Ep.11 : นอนกับหมอไหม

2746 Words
“หมอไม่อยากไปเรียน” ฉันบอกหมอที่มาตามฉันถึงในห้อง แต่ฉันไม่อยากไปเจอคนเยอะๆ เรียกมาริยะออกมาก็ไม่มา ฉันไม่ชอบสายตาที่คนอื่นมองฉันเลย “พี่ที ช่วยเรียกให้ชินปาก อย่างอแงเลย เธอไปเรียนมา 2 วันแล้ว เธอก็ทำได้ดี มันต้องค่อยๆดีขึ้น” หมอเอามือมาจับมือของฉันเอาไว้ แล้วยิ้มให้เป็นการปลอบใจ ดีกับผีนะสิ เรียนไม่รู้เรื่องเลย เพราะเอาแต่ระแวงคนอื่นไปหมด . เพราะหมอไม่ยอมเลยต้องมาเรียนด้วยความจำใจ การมาเรียนของฉันวันนี้ เป็นที่สนอกสนใจของคนในหมาลัย เอ้ย มหาลัยอีกแล้ว อีแก่ของหมอมันแปลกตกไหน ก็แค่แอร์ไม่เย็น ช่วงล่างไม่ดี ที่ปัดน้ำฝนก็พัง แต่มันก็ยังพาเรามาถึงที่มหาวิทยาลัยได้ ไม่ตายกลางทางก็บุญแล้ว “เดี๋ยวต่อไป เธอก็จะต้องมีการซ้อมเชียร์ เจอรุ่นพี่ เจอพี่รหัส เจอเพื่อน อย่าปิดตัวเองเลยหน่า ทำตัวให้มันสดใสแบบวัยรุ่นหน่อย” หมอทำตัวสดใสเกินเบอร์ จนฉันต้องหรี่ตามอง “หมอจะ 30 แล้วนะ ไม่รุ่นแล้ว ปีนี้จะ 28 แล้ว เลยรุ่นมาเยอะแล้ว” ใช่...การมาเรียนมันไม่ได้แย่ แต่ที่แย่คือเจ้าพวกชะนีลิงทั้งหลายแหละ ที่มองแทะโลมหมอตั้งแต่หัวจรดเท้า บ้างก็โบกมือให้ บ้างก็ส่งยิ้มให้ แล้วดูท่าหมอจะชอบด้วยสิ ฉันหันไปมองหมอที่โปรยยิ้มหวานตลอดทาง ชิ...เอาที่หมอสบายใจเลย เมื่อเรามาถึงหน้าตึกคณะ ก็เจอแก๊งอันตพาลแก๊งเดิมเดินมาทักทายเรา “อ้าาาาา ไง คู่รักหวานแหวว ไปนั่งร่วมโต๊ะกับเรามะ” ผู้ชายที่ตาตี่เดินเข้ามาทักฉัน นี่เป็นวันที่ 2 แล้วที่เขาทักฉันแบบนี้ ซึ่งหมอกับเอาตัวมากันให้ทุกครั้ง “ช่วยหลบด้วย พวกเราจะขึ้นเรียน” “คู่รักที่เรียนด้วยกัน น่ารักจังเลยนะ” ผู้ชายคนนั้นพยายามจะจับแขนของฉัน แต่โดนหมอปัดมือของเขาออกให้ซะก่อน “ไม่ใช่คู่รัก” ฉันตอบก่อนจะเดินขึ้นอาคารเรียน แต่เขากลับมาขวางฉันฉันไว้อีก “ฉันเองก็ไม่มีแฟน คบกันมะ ฉันจะพาเธอไปเที่ยว ซื้อของให้ แล้ว......” เสียงที่เปร่งออกมาไม่ครบประโยค เพราะฉันรำคาญเลยผลักเขาออก “ไม่ต้อง บ้านฉันรวยมาก แล้วก็ อย่ามายุ่งกับฉันอีกได้ไหม ที่ของนายก็ไม่เข้าไปยุ่งแล้วไง แต่ฉันรำคาญ ฉันอยากอยู่คนเดียวได้ยินไหม” ฉันเดินหนีแต่ผู้ชายคนก็พยายามจะคว้าแขนของฉันเอาไว้ แต่โดนหมอจับเอาไว้ก่อน “ได้โปรด เคารพการตัดสินใจของน้องสาวผมด้วย คุณดูเจ้าชู้ไม่เหมาะกับเธอหรอก” น้องสาวงั้นเหรอ นั่นสินะ ตอนนี้ฉันเป็นน้องสาวของหมอนี่ เมื่อเข้าคลาสเรียน คนที่ไม่เคยมีเพื่อนอย่างฉัน ก็มีเพื่อนผู้หญิงมากมายอยากจะรู้จัก พวกนี้จำฉันได้รึเปล่า เข้าหาฉันทำไม หรือเพราะฉันรวย เพราะอะไร อาการสติแตกของฉันมันเริ่มขึ้นอีกแล้ว “พี่ที ฉันไม่ไหว พี่ที” ฉันเรียกหมอ ให้มาจัดการกับผู้หญิงพวกนี้ แต่หมอก็กลับไม่ทำ แถมพูดคุยกับผู้หญิงพวกนั้นด้วยรอยยิ้ม “ขอโทษทีนะ น้องสาวผมอาจจะตื่นเต้นไปหน่อย ฝากเป็นเพื่อนกับเธอหน่อยนะครับ” หมอพูดกับหญิงสาวมากมาย ที่ยืนมองตาหวานเยิ้ม พวกลิงนี่ไม่ได้อยากรู้จักฉันสักหน่อย คนที่พวกลิงพวกนี้อยากรู้จัก คือหมอ ไม่จริงใจ ไม่มีใครจริงใจเลยสักคน แบบนี้จะมาเรียนทำไม ฉันรวบหนังสือเพื่อจะเดินออกจาคลาสเรียน แต่กลับถูกหมอดึงเอาไว้ หมอไม่เข้าใจคำว่าฉันไม่อยากอยู่แล้วรึไง!!! ฉันไม่อยากจะอยู่ตรงนี้ ฉันอยากจะไปให้พ้นๆ “มาริจัง อย่าเอาแต่หนี ถ้าหนี เธอจะต้องหนีมันไปตลอดชีวิต” มือใหญ่ลูบหัวของฉันเบาๆ เหมือนพยายามจะให้กำลังใจ ว่าฉันทำได้ แล้วไม่นานอาจารย์ก็เข้ามา ทำให้การหนีของฉันหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ต้องทนเรียนจนจบคลาส แต่พอจะเปลี่ยนคลาส กลับเจอไอ้ผู้ชายงี่เง่าคนเดิมที่เดินเข้ามาในคลาสด้วย คนที่เดินกันเข้ามาเป็นกลุ่มเป็นผู้ชาย 4 คน ทำให้ผู้คนต่างกลัว แล้วหลบทางให้ 4 คนนี้ ได้เลือกที่นั่งได้ตามใจ แน่นอนฉันจะไม่สนใจเลย ถ้าเขาไม่เลือกนั่งข้างฉัน หมอเลยขอให้ฉันสลับที่กับเขาแต่กลับโดนผู้ชายคนนั้นคว้าแขนเอาไว้ ความไม่เคยชิน ทำให้ฉันตกใจหยิบปากกาขึ้นมาจะแทงที่แขนของผู้ชายคนนั้นแต่โดนหมอคว้ามือเอาไว้ก่อน “ได้โปรด อย่างเที่ยวจับมือน้องสาวคนอื่นมั่วซั่ว ไม่งั้นอาจจะโดนปากกาแทงทะลุแขน แบบที่ผมคว้าไม่ทัน” มันเป็นคำเตือนที่ดีเยี่ยม ใครก็ห้ามจับฉันทั้งนั้น “งั้นไม่จับ แค่นั่งข้างๆก็คงไม่เป็นอะไร ฉันชื่อพูนะ น้องชื่ออะไร” ผู้ชายคนนั้นถามชื่อฉัน มันทำให้ฉันต้องรีบพาหมอย้ายทีไปนั่งที่อื่นทันที เพราะฉันกลัวที่จะบอกชื่อตัวเอง ถ้าบอกกลัวคนอื่นจะจำฉันได้ ถ้าบอกกลัวคนอื่นจะรู้ว่าฉันผ่านอะไรมา แต่พอย้ายที่เขาก็ยังตามมา แต่เพราะอาจารย์เข้าคลาสแล้ว มันเลยไม่สามารถเปลี่ยนที่ไม่ได้อีก ในระหว่างที่เรียนอยู่ อีคนข้างๆมันก็หลับเฉยเลย แถมกรนเสียงดังอีก ฉันจะทำยังไงกับไอ้นี่ดีเนี่ย จะมานอนหลับ นั่งที่ไหนก็ได้เปล่าวะ ฉันพยายามที่จะตั้งใจเรียน มันดันมีเสียงงงง ครอกกกกกกก~ ครอกกกกก ดังเป็นระยะ ไม่มีสมาธิเลย แล้วมันก็ครอกกกกก แบบนี้ จนเลิกคลาส “พี่ที ไอ้นี่มันต้องการอะไรจากฉัน” “เค้าจีบอยู่ เดี๋ยวได้เบอร์ ได้ไลน์ เดียวก็ไปเอง เรากลับบ้านกันเถอะ” “แล้วร่างที่ไร้วิญญาณนี่ล่ะ” ฉันถามถึงคนที่ตอนนี้ก็ยังหลับอยู่เลย แต่หมอกลับไม่ได้สนใจ พาฉันเดินออกมาจากห้องเรียนเลย ทิ้งให้คนที่หลับ หลับอยู่แบบนั้น . . เมื่อกลับมาถึงบ้าน ที่ตอนนี้ไม่มีใคร เงียบสงบ เพราะตอนนี้คุณติณน่าจะยังอยู่ที่มหาลัย แต่ใช่ว่าฉันกลับมาก่อนแล้วจะสบาย เพราะยังไงก็ต้องอาหารรอ จากบ้านที่ไม่เคยมีอะไรใส่ตู้เย็นนอกจากอาหารแช่แข็ง พักนี้ก็มีของสดติดตู้เย็นไม่เคยขาด ฉันหยิบผักออกมาจากตู้นเย็นเพื่อจะล้างให้สะอาด “ทำอะไรคะ” เสียงทุ้มต่ำถามฉันจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าฉันใส่ผ้ากันเปื้อนแล้ว เตรียมกำลังล้างผัก “ข้าวเย็น หมออยากจะกินอะไร” คำถามของฉันไม่ได้รับคำตอบ มีเพียงคนตัวสูงที่เอาคางมาเกยไหล่ฉันจากด้านหลังเท่านั้น เขาจะรู้ไหม ว่ามันหนัก “พี่ทีสิ จะได้ชินปาก” “ตอนนี้อยู่บ้านแล้ว ต้องแสดงละครตบตาใครอีก ฉันไม่ชินกับการไปมหาลัยเลย ยิ่งมีคนมาสนใจยิ่งไม่ต้องการเลย ฉันกลัวคนจำฉันได้จากข่าว 1 ปี มันไม่ทำให้คนลืมฉันแน่ๆ” ฉันพูดไปมือล้างผักไป หมอเกยคางลงที่ไหลของฉันจากทางด้านหลังอีกครั้ง “แต่ถ้าเธอหนีชีวิตนี้เธอจะต้องหนีตลอดนะ” คนที่หอมลงเบาๆที่ไหล่ของฉัน ฉันว่ามันแปลกๆ เลยต้องเอี่ยวไหล่หลบ แล้วหันมามองคนที่จู่ๆก็มาหอมไหล่ของฉันทำไม ฉันไม่ได้รังเกียจหรอกนะ แค่อยากรู้ว่า ทำทำไม “หมอกำลังลวนลามฉันเหรอ” “ใช่ที่ไหน อ้อนขอกินข้าวต่างหาก อยากกินอะไรดีน้า ต้มจืดละกัน อยากช่วยอะ สอนทำหน่อยสิ ไหนหมอต้องทำอะไรบ้าง” “ต้มจืดเหรอ ดีจังเลยที่หมอเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย ฉันไม่ใช่คนทำอาหารเองหรอกนะ สมัยก่อนฉันแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กินๆนอนๆก็พอ ทั้งบ้านแม่ฉันทำแต่งาน ว่างก็เปิดฮาเร็ม ฉันเลยอยู่กับป้าสาย เลยได้ช่วยหยิบจับ ไม่ได้ทำเก่งอะไร แต่ว่าคุณติณทำอาหารห่วยมาก อาหารของคุณติณสามารถฆ่าคนตายได้ ฉันเลยคิดว่าเป็นคนทำดีกว่า” ฉันหันมามองคนที่บอกอยากช่วย แต่สายตาของหมอที่มองมาที่ฉันนี่มันยังไง มองแบบนี้มันไม่ปกติเลย มันไปต้องมีวิ้งค์ๆในตาด้วย “มองอะไร” คนที่ถูกมองค่อยๆเผยรอยยิ้มหวานออกมา “เปล่าา หมอนั่นแหละมองฉันทำไม มองแล้วก็ยิ้มหมายความว่ายังไง บลูลี่ฉันที่ฉันเตี้ยเหรอ” ฉันพยายามมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตา หลังที่ติดกับซิ้งล้างจาน ไม่สามารถทำให้ฉันหนีไปไหนได้อีกแล้ว “ไม่เห็นเตี้ยสักหน่อย วันนี้เธอถูกจีบ” “ฉันไม่สนใจผู้ชายคนนั้นสักหน่อย หมอนั่นแหละมีแต่สาวๆมอง ชอบละสิ ยิ้มทั้งวัน ยิ้มให้มันน้อยๆหน่อย เค้าจะหาว่าหมอบ้า คนอะไร ยิ้มทั้งวันเหมือนคนบ้า” ประโยคของฉันทำให้คนตัวใหญ่กว่าใช้แขนสองข้างกั้นฉันที่ติดกับซิ้งล้างจานที่ยังล้างผักค้างเอาไว้อยู่เลย “หมอไม่ได้ชอบยิ้ม แต่หมออยากให้เธออารมณ์ดี หมอถึงยิ้ม ต่อให้เครียดจากไหนมา แต่อยู่กับเธอหมอก็จะต้องยิ้มออกมา ไม่อยากยิ้มให้คนอื่นสักหน่อย” คำตอบที่เรียบง่ายของหมอมันกลับทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมา แต่เพราะมันหุบยิ้มไม่ได้เลย เลยต้องซ่อนรอยยิ้มที่มีเอาไว้ โดยการหันหลังมาล้างผักต่อ “ต้มจืดใช่ไหม” “ใช่ นี่ จบเรื่องจับคนร้ายแล้ว ไปอยู่บ้านหมอไหม ถ้าเธอยังไม่อยากกลับบ้าน” หมอเอาคางมาเกยไหล่ของฉันอีกแล้ว แล้วแบบนี้จะทำกับข้าวยังไง ฉันใช้หลังดันคนที่เอาแต่เป็นภาระให้ฉันออกไปให้ไกล บ้ารึไงชวนผู้หญิงไปอยู่บ้าน “ว่างนักก็ไปอาบน้ำสิหมอ ฉันจะทำกับข้าว ไหนบอกจะช่วยเอาแต่มากวน” “ก็อยากอยู่แบบนี้ก่อน อยากงอแงไม่ได้เหรอ ทีเธองอแงให้หมอนั่งเฝ้าเธอหลับ ยังไม่บ่นเลย วันนี้หมอหงุดหงิดไอ้พูอะไรนั่น ตามติดมันทั้งวัน มันชัดมากเลยนะ มันกำลังพยายามจะจีบเธออะ” หมอเริ่มเสียงดังเพราะฉันไล่ “แล้วหมอมาเสียงดังใส่ฉันทำไมเนี่ย หัวร้อนก็ไปอาบน้ำเลยไป ฉันจะทำกับข้าวววววว” ฉันแยกเขี้ยวใส่หมอเพื่อบอกว่าฉันโกรธจริงๆแล้วนะ “เป็นเด็กเป็นเล็กห้ามมีแฟนรู้รึเปล่ามันเสียการเรียน” “ไหนก่อนหน้านี้บอกให้ฉันไปมีความรักแบบเด็กสาวทั่วไป หมอนี่ย้อนแย้งจังเลย ไปอาบน้ำ!!!!!” ฉันดันหลังของคนที่วันนี้พูดมากจัง ให้ออกไปจากครัว ฉันจะได้เริ่มทำอะไรสักที มาชวนคุยอยู่นั่นแหละ หม้อใบเล็กถูกตั้งไว้บนเตาแก๊ส เพื่อที่จะทำต้มจืด ส่วนอีกเตาก็ทำไข่เจียวแบบที่คุณติณชอบ ฉันคงจะทำอย่างละ 2 ชุด เพราะตอนนี้คุณติณยังไม่เสร็จงานเลย กลับมาก็คงจะหิวน่าดู แต่เพราะไม่รู้วาาจะกลับมาเมื่อไหร่ กับข้าวที่เป็นส่วนของตุณติณฉันเลยใช้แล็บแล็บอาหารเอาไว้ ไม่ให้สิ่งสกปรกเข้า ก่อนจะขึ้นไปตามหมอให้ลงมากินข้าว “หมอ หมอ กินข้าวได้แล้วค่ะ” แต่เรียกยังไงก็ก็ไม่ขานรับ เกิดอะไรไม่ดีรึเปล่า ลื่นหัวแตกในห้องน้ำรึเปล่า เลยเปิดประตูเข้าไปดูในห้องน้ำที่ตอนนี้ว่างเปล่า เลยเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก็เห็นหมอที่ตอนนี้ แต่งกายไม่สุภาพเอาซะเลย “คะ มีอะไรรึเปล่า” หมอมองฉันด้วยสีหน้างงงวย แต่ฉันนั้นกลับรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า ตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก เพราะความขาวโอโม่ กล้ามหน้าอกที่ถึงแม้จะไม่ได้ล่ำบึกมาก แต่หน้าท้องกลับเป็นรอนสวย จนไม่อาจจะละสายตา “กะ..กับข้าวเสร็จแล้ว” ยังไม่ทันสิ้นเสียงดี ร่างของฉันโดนหมอดึงเข้ามาในห้อง มือใหญ่อังเข้าที่หน้าผากและลำคอ เพื่อวัดอุณหภูมิ ที่ตอนนี้สูงปรี๊ดดดดด จากความร้อนผ่าวบนในหน้า “ทำไมหน้าแดง มีไข้เหรอ” “ฉันอาจจะมีไข้ ไปหายากินก่อนนะ” ฉันพยายามจะหนี แต่หมอก็ไม่ยอมให้ออกไปจากห้อง ดึงแขนฉันเอาไว้ จะให้อยู่ทำไม หมอมีแต่ผ้าขนหนู แล้วตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวไปหมด ใกล้ๆแบบนี้เลยเหรอ ใกล้ใกล้ไป “กินยาเองได้ยังไง หมอมีหน้าที่รักษา ส่วนเธอก็เป็นเด็กดีให้หมอรักษา” “รักษาอะไร ฉัน ฉันคิดว่า ฉันควรจะ เอ่ออออ คือแบบ กินข้าวกันเถอะค่ะ เดี๋ยวมันจะเย็น ฉันควรจะออกไป อู้ววว ขาว แต่อื่ม ข้าว ข้าวขาว จะพูดอะไรวะ ช่างเถอะไปกินข้าวกัน” ฉันไม่รู้จะเริ่มการชวนยังไง แบบว่าคนแก้ผ้า อยู่ตรงหน้านี่เอง ฉันพยายามจะออกจากห้อง อาการลนลาน กับความรู้สึกใหม่ที่เคยได้รับ แต่พอจะหนีออกจากห้อง กลับโดนมือใหญ่ดึงไว้อีก ฉันทนไม่ไหวเลยกัดแขนของหมอซะเลย จับเอาไว้อยู่ได้ หน้าของฉันร้อนจะแย่อยู่แล้ว ไม่ไหว ร้อน ร้อนแบบนี้ต้องอาบน้ำ!!!! และแล้วในเวลาต่อมา “ขอโทษนะคะ ที่เอาบอสกลับมาในสภาพนี้ ไปสอดแนม แต่โดนเด็กดิ๊งค์เอานมมาล่อ จัดยับใส่เต็ม สุดท้ายเมาเป็นหมา ถ้าฉันไม่เอากลับมา คงได้โดนหิ้วไปไหนต่อไหนแล้ว” จี๋พาเจ้านายที่เมาไม่รู้เรื่องเดินโซเซเข้ามาในบ้าน ซึ่งนทีก็รับคนที่เมาแอ๋น แต่กลับโดนติณบีบที่หน้าอก “ปรี๊นนนนๆ จับนม เอาไป 500” “แฮ่ะๆ แบบนี้แหละค่ะ ตลอดทางเลย ฝากหน่อยนะคะ วันนี้จี๋ไม่ไหวแล้วค่ะ โดนบอสใช้งานเยี่ยงทาส ขอตัวรีบกลับไปนอน” คนเป็นผู้ช่วย เตรียมตัวจะใส่เกียร์หมาขึ้นรถกลับบ้าน แต่ไม่วายโดนเรียกเอาไว้ “จี๋!!!!!!!!!!!” “คะบอส” “นมเล็กจัง” “ขอโทษนะครับ ที่คุณจับคือนมผม เฮ้ออออ บ้ากามจริงๆ ผมขอบคุณที่เอามาส่งนะครับ ผมดูที่เหลือต่อเอง” นทีแบกคนเมาเข้ามาในบ้าน แล้วเข้าไปโยนไว้ที่โซฟาหน้าทีวี “น้องจ๋า กินจนหัวล่างผงก ไม่นานมันจะผงาด น้องคนไหนสนใจต่อกับพี่ไหม หนูเหรอ มาจ๊ะสัญญาจะทำให้ลืมชายทุกคน” แล้วติณก็กอดรอดร่างของหมอนทีลงไปในอ้อมกอด “โอ้ยยยยย เลอะเทอะไปใหญ่แล้ววววว” “น่ากลัว น่ากลัวจังเลย” มาริจังมองคนเมาที่กำลังปลุกปล้ำหมอที่โซฟา มันทำให้เธอคิดถึงคืนอันโหดร้ายจนตัวสั่นแล้วกอดตัวเองเอาไว้ “ถ้ากลัว นอนกับหมอไหม” ================================ เฮ้อ ตอนนี้ไรท์สงสัย ไม่รู้แล้วว่าใครที่น่ากลัวกว่ากัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD