เข้าครัวหรือเข้าอะไรน้า 10
“บนพื้นมีอะไรฮึ มองจังเลย”
ราชสิงห์เอ่ยแซวคนตัวเล็กที่เอาแต่เดินก้มหน้าก้มตานำเขาเข้ามาในบ้าน
พอเพียงเดินตรงเข้าไปในครัวโดยไม่ตอบคำถามเขา
“หึ น่ารักจริง เมียใครเนี่ย”
รามสิงห์ยกยิ้มมุมปาก เดินตามพอเพียงเข้าไปในครัวอย่างไม่รีบร้อน
ร่างสูงยืนเอามือล้วงกระเป๋า เอนร่างพิงขอบประตูมองคนตัวเล็กที่ยังก้มหน้าก้มตาหั่นหมู ทั้งๆ ที่เธอหั่นมันเสร็จแล้ว
“ฉันเกรงว่าถ้าเธอหั่นมากกว่านั้น หมูคงจะเละนะ”
“เมื่อไหร่คุณจะเลิกแกล้งกันคะ”
ในที่สุดพอเพียงก็เงยหน้าพูดกับเขา แก้มขาวเนียนแดงระเรื่อ สีเหมือนลูกตำลึงสุกนั่นยิ่งทำให้เธอน่าฟัดเข้าไปอีกสำหรับราชสิงห์
“ใครแกล้ง อย่ามาโยนความผิดกันนะ”
“คุณสิงนั่นแหละค่ะ”
เธอยังคงยืนยันที่จะกล่าวหาเขา ราชสิงห์ยกยิ้มมุมปาก ก่อนเดินตรงเข้ามาหาเธอ
เขาต้อนเธอจนกระทั่งแผ่นหลังบางชนกับขอบเคาน์เตอร์ด้านหลัง
“เธอนั่นแหละที่แกล้งฉัน”
แขนแกร่งสองข้างเท้าไว้กับขอบเคาน์เตอร์ กักขังร่างบางไว้ภายในก่อนจะก้มหน้าลงมาอยู่ระดับเดียวกับเธอ
“ฉันกะ… แกล้งอะไรคะ”
พอเพียงถามน้ำเสียงตะกุกตะกัก สายตาของราชสิงห์ในตอนนี้ดูร้อนแรงดั่งเปลวเพลิงที่พร้อมจะเผาเธอให้ละลายได้ตลอดเวลา
“แกล้งทำให้ฉันวุ่นวายใจยังไงล่ะ กระต่ายน้อย”
“0_0//”
ราชสิงห์กัดปลายจมูกโด่งเบาๆ ก่อนจะผละออกและเปลี่ยนเรื่อง ราวกับเมื่อครู่เขาไม่ได้ทำอะไรให้อีกคนใจสั่น
“แล้วนี่ออกไปตามฉันจะให้ฉันมาทำอะไร?”
“...”
ดวงตาคมกวาดมองวัตถุดิบสำหรับทำอาหารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็พอจะเดาได้ว่าพอเพียงกำลังจะทำอาหาร
“ว่ายังไงครับ?”
ราชสิงห์หันกลับมาถามพอเพียงที่ยังคงยืนนิ่งอีกครั้ง
“เมื่อกี้คุณสิงพูดว่าอะไรนะคะ”
“ฉันถามว่า เธอออกไปตามฉันทำไม”
“อะ อ๋อ คือพอเพียงจะให้คุณสิงมาช่วยเปิดแก๊สค่ะ”
“เธอเปิดไม่เป็น?”
“ค่ะ พอเพียงทำเป็นแค่อาหาร จุดไฟ เปิดเตาอะไรแบบนี้ไม่ถนัดเลย”
พอเพียงตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ ราชสิงห์เห็นอย่างนั้นก็เผลอยิ้มตามรอยยิ้มของเธอ
เขาขยับเข้าไปใกล้เธอก่อนจะจับมือเล็กขึ้นมาวางลงบนที่หมุนสำหรับเปิดแก๊ส
“จับแบบนี้ แล้วก็หมุนไปทางนี้”
จากนั้นก็จับมือเธอให้หมุนเปิดเตาแก๊สไปในทิศทางสำหรับเปิดมัน
“ถ้าทำเอง เธอต้องออกแรงกว่านี้หน่อยนะ”
“พอเพียงกลัวมันระเบิดนี่คะ”
เธอเอี้ยวหน้ามองราชสิงห์ซึ่งยืนซ้อนหลังเธออยู่ด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เพราะเธอมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไรเกี่ยวกับเตาแก๊ส
“มีฉันอยู่จะกลัวอะไร หืม”
“ก็กลัวคุณสิงนั่นแหละ”
พอเพียงพึมพำเบาๆ แต่ไม่เบาพอที่จะทำให้คนหูดีอย่างราชสิงห์ไม่ได้ยิน
หึหึ กลัวไปเถอะ ยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี ราชสิงห์คิดในใจ
“แล้วนี่เธอจะทำอะไรให้ฉันกิน หวังว่าคงไม่ใส่ยาอะไรเข้าไปหรอกนะ”
“พอเพียงไม่ใช่คุณสิงนะคะ”
“เดี๋ยวนี้ยอกย้อนเก่งนักนะ”
“คุณสิงก็เนียนเก่งเหมือนกันค่ะ เอามือออกจากเอวพอเพียงเลยนะ”
มือเล็กตีลงบนหลังมืออีกคนที่กอดเอวตัวเองอยู่ ไม่รู้เอามากอดตอนไหน มือไหวจริงๆ เชียว
“ก็ไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน”
ราชสิงห์ตอบหน้าตายแถมยังรัดเอวบางแน่นกว่าเดิม ไม่ยอมปล่อยอีก
“ถ้าไม่รู้จะเอาไว้ตรงไหน ก็ช่วยไปหยิบไก่มาให้หน่อยค่ะ”
“ไม่เอา ขี้เกียจ”
ด้วยความหมั่นไส้ พอเพียงเลยหยิกเข้าที่เอวสอบหนึ่งที เล่นเอาคนโดนถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“เจ็บนะ”
“สมควรแล้วค่ะ คราวนี้ก็ปล่อยแล้วไปหยิบไก่มาเลย”
ครั้งนี้ราชสิงห์ยอมปล่อย และเดินไปหยิบไก่ที่พอเพียงเตรียมไว้ก่อนแล้วมาส่งให้เธอ
“ตกลงเธอจะทำอะไร?”
“แกงเขียวหวานไก่ กับทอดมันปลากรายค่ะ”
“มีแต่ของชอบฉันทั้งนั้นเลย เธอทำเอาใจฉันเหรอ”
คนหลงตัวเองพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พอเพียงเลยหันกลับมายิ้มกว้างให้เขา
“เปล่าค่ะ ในตู้เย็นมันมีแค่นี้”
เพล้ง! หน้าหล่อๆ ของราชสิงห์แตกละเอียดด้วยคำพูดนิ่มนวลของสาวสวยตรงหน้า
ฝากไว้ก่อนเถอะ ถึงเวลาเมื่อไหร่จะทบต้นทบดอกเลยทีเดียว
“เหอะ ถ้าอย่างนั้นก็ทำไปคนเดียวเลย”
“อย่างนั้นแหละค่ะที่ต้องการ”
ราชสิงห์กัดฟันตัวเองแน่น ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครกล้ายอกย้อนเขาขนาดนี้เลย แถมยังเป็นการยอกย้อนแบบสุภาพด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลอีกต่างหาก
“ดี ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะอยู่ก่อกวนเธออย่างนี้นี่แหละ”
“ไม่ต้องเลยค่ะ”
ฟอด ฟอด
คำว่าก่อกวนของเขาไม่ใช่ก่อกวนเรื่องทำอาหารแต่เป็นเรื่องอื่นมากกว่าเพราะ อยู่ๆ เขาก็ดันก้มลงหอมแก้มเธอ
“คุณสิง!”
“ทำไม”
“ห้ามทำแบบเมื่อกี้อีกนะคะ”
“อ๋อเหรอ”
ฟอด ฟอด
ราชสิงห์หอมแก้มเธออีกฟอดใหญ่ แถมยังยิ้มทะเล้นให้เธออีก
การเข้าครัวของพอเพียงวันนี้ นอกจากจะต้องระวังอาหารไหม้แล้ว เธอยังต้องระวังตัวจากไอ้คนเจ้าเล่ห์ที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ไปมาอีก
“มันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
พอเพียงเอ่ยถาม หลังจากเธอทานข้าวเสร็จได้สักพักแล้วแต่ราชสิงห์ยังเติมไม่หยุด
“อืม เธอใส่อะไรลงไปบ้างเนี่ย”
“ก็ใส่ปกตินะคะ”
“เหรอ นึกว่าใส่ใจลงไปด้วย”
แก้มขาวเนียนแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ไม่รู้ทำไมเขาชอบทำให้เธอใจสั่นอยู่เรื่อยเลย
“ไม่คุยด้วยแล้วค่ะ เชิญคุณสิงนั่งทานไปคนเดียวเลย”
ราชสิงห์มองตามแผ่นหลังบอบบางพลางยิ้มขำเธอ ดูเอาเถอะ เมียใสขนาดนี้ ใครจะกล้าไปบังคับลง ถ้าเป็นคนอื่น อยู่ด้วยกันสองต่อสองแล้วน่ารักแบบนี้ เขาจับกินไม่เหลือแล้ว
“ทำไมอยู่ๆ ฝนถึงตกหนักนะ”
พอเพียงเดินออกมาดูตรงชานระเบียงหน้าบ้าน เมื่อครู่ตอนเธอกำลังล้างจานอยู่ ฝนก็กระหน่ำลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เบาลง
“นั่นน่ะสิเนอะ”
“อุ๊ย คุณสิง”
แผ่นหลังเธอสัมผัสกับแผงอกกำยำของคนด้านหลัง ที่เข้ามายืนซ้อนเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“สงสัยคุณหนูพอเพียงไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ เลย”
“พอเพียงว่าเราน่าจะพอขับรถไปได้นะคะ”
“ไม่ได้หรอก ฝนตกหนักขนาดนี้มันอันตราย”
“มันไม่ขนาดนั้นมั้งคะ”
“ฉันเป็นคนคำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะฉะนั้นฉันไม่มีทางขับฝ่าฝนที่ตกหนักแบบนี้แน่นอน”
ราชสิงห์ยืนยันหนักแน่น หากคนที่รู้จักเขาดีมาได้ยินคงนึกขำ ราชสิงห์น่ะเหรอคำนึงเรื่องความปลอดภัย ปกติเคยขับรถต่ำกว่าร้อยยี่สิบที่ไหนกัน (ตามกฎหมายต้องขับไม่เกินเก้าสิบนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าทำตามราชสิงห์นะ ไม่ดีเลย ^_^)