ตอนที่ 4
อีกฝั่งหนึ่งของโรงพยาบาลร่างสูงโปร่งกำลังเร่งฝีเท้าให้ถึงที่หมาย เพราะจะได้เจอคนที่ใจพะวงหาตลอดเวลาสักที ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงเพรียวมีนามว่า ปริญภัทร อดิเรกไพศาล หรือ ป๊อบ เขาจบปริญญาโทภาควิชาบริหารจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หัวสมองระดับเทพฉลาดเป็นกรด ฐานะทางครอบครัวไม่ต้องห่วงอยู่ในขั้นอภิมหาเศรษฐี ครอบครัวประกอบธุรกิจเกี่ยวกับรีสอร์ท และฟาร์มเกษตรผสมผสาน
ชื่อเสียงของชายหนุ่มเลื่องลือพอสมควร หล่อ รวย เฟอร์เฟค รูปทรัพย์ นามทรัพย์ เพียบพร้อมสาวแท้สาวเทียมต่างหมายปองที่จะเป็นคุณนายอดิเรกไพศาล แต่อย่างเขาไม่จำเป็นต้องไปลากใครมานอนด้วยให้เสียชื่อ เพราะว่าผู้หญิงแทบทุกรายต่างเตรียมนอนอ้าขารออยู่บนเตียงทุกคืนร่ำไป
สายตาทรงเสน่ห์เจ้าเล่ห์ทำเอาผู้หญิงทุกรายแทบตายคาอก บวกกับลีลารักบนเตียงแสนช่ำชองไม่เป็นสองรองใครจนหญิงสาวหลายคนติดอกติดใจในรสเสน่หา ที่เขามอบให้จนต้องกลับมาหาชายหนุ่มอีกครั้ง ทั้งยังไม่เรียกร้องค่าบริการ ทว่าสาวน้อยสาวใหญ่ก็ต้องเสียใจ เพราะว่าคนอย่างปริญภัทรไม่เคยเคี้ยวของเก่า แล้วไม่เคยคิดที่จะกลับมาเคี้ยวของเดิมอีกครั้งแน่ หัวใจเขาในชีวิตนี้มีไว้เพื่อผู้หญิงสามคนด้วยกันคือ แม่ น้องสาว และเธอคนนั้นคนที่เขาจากมา…
ปริญภัทรมีใบหน้าอันประกอบด้วยเครื่องหน้าอย่างบุรุษเพศครบถ้วน จนบุรุษเพศเดียวกันอิจฉา เขาหล่อเหลายิ่งกว่านายแบบบางคนไม่ได้หล่อแบบลูกครึ่ง แต่หล่อคมเข้มสไตล์ไทยแลนด์พันธุ์แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ใบหน้าได้รูปรับกับสันจมูกโด่งจนผู้ชายหลายคนต้องอาย
แววตาเฉียบคมทรงเสน่ห์ ยามเวลาใช้สะกดผู้หญิงบนเตียงมีอันต้องละลาย ราวกับขี้ผึ้งรนไฟ ริมฝีปากบางกระจับได้รูป ผิวพรรณไม่ได้ขาวใสผ่องอย่างใด แต่กลับเป็นสีแทนมากกว่า ทว่าไม่ได้ขรุขระหรือว่าหยาบกร้านกระด้างกลับเรียบเนียน ความสูงเกินมาตรฐานชายไทย บวกกับหน้าตาเป็นทุนเดิมที่มีอยู่ ผสมกับสไตล์การแต่งตัวที่เนี๊ยบสมกับเป็นผู้บริหารสูงสุดในกิจการอดิเรกไพศาล
เวลาเดินผ่านพนักงานสาวที่บริษัทเสียงกรี๊ดกร๊าดชื่นชมได้ยินไม่ขาดหู แต่เธอทั้งหลายต่างแสดงออกมามากไม่ได้เท่าที่ควร เพราะเกรงว่าเจ้านายสุดหล่อจะดุเอา เหมือนเช่นวันนี้ที่ปริญภัทรเดินผ่านเข้ามาในโรงพยาบาลเหล่าหญิงสาวที่สวมชุดขาวเครื่องแบบพยาบาล ต่างมองตาไม่กระพริบ บางคนมีการกระซิบกระซาบ แล้วชำเลืองหางตามองมาทางชายหนุ่ม แล้วส่งยิ้มใส่กัน
วันนี้ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์อยู่ในชุดเสื้อยืดคอโปโลธรรมดา แต่ทว่ามันทำให้เขาดูเด่นขึ้นมาทันตา สวมกางเกงสีเขียวขี้ม้าคล้ายกางเกงทหาร ขาดที่เข่าไม่มาก ออกแนวเซอร์ๆ บนหน้าหล่อเหลาคมคาย สวมแว่นกันแดดสีชา วันนี้ขอแหวกภาพผู้บริหารจอมเนี๊ยบมาเป็นหนุ่มมาดเซอร์สักครั้ง เพราะน้อยคนนักที่จะเห็นชายหนุ่มในลุคนี้ ผมเผ้าไม่ได้เซ็ทมาอย่างวันที่เข้าบริษัท แต่อย่างไรนั้นยังคงคอนเซ็ปต์หล่อเข้มอยู่ดี ร่างสูงกึ่งวิ่งกึ่งเดินพลางยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาที่หน้าปัดนาฬิกาเรือนหรู
ก่อนที่เท้าหนาจะหยุดอยู่หน้าห้องที่ต้องการได้สำเร็จ คนรักน้องไม่รอช้าผลักประตูเข้าไปข้างในอย่างไม่รีรอ ถึงแม้ภายในห้องจะเป็นภาพบรรยากาศเดิมๆ ผู้หญิงคนหนึ่งนอนป่วยเป็นเจ้าหญิงนิทรา ภาพนี้ทำให้เขาเจ็บปวดเสมอเพราะมันทำให้หวนคิดถึงวันแสนโหดร้ายวันนั้นวันที่เขาได้เห็นภาพน้องสาวนอนเจ็บปวดทรมาน พร้อมกับมีจดหมายเล็กลายมือน่ารักของน้องสาว
‘ลาก่อนค่ะพี่ชายที่แสนรักของน้อง …รัชนีกร’
เหตุการณ์วันนั้นเขายังจำได้ขึ้นใจ ถึงแม้เวลาจะผ่านมานาน แต่เขายังคงไม่ลืมที่จะแก้แค้น ตัวต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวเขาต้องเป็นแบบนี้ มันต้องชดใช้ ไม่ใช่มาเสนอหน้าหรือลอยนวลอย่างนี้ เพราะวันแสนโหดร้ายเป็นวันเกิดของชายหนุ่มเอง และตอนนั้นเพิ่งเขากลับมาจากเมืองนอก เนื่องจากว่าทางบ้านโทรไปบอกว่าพ่อแม่บังเกิดเกล้าของเขาได้เสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ชายหนุ่มจึงต้องจำใจลาออกจากตำแหน่งงานที่ทำอยู่ แล้วบินเหินฟ้ามาเมืองไทย แถมยังต้องทิ้ง ใครบางคนมาอีกด้วย เพื่อจะมาดูแลกิจการของครอบครัว เป็นเสาหลักให้ครอบครัว และต้องมาดูแลน้องสาว ซึ่งเธอเป็นสิ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในชีวิต ณ ตอนนั้น
แต่สามปีที่แล้วของขวัญชิ้นสำคัญที่เขาได้รับ มันร้ายแรงซะยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูซะอีก เพราะของขวัญที่น้องสาวแสนรักเพียงคนเดียวมอบให้คือ ภาพหญิงสาวแรกรุ่นวัยยี่สิบปี นอนน้ำลายฟูมปากขอบตาบวมช้ำจนเขียวคล้ำ ภาพนั้นยังคงตราตรึงในก้นบึ้งหัวใจมาจนถึงทุกวัน แล้วมันทำให้ชายหนุ่มปิดกั้นตนเองที่จะไม่รักใคร เพราะรักแล้วต้องเสีย รักแล้วต้องจาก รักแล้วต้องเจ็บสารพัด สู้แล้วไม่รักจะเป็นการดีกว่า ทุกวันนี้ชายหนุ่มไม่ได้รักใครอย่างจริงจัง มีแค่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านออกไป โดยมีแค่เฉพาะเรื่องบนเตียงเท่านั้น ชายหนุ่มหยุดความคิดไว้
จนบัดนี้น้องสาวเขาหลับมาเป็นเวลาเกือบสามปีแล้ว ทางการแพทย์ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเกรงว่าถ้าผ่าตัดโอกาสไม่รอดสูง บางครั้งอาการของหญิงสาวเหมือนจะดีขึ้น แต่วันต่อมาก็ไม่ต่างจากเดิม คือ ร่างกายไม่ดิ้น ไม่ไหวติง ไม่ขยับมีเพียงขีดคลื่นการหายใจบนจอมอนิเตอร์ของเครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจเท่านั้น ที่แสดงให้รู้ว่าเธอมีชีวิตอยู่
ผู้เป็นพี่ชายไม่ได้เพิกเฉยอย่างใด เขาปรึกษาแพทย์ประจำตัวของผู้ป่วย ท่านก็บอกว่าถึงแม้หมอที่ต่างประเทศจะเก่งก็จริงแต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นจากปาฎิหาริย์หรือรักษาหายนั้นก็มีไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ โดยตัวเขาเองเคยนั่งเครื่องไปถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาโดยตรง แต่คำตอบที่ได้รับมาก็เหมือนๆ กัน คือต้องคอยดูอาการกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ แล้วก็ให้ญาติของคนป่วยทำใจเผื่อไว้บ้าง สิ่งนั้นหมายถึงว่า โอกาสเป็นกับตายเท่ากัน
ปริญภัทรต้องเฝ้ารอปาฎิหาริย์อย่างเดียว และตอนนี้กินเวลาไปแล้วสามปี แต่สิ่งที่เขาเฝ้าภาวนาให้เป็นก็ไม่บังเกิดขึ้นสักที มันนานเสียเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่ท้อ เขาขอแค่น้องสาวเพียงคนเดียวไม่ทิ้งเขาไปก็เป็นพอ
“วันนี้ปลายเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมไม่ลืมตาขึ้นมาคุยกับพี่ ปลายอย่าหลับนานสิ พี่อยากคุยกับปลายนะครับ นางฟ้าของพี่” ประโยคนี้ปริญภัทรพูดทุกครั้งที่มาเยี่ยมน้องสาว พูดมาเป็นเวลานานเกือบสามปีแล้ว แต่ไร้วี่แววที่คนป่วยจะลืมตาขึ้นมาคุยด้วยสักคำ ชายหนุ่มพูดมือหนาลูบศีรษะน้องสาวไปพร้อมอย่างเอ็นดู เขานั่งคุยกับคนป่วยเพียงลำพังอย่างมีความสุขปนความเศร้าบวกกับความแค้นที่สุมอยู่ข้างใน ที่รอการปะทุถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับเสียงตอบกลับมา แต่เขายังคงคุยต่อไปเรื่อยไม่มีหยุด
“พี่รักปลาย คิดถึงปลายนะ เราเหลือกันแค่สองคนพี่น้อง ปลายลืมตาขึ้นมาคุยกับพี่หน่อยนะ นะครับ”
ปริญภัทรยังไม่ท้อ ถึงแม้การพูดจาแบบไม่มีคนตอบรับ แต่ชายหนุ่มไม่ยอมแพ้เพราะทำเช่นนี้ มันทำให้ชายหนุ่มมีความสุขเช่นกัน ได้อยู่ใกล้คนที่เรารักมองหน้า พูดคุยแค่นี้เขาก็พอจะมีชีวิตต่อบนโลกแล้ว
“ถ้าปลายตื่นขึ้นมา พี่จะพาปลายไปเที่ยวรอบโลกเลย เดี๋ยวพาไปทุกที่ ที่ปลายอยากไป พี่สัญญาครับคนดี” น้องสาวเขาเคยโทรไปคุยด้วย ตอนที่เขาอยู่ต่างประเทศว่าอยากไปหา อยากไปเที่ยวรอบโลก แต่ผู้เป็นบุพการีไม่อนุญาตด้วยความเป็นห่วง แถมกับทะนุถนอมบุตรสาวเพียงผู้เดียวของตนยิ่งกว่าไข่ในหิน
“ขอแค่ปลายฟื้นขึ้นมาเป็นพอ” เขาจับมือน้อยขึ้นมาซบที่แก้มสากอย่างรักใคร่
“ปลายต้องฟื้นนะครับ เจ้าหญิงแสนสวยของพี่ พี่รักเราแล้วไม่เคยคิดที่จะทิ้งเรา พี่จะอยู่ข้างเราเสมอ ปลายต้องทนอยู่เพื่อคนที่ปลายรักแล้วก็รักปลาย พี่จะรอวันที่ปลายฟื้นนะครับ…น้องรักของพี่” คำพูดแสนสะเทือนใจ ส่งผ่านริมฝีปากบางเฉียบออกมาไม่ขาดระยะ ชายหนุ่มพูดคุยกับน้องสาวไปเรื่อยๆ ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดหย่อน
ก่อนที่ใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นเย็นชาแล้วพูดขึ้นมาอย่างเคียดแค้น พร้อมกับกำมือน้องสาวไว้แน่นด้วยความหวงแหน
“ได้เวลาแล้วที่เราจะลากตัวคนชั่วมารับผิดชอบ ปลายอย่าโกรธพี่เพราะว่าพี่อยากให้คนผิดโดนลงโทษ พี่เจอมันแล้ว มันต้องเดินตามแผนที่พี่วางไว้” ปริญภัทรพูดอย่างหมายมั่นกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเวลาไม่ช้านี้ โดยเจ้าตัวจะเป็นคนคุมเกมเอง รับรองงานนี้สนุกแน่