@15.00น.
หลังเด็กหญิงตัวน้อยนอนตามเวลาที่โรงเรียนกำหนดในห้องนั่งเล่น วัยกำลังกินกำลังนอน ตื่นมาจึงอ้อนแม่ว่าอยากออกไปข้างนอก
"คุณแม่ขา น้องแก้มอยากออกไปเที่ยวค่ะ" พร้อมทั้งทำตาปริบๆ อ้อนคนเป็นแม่ขณะที่เดินมานั่งลงใกล้ๆ
ทุกครั้งก่อนนอนเธอจะเจอแม่เป็นคนสุดท้าย พอตื่นนอนก็จะเจอผู้เป็นแม่คนแรกเช่นกัน
"ที่ไหนคะ" เกศราถามยิ้มๆ สองมือรั้งอีกฝ่ายเข้ามากอดแนบอก จมูกเรียวทั้งกดทั้งหอม กลิ่นลูกสาวตัวน้อยได้ดมทีไรชื่นใจทุกทีเลย
"ไปห้างที่คุณพ่อเคยพาน้องแก้มไปค่ะ"
"แต่คุณพ่อก็พาไปทุกวันหยุดอยู่แล้วนี่คะ" เด็กหญิงกรธิดาหน้ายู่ทันที
"แต่มันนานเกินไปนี่คะคุณแม่" ปกติเธอจะได้ไปอาทิตย์ละหนึ่งครั้งไม่วันเสาร์ก็วันอาทิตย์ แต่พอปิดเทอมอยู่แต่บ้านมันน่าเบื่อเกินไป
เกศราลำบากใจ เพราะเขาเคยกำชับไว้ว่าหากต้องพาลูกออกไปข้างนอกเขาจะเป็นฝ่ายพาลูกไปเอง ไปโดยที่ไม่มีเธอไปด้วย
ยกเว้นเวลาที่ลูกต้องไปเรียนซึ่งเขาไม่สามารถไปส่งได้นั่นถึงเป็นเวลาของเธอ ทั้งไปรับไปส่ง ซึ่งก็ให้คนขับรถของที่บ้านพาไป
"แต่น้องแก้มเบื่อไงคะคุณแม่ เบื่อๆๆ ที่สุดในสามโลกเลยค่ะ" เด็กหญิงตัวน้อยวาดมือออกกว้าง ก่อนจะเอามือกอดอกตัวเองแล้วทำท่าเซ็ง
เกศราเห็นใจลูกสาวตัวน้อยอยู่บ้าง แต่ทำยังไงได้ล่ะ เธอก็ต้องเชื่อฟังพ่อของลูก เขาบอกยังไงมาก็ต้องทำตาม เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน แล้วคนที่ต้องมาโดนเขาต่อว่าทุกครั้งก็คือเธอ
"งั้นเราลองไปขออนุญาตคุณย่าดูมั้ยคะคุณแม่" เด็กน้อยปิ๊งแผน ในเมื่อแม่ไม่กล้าไปขอคุณย่าดีกว่า
"จะดีเหรอคะลูก" เกศราทำสีหน้าเลิ่กลั่ก ไม่คิดว่าลูกสาวจะมาไม้นี้ ยิ่งโตยิ่งมีความคิด ทั้งคำพูดที่แปลกจากเดิมไปทุกที อะไรที่ไม่เคยได้ยินก็ได้ยิน
"ดีแน่นอนค่ะ ไปกันค่ะคุณแม่" แล้วเด็กหญิงตัวน้อยก็พยายามรั้งมือของผู้เป็นแม่ให้เดินตาม
สองแม่ลูกจูงมือกันไปด้านนอกหาคุณย่าที่นั่งอยู่ในส่วนดอกไม้ ได้ยินแต่เสียงหัวเราะมาจากไกลๆ คนแก่สมัยนี้มีไอแพดไว้ดูแก้เหงา
"คุณย่าขาาา.." เด็กหญิงกรธิดาไปถึงก็รีบเข้าไปอ้อนคุณย่าของเธอทันที เมื่อรู้ว่าทำอย่างไรย่าจะใจอ่อน
ความจริงย่าเธอใจดีมากอยู่แล้ว แต่ทำแบบนี้ย่าจะสามารถอนุญาตได้เร็วขึ้น
คนเป็นย่ายิ้มหวานแล้วรั้งหลานสาวเข้ามากอด
"ตื่นแล้วเหรอคะลูก หลับสบายดีมั้ยเอ่ย"
"หลับสบายดีที่สุดในสามโลกเลยค่ะ แต่.."
"แต่อะไรคะลูก ย่าให้พี่แม่บ้านเขาปัดฝุ่นให้แล้วนะคะ แม่เกศของน้องแก้มไม่แพ้แน่นอนค่ะ"
เกศราอมยิ้มเล็กน้อย ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็ได้รับความเอ็นดูจากท่านมาเสมอ ถึงแม้ว่าเธอเพียงแค่พลาดท้องกับลูกชายท่าน แต่ท่านก็ยังปฏิบัติอย่างเธอเช่นสะใภ้ไม่เปลี่ยน
"พูดสิคะคุณแม่" เด็กหญิงกรธิดาโบ้ยปากมาหาแม่ตัวเอง ทำเอาเกศราที่ไม่ทันตั้งตัวทำหน้าเหวอ คิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะมาไม้นี้ เมื่อกี้ใครบอกว่าจะมาขออนุญาตคุณย่านะ
"มีอะไรเอ่ย" คนแก่ทำหน้ายิ้มๆ มองเกศราและกรธิดาสลับกันไปมา สองแม่ลูกคู่นี้มีอะไรกัน
"คือ..เกศจะขออนุญาตพาน้องแก้มออกไปข้างนอกได้ไหมคะคุณแม่ พอดีน้องแก้มอยากออกไปเที่ยวค่ะ หลานสาวคุณแม่เบื่อบ้านแล้วค่ะ" เกศราเรียกอีกฝ่ายว่าแม่เพราะท่านให้เรียก ถึงแม้เมื่อก่อนมันจะไม่เข้าหูใครก็ตาม แต่ท่านบอกอย่าไปใส่ใจ และตอนนี้เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้ว
"ใช่ค่ะคุณย่า ตอนนี้น้องแก้มเบื่อมากๆๆ เบื่อที่สุดในสามโลกเลยค่ะ" เด็กน้อยรีบเสริมทัพแม่ตัวเองบ้าง แม่เธอพูดถูกทุกอย่างเลย
คนเป็นย่าหัวเราะร่วนเพราะเอ็นดูในตัวหลาน เด็กอะไรรู้จักเบื่อแล้ว
เธอไม่คิดว่ามันเป็นความผิดพลาดของเกศราและกันต์ธรเลย ก็หลานสาวเธอน่ารักขนาดนี้เนี่ย จะไปผิดพลาดได้ไงกัน
"แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะลูก ให้ลุงศักดิ์พาไปนะ" ลุงศักดิ์คือคนสวนพ่วงตำแหน่งคนขับรถของที่บ้าน ไม่ว่าคนบ้านนี้จะไปไหนอีกฝ่ายจะขับรถให้เสมอ ยกเว้นแต่เพียงกันต์ธรที่ชอบนั่งรถไปคนเดียว
"เย้! ขอบคุณค่ะคุณย่า ไปกันค่ะคุณแม่ ไปเที่ยวกัน" แล้วเด็กหญิงตัวน้อยก็เดินมาลากแขนแม่ตัวเองหมายจะเดินไปทางโรงจอดรถ แต่เกศรายื้อลูกสาวเอาไว้ก่อน
"เราไม่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเหรอคะลูก ออกไปข้างนอกมันไม่เหมาะนะ" ชุดของลูกสาวไม่เท่าไหร่ กางเกงขาสั้นเพียงเข่า กับเสื้อยืดสีขาวที่สวมให้เด็กน้อย ผมยาวถูกถักเปียแบ่งออกเป็นสองข้างโดยฝีมือเธอ
แต่เธอนี่สิใส่เสื้อกล้ามสีชมพูอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีขาวเวลาอยู่ในบ้านสบายๆ หากต้องออกไปข้างนอกกลัวมันจะไม่เหมาะ
"ไม่เอาค่ะ น้องแก้มอยากไปใจจะขาดแล้วค่ะคุณแม่" เด็กน้อยยังคงกระตุกมือแม่ตัวเองไม่หยุด ใจมันรออยู่ที่ห้างแล้วตอนนี้
"งั้นแม่ขอไปหยิบกระเป๋าตังค์ก่อนได้ไหมคะ" พอเห็นท่าทางของลูกสาวคล้ายรอไม่ไหวทำเอาคนเป็นแม่อ่อนใจทันที
"งั้นน้องแก้มไปเอาให้เองค่ะ" แล้วเด็กหญิงตัวน้อยคิดว่าตัวเองเร็วกว่าแม่รีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะช้า ไม่ถึงสามนาทีวิ่งหอบเพราะเหนื่อยกลับมาแล้วยื่นกระเป๋าสะพายสีดำใบเล็กให้แม่ ท่ามกลางเกศราที่มองตามแล้วขำ
"จะรีบไปไหนกันคะลูก ได้ไปแน่ๆ ค่ะ"
"เดี๋ยวค่ำก่อนค่ะคุณแม่" เธอกลัวคนเป็นพ่อกลับมาก่อนน่ะสิ ไม่งั้นโดนบ่นจนหูชาแน่