ตอนที่ 12 ความเสียใจ

1871 Words
เด็กผมช่างร้าย ตอนที่ 12 ความเสียใจ “อีกสามวันทางคณะของเราจะมีการจัดกิจกรรมค่ายอาสาเป็นเวลาสามวันสองคืน หวังว่าจะมาพร้อมกันทุกคนนะ” เสียงของเฮดว๊ากปี 3 พูดขึ้นมาท่ามกลางนักศึกษาปี 1 “แกๆ ค่ายอาสานี่แม่งต้องทำไรบ้างว่ะ” ไอ้ปังหันหน้ามาถามฉันซึ่งนั่งเข้าแถวอยู่ข้างหลังมัน “ก็พวกปลูกป่างี้มั้ง แกว่าไงไอ้นาย” ฉันตอบไอ้ปังแล้วถามไอ้นายที่นั่งอยู่ข้างๆ “....” “ไอ้นาย ไอ้นาย !!” “....” “ไอ้เชี่ยนาย!!” “ห๊ะๆ พวกมึงพูดว่าไงนะ” “ช่วงนี้มึงดูใจลอยนะนาย” ตั้งแต่ที่ไอ้นายหายไปหลายวันแล้วกลับมามันก็ดูแปลกๆ ไป พอฉันกับไอ้ปังถาม มันก็บอกแค่ไม่มีอะไรที่หยุดเรียนไปหลายวันก็เพราะไม่สบาย “นายแกโอเคไหม พวกฉันเป็นห่วงแกนะ” “ฉันไม่ได้เป็นอะไร” ฉันกับไอ้ปังมองหน้ากันทันทีดูก็รู้ว่าไอ้นายต้องมีอะไรที่ไม่สบายใจอยู่แน่ๆ แต่ทำไมมันไม่ยอมบอกพวกฉัน “พวกมึงไปหาไรแดกก่อนกลับบ้านกัน” หลังจากประชุมเชียร์เสร็จไอ้ปังก็ชวนฉันกับไอ้นายไปหาอะไรกิน “เออ..ฉันก็หิวเหมือนกัน แล้วมึงอะสไมล์” ไอ้นายถามฉันแล้วลูบท้องตัวเองบอกให้รู้ว่าแม่งหิวสุดๆ ก็แหง่สิข้าวเที่ยงไม่แดกเพราะนั่งปั่นรายงานที่แม่งเสือกหยุดไปตั้งหลายวัน “ฉันขอโทรบอกพี่เดย์มันแป๊บ” เมื่อเช้าพี่เขาขับรถมาส่งไง แล้วบอกจะมารับด้วยฉันเลยต้องโทรไปบอกก่อน “เดี๋ยวนี้ต้องรายงานผัวตลอดเลยนะมึง” ไอ้ปังมันแซวขึ้นมาขำๆ รอสายอยู่นานพี่เขาก็ไม่ยอมรับสักที “พวกมึงไปเลย ฉันต้องรอพี่เขา ไว้วันหลังนะมึง” ใจจริงฉันก็อยากไปกับเพื่อนนะ แต่เมื่อเช้าพี่เขาบอกว่าจะมารับไง โทรไปก็ไม่ยอมรับสายถ้าเกิดพี่เขามาก็กลัวไม่เจอ แบตโทรศัพท์ใกล้หมดแล้วด้วย “เออๆ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะมึง” ฉันโบกมือลาไอ้ปังกับไอ้นาย แล้วเดินไปนั่งรอที่ม้าหินหน้าคณะ “ทำไมยังไม่มาอีกนะ ฝนก็จะตกแล้วด้วย” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ นี่มันก็ใกล้จะทุ่มแล้วฉันรอพี่เขาตั้งแต่ 6 โมงกว่า จนตอนนี้พี่เขายังไม่มาเลย โทรศัพท์ก็แบตหมดไปตอนไหนไม่รู้ “สไมล์” ฉันหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นทิวกำลังเดินเข้ามาหา “มานั่งทำอะไรตรงนี้ ฝนจะตกแล้วนะ” ทิวถามฉันแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตอนนี้เริ่มมีเมฆครึ่มๆ บ่งบอกว่าอีกไม่นานฝนต้องตกลงมาแน่ๆ “เรากำลังจะกลับแล้ว” ยังไม่ทันที่ฉันจะลุกขึ้นฝนก็เทกระหน่ำลงมาอะไรแม่งจะซวยขนาดนี้ แล้วพี่เขาหายไปไหนนะ.... “เราว่าไปหลบใต้อาคารก่อนดีก่อน” ทิวจับมือฉันแล้ววิ่งฝ่าฝนเข้าไปหลบใต้อาคารของคณะซึ่งมีนักศึกษาบางส่วนกำลังหลบฝนอยู่ “มาตกอะไรตอนนี้ว่ะเนี่ย” ฉันบ่นเบาๆ แล้วดึงมือทิวที่จับมือฉันออก ไม่รู้สิถ้าตอนนี้คนที่จับมือฉันอยู่เป็นพี่เดย์ก็คงดีกว่านี้ “แล้วนี่ไมล์จะกลับยังไง” ทิวชวนฉันคุยขณะที่รอฝนหยุดตก “คงนั่งแท็กซี่” ฉันเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยปากตอบทิว เอาจริงๆ ฉันก็ไม่รู้เหมืิอนกันจะกลับยังไง ปกติก็ขับรถมาเอง แต่ช่วงนี้ก็มีไอ้พี่เดย์คอยมารับมาส่งแต่ตอนนี้สิ....จะให้นั่งแท็กซี่คนเดียวตอนกลางคืนฉันก็ไม่กล้าเพราะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน “ให้เราไปส่งไหม” ฉันมองหน้าทิวที่ส่งยิ้มจางๆ มาให้ ฉันไม่รู้ว่าจะไว้ใจเพื่อนใหม่คนนี้ได้มากน้อยแค่ไหน แต่มันคงไม่มีอะไรหรอกมั้งในเมื่อฉันเองก็เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้อ่อนแอขนาดที่จะดูแลตัวเองไม่ได้ อย่างน้อยทิวก็ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนให้ทิวไปส่งก็ดีกว่ากลับแท็กซี่ ฝนเริ่มซาลงฉันเลยให้ทิวขับรถมาส่งที่คอนโดพี่เขา แล้วให้ทิวขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อบนคอนโดด้วยเพราะถ้าขืนใส่แบบนี้นานๆ ได้หวัดกินแน่ๆ ถือว่าตอบแทนที่มาส่งฉันแล้วกัน ไฟในห้องยังคงมือสนิท แสดงว่าพี่เขาคงยังไม่กลับมาสินะ ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เขาทำอะไร อยู่ที่ไหน ใจหนึ่งก็นึกเป็นห่วง อีกความรู้สึกมันก็น้อยใจว่าทำไมพี่เขาถึงปล่อยให้ฉันรอ “สไมล์ ไมล์” “ห๊ะ” ฉันสะดุ้งเมื่อทิวเขย่าที่แขนฉันเบาๆ “เราเรียกตั้งนาน” “โทษที เดี๋ยวเราไปเอาชุดมาให้เปลี่ยนนะ” ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วหยิบชุดพี่เขามาให้ทิวเปลี่ยน “สไมล์อยู่กับแฟนเหรอ” “เอ่อ...อือ” ฉันตอบกลับในลำคอ ทิวคงรู้อยู่แล้วก็ในเมื่อพี่เขาเคยพูดไปขนาดนั้น “แล้วเขาไปในล่ะถึงปล่อยให้ไมล์รอ” เจอคำถามนี้ไปฉันก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันจะให้พูดยังไงก็ในเมื่อฉันยังไม่รู้เลยว่าพี่เขาไปไหน “.....” เกิดความเงียบขึ้นระหว่างฉันกับทิว บรรยากาศตอนนี้ดูอึดอัดไปหมด ทิวค่อยๆ ขยับเข้ามาหาฉัน ยิ่งใกล้มันยิ่งอึดอัดจนฉันก้าวขาถอยข้างทิว “ทิวจะกลับเลยไหม” ฉันรู้ว่ามันดูเสียมารยาทที่พูดออกไปแบบนั้นแต่จะให้ทำยังไงในเมื่อตอนนี้บรรยากาศมันน่าอึดอัดจนวางตัวไม่ถูก “ไล่กันเลยเหรอ เราเสียใจนะเนี่ย 555” ทิวพูดขำๆ เพื่อทำลายบรรยากาศเมื่อครู่ “เรากลัวฝนจะตกหนักอีกรอบไง” “โอเคๆ เดี๋ยวเราเปลี่ยนเสื้อแล้วกลับเลยก็ได้” ทิวถอดเสื้อนักศึกษาออก ฉันจึงหันหลังให้เขา “หันหน้ามาได้แล้ว” ฉันหันหน้ากลับมาตามแรงที่ทิวดึงแขนฉันประทะเข้ากับอก “ทิวปล่อยเรา” ฉันขืนตัวออกจากอ้อมกอดของทิว ฉันไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนี้กับฉันนอกจากพี่เขาคนเดียว “เราชอบไมล์” ทิวกอดฉันแน่นกว่าเดิมแล้วประกบปากลงมาจูบฉันอย่างรุนแรงจนได้กลิ่นคาวเลือด ไม่ ไม่เอาแบบนี้ ฉันไม่ชอบ พี่เดย์...พี่อยู่ไหนช่วยไมล์ด้วย....ฉันพยายามไม่เปิดปากออกแล้วขืนตัวอย่างสุดกำลัง ผัวะ!! ทิวถูกกระชากออกจากตัวฉันแล้วตามด้วยหมัดที่ซัดเข้ามาที่หน้าอย่างจังจนล้มลงไปกองที่พื้น “พะ...พี่เดย์” ฉันเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก พี่เขามาช่วยฉันแล้ว.... “พวกมึงจะไปสมสู่กันที่ไหนก็ไป แต่ต้องไม่ใช่ห้องฉัน !!” เหมือนค้อนหนักๆ ทุบเข้าที่หัวฉัน เมื่อกี้พี่เขาพูดว่าอะไร ฉันมองหน้าพี่เขาด้วยแววตาที่ผิดหวังสุดๆ “พี่พูดอะไรออกมา” ฉันถามพี่เขาไปเสียงสั่น รู้นะคะว่าตอนนี้น้ำตาฉันคงไหลอยู่แน่ๆ แต่ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะเช็ดมันออกหรอกนะ ปล่อยให้มันไหลลงมาแบบนั้นแหละให้มันตอกย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือความจริง “หึ เธอยังกล้าถามอีกเหรอ” พี่เขาปรายตามองฉันด้วยสายตารังเกียจเหมือนฉันเป็นตัวเชื้อโรคหรืออะไรสักอย่าง “พี่จะไม่ฟังฉันอธิบายหน่อยเหรอ” “จะให้ฉันฟังอะไรในเมื่อฉันเห็นกับตาว่าเธอจูบอยู่กับไอ้เหี้ยนี่ ลับหลังฉันคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วสินะ ทำไมเหรอ หรือว่าฉันเอาไม่ถึงใจเธอ เลยต้องร่านไปหาคนอื่น” เพี้ยะ!! หน้าพี่เขาสะบัดไปตามแรงตบ ฉันเช็ดน้ำตาที่นองหน้าตัวเองออก ความผิดหวังเสียใจมันกำลังเกิดขึ้นกับตัวฉัน “ผมว่าพี่พูดกับไมล์เกินไปแล้วนะ” ทิวลุกขึ้นมาผลักอกพี่เขาแล้วเอื้อมมือมาช่วยเช็ดน้ำตาให้ฉัน “หึ !! เหมาะสมกันดีนิ งั้นก็เชิญออกไปสมสู่กันให้พอ!!” พี่เขามองฉันกับทิวเหยียดๆ ทิวจึงจับมือฉันแล้วเดินออกจากห้องมา “ไมล์เราขอโทษนะ ไมล์เป็นอะไรไหม” ทิวพาฉันขึ้นมาบนรถแล้วเอ่ยขอโทษ ตอนแรกฉันก็โกรธทิวนะ แต่ตอนนี้ความผิดหวังเสียใจที่มีต่อพี่เขามีมากกว่าความโกรธตอนนี้เสียอีก “เราไม่เป็นไรหรอก” ฉันตอบยิ้มๆ เพื่อให้ทิวได้รู้ว่าฉันยังโอเคทั้งที่ในใจมันกลับพังไปหมด คุณเคยรู้สึกผิดหวังกับอะไรมากๆ กันไหม นั่นแหละคือความรู้สึกของฉันตอนนี้ ฉันกลับมาคอนโดตัวเองในรอบหลายวันที่ผ่านมาทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม มีข้าวของบางส่วนที่ย้ายไปไว้คอนโดพี่เขาบ้าง ฉันหยิบโทรศัพท์ไปชาร์แบตแล้วเดินไปอาบน้ำปล่อยให้สายน้ำชำระหยดน้ำตาที่ยังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้อยู่คนเดียวความเสียใจก็กลับมาอีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกแย่แค่ไหนที่คนที่ตัวเองรักกลับไม่เคยเชื่อใจเราเลย แม้แต่คำอธิบายเขายังไม่อยากที่จะฟัง เขาตัดสินฉันทั้งๆ ที่ยังไม่ถามความจริง แล้วเขาก็คือคนเดียวกันกับคนที่บอกรักฉันทุกวัน..... ค่ำคืนนี้ยังคงยาวนานเหมือนกับความเจ็บปวดของฉันที่ยังคงดำเนินต่อไป ฉันล้มตัวลงนอนพร้อมกับน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล ทั้งๆ ที่มันก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วเสียงสะอื้นที่เปล่งออกมามันแหบจนน่าตกใจ นาฬิกาบ่งบอกเวลาว่าตอนนี้ใกล้จะตี 5 แล้ว ฉันจึงลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวไปมหาลัย ใช่ค่ะ ฉันยังไม่นอน น้ำตาฉันมันคงไหลจนไม่มีจะไหลแล้วล่ะ ฉันส่องกระจกดูขอบตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้อย่างหนัก โง่ นี่คือคำที่โผล่ขึ้นมาในหัวฉัน ในเมื่อเขาคนนั้นไม่ได้คิดที่จะสนใจความรู้สึกของฉันเลย คำพูดแรงๆ ที่กระแทกย้ำลงมาว่าฉันมันร่านยังคงก้องอยู่ในหัว สีหน้าและแววตาที่รังเกียจยามเมื่อมองมา ถูกส่งออกมาจากคนที่เคยบอกว่ารักฉัน ในเมื่อเขาไม่ฟังฉันก็จะไม่พูด ในเมื่อเขาไม่แคร์ แล้วทำไมฉันต้องไปสนใจด้วยล่ะจริงไหม รอยยิ้มจางๆ ปรากฎบนใบหน้าหวานอีกครั้ง ฉันจะไม่ให้เขามีผลต่อความรู้สึกของฉันอีกแล้ว __________________________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD