Love is cat's 3

1829 Words
Love is cat's 3 ฉันยังคงใช้ชีวิตปกติถ่ายคลิป ตัดคลิป เล่นกับแมว ไปเยี่ยมน้องชายที่บริษัทวนเวียนอยู่แค่นี้ ช่วงนี้เพื่อนฉันก็ทำงานต่างจังหวัดกันเลยยังไม่ได้เจอ ส่วนวันนี้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่ออกไปข้างนอกเพราะฝนตกแต่ก็ต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันเพราะวันนี้สองพี่น้องมีนัดฉีดวัคซีนประจำปี ฉันอุ้มเด็กน้อยใส่กระเป๋าแมวด้วยกันก่อนจะพาไปขึ้นรถเดินทางไปยังโรงพยาบาลสัตว์ที่ปีที่แล้วฉันก็พาไป เด็กน้อยของฉันเป็นเด็กดีมากเวลาพาขึ้นรถไม่มีอาการร้องงอแง เพราะขึ้นรถมาได้ก็จะนอนนั่งดูรอบ ๆ รถอยู่ในกระเป๋า และคงจะไม่เหงาเพราะให้อยู่ด้วยกันทั้งสองตัวเลย เมื่อถึงบริเวณที่ตั้งโรงพยาบาลสัตว์ฉันก็ถึงกับตกใจเพราะจุดนั้นไม่มีโรงพยาบาลสัตว์ที่เคยพาลูก ๆ มาแล้ว แถมด้านหน้าสุดยังขึ้นป้ายตัวหนังสือสีแดงชัดเจนว่า เซ้ง “เอาแล้วไง จะไปที่ไหนละเนี่ย” ฉันถึงกับกุมขมับอย่างคิดไม่ตก โรงพยาบาลสัตว์มีเยอะก็จริงแต่บางทีที่ที่ฉันพาเด็ก ๆ ไปพวกเขาดูแลไม่ดีเลย พูดก็ไม่เพราะหู ระหว่างที่นั่งค้นหาโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่ใกล้บ้านตัวเองอยู่นั้นฌอนก็โทรเข้ามาพอดี “ฌอน...” เอ่ยเรียกน้องชายเสียงแผ่ว (ครับ ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะ) น้องชายฉันรีบถามกลับมาเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่แปลกไปของฉัน “พี่พาเด็ก ๆ มาหาหมอ แต่โรงพยาบาลเซ้ง พี่ไม่รู้จะพาไปที่ไหนเลย” (อ้าว เดี๋ยวผมถามโค้ชให้เผื่อโค้ชรู้จักโรงพยาบาลสัตว์) รอสักพักหลังจากที่น้องชายคุยกับใครสักคนและฉันก็ได้รับพิกัดจากน้องชายว่าโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่ไม่ไกลจากฉันในตอนนี้อยู่ที่ไหน และได้แต่หวังไว้ในใจว่าที่นั่นจะบริการและใส่ใจเด็ก ๆ ของฉันอย่างดี ขับรถมาตามพิกัดที่น้องชายส่งให้ ก็พบว่าโรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านฉันมากเท่าไหร่นักใกล้กว่าที่เดิมด้วยและเหมือนฉันจะไม่สังเกตโรงพยาบาลแห่งนี้มาก่อนเลย แต่ฌอนยืนยันว่าที่นี่ดีและเปิดมาสักพักใหญ่แล้วเช่นเดียวกัน เพราะด้านนอกยังมีฝนตกอยู่ฉันจำต้องหยิบร่มมากางและลงจากรถเดินอ้อมมายังเบาะรถด้านที่มีเด็ก ๆ รออยู่ อา...แต่เด็ก ๆ สองตัวก็ไม่ใช่เบา ๆ เลยถ้าไม่กางร่มเด็ก ๆ จะเปียกมากไหมนะ เพราะฉันน่ะเปียกได้แต่เด็ก ๆ ห้ามเปียก “เดี๋ยวช่วยครับ...” เสียงหนึ่งดังจากด้านหลัง หันกลับไปมองก็พบว่าเป็นผู้ชายตัวสูงที่เพิ่งก้าวลงจากรถคันที่จอดอยู่ข้าง ๆ “เอ่อ รบกวนด้วยนะคะ” ฉันเลือกที่จะไม่ปฏิเสธความหวังดีจากคนแปลกหน้าเพราะเลือกความปลอดภัยของเด็ก ๆ เป็นอย่างแรก คนใจดีขยับเข้ามาช่วยอุ้มกระเป๋าส่วนฉันนั้นก็ช่วยกางร่มให้คนแปลกหน้าและแมวของตัวเอง แม้ด้านหลังจะเปียกฝนก็ช่าง “ขอบคุณนะคะ” เมื่อคนแปลกหน้าวางกระเป๋าเด็ก ๆ ไว้ที่โซฟาหน้าจุดบริการลูกค้าฉันก็รีบเอ่ยบอกขอบคุณทันที “ยินดีครับ” คนแปลกหน้ามองฉันพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะเดินหายไป ฉันถึงได้เดินไปยังจุดบริการลูกค้าเพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ของฉันที่มาที่นี่ในตอนนี้ “สวัสดีค่ะ” เมื่อเดินเข้าใกล้ก็เอ่ยทักทายพนักงานอย่างเป็นมิตร “สวัสดีค่ะ โรงพยาบาลสัตว์ปริญรักษ์ยินดีต้อนรับค่ะ คุณลูกค้าติดต่อเรื่องอะไรคะ” พนักงานต้อนรับยกมือไหว้พร้อมกับทักทายอย่างน่ารัก ใบหน้าหวาน ๆ แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มไม่มีเบื่อหน่าย “พอดีว่าวันนี้ครบรอบฉีดวัคซีนเด็ก ๆ ค่ะ แต่ที่เดิมปิดไปแล้ว ที่นี่ฉีดให้น้องได้ไหมคะ?” เอ่ยถามอย่างเกรงใจ “ได้ค่ะ แต่ขอรบกวนทำประวัติให้น้อง ๆ ด้วยนะคะ” พนักงานส่งยิ้มให้พร้อมกับสอบถามข้อมูลรายละเอียดของเด็ก ๆ ซึ่งฉันก็เข้าใจและเต็มใจที่จะตอบมาก ๆ “น้องเป็นน้องแมวหรือน้องหมาเหรอคะ แล้วก็สายพันธุ์อะไรคะ” “แมวค่ะ พันธุ์มันซ์กิ้นสองตัว” “สีอะไรและเพศอะไรบ้างคะ ขอทราบชื่อน้อง ๆ ด้วยนะคะ” พนักงานถามและคีย์ข้อมูลในระบบไปด้วย “ตัวผู้สีขาวเทาค่ะ ชื่อไวท์ช็อก ส่วนตัวเมียสีขาวชื่อวิปครีมค่ะ” “ได้ค่ะ น้องเคยมีประวัติแพ้ยาไหมคะ?” “มีค่ะ วิปครีมแพ้ยาสลบxxx ค่ะ หมอมีใบเตือนให้ด้วยค่ะ” แจ้งพนักงานและเอาใบเตือนของวิปครีมให้พี่พนักงานดู เพราะตอนที่พาวิปครีมไปทำหมันตอนวิปครีมฟื้นน้องตามบวมเพราะมีอาการแพ้ยาสลบแต่ไม่ได้รุนแรงแต่หากป้องกันได้ก็ไม่ควรใช้ยาตัวนี้กับน้อง “ขอบคุณค่ะ วันนี้รับเป็นวัคซีนรวมและพิษสุนัขบ้านะคะ” พนักงานทวนถาม “ใช่ค่ะ แล้วก็อยากให้ตรวจสุขภาพประจำปีให้เด็ก ๆ ด้วยเลยค่ะ” “ได้ค่ะ รบกวนคุณแม่กับน้องรอสักครู่นะคะ” ฉันเดินกลับมานั่งข้าง ๆ กระเป๋าที่มีเด็ก ๆ สายตาก็กวาดมองรอบ ๆ นอกจากจะเป็นโซนโรงพยาบาลแล้ว ยังมีโซนที่แยกออกเป็นโรงแรมสัตว์อีกด้วย รวมถึงมุมของใช้สัตว์เลี้ยง ที่นี่กว้างขวางมาก สัตว์ที่รักษาก็แยกโซนต่าง ๆ ออกอย่างชัดเจน พนักงานก็พูดจาไพเราะ แต่เดี๋ยวต้องรอดูหมอที่ต้องดูแลเด็ก ๆ ก่อนแล้วกันว่าจะดูแลลูกของฉันได้ดีไหม “ทางนี้ค่ะคุณหมอ น้องมาพร้อมกันค่ะรับวัคซีนประจำปีและตรวจสุขภาพประจำปี” เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ พร้อมกับคนทั้งสองคนที่เดินตรงมายังฉัน เป็นพนักงานต้อนรับคนนั้นและคนแปลกหน้าที่ใจดีช่วยฉันอุ้มกระเป๋าเด็ก ๆ เข้ามานั่นเอง เขาคือหมอของที่นี่อย่างนั้นเหรอ “สวัสดีครับผมชื่อปริญนะครับ เป็นหมอที่จะตรวจเด็ก ๆ ในวันนี้ครับ” คนมาใหม่เอ่ยแนะนำตัวกับฉัน พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย “สวัสดีค่ะ รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ” “ยินดีครับ ถ้ายังไงหมอจะพาเด็กไปรับวัคซีนก่อนนะครับ” “ค่ะ” ระหว่างนั่งรอเด็ก ๆ ก็มีคนพาสัตว์เลี้ยงมารักษาเรื่อย ๆ บ้างก็อาบน้ำ บ้างก็มาฝากไว้ที่โรงแรมเรียกได้ว่ามีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสายเลยก็ว่าได้ และคุณหมอก็ดูใส่ใจเด็ก ๆ อยู่มาก “เด็ก ๆ รับวัคซีนแล้วนะครับ ส่วนสุขภาพปกติดีครับ มีเพียงแค่น้ำหนักตัวของน้องไวท์ช็อกที่ต้องลดนะครับ” คุณหมออุ้มเด็ก ๆ ที่ยังอยู่ในกระเป๋ากลับเข้ามาใกล้ฉันหลังจากที่พาเด็ก ๆ หายไปเกือบสามสิบนาที เหมียว วิปครีมร้องทักเมื่อฉันโผล่หน้าเข้าไปส่องดูเด็ก ๆ ในกระเป๋า เรียกรอยยิ้มจากคุณหมอได้เล็กน้อยส่วนฉันถึงกับมองลูกด้วยความเอ็นดู “ไงล่ะ ซ่าไม่ออกเลย เดี๋ยวแม่พากลับบ้านนะ” เอ่ยบอกเด็ก ๆ ทั้งสองตัวก่อนจะขยับลุกขึ้นยืนตรงหน้าคุณหมอปริญที่วันนี้ทำหน้าที่ตรวจดูเด็ก ๆ ให้ฉัน “เด็ก ๆ ปกติจริง ๆ ใช่ไหมคะ” ทวนถามคุณหมออีกครั้งเพื่อความมั่นใจ “ใช่ครับ ส่วนผลเลือดของเด็ก ๆ ยังอยู่ในค่าปกติสายตาก็ปกติครับ” “ขอบคุณนะคะ” “ด้วยความยินดีครับ” “คุณแม่น้องไวท์ช็อกและน้องวิปครีมค่ะ” เสียงพนักงานดังขึ้นจากด้านหลังฉันหันกลับไปมองก่อนจะเดินไปตามเสียงเรียก “ค่าใช้จ่ายน้องจะอยู่ที่สี่พันบาทนะคะ” “สแกนจ่ายนะคะ” เอ่ยแจ้งพนักงานพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค๊ด ระหว่างนี้ก็เอ่ยถามข้อมูลโรงพยาบาลไปด้วย “ที่นี่เปิดปิดกี่โมงเหรอคะ?” ระหว่างที่ถามนิ้วก็กดตัวเลขลงบนหน้าจอ “ที่โรงพยาบาลเราเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยค่ะ มีโรงแรมแมวบริการด้วยนะคะ น้องแมวจะอยู่ที่วันละสองร้อยบาทกรณีที่ไม่ได้นำอาหารมาด้วยจะอยู่ที่วันละสองร้อยห้าสิบบาทค่ะ” พนักงานอธิบายให้ฟังอย่างใจดี และไม่มีท่าทีหงุดหงิดที่ฉันถามเยอะเลยสักนิด “เป็นห้องแบบส่วนตัวไหมคะ?” “ถ้าลูกค้าต้องการห้องส่วนตัวจะเป็นอีกราคา ซึ่งราคาจะสูงขึ้นมาอีกนิดค่ะ” “มีบริการส่งคลิปหรือส่งรูปให้ดูด้วยไหมคะ” “แน่นอนว่าทางเรามีส่งรายงานให้คุณแม่น้อง ๆ วันละสองครั้งค่ะ” “ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล” ส่งยิ้มให้พนักงานพร้อมกับหันหน้าจอโทรศัพท์ไปให้เช็กข้อมูลการโอนเงิน “ยินดีมาก ๆ ค่ะคุณลูกค้า คุณหมอปริญคะบัตรนัดเด็ก ๆ เสร็จแล้วค่ะ” พนักงานเอ่ยเตือนคุณหมอ เมื่อมีคนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้ฉันจึงขยับออกห่างเล็กน้อย แต่คนข้าง ๆ ก็ยังคงยืนอยู่ไม่ไกลพร้อมกับมือที่กำลังเซ็นชื่อตัวเองลงบนสมุดวัคซีนของเด็ก ๆ “นัดเด็ก ๆ รับวัคซีนอีกทีวันที่ 14 กรกฎาคม ปีหน้านะครับ” คุณหมอยื่นสมุดนัดทั้งสองเล่มมาให้ ฉันจึงยื่นมือไปรับและเก็บใส่กระเป๋าสะพายตัวเอง “ขอบคุณค่ะ” “เดี๋ยวไปส่งที่รถครับ” คุณหมอที่ยังยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยบอกเสียงเบา เพิ่งรู้ว่าหมอที่นี่บริการดีแบบนี้ ฉันพยักหน้าเข้าใจเดินไปบอกเด็ก ๆ ว่าจะพากลับบ้านแล้วพร้อมกับคุณหมอที่อุ้มกระเป๋าเด็ก ๆ มาถือไว้เตรียมออกไปส่งที่รถ ฉันยังคงกางร่มให้ทั้งคุณหมอและเด็ก ๆ ดังเดิมเมื่อจัดการวางเด็ก ๆ ไว้ที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับเสร็จฉันก็กางร่มเดินกลับมาส่งคุณหมอที่ทางเข้าโรงพยาบาล “ขอบคุณนะคะ” เอ่ยบอกคนตัวสูงตรงหน้าอีกครั้งแล้วเดินกลับมาที่รถ เด็ก ๆ เงียบไปแล้ว โผล่หน้าเข้าไปดูก็พบว่าหลับกันไปแล้วเรียบร้อยทั้งพี่ทั้งน้อง ส่วนฉันก็สบายใจที่เด็ก ๆ ไม่มีอาการหวาดกลัวและผลตรวจทุกอย่างปกติ “กลับบ้านกันนะไวท์ช็อก วิปครีม” เอ่ยบอกกับเด็ก ๆ เสียงเบาและตั้งใจขับรถด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ==== จ๊ะเอ๋วันนี้มาสองตอน คิกคิก ขอบให้สนุกนะคะ ปล. เรื่องนี้มี *****คแล้วนะคะ ที่ Meb และปิ่นโต ลดราคา50% อยู่ค่ะ ไปสอยกันได้น้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD