ตอนที่ 7 สองใจ

3370 Words
Episode 7 สองใจ @เปิดเรียนเทอมสองมัธยมในต้นเดือนพฤศจิกายน ตอนเรียนเทอมแรกบอกเลยตอนนั้นว่า มันอื้อไปหมด แทบจะไม่อยากคุยกับใคร ไม่อยากมองหน้าใครเลย เพราะรู้สึกว่าตัวเองอกหัก ขนาดพี่สาวที่เธอรักมาก ทุกครั้งที่พี่สาวกลับมาบ้านทุกเสาร์อาทิตย์ เธอก็แทบจะไม่คุยด้วยเลย ไม่รู้เพราะโกรธหรืออะไร ทำเอาพี่ชื่นงงไปเหมือนกัน ที่โรงเรียนก็มียัยเพื่อนสนิทสองคนที่คอยปลอบ เพราะทั้งคู่รู้ว่าเธอเป็นอะไร แต่ตอนนั้นคือโคตรห้าวเป้งมาก มีเรื่องกับหลายคนเกือบทั้งโรงเรียน ส่วนมากเธอจะหาเรื่อง แค่มีคนมองหน้าหรือเหยียบเท้า ไม่ว่าหญิงหรือชาย เธอไล่กัดหมด ฉายาตอนนั้นคือหมาบ้า 555+ ตอนนั้นคือโมโหไปหมด บางคนก็คิดว่าเป็นประจำเดือนแหละ 555+ เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล ใครว่ามีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว หลังจากนั้นก็อีกสี่ห้าครั้ง แต่แม่ไม่รู้ มีแค่ป๊าที่รู้ เพราะป๊าได้บอกลุงตำรวจคนนั้นไว้แล้ว ถ้ามีเรื่องแบบนี้ให้โทรบอกป๊าเอง เวลาป๊ามารับก็กล่าวตักเตือนนิดๆ เอาแม่มาขู่หน่อยๆ แค่นั้น แต่ป๊าไม่เคยบอกแม่เลย นี่แหละที่รักป๊าที่สุด! แหะๆ แต่ก่อนปิดเทอมแค่สองอาทิตย์เธอกลับกลายเป็นอีกคน ตั้งใจเรียนขึ้นมา ให้เพื่อนสนิทอย่างยัยพุดมาติวเข้มให้ ทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จนแม่แอบแปลกใจ ว่าผีเข้าลูกสาวหรือเปล่า 555+ แต่แล้วการสอบก็ผ่านไปด้วยดี สมองที่ฉลาดน้อยนิดก็ดันสอบผ่าน ช่วงปิดเทอมคือนอนตีพุงอยู่บ้านสบายๆ ไม่เหมือนปีก่อนๆ ช่วงปิดเทอมต้องไปส่งรายงาน แก้ศูนย์ แก้รอ แก้ มผ ผ่านมาทุกอย่างแล้วตอนนั้น และที่แน่ๆ ตั้งแต่ที่พี่รักประกาศว่าเป็นแฟนกับพี่ชื่นเธอไม่เคยไปเหยียบบ้านเพื่อนสนิทอย่างดอกพุดอีกเลย เปลี่ยนไปบ้านใบบัวแทน หรือไม่ก็ไปหาอะไรทำ อย่างเช่น สอดส่องผลไม้ของเพื่อนบ้าน ยิงนกด้วยหนังสติ๊ก หนังสติ๊กอันนั้นคือหวงมากเพราะพี่รักเป็นคนทำให้ เธอเลยทะนุถนอมเป็นอย่างดี ยัยบัวกับยัยพุดเคยขอยืมแต่เธอไม่ให้ พวกนางเลยว่าเธอขี้งก 555+ “ ตรงนี้อะไรยัยพุด ” เธอหันไปถามเพื่อนที่นั่งขีดเขียนอะไรไม่รู้ในกระดาษที่พึ่งปริ้นมา อาทิตย์แรกของการเปิดเทอมและเป็นวันหยุดวันนี้เธอก็ชวนดอกพุดกับใบบัวเพื่อนสาวมาที่บ้าน เพื่อติวกันหน่อย ไม่กี่เดือนก็จะขึ้นมหาวิทยาลัยแล้ว ขยันหน่อยๆ “ นี่ๆ ฉันเขียนใหม่ให้ดูแล้ว ” ยัยพุดยื่นไอแพดของตัวเองมาตรงหน้าเธอ แล้วยื่นแผ่นกระดาษไปให้ยัยบัวเขียนต่อ “ มาแล้วๆ วันนี้น้าทำข้าวโพดอบเนยมาให้กินด้วยนะ ” แม่เธอเป็นแบบนี้ประจำเวลาเพื่อนมาบ้าน ท่านก็จะทำของว่างมาให้ทานตลอด เธอกับแม่ก็ยังเหมือนเดิม วิ่งไล่จับกันประจำ มีปากมีเสียงกันตลอด แม่ไม่ชอบที่เธอไม่ทำตามและดื้อ ส่วนเธอก็ไม่ค่อยชอบที่แม่ห้ามเลยพูดจากวนๆประจำและชอบเถียง555+ “ ขอบคุณค่ะน้าชมพู ”ยัยพุดกับยัยบัวยกมือขึ้นไหว้แม่ของเธอ “ ไม่เป็นไรจ้ะ แค่ช่วยสอนยัยชบาให้เก่งเหมือนหนูสองคนก็ดีแล้ว น้าจะได้หมดห่วงสักที ” แม่พูด ทำเอาเพื่อนกลั้นขำ “ แม่ ยัยพุดเก่งคนเดียวนะ ยัยบัวก็งั้นๆแหละ ” เธอพูด “ งั้นๆ เหรอ ให้แกได้สักครึ่งของหนูบัวก่อนค่อยพูด ” แม่พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป ส่วนเพื่อนๆพากันหัวเราะใหญ่เลย “ อย่ามัวแต่หัวเราะ ยัยพุดแกสอนคณิตศาสตร์ก่อนสิว่ามันคิดยังไง ” เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขึงขัง “ ตรงนี้….” พุดกำลังจะสอนแต่... “ พุด ยัยพุด ” เสียงดังมาจากประตูรั้วข้างบ้าน ทำให้เธอและเพื่อนอีกสองคนหยุดชะงักหันไปมอง คนที่ยืนเรียกอยู่คือ... “ อ้าว! พี่รักกลับมาเมื่อไหร่ ” ยัยพุดลุกขึ้นยืนโบกมือบายบ๊ายให้พี่ชาย “ กลับมาเมื่อกี้ แม่เรียกให้แกกลับบ้าน มาๆ ” พี่รักพูด เธอได้แต่นั่งนิ่งๆ ทำเหมือนว่าสนใจแค่เรื่องติว เพราะเธอบอกตัวเองแล้ว ให้หักห้ามใจห้ามชอบพี่เขาอีก วันเวลาผ่านไปเพียงแค่เดือนเศษๆ ความรู้สึกนั้น เกือบจะเลือนลาง แต่พอเขาโผล่มาหัวใจเธอเต้นอย่างกับกลองชุด แค่เห็นหน้าเขาแว๊บนึงเพียงเสี้ยววินาที เธอก็หายคิดถึงเขาไปเลย แค่หักห้ามใจไม่ให้รักและชอบมันยากมาก แต่มันก็อดคิดถึงไม่ได้อยู่ดี “ บัว ชบา หวัดดี ” พี่เขาก็ยังเอ่ยทักทายอีก ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอจะเป็นฝ่ายทักก่อนเสมอ “ หวัดดีเช่นกันค่ะ พี่รัก ” ยัยบัวตอบแล้วมองหน้าเธอ “ เอ่อ...ฉันไปห้องน้ำก่อนดีกว่า ” พูดจบก็ลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินแต่... “ ชบา ชบา วันนี้พี่ไปค่ายมวยไปด้วยกันไหม ” ไม่รู้พี่เขาเข้ามาในรั้วบ้านตอนไหน พอพูดอีกที เสียงเขาก็ดังใกล้ข้างหลังเธอแล้ว “ พี่รัก พี่ลืมเหรอ น้าชมพูไม่ให้ไป ” ยัยพุดเอ่ยท้วงพี่ชายตนเอง “ ไม่ได้ลืม แต่นี่พี่พูดเสียงเบาแล้วนะ ” พี่รักพูด “ พอเลย ไม่ต้องพูดแล้ว เดี๋ยวน้าชมพูมาได้ยิน จะโดนดุด่าอีก ยัยชบาอะ ” ยัยพุดพูด “ ใช่ๆ ชบาไม่ไปหรอกที่สนามมวย ไม่ไปนานแล้วตั้งแต่พี่รัก….อุ๊ป! ” เธอรีบเอามือปิดปากของยัยบัวทันที และรู้ว่านางจะพูดอะไรต่อ “ ตามที่บัวบอก ชบาไม่ไปแล้วที่นั้น ” เธอหันไปพูดกับเขาแต่ไม่กล้าสบตาเขาแม้แต่น้อย “ อ๋อ...แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่ ” พี่เขาถามต่อ เมื่อก้มมองบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยกระดาษ “ ก็พุดกำลังติวให้บัวกับชบาอยู่ แต่ค่อยมาวันหลังก็ได้ ไปเถอะพี่รัก ” ยัยพุดพูด “ แกมีธุระเหรอ งั้นรีบไปสิ ค่อยมาติวกันต่อพรุ่งนี้ก็ได้ ” เธอรีบพูด “ โอเคๆ ” แล้วยัยพุดก็พาพี่ชายตัวเองกลับออกไปทางประตูรั้ว “ เฮ้อ ” เธอทิ้งตัวลงบนเก้าอี้แล้วถอนหายใจยาว “ แกเป็นอะไรปะเนี่ย ” ยัยบัวถามขึ้น “ เปล่า ! ” สี่เดือนกว่าแล้วนะที่พี่รักกับพี่ชื่นคบกัน ถึงจะไม่รู้วันเวลาที่แน่ชัด แต่เธอก็นับตามที่พี่เขาสองคนบอกนั่นแหละ “ แต่อาการแกเมื่อกี้… ” “ ฉันแค่ตกใจไม่คิดว่าจะเจอพี่รัก และไม่คิดว่าเขาจะมาที่บ้าน ความรู้สึกหลากหลายที่ฉันพยายามกลั้นไว้ สุดท้ายตอนนี้มันก็กลับมามีความรู้สึกแบบเก่า มันบอกไม่ถูกอะ ” เธอพูดอย่างใส่อารมณ์ “ เออๆ ใจเย็นๆเพื่อน แกเป็นเอามากนะ...ตั้งสติสิ พี่รักคือแฟนพี่ชื่น พี่ชื่นคือพี่สาวแก ท่องไว้เพื่อน ” ยัยบัวพูด “ อืม ” @สี่เดือนต่อมา และแล้ว มันก็ใกล้ถึงเวลาที่เราจะออกไปเติบโตนอกรั้วโรงเรียนแล้วสิ อีกแค่เดือนเดียวสอบแล้ว ตื่นเต้นยังไงไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่ายัยพุดสอบคณะไหน เธอกับยัยบัวก็สอบไปด้วย วัดดวงไปเลย พวกเธออยากอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมไม่อยากแยกย้ายกันไป เอาง่ายๆขี้เกียจหาเพื่อนใหม่ “ เดือนนี้ ฉันคงไม่ได้มาเล่นกับพวกแกแล้วนะ ” เธอพูดขึ้น ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน “ พูดแล้วใจหาย พี่ชบาจะจากพวกเราไปแล้ว ” รุ่นน้องม.4พูด “ ไอ้นี่ เดี๋ยวกูก็เตะให้ฟันร่วงหรอก กูไม่ได้ไปตายสักหน่อย ก็แค่ไปเรียนต่อปะวะ ปล่อยให้กูมีอนาคตดีๆมั้งเหอะ หรือพวกมึงอยากให้กูตกซ้ำชั้นอยู่กับพวกมึงห้ะ ” เธอพูด “ ใจเย็นพี่ ไอ้พวกนี่ มันตั้งใจจะสื่อแหละว่าไม่อยากให้พี่ไปเลย อยากให้อยู่ที่นี่อีก เพราะพวกมันรู้สึกผูกพันธ์กับพี่ ถ้าพี่ไปแก๊งพวกเราก็คงขาดอะไรไปสักอย่างไม่เหมือนวันเก่าๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรั้งพี่ไว้ ยังไงทุกคนก็ต้องไปเรียนต่อเพื่ออนาคตของตัวเองอยู่แล้ว ” รุ่นน้องม.5 พูด “ มึงพูดได้ดีมาก ไอ้เทพ ต่อไปถ้ามีอะไร พวกมึงทุกคนมาบอกไอ้เทพนะ แล้วไอ้เทพก็ค่อยบอกกูอีกที ” เธอหันไปพูดกับรุ่นน้องแก๊งตัวเอง “ … ” “ ทำไมพวกมึงเงียบกันจัง ยังไงพวกมึงก็เล่นเกมส์กับกูนิ จะเศร้าทำไม เบอร์โทรก็มี เฟซบุ๊กก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ก็ทักมาสิวะ ” เธอพูดเหมือนการปลอบใจรุ่นน้องและตัวเอง ถึงจะพากันเกเรแต่เธอก็รักเพื่อนพ้องในโรงเรียนมัธยมX ที่สุดเลย “ ครับ สัญญานะว่าพี่ชบาจะไม่ลืมพวกเรา ” รุ่นน้อง ม.5 พูดแทนใจทุกคน “ เออ กูไม่ลืมหรอก ถ้ากูเรียนไม่หนัก พวกเราค่อยนัดเจอกันดีไหม ” “ ดีๆ จะรอนะพี่ ” พวกมันต่างพูดเสียงเดียวกันหมด จากที่เศร้าๆเริ่มกลับมายิ้มแย้ม “ พวกมึงนี่นะ ติดดูยิ่งกว่าพ่อแม่ตัวเองซะอีก 555+ เออ ตั้งใจเรียนให้มากๆนะ อย่าเกเร อย่ามีเรื่อง เดี๋ยวกูมาช่วยไม่ทัน 555+ ” แล้วพวกรุ่นน้องก็ต่างพากันหัวเราะ หลังจากนั้นก็ติวเข้มทางโรงเรียนได้เชิญครูมาโดยเฉพาะเพื่อติวให้นักเรียนชั้นม.6และม.3 ตอนนี้คือตั้งใจเรียน ตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัย คณะที่ชอบและคณะที่คิดสำรองไว้ด้วย สอบเก็บคะแนน สอบ o- net กว่าจะผ่านไปได้ ยากเหมือนกัน @หนึ่งเดือนต่อมาหลังสอบเสร็จ เมื่อวานจัดงานปัจฉิม อำลารุ่นพี่ม.6 ด้วยความที่คนรู้จักเยอะและมีเรื่องมาเยอะ มีแต่คนขอโทษ 555+ เรื่องที่เคยทะเลาะกัน และมอบดอกไม้ให้เยอะแยะ ส่วนดอกไม้ก็มีรุ่นน้องแก๊งเธอนี่แหละ มันเล่นใหญ่กัน ซื้อมาคนละช่อเพื่อให้เธอและเพื่อนที่อยู่ม.6 แก๊งเธออีกด้วย “ อ้าว! พี่รักมาด้วยเหรอ? ” ดอกพุดพูดถามเสียงดังมาก “ อืม ” พูดจบพี่เขาก็ยื่นดอกไม้ให้เธอและยัยพุดยัยบัวพร้อมกับยืนถ่ายรูปกับเธอด้วย ต่อด้วยน้องสาวเขาเอง “ ต่อไปนี้จะใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย จะทำอะไรก็คิดไต่ตรองให้ดี โตๆกันแล้ว ” พี่รักพูดกับพวกเราสามคน แล้วเอามือมายี้หัวเธอเหมือนที่เคยทำมาเมื่อก่อน สักพักพี่เขาก็เดินไป แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ส่วนมากรุ่นพี่ที่จบไปแล้วจะกลับมาในงานวันปัจฉิมตอนอำลาตลอด @สองอาทิตย์ต่อมาหลังปิดเทอมใหญ่ เก้าเดือนกว่าแล้วสินะที่พี่รักคบกับพี่ชื่น เธอไม่รู้ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ถึงไหนกันแล้ว ทุกครั้งที่ทั้งคู่พากันกลับมาที่บ้าน เธอก็เข้าไปอยู่ในห้องประจำ ไม่อยากรับรู้ชีวิตของทั้งคู่เลย “ ลูกไปสอบที่ไหนมาแล้วบ้าง ” ป๊าถามขึ้นในขณะที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ในตอนเช้า วันนี้เธอตื่นเช้ามาก กะว่าจะวิ่งออกกำลังกายซักหน่อย แต่สุดท้ายก็ไม่เพราะขี้เกียจตามเคย “ หลายที่เลยค่ะ หนูลองไปสอบที่พี่ชื่นด้วยนะ ข้อสอบยากแท้ 555+ ” เธอก็ไม่ได้คาดหวังแล้วที่นั้น เพราะเธอไม่รู้จะไปสอบที่ยากๆทำไม มันไม่มีอะไรที่ทำให้อยากไปแล้ว “ ต้องได้อยู่แล้วสิ ลูกพ่อเก่งอยู่แล้ว ” “ ยกยอกันเข้าไป ให้มันได้สักที่เถอะ ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรมาก จะได้ไม่ผิดหวัง เพราะรู้อยู่ว่าตัวเองนั้นเรียนเกรดต่ำขนาดไหน ” เสียงแม่ดังมาขณะที่เดินยกถ้วยกาแฟมาให้ป๊า คำพูดของแม่ เธอก็ฟังจนชินแล้ว ไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรเหมือนแต่ก่อนแล้ว คงเพราะเธอรู้ตัวเองดีเหมือนกัน “ คุณ! ทำไมชอบพูดแบบนี้ ไม่ให้กำลังใจแล้วอย่ามาซ้ำเติมได้ไหม ชบาก็ลูกคุณนะ จะเกเร ดื้อดึง เอาแต่ใจยังไงเขาก็ลูกเรานะ ” จู่ๆป๊าก็ขึ้นเสียงใส่แม่ ทำเอาเธอกับแม่อึ้งไปตามๆกัน “ ฉันก็แค่… ” “ พอเถอะ บางครั้งบางคำพูดมันก็บั่นทอนจิตใจเด็กได้เหมือนกันนะ ตอนนี้ชบาอาจจะยังเด็ก เล่นเหมือนเด็ก อาจจะยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น อยากรู้อยากลอง มันคือประสบการณ์ล้วนๆนะ อะไรที่รู้ด้วยตัวเอง แต่พอโตขึ้นเขาจะรู้เองว่าอะไรควรไม่ควร ถ้าคุณพูดแต่เรื่องดีๆ สั่งสอนดีๆ ไม่เอาแต่ดุด่าว่ากล่าวหรือประชดประชัน ภายภาคหน้า หากไม่มีเราสองคนแล้ว ลูกก็จะรู้เองสิ่งที่พ่อแม่พูดกรอกหูอยู่ทุกวัน มันจะช่วยได้เยอะ ” ป๊าพูดจบยกกาแฟขึ้นดื่ม คำพูดของป๊าในวันนี้ มันมีเหตุมีผลดีนะ บางสิ่งบางอย่างเราต้องเรียนรู้ด้วยตนเองถึงจะรู้ว่าดีหรือไม่ดี ถ้าเอาแต่ฟังไม่ลองทำก็อาจจะไม่รู้หรืออาจจะทำผิดพลาดไปได้ “ งั้นป๊าไปก่อนนะลูก ช่วงนี้ก็ทำอะไรที่อยากทำได้เลย พอเข้ามหาวิทยาลัยจะเรียนหนักแล้ว คงไม่มีเวลาเที่ยวเล่นแบบนี้แล้วแหละ ” ป๊าพูดแล้วยื่นเงินมาให้เธอปึกนึง เธอก็รับมาโดยดี แต่ก็ขมวดคิ้วไปด้วย “ คุณ...มันมากไปนะ ” แม่พูดขึ้น “ ผมอยากให้ลูก คุณอย่าขัดเลย อันนี้เป็นเงินส่วนตัวผมเองล้วนๆ ” “ แล้วแต่คุณเลย ” แม่พูดเหมือนเคือง แล้วเดินเข้าครัวไป ส่วนป๊าก็ไปที่หน้าร้านกิจการของบ้าน “ แล้วฉันจะไปไหนดี! ” เธอนั่งกำเงินประมาณสี่ห้าหมื่นในมือไว้ @มหาวิทยาลัย X “ ไอ้ไผ่เรื่องของมึงถึงไหนแล้ววะ นี่จะจบเทอมสองแล้วนะ ” ไอ้**มพูด “ ใช่ๆ เนี่ยมึงก็ทำเหมือนสนใจ แต่กูไม่เห็นมึงจะไปตามไล่จีบสักที สุดท้ายเงินที่เหลือพวกนี้ก็จะเสร็จพวกกู ” ไอ้สอนพูด เทอมแรกไอ้พวกเพื่อนๆตามจีบสาวคนที่เลือกให้สำเร็จจนเป็นแฟนในเวลาสองเดือนในเทอมแรก พวกมันก็ได้เงินไปคนละครึ่ง เอาของตัวเองคืนไปแล้วเอาของเขาเองไปหารกันสามคน ช่วงระยะเทอมแรก สามเดือนแรกนั้น เขาก็เฝ้ามองเธอคนนั้นเงียบๆ จนรู้ว่าเธอชื่อชื่น มีเพื่อนสนิทชื่อกล้วย ซึ่งกล้วยก็เป็นคนที่พวกเขาเลือกให้ไอ้**มจีบด้วยเช่นกัน ที่เขาใช้เวลานานเพราะเธอคนนั้นมีแฟนแล้วเป็นเด็กปีสองซึ่งเป็นเพื่อนกับน้องชายเขาด้วย และเขาก็เฝ้ามองเธอจนรู้ว่าเธอนั้นคบกับแฟนได้สามเดือนแล้ว แต่มันก็ไม่เป็นปัญหาเขาเข้าทางเพื่อนสนิทของเธอ ก็คือกล้วยนั่นแหละ จนได้คุยกับเธอผ่านเฟซบุ๊กมาสักพักแล้วด้วย แต่เธอก็ไม่ยอมออกมาเจอหน้ากันสักทีเพราะกลัวแฟนเห็น คิดดูว่ามันตื่นเต้นขนาดไหน เป็นชู้กับแฟนคนอื่น เขาไม่ใช่แค่พิมพ์คุยผ่านแชทนะ ยังโทรหากันออกจะบ่อยด้วย จนเข้าเทอมสองเขาก็ยังคุยกับเธอ คุยแบบไม่มีสถานะ เธอไม่ยอมตกลงจะปลงใจเป็นแฟนกับเขาเพราะว่าเธอนั้นมีแฟนอยู่แล้ว พอคิดๆดูเธอมีคบกับแฟนมาเก้าเดือนกว่าแล้ว คุยกับเขามาหกเดือนกว่าแล้วด้วย ครั้งหนึ่งเขาเคยเอ่ยถามเรื่องที่วัยรุ่นมีอะไรกันทำนองนั้น เธอก็ออกตัวก่อนเลยว่าเธอนั้นยังไม่เคยมีอะไรกับแฟน แต่เอาจริงๆผมว่าแฟนเธอเหมือนจะคลั่งรักเธอมากนะ เขาจับตาดูมาตลอด คิดแล้วตอนนี้ ที่บอกว่าเธอซื่อบื่อนั่นไม่รู้ว่าตอแหลหรือเปล่า เธอยังคุยกับเขามาขนาดนี้ แล้วกับแฟนตัวเองไม่รู้คุยเยอะไหม ที่กล้วยบอกมา เธอเหมือนจะตอบคำถามแฟนมากกว่าถามเองอีก @12:50 น. “ ชื่นแกรู้ไหมพี่**มเปย์ฉันหนักมาก ” เพื่อนสนิทพูดด้วยท่าทางดีใจ “ เธอตกลงคบกับพี่**มจริงๆใช่ไหม ” บานชื่นถามกล้วยไม้ด้วยสีหน้าจริงจัง “ ก็ใช่นะสิ ฉันเคยคิดว่าพี่**มจะหลอกฟันฉันแค่นั้น แต่นี่เขามีอะไรกับฉันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เขาก็ยังเหมือนเดิมกับฉันนะ ” เพื่อนสาวพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ แต่บานชื่นไม่คิดแบบนั้น เธอคิดว่าเรื่องแบบนี้ยังไม่ควรเกิดขึ้นกับตัวเธอนะ ตอนนี้เธอสองจิตสองใจมาก คนหนึ่งทั้งดีทั้งเก่ง ตามใจทุกอย่างเขาคือสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง อีกคนเธอเห็นหน้าเขาผ่านโปรไฟล์เฟซบุ๊ก ไม่เคยได้เห็นจริงๆจังๆสักครั้ง วีดีโอคอลก็ไม่เคยเพราะเธอปฏิเสธ แต่เขาคือสเป็คในฝันของเธอ ดูจากรูปภาพในเฟซบุ๊กแค่นั่นเอง การพูดการจาก็ดูจะสุภาพแต่เขาจะมีมุกหยอดประจำทำให้หัวเราะและยิ้มได้ทุกเวลา แต่ที่แน่ๆเขากับพี่นักเรียนคณะเดียวกันและเขาก็เป็นพี่ชายของพี่ไม้ที่เป็นเพื่อนใหม่พี่รักในรั้วมหาวิทยาลัยด้วย มันจะโลกกลมอะไรขนาดนี้ แต่ที่เธอได้มาคุยกับพี่ไผ่ได้เพราะเพื่อนอย่างกล้วยไม้เป็นคนให้เบอร์และเฟซบุ๊กของเธอให้พี่ไผ่ไป เลยบอกนะว่าเธอกับพี่รักคบกันโดยที่เธอตามเพื่อน เชื่อเพื่อน และไม่ได้รักและชอบพอพี่เขาเลย แต่พอเธอเริ่มเปิดใจ และเริ่มที่จะสามสัมพันธ์ ด้วยการเรียนและหน้าตาของเขาคือดีไปหมด มีแต่คนจ้องจะแย่ง เธอก็เริ่มมีท่าทางห่วงแต่ได้ไม่นานเพราะเธอได้มารู้จักพี่ไผ่รุ่นพี่ปีสาม เธอก็เริ่มเหินห่างจากพี่รัก ตอนค่ำก่อนนอนตอนที่อยู่ที่หอ เธอจะคุยกับพี่ไผ่มากกว่าพี่รัก ทุกครั้งพี่รักจะโทรมาถามว่าทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง นอนตอนไหน แล้วก็เงียบไป เพราะเหมือนพี่เขากับเธอไม่ค่อยมีเรื่องจะคุย แต่ตอนที่เธอได้คุยกับพี่ไผ่ เขามีเรื่องมากมายมาชวนคุยเยอะแยะ จนเธอมีความสุขหัวเราะและยิ้มตาม แต่เธอรู้สถานะตัวเองดีว่าเธอเป็นแฟนกับใคร เธอเลยเลือกที่จะไม่นัดเจอกับพี่ไผ่ และเคยที่จะเลิกคุยแต่ทำไม่ได้เพราะเหมือนขาดอะไรไป จนสุดท้ายเธอก็กลับมาคุยกับเขาอีกครั้ง แบบไม่มีสถานะแบบเดิม ตอนนี้เธอเครียดเหมือนกัน ทำตัวไม่ถูกและไม่อยากโดนเรียกว่านางวันทองที่สองใจ ❤️________❤️ นามปากกา ByMinne
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD