ตอนที่4 ระแวง
ซ่า...
“กรี๊ดดด”
มุมปากหนากระตุกยิ้มอย่างพอใจเมื่อมองดูผลงานของตัวเองด้านล่าง สองสาวที่เป็นเป้าให้เขาสาดน้ำจากกระแป๋งน้ำถูพื้นของแม่บ้านมองขึ้นมาหาคนทำที่ชั้นสามอย่างเจ็บใจ
“เฮ้ยพี่ไม่เห็นคนเหรอคะ”
“เชอร์รี่ เราไปที่ห้องน้ำกันเถอะ” พระพายดึงแขนหญิงสาวที่โมโหจนหน้าแดงออกมาจากหน้าอาคารเรียนเพราะกำลังเป็นที่สนใจของนักศึกษาคนอื่น ๆ
“เธอรู้จักไอ้รุ่นพี่นั่นมั้ย ฉันว่ามันตั้งใจนะ” พระพายส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอไม่ได้โกหกเพราะไม่รู้จักเขาจริง ๆ แต่กำลังสัมผัสได้ถึงความไม่สงบสุขที่กำลังคืบคลานเข้ามาแล้ว
“เสื้อผ้าทั้งเปียกทั้งเหม็น วันนี้ฉันกลับเลยดีกว่า”
“ขอโทษนะเชอร์รี่”
“เรื่อง? ก็เธอไม่รู้จักเขาหนิไอ้พี่เรย์น่ะ แต่ฉันก็ไม่เคยรู้จักเขานะทำแบบนี้ทำไมวะ” ชุติมาบ่นอุบ เสื้อผ้าหน้าผมที่เป๊ะทุกกระเบียดนิ้วเละไม่เป็นท่า
“อาจจะเรื่องเข้าใจผิดมั้ง”
“ผิดบ้าอะไร อี๋ ฉันกลับเลยนะไม่ไหว”
พรึ่บ
ชุติมาทำเพียงล้างมือลวก ๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมที่โดนน้ำสกปรกเหมือนกันออกมาจากห้องน้ำ ทิ้งพระพายให้ยืนหน้ากระจกบานใหญ่แววตาเศร้าคนเดียว
“ไม่โทรไปฟ้องป๋าสักหน่อยล่ะ จะได้เรียกคะแนนความน่าสงสารเพิ่ม”
“เข้ามาในห้องน้ำหญิงไม่ได้นะคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ มีขาก็เดินเข้ามานี่ไง” รัชชานนท์กอดอกเดินหน้าเข้ามาหาหญิงสาวที่เสื้อตัวบางเปียกชุ่มจนแนบลู่ไปกับผิวที่เนินเนื้ออกอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นว่าสายตาคู่นั้นมองเธออย่างจาบจ้วงพระพายก็ยกสองมือขึ้นปิด
“อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะไม่งั้นจะร้องให้คนช่วย”
“ก็ร้องสิ ไม่ได้มีอะไรอุดปากหนิ หรือจะมีดี?”
ปึก
แผ่นหลังบอบบางชนเข้ากับผนังเย็นเฉียบอย่างจนตรอก แต่สองเท้าหนายังไม่เลิกขยับเข้าหาเธอเลย
“ออกไปนะคะเดี๋ยวมีใครมาเห็นจะเข้าใจผิด”
“กลัวอะไรเหรอคุณเมียน้อย” พระพายกัดปากแน่นไม่ให้แสดงออกไปว่ากลัว แววตานั้นทั้งดุดันทั้งเย้ยหยันจนเธอไม่กล้ามอง
แอดด
“เรย์” รัชชานนท์หันเพียงนิดเพราะจากน้ำเสียงที่เรียกนั้นก็คุ้นหูอยู่ เมื่อเห็นว่าเธอคือน้ำค้างเขาก็เลิกสนใจเมียน้อยของพ่อ
“ทำอะไรเหรอเรย์”
“เปล่า ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มกอดรอบลำคอหญิงสาวที่เข้ามาตามออกไปจากห้องน้ำ ทิ้งให้พระพายยังยืนหน้าซีดอยู่แบบนั้น
วันนี้ช่างเป็นวันที่ไม่สดใสเอาเสียเลย เธอโดนรังแกหลังเข้าเรียนได้เพียงวิชาเดียวแถมยังมีคนออกตัวว่าจะตามรังควาญกันอีก พระพายลงจากแท็กซี่เจ้าประจำในเวลาเกือบเที่ยงก็ต้องถอนหายใจก่อนเข้าบ้านเพราะรถของกวินจอดอยู่ที่นี่
พระพายตรงเข้าห้องตัวเองตัดสินใจไม่เรียกบอกพิมลเพราะรู้ว่าสองคนนั้นต้องอยู่ด้วยกัน เธอไม่ชอบสายตาเจ้าชู้ของกวิน เรื่องนี้ไม่รู้ว่าพี่สาวของเธอสังเกตเห็นบ้างหรือเปล่า
หญิงสาวอาบน้ำชำระล้างความสกปรกออกจากร่างกายตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า น้ำที่ใช้สาดเธอนั้นมีแต่ผงฝุ่น เศษไม้กวาด ลูบไล้ครีมอาบน้ำให้ทั่วตัวไปก็ร้องไห้ไปทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย กว่าจะหยุดสะอึกสะอื้นก็กินเวลาไปกว่ายี่สิบนาที
แอดด
“ลุงกวิน!” พระพายที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำตกใจจนหน้าซีดเผือดที่เจอเขานั่งอยู่บนเตียงของเธอ โชคดีที่เอาเสื้อผ้าเข้าไปใส่ด้วยเรียบร้อย
“ทำไมกลับเร็วล่ะ”
“ลุงเข้ามาในห้องหนูทำไมคะ”
“ห้องหนู แต่เงินฉันร้อยเปอร์เซ็นต์นะ” ‘นี่น่ะเหรอคนดีของพี่’ หญิงสาวคิดในใจก่อนจะเลือกออกไปจากห้องนี้เอง
“จะรีบไปไหนล่ะคุยกันก่อนสิ”
“ปล่อยแขนพายนะคะ”
“ทำไม รังเกียจลุงเหรอ”
“พายไม่ชอบให้ใครมาโดนตัวค่ะ” หญิงสาวพยายามให้กวินปล่อยมือออกจากแขนของเธอแต่ก็เหมือนว่าเขาจะตั้งใจรั้งเธอไว้แน่ ๆ เพราะแรงบีบที่เพิ่มขึ้นจนเริ่มเจ็บ
“พระพาย ทำไมแกกลับมาเร็ว”
พรึ่บ
กวินรีบปล่อยมือทันทีที่ได้ยินเสียงพิมลก่อนจะเก็บมือนั้นเข้ากระเป๋ากางเกงหน้าตาเฉย
“พี่ก็เข้ามาถามเหมือนเธอนั่นแหละ”
“ว่าไง ทำไมแกกลับมาซะแล้วล่ะ” พิมลหันไปถามน้องสาวที่ยืนตัวสั่นหน้าซีดเผือดเหมือนกำลังหวาดกลัว แววตาของพระพายกำลังมีหยาดน้ำก่อตัวขึ้นและก่อนที่มันจะหล่นลงมาพิมลก็ดึงมือกวินออกไปจากห้องนี้
ปึง
“ฮือออ ๆ”
พระพายเดินกลับไปที่เตียงนอนซบใบหน้ากับหมอนปล่อยโฮอย่างหนัก กลืนไม่เข้าคายก็ไม่ออก ที่ผ่านมาก็รู้ว่าเธอเป็นภาระที่พี่สาวต้องแบก แต่เธอก็ไมม่ชอบที่ต้องอยู่แบบนี้เอาเสียเลย