ยินดีที่ได้รู้จัก

1175 Words
“คุณหนูมาค่ะ เร็วหน่อยค่ะ ใกล้เวลาอาหารขึ้นโต๊ะ ใกล้เวลาหนึ่งทุ่ม อยู่แล้วนะคะ เดี๋ยวสวยโดนเอ็ด”  เสียงสวยเร่งเร้าเด็กสาวตัวน้อย ที่กำลังบรรจงรวบมัดผมตัวเองอย่างประณีต “อย่าเร่งหนูมามากสิคะ พี่สวย เดี๋ยวหนูมาเก็บผมไม่หมด จะดูไม่เรียบร้อยนะคะ” เธอเอ่ยบอกสวยเสียงใส เพราะเธอเห็นแม่ย่าที่ท่านแต่งตัวดูเนี้ยบ และเส้นผมที่ทาน้ำมันเลื่อมไม่หล่นแม้สักเส้น หนูมาจึงอยากทำตัวให้เหมือนแม่ย่า “เสร็จแล้วค่ะ” เธอหันหน้ามาให้สวยดู โชว์คอขาว ๆ ที่มีสร้อยทองคำขาวที่แม่ย่ามให้ดูเด่นขึ้นมา ร่างน้อยสมวัยในชุดเสื้อติดกับกระโปรงพอดีตัวสีชมพูอ่อน ขับผิวขาวให้ดูผ่องใสมากกว่าเดิม “ดูดีแล้วค่ะ น่ารัก สวยมาก แต่เราช้าไม่ได้แล้วนะคะ เดี๋ยวพี่สวยจะโดนดุไม่ใช่น้อย” เธอรีบคว้าข้อมือเด็กสาวเดินกึ่งวิ่งไปตามทางที่จะตรงไปเรือนหลังใหญ่ “ฮู้...” เสียงพ่นลมหายใจของสวยดังออกมา เมื่อมาถึงห้องโถงที่โต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว “โชคดีนะคะ แม่ย่ายังไม่ลงมา” เสียงสวยบอกกระซิบกระซาบข้างหูกษิมาเบา ๆ  “ยืนอยู่ตรงนี้ก่อนค่ะ” เสียงสวยบอกเธอให้ยืนนิ่ง ๆ ตรงพื้นหน้าบันได เพราะต้องรอรับแม่ย่าที่เดินลงมาจากบนชั้นสอง เด็กสาวทำตามอย่างว่าง่าย วันนี้ภาคเช้าเธอเรียนหนังสือกับครูส้ม ในภาคบ่ายฟังพี่สวยพูดคุยและบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่หนูน้อยต้องทำ ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่ออยู่ที่นี่ และการอยู่ต่อหน้าท่าน ‘แม่นางส่าใหญ่’ หนูน้อยเงยหน้ามองขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเอ่ยทักดังมาจากบันได “เก่งมากนะคะ หนูมา ตรงต่อเวลาดีมาก” แม่ย่าเอ่ยทักยกยิ้มส่งมาให้ เด็กสาวส่งยิ้มตอบ ยกมือไหว้แม่ย่าอีกครั้ง แม่นางส่าใหญ่เดินตรงเข้ามาหาเด็กน้อย ยกมือขึ้นลูบหัวเธอเบา ๆ แล้วเดินนำเธอไปยังที่โต๊ะอาหาร “อ้าว สามหนุ่มยังไม่มาอีกหรือ” นางเอ่ยขึ้น ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะ สวยคลานเข่า แล้วใช้มือดึงชุดของเด็กสาวเหมือนรั้งตัวเธอเอาไว้ หนูน้อยหยุดตามนิ่งทำตามแบบว่าง่าย นึกถึงคำพูดของพี่สวยเมื่อกลางวัน “อย่าเพิ่งนั่งนะคะ รอคุณ ๆ หลานท่านมานั่งก่อน” เธอยิ้มให้กับตัวเอง นึกชมตัวเองที่ยังจำได้ แต่ก็เกือบลืมไปแล้ว “พี่สวยค่ะ หลานแม่ย่าชื่ออะไรบ้างคะ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ” เธอถามพี่สวยเสียงตื่นเต้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอยากรู้ “ผู้ชายสามคนค่ะ คุณใหญ่ คุณกลาง คุณเล็กค่ะ” สวยเอ่ยพร้อมนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของทั้งสามหนุ่มแล้วระบายยิ้มเต็มหน้า สวยและสาว อายุยี่สิบห้าปี แก่กว่าคุณ ๆ ทั้งสามก็จริง แต่ก็นึกนิยมในหน้าตาของพวกคุณ ๆ แอบปลื้มมาตั้งแต่พวกเขาเด็ก ๆ สวยและสาวเข้ามาอยู่บ้านนี้พร้อมกับนวล น้าสาวที่อายุเกือบห้าสิบปี ตอนทั้งสามมาอยู่ที่นี่ สวยและสาวอายุได้แค่สิบห้าปี สิบปีผ่านไปแล้ว ทั้งสามสาวมีเชื้อสายส่าเหมือนกัน จะว่าไปแล้วทุกคนที่ทำงานในบ้านหลังนี้ก็มีเชื้อสายส่ากันทั้งนั้น ยกเว้นแต่ กษิมา   ++++ กษิมาหันไปมองตามสายตาของแม่ย่าที่มองย้อนผ่านหลังของเธอไป แม่ย่ายิ้มกว้าง และเอ่ยทักทายหลานชายทั้งสามคน “มากันแล้วรึ” กษิมาหันตัวกลับไปมองข้างหลังของเธอ ภาพที่เห็นตรงหน้า สามหนุ่มรูปหล่อ ร่างกำยำ สูงใหญ่ ผิวพรรณขาวผ่องใสไปทั้งตัว คิ้วเข้มดกดำ สันจมูกโด่งรับกับใบหน้าวงรี ตัดผมรองทรง หวีผมอย่างเรียบร้อย เดินเข้ามาอย่างสง่างาม ทั้งสามมองมาที่เด็กสาวด้วยสายตาเป็นมิตร และส่งยิ้มพราวไปทั้งใบหน้า กษิมามองใบหน้าของทั้งสามคนสลับกันไปมา หัวใจของเธอเต้นรัวเร็ว ดังจนตัวเด็กสาวเองยังได้ยินเสียง เธอยกมือขึ้นไหว้พี่ชายที่คุณย่าเรียกด้วยท่าทางอ่อนช้อย ยกหน้าขึ้นยิ้มหวานส่งไปให้กับทั้งสามคน สามหนุ่มยืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วยกมือขึ้นมารับไหว้เธอด้วยเช่นกัน สามหนุ่มยกมือไหว้เจ้านางส่าใหญ่ ผู้มีสักเป็นย่าของพวกเขา ลูกชายเพียงคนเดียวของท่าน ผู้สืบเชื้อสายเพียงคนเดียวของ ส่าภูติเทพ ต้องจบชีวิตลงตามคำสาป เมื่ออายุครบสี่สิบเก้าปี กว่าจะหานางผู้ถูกเลือกให้กับลูกชายของนางได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นางผู้เกิดวันอังคาร ปีขาล เดือนห้า และเวลาตกฟากตามกำหนด นางที่มีกลิ่นหอมยวนใจ คือ แม่ของทั้งสามคนนั้น แม่นางส่าใหญ่ก็ต้องแทบจะพลิกแผ่นดินหากันทั้งประเทศ จนทำให้เกิดทายาทส่าภูติเทพได้มาถึงสามหน่อ ตอนนั้นแม่นางส่าใหญ่ก็ดีใจเป็นอย่างมาก แต่แม่ของพวกเขาก็ช่างอายุน้อยเสียเหลือเกิน เธอเสียชีวิตลงไปเมื่อตอนคุณเล็กอายุได้เพียงเก้าขวบเท่านั้นเอง “ไหว้พระเถิดลูก ย่ากำลังบ่นหาเราสามคนอยู่พอดี นี่ไงกษิมาที่ยายเล่าถึง” สามหนุ่มก้าวขาไปนั่งเรียงกันตามอายุ คุณใหญ่นั่งติดกับคุณย่า ตามมาด้วยคุณกลาง และคุณเล็กตามลำดับ “หนูมา มานั่งตรงนี้ลูก” เสียงแม่ย่าเอ่ยเรียกให้เธอไปนั่งลงใกล้ ๆ เด็กสาวเดินตัวตรง ใบหน้ายกยิ้มให้แก่พี่ ๆ ทั้งสามคน แล้วย่อตัวลงนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพี่ชายสุดหล่อทั้งสาม “กษิมา คนนี้ พี่การิน หรือ พี่ใหญ่” แม่ย่าชี้นิ้วไปยังผู้ชายที่นั่งติดกับท่าน ตอนนี้ยิ้มกว้างส่งมาให้เธอ เขาก้มศีรษะให้รับมือน้อย ๆ ของกษิมาที่ยกขึ้นกระพุ่มไหว้เขาอีกครั้งหนึ่ง “คนนี้ พี่กานดิศ หรือ พี่กลาง” เธอหันหน้าไปมองพี่ชายคนที่สอง หน้าเข้มเหมือนกัน แล้วยกขึ้นกระพุ่มไหว้เขาเช่นกัน พี่กลางยิ้มให้เธอแค่เพียงมุมปากเท่านั้น แต่สายตาแพรวพราว “ส่วนคนนู้น พี่กวิน หรือ พี่เล็ก” เธอก้มหัวยกขึ้นกระพุ่มไหว้ และยกหน้าส่งยิ้มให้กับเขา แต่เขาแค่ก้มหัว มองเธอแบบตรง ๆ ด้วยสายตาว่างเปล่า กษิมาถึงกับยิ้มเก้อ แล้วรีบหุบยิ้มลงในทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD