ตอนที่ 13 แอบมอง

1972 Words
เด็กผมช่างร้าย ตอนที่ 13 แอบมอง เนื่องจากที่เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนทั้งคืนแถมยังมีเรียนเช้าอีก จะว่าไปตอนนี้ร่างกายฉันคงไม่ต่างจากศพเดินได้สักเท่าไหร่หรอก ขอบตานี่ดำจนหมีแพนด้ายังต้องอาย “เชี่ยไมล์ เมื่อคืนแกได้นอนไหมเนี่ย” ไอ้ปังถามด้วยสีหน้าตกใจเมื่อฉันเดินเข้ามานั่งข้างๆ มัน “ฉันว่าอาการหนักว่ะ” เสียงไอ้นายเอ่ยออกมาปลงๆ ตอนขับรถมาเรียนฉันโทรประชุมสายกับพวกมันไปแล้วว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น ไอ้ปังมันเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนผู้ชายคนนั้นเสียใจมากเลยชวน พี่เปอร์ไปกินเหล้าแล้วก็เมาจนหัวทิ่ม ฉันขอถามหน่อยเถอะเขาเสียใจเท่าฉันรึเปล่า? ในเมื่อไม่คิดจะฟังเหตุผล ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพยายามอธิบาย “พวกแกฉันอยากย้อมผมว่ะ” เขาว่ากันว่าคนอกหักมักชอบตัดผมจริงไหม ? แล้วการย้อมผมล่ะเรียกว่าอาการอกหักได้รึเปล่า ? “แกกินยาไม่เขย่าขวดป่ะเนี่ย” ไอ้ปังมันเคยชวนย้อมผมอยู่ครั้งหนึ่งตอนปิดเทอม ม. 6 แต่ฉันไม่ชอบ รู้สึกว่าไม่ใช่ทาง แต่ตอนนี้ฉันอยากลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง “ฉันมีร้านแนะนำ” ไอ้นายเสนอขึ้นมาแล้วหยิบโทรศัพท์เปิดรูปหน้าร้านให้ฉันดู ภายในร้านเหมือนจะมีสองชั้น แบ่งออกเป็นโซนเครื่องดื่มแล้วก็โซนตัดผมที่มีทั้งระดับธรรมดาถึงระดับ VIP ที่จะอยู่ชั้นสอง “สำหรับวันนี้เลิกคลาสได้” เสียงอาจารย์ป้าบอกเลิกคลาสที่หน้าชั้น ทำให้ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางคืนตาสว่างกลางวันนี่แทบลืมตาไม่ขึ้น รอยบวมรอบดวงตาก็ยุบลงบ้างแล้ว “ไปแก หาข้าวแดกกัน” ไอ้นายฉุดฉันกับไอ้ปังที่ยังนอนฟุบอยู่ที่โต๊ะให้ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โรงอาหารของคณะ “เชี่ยนาย คนเยอะมากๆ” เยอะจริงจัง อารมณ์เหมือนฝูงมดแตกรัง ร้านข้าวนี่แถวโคตรยาว สั่งวันนี้ได้กินชาติหน้าแน่ๆ “เดี๋ยวฉันพาไปกินที่คนไม่เยอะดีกว่า” ไอ้ปังลากฉันกับไอ้นายขึ้นมาบนอาคารอีกครั้ง คือแกจะลากฉันขึ้นๆ ลงๆ ไม่ได้นะเว้ย ฉันหิวข้าว เมื่อคืนไม่ได้นอน ข้าวก็ไม่ได้กิน ฉันจะวีนแล้วนะถ้าอีก 10 นาทีฉันยังไม่ได้กินข้าว “ไอ้เชี่ยปัง แกจะลากพวกฉันไปไหน” อย่าให้สไมล์คนนี้ต้องวีนนะมึง คนยิ่งหิวๆ อยู่ลากฉันจังเลย “ตามมาเหอะ ไอ้นายแม่งไม่เห็นบ่นเหมือนแกเลย” “ไอ้ปัง แกแหกตาดูไอ้นายแม่งเดินกินขนมปังอยู่ มันเอาปากที่ไหนมาบ่นแก” เชี่ยนาย แม่งก็ไม่เคยแบ่งเพื่อน “เออๆ จะถึงเนี่ย” “แกพาฉันมาห้องสโมสรทำไม” “มากินข้าวไง ป่ะไอ้นาย เข้าห้องกัน” แล้วไอ้ปังแม่งก็กอดคอไอ้นายเข้าไปในห้องสองคน ทิ้งฉันยืนโดดเดี่ยวคนเดียวหน้าห้อง รักฉันกันมากเลยไอ้สัส ฉันค่อยๆ เปิดประตูเข้ามาในห้อง เจอไอ้ปังแย่งข้าวกล่องกับพี่เปอร์อยู่ พี่ฟิวส์กับพี่อิทกำลังกดจอยเกมแข่งรถ ส่วนไอ้นายยืนคุยกับพี่อัศวินเฮดว๊ากปี 3 มันไปรู้จักกันตอนไหนว่ะ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมห้องขวามือ พี่เดย์.... พอได้เห็นหน้า น้ำตาแม่งก็พาลจะไหลอยู่เรื่อย ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนก็คิดได้แล้วว่าจะไม่ให้พี่เขามีผลกับความรู้สึกของฉันอีก แต่พอมาเจอหน้ากันจังๆ เวลานี้ แม่งเอ๊ยยย....เจ็บว่ะ “แกจะยืนอีกนานไหม ไหนบอกหิวข้าว” ฉันเดินเข้าไปหาไอ้ปังแล้วรับข้าวกล่องมาเปิดกิน เมื่อกี้หิวฉิบหาย พอตอนนี้กินอะไรไม่ลงเลยสัส “ไอ้ไมล์ อาจารย์ยกคลาสคาบบ่ายว่ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากกล่องข้าวแล้วมองไปที่ไอ้นาย หางตาฉันนี่แม่งก็จะมองไปทางมุมห้องขวามืออยู่เรื่อยเลยสัส “งั้นกินข้าวเสร็จไปเลยก็ได้” “จะไปไหนกันเหรอ” พี่เปอร์ถามฉันกับไอ้นาย “เสือกว่ะเปอร์” อันนี้เสียงไอ้ปังมัน ไอ้นี่แม่งชอบกัดกับพี่เปอร์ เห็นแล้วปวดจิตแทนพี่เปอร์มันจริงๆ ที่มีน้องแบบไอ้ปัง “ปัง ฉันถามดีๆ” ไอ้พี่เปอร์ผลักหัวไอ้ปังเต็มแรงจนมันหน้าทิ่มลงไปกับกล่องข้าว ฉันแอบเห็นนะว่าบนหางคิ้วมันมีเม็ดข้าวติดอยู่ 5555 “ฉันจะพาไอ้ไมล์ไปย้อมผม” ไอ้นายแทรกขึ้นมาก่อนที่ไอ้ปังมันจะโวยวาย “หื้มมม....”พี่ฟิวส์กับพี่อิทส่งเสียงในลำคอ ถ้าฉันมองไม่ผิดเหมือนพี่เขาจะมองไปทางไอ้พี่เดย์นะ “คิดไงถึงเปลี่ยนสีผมล่ะ” อันนี้ฉันก็ตอบคำถามพี่เปอร์มันไม่ได้เหมือนกัน รู้แค่ว่าอยากเปลี่ยนก็แค่นั้น “ระวังคนแถวนี้จะหวงกว่าเดิมน้า 5555” “ไอ้ฟิวส์หุบปาก” ฉันให้ทายว่าอันนี้เสียงใคร ถ้าทายไม่ถูกฉันจะเฉลยให้ คุณจำบุคคลที่นั่งอยู่ที่โต๊ะมุมห้องได้ไหมล่ะคะ นั่นแหละคือบทสนทนาแรกที่ฉันได้ยินจากพี่เขาในรอบวัน “โหดจริงๆ เมื่อวานหมาตัวไหนแม่งเมาหัวทิ่มร้องโวยวายเหมือนโดนเจ้าของทิ้งว่ะ” พี่เขาลุกจากโต๊ะแล้วเดินออกจากห้องทันทีที่พี่เปอร์พูดจบ ตอนพี่เขาเดินผ่าน ใจฉันมันอยากจะคว้ามือไว้เพื่ออธิบาย แต่สุดท้ายก็คงต้องปล่อยเขาเดินผ่านไป “อ้าวเห้ย...จะรีบไปไหนครับคุณชายเดย์” “พวกมึงก็ไปแกล้งมัน ดูสิ งอนแก้มป่องเดินหนีไปล่ะ” พี่อิทพูดขึ้นมาทั้งที่ตายังคงจ้องไปที่หน้าจอเกมรถแข่ง “ไอ้วิน มึงอย่าเป็นเหมือนพี่รหัสมึงนะ คนเหี้ยไรเก่งทุกอย่าง พอเรื่องตัวเองนี่โง่ฉิบหาย” พี่เปอร์ชี้หน้าพี่อัศวินที่กำลังมองมาที่ไอ้นาย ฉันว่าสองคนนี้มันต้องมีซัมติงอะไรกันแน่ๆ ฉันสังเกตหลายครั้งแล้วว่าพี่อัศวินชอบมองไอ้นายบ่อยๆ ร้านตัดผม “แกจะย้อมสีอะไรว่ะไมล์” ฉันไม่ตอบคำถามไอ้นาย แต่เลือกที่จะเดินตามพนักงานขึ้นไปชั้น สองของร้าน ผ่านไปเกือบ 4 ชั่วโมง สำหรับการเปลี่ยนสีผม กระจกตรงหน้าสะท้อนภาพผู้หญิงผิวขาวปากแดง ผมที่เคยเป็นสีดำตอนนี้กับเปลี่ยนสีทองอ่อนๆ พนักงานยิ้มให้ฉันเล็กน้อยแล้วเดินนำไปหาไอ้ปังกับไอ้นายที่นั่งรออยู่ชั้นล่างโซนเครื่องดื่ม “เชี่ยไมล์ สวยสัส” ป้าบ!! ฉันตบเข้าไปที่หน้าผากไอ้ปังจนมันร้องโวยวายหันไปอ้อนตีนไอ้นาย “สวยดิวะ ก็ฉันเป็นผู้หญิง” “ผู้หญิงที่มีผัวดุด้วยใช่ไหมว่ะ 555” “.....” ใบ้แดกเลยสิฉัน จะว่าไปตอนนี้พี่เขาจะทำอะไรอยู่นะ ถ้าพี่เขาเห็นฉันตอนนี้จะรู้สึกอะไรบ้างไหม “เชี่ยปังพูดไรเนี่ย หน้าไอ้ไมล์สลดแล้วเห็นไหม” ไอ้นายผลักหัวไอ้ปังเบาๆ ฉันรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจแค่พูดแกล้งฉันเล่นๆ เท่านั้น “ไมล์ฉันขอโทษ” หน้าไอ้ปังตอนนี้สลดกว่าฉันอีกครับ เห็นหน้ามันแล้วโกรธไม่ลงหรอก “เออนี่ เดี๋ยวฉันถ่ายรูปให้แกดีกว่าไมล์” ฉันยื่นโทรศัพท์ไปให้ไอ้นายถ่ายรูปให้ จะว่าไปช่วงนี้ฉันก็ห่างหายโซเชียลไปนานเหมือนกัน “เชี่ย พอเปลี่ยนผมเป็นสีทอง หน้าแกโคตรเด่นเลยสัส” ไอ้ปังหยิบโทรศัพท์จากไอ้นายมาดูแล้วยื่นคืนให้ฉัน “ฉันจะลงรูปนี้แหละ” ฉันมองรูปบนหน้าจอโทรศัพท์แล้วจัดการโพสต์ลง facebook BomBam : พี่สไมล์ลุคนี้น่ารักมากเลยค่ะ เจ้กีกี้ : คนเก่งของเจ้กลับมาแล้วว น่ารักที่สู๊ดดด สมาคมนิยมสวย : น้องสไมล์สีผมกระแทกใจมากจ้าาา ฟิวส์ : @อิทธิพล พล @เปเปอร์ @รัฏฐากิต อิทธิพล พล : @ฟิว ส์ @ เปเปอร์ งานนี้สนุกแน่มึง 55555 เปเปอร์ : ไอ้หมาบางตัวแม่งต้องหวงแน่ๆ ว่ะ ฟิวส์. : @เปเปอร์ มึงก็พูดไป @รัฏฐากิต ใช่ไหมไอ้หมา 55555 รัฏฐากิต : olo @ฟิว ส์. @เปเปอร์ @อิทธิ พล เสียงแจ้งเตือนเด้งรัวๆ ฉันค่อยๆ เลื่อนอ่านคอมเม้นจนมาถึงคอมเม้นล่าสุด รัฏฐากิต olo เป็นสัญญาลักษณ์การด่าที่ตรงมาก ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เขาจะรู้สึกแบบที่ฉันรู้สึกไหม.....คิดถึง....มันคือความรู้สึกเดียวของฉันตอนนี้ ****** PART เดย์ คิดถึง....ผมมองตรงไปที่ร้านตัดผมโซนเครื่องดื่ม ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามกับร้านตัดผม ผู้หญิงตัวเล็กผมทองที่กำลังนั่งหันหลัง แม้จะเป็นเพียงแค่ข้างหลังผมก็จำได้ดีว่าเธอคือใคร ผมยอมรับก็ได้ว่าแอบตามร่างบางนั้นมา ผมรู้ว่าตัวเองผิด แต่ถ้าพวกคุณเป็นผมพวกคุณจะทำยังไง เมื่อวานผมบอกสไมล์ว่าจะมารับ ตอนเย็นผมจึงแวะไปซื้อเค้กให้สไมล์ก่อน บวกกับที่รถมันติดเนื่องจากทางแยกข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ปรากฎว่าเจ้าตัวเล็กของผมโทรมาตั้งหลายสาย พอกดโทรกลับ สไมล์ก็ปิดเครื่องไปแล้ว ฝนก็ตกหนักไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กของผมจะเป็นยังไงบ้าง ถ้ากลับไปก่อนแล้วก็คงจะดี ไม่นานแจ้งเตือนไลน์ผมก็เด้งขึ้นมา แต่ไม่ปรากฎผู้ส่ง ผมกดเข้าไปในแชท รูปของ สไมล์หลายๆ ภาพถูกส่งเข้ามาทั้งรูปที่สไมล์นั่งคุยกับไอ้เด็กเวรที่ชื่อทิวตรงม้าหินอ่อนหน้าคณะ รูปที่สไมล์จับมือกับมันวิ่งฝ่าฝน แล้วก็รูปที่สไมล์ขึ้นรถไปกับมัน ความโกรธเริ่มประทุขึ้นมา ผมรู้ว่าสไมล์ไม่ใช่คนแบบนั้นผมพยายามใจเย็นลงแล้วรีบขับรถกลับคอนโดทันที แต่แล้วภาพที่เห็นตรงหน้าเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องกลับยิ่งทำให้ผมสติหลุด ผมใจเย็นได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวกับร่างบางตรงหน้าผมจริงๆ ภาพบาดตาที่สไมล์กำลังจูบอยู่กับไอ้เด็กเวรนั่นในห้องของผมมันคอยตามหลอกหลอนผมไม่หยุด คำพูดแรงๆ ที่ผมเอ่ยออกมาไม่ใช่ว่าผมไม่เสียใจ แต่ตอนนั้นผมไม่พร้อมที่จะฟังอะไรทั้งนั้น หลังจากที่สไมล์กลับไปพวกก็โทรตามกลุ่มเพื่อนออกมานั่งกินเหล้ากันจนเมาหัวทิ่ม ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตอนนั้นผมพูดอะไรออกไปให้พวกมันฟังบ้าง การควบคุมตัวเองของผมเสียศูนย์ทุกครั้งเมื่อเป็นเรื่องของผู้หญิงตัวเล็กที่ผมเคยนอนกอดอยู่ทุกคืน น้ำตาที่ไหลออกมาดวงตากลมโตที่เคยสดใส เสียงสะอื้นที่ออกมาจากปากบางที่คอยยิ้มให้ ผมอยากเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาแล้วกอดปลอบอย่างทุกที แต่ความเจ็บปวดของผมตอนนั้นก็มีไม่น้อยเหมือนกัน ______________________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD