกที ให้ท้ายกันแบบนี้ไงถึงได้ทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่คิดถึงความปลอดภัยของลูก เขารีบเข้าไปอาบน้ำเพราะร้อน เรียกความสดชื่นให้ร่างกาย เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผ้าขนหนูพันท่อนล่าง ส่วนท่อนบนมีหยดน้ำใสเกาะตามตัว อวดมัดกล้ามฉบับคนที่ชอบดูแลตัวเอง เขาจะออกกำลังกายอาทิตย์ละสองถึงสามวันแล้วแต่โอกาส ผิวขาวตั้งแต่เกิด รวมทั้งอยู่แต่ในห้องแอร์ทั้งวันแทบไม่โดนแดด เลยทำให้ผิวเขาขาวมากกว่าคนปกติที่ทำงานด้านนอก เดินไปหยิบไวน์เย็นๆ ที่แช่ไว้ในตู้เย็นขนาดเล็กออกมาดื่มเพื่อเรียกความสดชื่น พร้อมทั้งเรียกน้ำย่อยก่อนจะถึงอาหารมื้อเย็น หยิบโทรศัพท์มือถือมาต่อสายหาแม่ของลูกว่าจะกลับตอนไหนกัน ไม่ใช่ว่าเขาพิศวาสอยากคุยกับเกศรานักหรอก แต่เขาอยากทราบความเป็นอยู่ของลูกมากกว่า ทว่าเสียงสั่นเตือนมันกลับดังอยู่แถวๆ นี้ทำให้เขาเดินหา กระทั่งเดินเข้ามาถึงภายในห้องนอนของลูกสาวกับเกศรา สายตาคมเหลือบมองไปเห็นสมาร์ตโฟนที่มีไฟตรงหน้าจอแสดงขึ้นวางบนที่นอนจึงรีบตัดกดทันที นี่อีกอย่างที่เขาหงุดหงิด ไปไหนไม่รู้จักพกโทรศัพท์ ไม่รู้หรือไงว่าคนมันเป็นห่วงมาก คอยดูว่ากลับมาเขาจะสั่งสอนที่ไม่เอาไปด้วยอีกหนึ่งกระทง! ด้านซุ้มของเล่นเด็กเปิดเพลงเสียงดัง เกศราได้ชานมไข่มุกแก้วหนึ่งนั่งรอลูกสาวกำลังเล่นบ้านบอล มองดูเด็กหญิงตัวอวบมีพลังเยอะมากวิ่งเล่นกับเพื่อน ทั้งคู่บังเอิญมาเจอกันก็เลยสนุกยาว แต่แม่ของเพื่อนลูกสาวไปเดินเลือกซื้อของ ส่วนเธอไม่รู้จะไปไหนจึงอาสานั่งเฝ้า "คุณเกศ!" ร่างบอบบางหันขวับ ก่อนจะฉีกยิ้มออกมาเมื่อเจอคุณครูประจำชั้นของลูกสาว เป็นชาวลูกครึ่งไทยอังกฤษที่พูดได้สองภาษาทั้งไทยอังกฤษ ลูกของเธอเรียนโรงเรียนเอกชนตามที่พ่อของแกประสงค์อยากให้เรียน คุณครูเกือบครึ่งของโรงเรียนเป็นชาวต่างชาติกัน "สวัสดีค่ะอาจารย์ปีเตอร์" เกศรายกมือไหว้ตามธรรมเนียมประเพณี อีกฝ่ายก็รับไหว้เธอ ปีเตอร์อายุมากกว่าหญิงสาวแปดปี "คุณเกศมาทำอะไรที่นี่ครับ" ปีเตอร์ถามยิ้มๆ ก่อนสายตาจะกวาดมองหาเข้าไปด้านในยังสนามเด็กเล่น "เกศพาน้องแก้มมาเล่นบ้านบอลค่ะ" ว่าแล้วชี้มือให้ดู นอกจากน้องแก้มมีน้องเค้กด้วยอีกคน ซึ่งคุณครูประจำชั้นท่านนี้ก็จำนักเรียนของตัวเองได้ ปีเตอร์โบกมือทักทายเด็กนักเรียนทั้งสองคน คนด้านในก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจที่ได้เจอคุณครูตัวเองที่นี่ ก่อนจะวิ่งไปเล่นกันต่อ "ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับ" ปีเตอร์บอกอย่างสุภาพ "อะ..อ๋อ ได้เลยค่ะ อาจารย์ปีเตอร์มาเที่ยวเหรอคะ" เกศราขยับเก้าอี้เล็กน้อยเพื่อให้อีกฝ่ายได้แทรกตัวเข้ามานั่งข้างๆ "เปล่าหรอกครับ ผมแวะมาทานข้าว กำลังจะกลับแล้วแต่เจอคุณพอดีเลยแวะเข้ามาทักก่อน" "อ๋อค่ะ" เกศราพยักหน้ารับยิ้มๆ เธอเคยได้ยินจากลูกว่าอาจารย์ปีเตอร์อาศัยอยู่แถวๆ นี้ ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะมา "คุณเกศแต่งตัวแบบนี้น่ารักดีนะครับ" เสื้อกล้ามสีชมพูกับกางเกงขาสั้นสีขาว มีกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กๆ สีดำ ทุกครั้งที่เขาเห็นเกศราไปส่งลูกสาว หญิงสาวค่อนข้างเรียบร้อยมาก กางเกงขายาวหรือกระโปรงยาวดูไม่เข้ากับเธอเท่าไหร่ แต่วันนี้กลับดูเซ็กซี่น่ารักๆ ดูเป็นตัวเธอ ถ้าบอกว่ายังไม่มีลูกเขาเชื่อสนิทใจ "ขอบคุณค่ะ" เกศราโค้งศีรษะรับพลางขยับกายเล็กน้อย เธอแอบคิดว่าที่นี่คือที่เที่ยวไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะลูกสาวตัวน้อยก็รีบด้วย แต่หากต้องไปสถานที่ราชการหรือสถานที่อย่างเป็นทางการ คลุมทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่เธอต้องปฏิบัติ เธอมักถูกย้ำมาเสมอว่าเธอมีลูกแล้วไม่ควรทำตัวให้ลูกขายหน้า ทั้งคู่นั่งสนทนากันไปเรื่อยๆ ส่วนเด็กข้างในไม่มีทีท่าว่าจะหมดแรงสักที แต่อีกยี่สิบนาทีจะหมดเวลาเล่นรอบที่สองแล้ว แต่ละรอบกินเวลานานถึงสี่สิบนาที เกศราต้องชวนลูกกลับเพราะนี่ก็เริ่มเย็น "น้องแก้มกลับกันค่ะ" มือเรียวกวักเรียกลูกสาวให้ออกมาได้แล้ว หกโมงเย็นคือเวลาที่พ่อของอีกฝ่ายกลับมา เธอไม่อยากให้มีปัญหา "เล่นอีกรอบไม่ได้เหรอคะคุณแม่" เด็กน้อยใบหน้ายู่ แก้มอ้วนๆ จากสีขาวอมชมพูเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเหนื่อย เดินมาเกาะขอบตาข่ายถามผู้เป็นแม่ เธอยังสนุกอยู่เลย และแม่ของเพื่อนเธอจ่ายเอาไว้ตั้งสามรอบ "วันนี้เย็นแล้วค่ะ เอาไว้วันหลังแม่พามาใหม่นะคะ คุณย่ารอทานข้าวค่ะ" เด็กน้อยหน้ามุ่ยแต่ก็ไม่ได้แย้งอะไร จำยอมเดินกลับไปบอกเพื่อนว่าจะกลับบ้านแล้ว ท่ามกลางอาจารย์หนุ่มที่มองตามพฤติกรรมแล้วอมยิ้มตาม เกศราเลี้ยงลูกดีมาก ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พูดคุยอย่างมีเหตุผลจนเด็กน้อยที่อยู่ในวัยเอาแต่ใจยอมเชื่อฟัง "ทีเชอร์ไปซื้อขนมด้วยกันไหมคะ" เมื่อเดินออกมาจากบ้านบอลแล้วสวมรองเท้าเสร็จจึงเงยหน้าถามคุณครูประจำชั้นของตัวเองที่ยืนอยู่ข้างแม่ "เอ๋?" ปีเตอร์เลิกคิ้ว "แต่เราต้องกลับกันแล้วนะคะน้องแก้ม" เกศราส่ายหัวห้ามปรามลูกสาว ที่ยอมว่าง่ายเมื่อกี้เพราะมีแผนใช่ไหม บางทีกรธิดาหัวดีเกินไป ไม่อ้อนแม่แต่หันไปอ้อนคนอื่นแล้วทำให้แม่ต้องเกรงใจแทน ปีเตอร์อมยิ้มนิดๆ ปล่อยให้สองแม่ลูกเขาคุยกันก่อน ถือว่าเขาเป็นคนนอก หากเกศราห้ามลูกแล้วพากลับเขาคงต้องปล่อยไป "น้องแก้มยังไม่ได้ขนมเลยค่ะคุณแม่ขาาาา แม่เกศคนสวยพาน้องแก้มไปซื้อขนมก่อนกลับหน่อยนะคะ" เด็กน้อยยื่นเข้าไปจับมือแม่ ซบหน้าลงไปกับแขน ถูไถเหมือนแมวอ้อนเจ้าของมัน เกศรามองลงอย่างจ้องจับผิด นี่ไง ทั้งปากหวานทั้งการกระทำ แต่เธอจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด "นี่เย็นมากแล้ว คุณย่ารอทานข้าวค่ะ" เธอยังยืนยันคำเดิม อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็หกโมงเย็นแล้ว กว่าจะเดินทางกลับรถติดอีก อะไรน่าหวาดเสียวลูกสาวน่าจะรู้ดี "น้าๆ" เด็กตัวอ้วนยังคงออดอ้อนแม่ของเธอไม่หยุดให้เห็นใจลูกสาวตัวน้อยที่นานๆ ได้ออกมาเที่ยวที เสียงเล็กเสียงน้อยขนาดนี้ทำไมแม่ยังไม่ใจอ่อนอีกนะ "ก็ได้ค่ะ ไม่ซื้อนานนะคะลุงศักดิ์รอ" เกศราบอกอย่างอ่อนใจ เสียเหลี่ยมลูกสาวตลอดเลย เธอคิดว่ารีบไปซื้อดีกว่าเสียเวลาอธิบายกันนานอย่างนี้ "ได้ค่า ไปกันค่ะทีเชอร์" แล้วมือเรียวก็ปล่อยจากมือแม่ตัวเองไปจับมือทีเชอร์ทันที "ไปกับแม่สองคนค่ะ ทีเชอร์จะกลับแล้ว" เกศราส่ายหน้าห้ามปรามลูกสาว น้ำเสียงมีความดุอยู่ในนั้นด้วย "ผมไม่ได้รีบอะไรครับ คอนโดผมอยู่ใกล้แค่นี้เอง" ปีเตอร์รีบบอก ถ้าเกศรารีบเขาจะช่วย เพราะดูท่าลูกสาวตัวน้อยของเธอจะไม่ยอมเลย ดีแค่ไหนที่ยอมออกจากบ้านบอลมา เขาเคยเห็นเด็กคนอื่นๆ นะที่แม่พามาเที่ยว บางคนร้องห่มร้องไห้เสียงดังลั่นอย่างเอาแต่ใจก็มี "ไม่รบกวนอาจารย์ปีเตอร์ใช่ไหมคะ" "ไม่เลยครับ รีบไปกันครับ" เด็กหญิงตัวน้อยที่ได้ยินอย่างนั้นยิ้มกว้าง เข้าทาง! รีบรั้งมือของอาจารย์ประจำชั้นให้เดินตามอย่างรู้งาน ท่ามกลางเกศราที่มองตามหลังแล้วส่ายหัว แสบจริงๆ ก่อนจะรีบเดินตามคนทั้งสองไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD