แฟนเก่า 2

1129 Words
Melon Talk หลังเลิกเรียนฉันก็รีบขับรถกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงานที่ร้านเหล้า ฉันจอดรถที่ซื้อเงินผ่อนจากพี่แอมแฟนเจ้าของร้านเหล้าที่ฉันทำงานไว้หลังบ้านก่อนจะดับเครื่องและรีบเดินเข้าบ้านเงียบๆ แต่โชคร้ายที่ไอ้ขนุนน้องชายคนเล็กดันอยู่บ้านและที่สำคัญมันกำลังจ้องฉันไม่วางตา “มองไร” “ป่าว” มันตอบพร้อมทำหน้ายียวนใส่ก่อนจะยกเท้าพาดโต๊ะดูทีวีท่าทางสบายใจ ไอ้ขนุนเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านตอนนี้อยู่ปี1คณะนิเทศน์ มันเป็นคนขี้เกียจ ในขณะที่ฉันหางานทำและพี่กล้วยหอมกับแตงโมเปิดร้านอาหารตามสั่งหน้าบ้านตอนเย็น ไอ้เวรนี่กลับมานอนดูทีวีสบายใจแถมยังพูดมาได้หน้าตาเฉยว่าไม่ใช่หน้าที่ “ถามจริงเหอะ มึงไม่คิดจะออกไปช่วยพี่กล้วยกับไอ้โมบ้างรึไง” “แล้วทำไมพี่เมไม่ไปช่วยเองอ่ะ” “กูก็มีงานของกูป่ะ” “งานร้านเหล้านั่นรึไง” มันสวนเสียงแข็งทำหน้าจริงจังอย่างกับว่าฉันไปทำอะไรผิดมางั้นแหละ ถึงฉันจะทำงานร้านเหล้าแต่งานฉันมันก็สุจริจนะเว้ย “กูไปเป็นนักร้อง ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดี” มันเบะปากใส่ก่อนจะปิดทีวีและเดินกระแทกเท้าขึ้นบันไดไป ถ้าไม่ติดว่ามันมีแฟนเป็นผู้หญิงฉันคงคิดว่ามันเป็นตุ๊ดเพราะไอ้นี่มันหน้าหล่อออกไปทางหวานๆบางครั้งก็มีท่าทางตุ้งติ้ง บ่อยครั้งฉันก็แอบสงสัยว่ามันเป็นรึป่าว “อ้าวพี่เม มาแล้วเหรอ” เสียงหวานใสดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองเห็นแตงโมเดินเข้ามาพร้อมพี่กล้วยหอมในมือทั้งคู่มีถุงกับข้าวพะรุงพะรัง “จะไปไหนอีก” พี่กล้วยหอมเอ่ยถามเสียงขุ่นคลายไม่พอใจ อาจเป็นเพราะว่าเมื่อเช้าเราเพิ่งทะเลาะกันเรื่องที่ฉันไปทำงานกลางคืน พี่กล้วยหอมจึงยังโกรธอยู่ “ไปทำงาน” ฉันเอ่ยตอบกลับไปเสียงห้วนๆไม่ต่างกัน ในเมื่อพี่กล้วยหอมคิดบังคับฉันอย่างไม่มีเหตุผล ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ เธอควรรู้ว่าที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อครอบครัวของเรา ฉันพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินเข้าบ้านแต่แทนที่เธอจะภูมิใจกลับเอาแต่ดุด่าบังคับฉัน “ที่พี่พูด เมไม่คิดจะฟังใช่มั๊ย” “ก็คงงั้น” ฉันเดินหนีขึ้นบันไดเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่พี่กล้วยหอมยังตามมาพูดนู่นพูดนี่จนฉันรู้สึกรำคาญ “เมเป็นผู้หญิงไปทำงานกลางคืนมันอันตราย” “ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้น จะซีเรียสไปทำไม” ฉันถอดเสื้อนักศึกษาออกจนเหลือแค่บราก่อนจะหยิบเสื้อยืดสีดำในตู้เสื้อผ้ามาสวม “แต่พี่เป็นห่วง” มือที่กำลังจะหยิบกางเกงยีนส์ชะงักรู้สึกว่าตัวเองทำหน้าไม่ถูกสักเท่าไหร่ ครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวที่พูดจาดีต่อกันมากนัก พอมาได้ยินอะไรแบบนี้มันก็เลยรู้สึกแปลกๆ “โตแล้ว ดูแลตัวเองได้” ฉันเอ่ยเสียงอ่อนลง อีกไม่นานฉันก็จะผ่อนรถคันนี้หมดแล้วยังไงฉันก็ต้องไปทำงาน แม้ไม่อยากมีปัญหากับพี่กล้วยหอมแต่มันก็จำเป็น ร้านMB “ทำไมวันนี้มาช้าครับพี่” เคน บาร์เทนเดอร์ประจำร้านเอ่ยทักทายฉันเป็นคนแรกพร้อมยื่นแก้วไวน์มาให้ ไอ้นี่มันอายุน้อยกว่าฉันหนึ่งปี มันเรียนปี2แต่อยู่คนละมหาลัย ตอนเย็นก็มารับจ็อบชงเหล้าที่ร้าน ฉันกับมันสนิทกันพอสมควรเพราะเข้ามาทำงานที่นี่ไล่เลี่ยกัน “มีปัญหานิดหน่อย” “ทะเลาะกับที่บ้านมาเหรอ” ฉันเคยเล่าให้มันฟังว่าพี่สาวฉันชอบบ่นเรื่องที่กลับบ้านดึกและเรื่องที่มาทำงานในร้านเหล้า มันจึงรู้ว่าทุกครั้งที่ฉันมาช้าก็เพราะทะเลาะกับที่บ้านอยู่ “อืม ก็รู้ว่าห่วงแต่มันจำเป็น ชีวิตต้องใช้เงินจะอยู่เฉยได้ไงวะ” “จริงพี่” ไอ้เคนพยักหน้าเห็นด้วยเพราะตัวมันยังหาเงินใช้เองจึงเข้าใจความจำเป็นของฉันที่ต้องสละเวลานอนมาทำงานกว่าจะได้กลับบ้านพักผ่อนจริงๆก็เลยเที่ยงคืนไปแล้วแถมบางวันยังต้องตื่นเช้าไปเรียนอีก “ว่าแต่เจ๊แอมยังไม่มาเหรอ” ไอ้เคนยิ้มกรุ้มกริ่มพยักเพยิดหน้าขึ้นไปด้านบนก่อนยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูฉัน “เมื่อคืนเจ๊แอมทะเลาะกับเฮีย ป่านนี้ยังไม่ตื่นเลย สงสัยเคลียร์กันยาว...ทั้งคืน “ทะลึ่งนะมึงอ่ะ” ฉันตบหัวไอ้เคนไปทีนึงเพราะรู้ดีว่ามันจะสื่ออะไร เจ๊แอมกับเฮียก็อย่างนี้แหละเวลาทะเลาะกันก็จะขึ้นไปเคลียร์บนห้องและน่าจะจบลงบนเตียง สุดท้ายก็กลับมาคืนดีกัน แฮปปี้เอนดิ้ง “เรื่องจริงทั้งนั้น” “เออ กูรู้ว่าจริงแต่มึงอย่าเที่ยวเอาไปพูด เข้าใจป่ะวะ” “ครับ เข้าใจแล้ว” ฉันยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มก่อนจะวางลงและหยิบกีต้าร์ตัวโปรดมาตั้งสายฆ่าเวลารอร้านเปิดเพราะตอนนี้ยังไม่หกโมงเย็น “เออ พี่เม เมื่อวานหลังจากพี่กลับบ้าน มีคนมาถามหาพี่ด้วยนะ” จู่ๆไอ้เคนก็เอ่ยบอกฉันเหมือนนึกขึ้นได้ มันล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนส่งแผ่นกระดาษเล็กๆให้ฉัน ลายมือที่คุ้นเคยทำให้รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของกระดาษแผ่นนี้เป็นใคร “คิดถึง ถุยเหอะ” ฉันขยำกระดาษเป็นก้อนกลมก่อนปาลงถังขยะอย่างแม่นยำ “มีหนุ่มมาจีบอ่ะดิ” ฉันไม่สนใจสีหน้าและน้ำเสียงล้อเลียนของไอ้เคนก้มหนาก้มตาจดจ่อกับกีต้าร์ตัวโปรด บอกตามตรงถึงฉันจะเคยรักมิดไนท์มากแค่ไหน แต่ตอนนี้ฉันกลับเกลียดมันเข้ากระดูกดำ “หนุ่มมาจีบทำเป็นเล่นตัวนะพี่เม โอ๊ย” เสียงเพี๊ยะดังขึ้นตามด้วยเสียงร้องโอดโอยของไอ้เด็กปากมาก ฉันถลึงตาดุใส่มันก่อนจะคว้ากีต้าร์และเลี่ยงไปนั่งที่อื่นเพราะรำคาญไอ้เคนที่เอาแต่พูดไม่หยุด “เจ็บนะพี่” มันลูบหัวป้อยๆยู่ปากใส่ฉันและหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดแก้วต่อ แต่ฉันก็แอบเห็นมันทำปากขมุบขมิบไม่รู้ว่ากำลังด่าอะไรฉันอยู่รึป่าว...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD