ตอนที่ 5 100%

3274 Words
ตอนที่ 5          รถสปอร์ตหรูวิ่งด้วยความเร็วคงที่มาตามเส้นทางที่มุ่งหมายไว้ เขาไม่ได้พาเธอกลับกรุงเทพฯ แต่ชายหนุ่มพาเธอย้อนกลับมาบ้านเชิงเขาอีกครั้ง ครั้งนี้คนตัวใหญ่หัวเผด็จการวางแผนเอาไว้ว่า เวลาจากนี้ต่อไปจะสร้างแต่ภาพบรรยากาศแสนสุขใจ ไปพร้อมกับรอยยิ้มเสียงหัวเราะ ความทรงจำภาพบรรยากาศอันสวยหรู จะทำเวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุด แต่ชายหนุ่มไม่มีทางให้หญิงสาวรู้ทันความคิดแน่นอน          ก่อนจะไปถึงบ้านพัก ชายหนุ่มได้พาคนตัวน้อยหน้างอง้ำเดินเที่ยวตลาดสดใกล้ๆ เขาไปซื้ออาหารสดหลายอย่างเพื่อมาประกอบอาหารให้เธอกิน และเมนูอาหารค่ำเขาก็เตรียมเรียบร้อยแล้ว ขาดเหลือเพียงไม่กี่อย่างที่ต้องซื้อเพิ่ม ส่วนจันจิราหยิบจับอะไรไม่คล่องเท่าชายหนุ่มด้วยซ้ำ เธอมัวแต่ยืนหลบอยู่ข้างหลัง ไม่กล้ายืนอยู่เคียงข้าง          กระทั่งซื้อของครบครันได้ตามที่วางเมนูไว้ ผัก เนื้อและอะไรอีกหลายอย่าง มองคนที่เดินตามหลังด้วยความมันเขี้ยว จึงยื่นมือใหญ่กระชากเอวบางมาแนบข้างกาย คราแรกคนจอมพยศฮึดฮัดทว่าเจอคำขู่ฟ่อเข้าไป ถึงจำยอมแต่เธอก็คาดโทษเขาไว้ในใจ             ห้าโมงเย็นพอดีที่รถคันหรูวิ่งจอดหน้าบ้านเชิงเขา บรรยากาศรอบบ้านไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไรนัก แต่หญิงสาวรับรู้ถึงความผูกพันกับบ้านหลังงามอย่างประหลาด ทั้งที่ห่างกันเพียงไม่กี่วัน แต่เหมือนกับห่างไปหลายเดือน คนตัวน้อยดีใจที่ได้กลับมาอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านแท้จริงนั้นอยากให้เธออยู่ไหม          “คุณไปอาบน้ำเถอะเริ่มค่ำแล้ว อาบน้ำเสร็จจะได้มากินข้าวด้วยกัน” สั่งการเสร็จสรรพ เขาช่วยแม่บ้านคนเก่งขนข้าวของที่ซื้อมาเข้าไว้ในครัว ร่างสูงใหญ่ยืนหน้าเตาแก๊ส ชายหนุ่มลงมือทำอาหารเย็น ซึ่งเมนูที่ชายหนุ่มเตรียมไว้เซอร์ไพรส์ คือ อาหารที่ผู้บริหารหนุ่มชอบและทำกินบ่อยๆ เมื่อครั้นอยู่ต่างประเทศ เพราะการอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแล้วเราได้สัมผัสสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์สิ่งที่เป็นไทยมันจะให้หายคิดถึงและมีกำลังใจเป็นที่สุด          ต้มยำกุ้ง คะน้าหมูกรอบ พะแนงเนื้อ ผัดผักบุ้งไฟแดง และผักที่อยู่ริมรั้วรอบๆบ้าน ขณะที่พ่อครัวหนุ่มทำอาหารอยู่นั้น จันจิราแอบย่องมาดูอยู่บ่อยครั้ง ได้ยินเหมือนเสียงเครื่องใช้ในครัวตกกระทบกัน เธอคิดว่าคงจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นจนรอบที่สาม หญิงสาวเข้าไปส่องดูอีกครั้ง ประกอบกับตอนนั้นชายหนุ่มหันมาพอดี ทำให้เขารู้ว่ามีสาวแอบดูแต่ก็ไม่ได้ดุอะไร นอกเสียจากบอกเธอไปรอด้านนอก          “ลูกจัน คุณไปรอด้านนอกก่อน ถ้าเสร็จแล้วผมจะเอาไปบริการถึงที่เอง”            ผ่านไปสิบนาทีคนตัวน้อยที่นั่งรออยู่ข้างนอกได้กลิ่นหอมลอยมายั่วน้ำลายแทบทนไม่ไหว อาหารหลากหลายเมนูที่เขายกมาล้วนถูกใจเธอทั้งนั้น มันเป็นบังเอิญหรือว่าอย่างไร เมื่อเมนูที่ชายหนุ่มทำมันล้วนเป็นอาหารที่เธอโปรดปรานทั้งสิ้น เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ข้าวในจานใบสวยหมดเกลี้ยง ทว่าอาหารยังหลงเหลืออยู่ เสียงทุ้มของผู้บริหารหนุ่มจึงเอ่ยถาม “เพิ่มข้าวอีกไหม ข้าวเหลือเยอะอยู่นะ” “ไม่หรอก ฉันอิ่มแล้ว คุณกินของคุณให้หมดเถอะ ไม่มีใครเขาช่วยนะจะบอกให้” ตากลมโตเหลือบมองจานข้าวตรงหน้าเขาที่มีข้าวเหลืออยู่ “ไม่หรอก ผมอิ่มแล้ว” พูดจบมือหนารวบช้อนและส้อมทันที แต่เสียงหวานของคนที่นั่งตรงข้ามร้องห้ามทันที “ไม่ได้นะ! คุณต้องกินให้หมด คิดถึงคนที่เขาไม่มีกินสิ คุณจะกินทิ้งกินขว้างแบบนี้ไม่ได้” ตาคมช้อนมองปากบางกระจับที่ขยับขึ้นลง แล้วเอ่ยย้อนถามอย่างยียวนแกมมันเขี้ยว          “ทำไมผมต้องทำตามที่คุณสั่งด้วยล่ะ” จันจิรามองคนตรงหน้าพลางขบคิดในใจ คุณภาคีนัยคนเดิมแสนหื่นจอมกวนประสาทกลับมาอีกแล้ว            “แล้วแต่คุณ ถ้าคุณไม่คิดจะเห็นใจคนจนๆ ที่เขาหาเช้ากินค่ำอดมื้อกินมื้อก็ตาม แต่นี่อะไรคุณมากินทิ้งขว้างอย่างนี้สู้แล้ว…อุ๊บ” เสียงหวานที่เอ่ยสอนเขาฉอดๆ เมื่อครู่กลืนหายไปพร้อมกับรสจูบแสนหวานละมุน ทว่าแฝงด้วยความดิบเถื่อนตามแบบฉบับเขา   ปากหนาคว้านหาความหวามหวาน ชอนไชตามแรงอารมณ์ที่พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสักนิดหญิงสาวพยายามเม้มริมฝีปากไว้ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มบุกรุกไปมากเกินควร แต่มีหรือที่คนมากประสบการณ์อย่างภาคีนัยที่ได้ชื่อว่าคาสโนว่าชั้นแนวหน้าของประเทศจะยอมแพ้ ชายหนุ่มกลับเป็นผู้นำต้นทางให้เป็นคนนักเรียนผู้ด้อยประสบการณ์ ชายหนุ่มเป็นครูผู้สอนชั้นปรมาจารย์อย่างถ่องแท้ ในคราแรกหญิงสาวมีอาการต่อต้าน แต่หลังจากนั้นมาเคลิ้มตามอารมณ์ที่ครูชั้นเซียนพยายามสอนและมอบบทเรียนให้ ลิ้นใหญ่ดุนดันเข้าไปจนทุกซอกทุกมุม ทั้งสองคนดูดดื่มอย่างหิวกระหาย ชายหนุ่มเหมือนติดใจรสชาติหวานล้ำในโพรงปากน้อยเป็นที่สุด เฝ้าดูดชิมไม่หยุดหย่อนเลาะเล็มไปอย่างตะกละตะกลาม เกี่ยวตระหวัดลิ้นอย่างพึงพอใจ ดูดบ้างเม้มบ้าง จนบางครั้งหญิงสาวรู้สึกแสบบริเวณริมฝีปากของตน เขาใช้เวลาเนิ่นนานทำเอาร่างบางแทบจะสำลัก เพราะว่าเธอไม่เก่งกาจในเรื่องอย่างว่า แต่เธอกลับอ่อนหัดยิ่งกว่าอนุบาลเสียอีก  ชายหนุ่มพยายามปรับอารมณ์ของตนให้ผ่อนคลาย พร้อมกับสอนหญิงสาวด้วยความค่อยเป็นค่อยไป มือของเขาไม่หยุดอยู่นิ่ง คว้าเอาร่างบางมาเกยไว้บนตักแกร่งเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งร่างบางไม่ได้ขัดขืนอะไรอีก มีแต่โอนอ่อนไปตามแรงปรารถนาที่กำลังปะทุขึ้น เนื่องจากว่าอารมณ์ของนักเรียนน้อยคนงามเหนือการควบคุม ปากของทั้งสองก็ดูดดื่มกันไปอย่างไม่มีหยุด ลำแขนเรียวน้อยส่งขึ้นไปกอดรัดลำคอแข็งเอาไว้หลวมๆเหมือนหาที่วาง “อืม…” เสียงครางเล็ดลอดออกมา มือสากระคายไม่ยอมหยุดอยู่นิ่ง กลับลูบไล้สีข้างของนักเรียนตัวน้อยขึ้นมาเรื่อยอย่างซ่านสยิว ไต่มาตามเอวคอด ลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนที่ยังมีอาภรณ์ปกปิดกั้นอยู่ ไม่นานมือหนาวกเข้าไปจับเต้าอวบเหมือนวัดขนาด แบบจับต้องได้แต่ยังคงมีบราเซียร์ห่อหุ้ม ชายหนุ่มไม่รอรีบกำจัดสิ่งขัดขวางทางเดินออก เสื้อตัวหลวมที่คนสวยสวมอยู่ถูกรูดผ่านไปทางศีรษะ ฝ่ามือหนาลูบไล้เนื้อแท้โดยไม่มีอะไรขวางกั้น ชายหนุ่มละริมฝีปากจากปากบางมาอย่างเสียดาย แต่ก็ตั้งใจมาดอมดมเต้าสล้างที่ยังคงมีบราเซียร์ห่อหุ้มเอาไว้อย่างเคร่งเครียด ริมฝีปากหนาดูดเม้มอย่างกระหาย ราวกับว่าไม่เคยได้พานพบสิ่งนี้มาเป็นเวลานาน มือที่ว่างอีกข้างปลดตะขอบราเซียร์ออก เผยให้เต้าอวบสล้างประจักษ์แก่สายตาคมแกร่งอย่างน่าลิ้มรสชวนชิม ปลายยอดนั้นตั้งเป็นช่อชูชันล่อตาล่อใจเหลือเกินมีหรือที่คนอย่างครูชั้นเซียนผู้ได้รับฉายานาม คาสโนว่า จะรอช้า ชายหนุ่มรีบประกบริมฝีปากครอบงำแล้วดูดดื่มราวกับทารกขาดการดื่มนมมาเป็นแรมปีอย่างไรอย่างนั้น ส่วนนักเรียนอ่อนหัดอย่างจันจิราก็ตกอยู่ในอารมณ์พิศวาสที่ครูชั้นเซียนหยิบยื่นให้ จากลำแขนที่คล้องคอชายหนุ่มอยู่ เลื่อนลดระดับลงมา ใช้ฝ่ามือลูบไล้หน้าอกของชายหนุ่มอย่างยั่วยวนโดยมีธรรมชาติช่วยสอนอีกแรง ส่วนมืออีกข้างก็สอดเข้าไปตามกลุ่มผมดกดำของเขาทั้งทึ้งทั้งดึงเพื่อคลายความเสียวซ่านที่ชายตรงหน้ามอบให้          ทั้งสองหนุ่มสาวต่างตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส ไม่ว่าจันจิราหรือภาคีนัยต่างถูกไฟพิศวาสแผดเผาจนลุกโชน ไม่มีใครสามารถดับได้นอกเสียจากคนที่ปลุกมันขึ้นมาเท่านั้นที่จะทำให้มันมอดไหม้ดับไป ปากหนาดูดดุนยอดอกอย่างเมามัน เรือนกายสาวผู้ไม่เคยผ่านมือชายสั่นสะท้าน อย่างห้ามไม่อยู่ มือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างนวลเนียนเพื่อปลุกอารมณ์ของหญิงสาวให้ลุกโชนกว่าเดิม อกอวบแอ่นรับความหรรษาจากเขาแบบไม่เอียงอาย นักเรียนตัวน้อยทรมานเหลือเกิน มือร้อนลากผ่านมายังเนินอวบอิ่ม เลื้อยต่ำลงไปอย่างเสียวซ่าน นิ้วแกร่งล้วงเข้าไปยังกลางกายสาว บุปผชาติดอกงามผลิตน้ำหวานออกมาอย่างล้นเอ่อ มากมายมหาศาล ทั้งที่อาภรณ์เบื้องล่างยังไม่ปลดออก          กายชายหนุ่มทนไม่ไหว รีบกระชากกางเกงขาสั้นของหญิงสาวลง พร้อมกับเกี่ยวชั้นในตัวน้อยออก ริมฝีปากหนาฉกชิมน้ำหวานอย่างไม่นึกที่จะรังเกียจ ส่วนเธอก็ได้แต่ครางออกมาเพื่อคลายความทรมาน          “คะ คุณ ตรงนั้น…” เสียงหวานใสร้องห้าม แต่มือบางกลับไม่ทำตามคำสั่งที่ปากพร่ำออกมา มันกลับทรยศเจ้าตัว โดยการกดศีรษะชายหนุ่มให้แนบแน่นไปยังส่วนนั้นของตน ซ้ำยังส่ายสะโพกอวบอย่างยั่วยวน แบบไม่รู้ตัวแล้วมีหรือที่คนอย่างภาคีนัยจะทานทนไหว ชายหนุ่มรีบจัดการเสื้อผ้าบนกายอย่างรวดเร็ว          ร่างกายแกร่งสมชายชาตรี เผยสรีระทุกสัดส่วนชวนสัมผัสต่อหน้าผู้หญิง ที่เขาต้องการเธอตั้งแต่เมื่อคราแรกที่พบเจอครั้งแรก แต่สาวเจ้าดันไม่ยอมจึงต้องใช้วิธีที่ไม่น่าพิศมัยเท่าไร          ร่างบึกบึนแสนกำยำไม่รอช้า เคลื่อนตัวเข้าทาบทับหญิงสาวทันที โดยเขาเห็นว่าเธอพรั่งพร้อมแล้วชายหนุ่มจึงส่งตัวตนเข้าไปทักทายดอกไม้งามอีกครั้ง ซึ่งไม่รุนแรงเหมือนเมื่อคราก่อน เพราะครั้งนี้ทั้งสองต่างเต็มใจ เมื่อส่งตัวตนเข้าไปไม่ถึงครึ่งเธอก็ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด พร้อมกับใบหน้าที่เหยเกอย่างหน้าสงสาร จนชายหนุ่มต้องพรมจูบไปทั่วไปดวงหน้า ความคับแน่นรัดเขาเอาไว้จวนจะหายใจไม่ออก          “จะ เจ็บเอาออกไปก่อน ฉันเจ็บ” เสียงกรี๊ดร้องอย่างเจ็บปวดทำให้เขาต้องโอ้โลม ให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกว่านี้ จุมพิตรสหวานถูกส่งเข้าไปในปากน้อยอีกครั้ง มืออีกข้างกอบกุมอกอวบเอาไว้ไม่ห่าง นวดเฟ้นอย่างเมามันสมใจกับที่อยากจับต้องตั้งแต่แรกเห็น และพ่นถ้อยคำแสนหวานพูดลื่นไหลตลอดเวลา          “จุ๊ๆ ไม่คนสวยมันจะไม่เจ็บอีก ผมสัญญาผมจะพยายามทำให้นุ่มนวลที่สุด” พูดไปริมฝีปากหนาก็วกจูบที่ปากบางอีกครั้ง เป็นการปลอบประโลมหญิงสาว และก็ปิดเสียงครางประท้วงไว้ ฝ่ามือแกร่งลูบไล้ไม่หยุดหย่อน เพื่อให้เธอเพลิดเพลินคลายความเกร็ง จนที่สุดร่างกายน้อยเผลอไผลไปกับอารมณ์ที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้ เขาอาศัยจังหวะนั้นส่งตัวตนเข้าไปจนมิด พร้อมกับแช่ไว้เพื่อให้ร่างบางได้ปรับตัวและคุ้นเคยกับตัวตนของเขา          ผ่านไปสักพักคนที่อยู่ใต้ร่างเริ่มดิ้นรนเหมือนกับคนทุรนทุราย ใจจวนจะขาดจนชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงเขาพอรู้อยู่ว่าเธอต้องการอะไร          “คุณเป็นอะไร หืม…” คนถามไม่ถามเปล่าแต่ประทับรอยจูบไปทั่วดวงหน้าเพื่อปลอบประโลมเธอ          “ฉันอึดอัด ช่วยเอามันออกไปทีมันทรมานเหลือเกิน” คนประสบการณ์น้อยตอบชายหนุ่มอย่างใสซื่อ จนเขาส่งยิ้มใส่ด้วยนัยน์ตาหวานฉ่ำแล้วพูดว่า          “อีกหน่อยมันจะไม่อึดอัดแล้วล่ะครับ เพราะมันจะมีแต่ความสุขเข้ามาแทนที่… อืม…” พูดจบร่างหนากระแทกตัวตนเข้าออกอย่างตั้งใจ คนตัวน้อยที่อยู่ใต้ร่างส่ายสะโพกรับไม่หยุด มือน้อยเกาะชายหนุ่มไว้แน่น เล็บคมแหลมจิกเข้าหัวไหล่หนา เพื่อระคายความทรมานซ่านสยิวที่ตนได้รับ “อืม… แน่นดีเหลือเกินคนสวย” วลีนุ่มเอ่ยสลับกับเสียงครวญครางด้วยความทรมานเสียวซ่าน ดอกไม้งามตอดรัดแน่นอย่างเหลือล้น ไม่นานร่างบางก็เกร็งกระตุก เป็นสัญญาณบอกว่าเธอไปเก็บเกี่ยวเอาดวงดาวมาเรียบร้อยแล้ว ด้านคนตัวใหญ่ไม่หยุดนิ่งรีบเร่งจังหวะให้เร็วระรัวใส่ไม่ยั้ง จังหวะสุดท้ายกดเน้นย้ำลงไปจนมิดแล้วครางบอกคนใต้ร่าง “ พร้อมกันอีกรอบครับ อา…” พูดจบทั้งสองคนก็พากันไปเก็บเกี่ยวเอาดวงดาวบนสรวงสวรรค์มาร้อยเรียงกันไว้หลายร้อยพันดวง ลาวาขาวขุ่นพุ่งพวยเข้าไปในดอกไม้งามทุกหยาดหยด ไม่มีเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย เขาแช่ตัวตนไว้ไม่ยอมถอดถอนออกมา ในที่สุดเริ่มออกอาระวาดอีกครั้ง โดยบทรักครั้งใหม่นี้ชายหนุ่มบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยให้หญิงสาวเป็นผู้ควบคุมเกมส์ ตลอดทั้งคืนสองหนุ่มสาวต่างพลัดกันรุกเปลี่ยนกันรับตลอดเวลา ไม่มีความรุนแรงหรือโหดร้ายทารุณแต่อย่างใดมีแค่ภาพความทรงจำที่ดีต่อกัน กลางดึกสงัด… “ฮื้อ… อย่ามากวนลูกจันนะ ลูกจันจะนอน”  หญิงสาวเปลี่ยนคำพูดแทนตัวเองเรียบร้อย โดยพ่อคนเผด็จการที่เป็นคนเผด็จศึกเธอนั้นเองที่บัญชามา “นอนไปสิครับ ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะคนสวย” คนพูดไม่พูดเฉยๆแต่กลับระดมจูบไปทั่วสรรพางค์กาย ไล่ขึ้นมาตั้งแต่สะโพกงอนงาม ตามสีข้างลำตัว มาที่หัวไหล่มนจนมาถึงที่ซอกคอผ่อง ส่งผลให้คนที่นอนอยู่สยิวขึ้นมา คนบ้าอะไรก็ไม่รู้หื่นจริงๆไม่ให้ลูกจันนอนเลยหรือไง คนตัวน้อยได้แต่แอบคิดอย่างหมั่นไส้อยู่ในใจที่ชายหนุ่มช่างแสนเอาแต่ใจคนอะไรคึกตลอดเวลา ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหนถึงฟิตอยู่ทุกวินาที “ลูกจันนอนไม่หลับค่ะ ถ้าคุณทำอยู่อย่างนี้ ลูกจันขอร้องลูกจันง่วงค่ะ” “ก็ได้ครับ เห็นว่าคุณเหนื่อยแล้วก็ง่วงนะครับ ไม่อย่างนั้น หึๆ…” คนคึกคะนองได้แต่อดไปอย่างน่าสงสาร ด้วยเหตุผลที่ว่าเขารักเธอนานมาก รักทุกกระบวนท่า คนประสบกามน้อยอย่างจันจิรามีหรือที่จะไม่เหนื่อย ส่วนตัวชายหนุ่มเองก็เห็นว่าไม่ควรเอาเปรียบเธอ เพราะหญิงสาวพึ่งออกจากโรงพยาบาล แถมยังเป็นคนป่วยง่ายด้วย หื่นตัวพ่ออย่างภาคีนัยจึงต้องอดใจเอาไว้รอให้ร่างกายเธอพรักพร้อมอีกกว่านี้ รับรองจัดหนักแน่! นิ้วแกร่งเกลี่ยปอยผมที่บดบังดวงหน้าหวานอย่างเอาใจ พร้อมกับทัดเส้นผมสลวยไว้แนบใบหูผ่อง แลให้ดูมีระเบียบเรียบร้อยกว่าเก่า ปากหยักจูบหมับเข้ากลางหน้าผากมนอย่างทะนุถนอมแสนรักแสนเสน่หา เขาอดใจไว้ไม่ได้จริงๆ ว่าจะไม่จูบตรงปากบางที่ตอนนี้บวมเจ่อเห็นชัดก็อดไม่ได้ คนมักฉวยโอกาสรีบก้มลงจูบอย่างอ้อยอิ่ง ช่างหอมหวานเสียเหลือเกิน หอมจนยากจะถอนจูบออกมา เนิ่นนานที่ลิ้นหนาคว้านชิมรสหอมหวานในโพรงปาก พยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้เลยเถิดไปไกล แต่แปลกมากยามเวลาอยู่ใกล้หญิงสาวทีไร มีอันต้องตื่นตัวและต้องการอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่ายสักที เมื่อได้ตักตวงความหวานจากตรงหน้าเรียบร้อยจึงรีบเอ่ย “ฝันดีครับ” พูดจบคนร่างใหญ่ สอดร่างของตนเข้าไปหลอมรวมกับเธอภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันแขนแกร่งไม่รอช้ารีบเข้าไปโอบเอวบางไว้อย่างหวงแหนพร้อมกับซุกหน้าลงกับไหล่มนพอดีดอมดมกลิ่นกายหอมชื่นใจตลอดทั้งคืน           ลำแสงสีส้มอ่อนสาดกระทบเข้ากับหน้าต่าง ผ่านเข้ามายังเตียงนอนกว้าง เรือนกายเปลือยเปล่านอนกกกอดกันอย่างเคลิบเคลิ้ม แสงสว่างยามสายแก่ตกกระทบเปลือกตาของคนทั้งคู่ ที่หลับพริ้มอยู่ เพราะเกือบห้าโมงเช้าแล้ว แต่ไม่มีใครตื่นสักคน ไม่นานคนรู้สึกตัวเร็วก็คือจันจิรา หญิงสาวลืมตาขึ้นมาก่อนมองไปรอบๆตัวพร้อมกับมองข้างๆกายของตนที่มีชายหนุ่มนอนเปลือยกายอยู่ข้าง หญิงสาวก้มลงมองตัวเองอีกครั้งเพื่อความแน่ชัดก็พบว่าตนเปลือยเปล่าเช่นกัน เมื่อเป็นดังนั้นเธอก็ยอมรับความจริงว่า ได้ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขาเอง เธอจะไปต่อว่าว่าเขาขืนใจก็คงไม่ได้          คนตัวน้อยได้พยุงร่างแสนบอบบางของตัวเองลุกขึ้น และยกลำแขนใหญ่ซึ่งโอบเอวอยู่วางไว้กับที่นอน เธอกำลังจะก้าวออกไปเพื่อจะอาบน้ำชำระล้างร่างกาย แต่ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เมื่อกลางกายสาวมันปวดร้าวแทบน้ำตาเล็ดปลุกคนนอนอยู่ต้องตื่นขึ้นมาพร้อมช้อนท่อนขาเรียวไปเข้าห้องนำอย่างรู้ทัน          ไม่นานบทเพลงรักครั้งใหม่ก็บรรเลงขึ้นในห้องน้ำ กว่าที่ทั้งสองจะช่วยกันมอดดับอารมณ์ร้อนแรงได้นั้น กินเวลาร่วมหลายชั่วโมง ไม่นานพายุคลื่นลูกใหม่พัดโหมเข้ามาอีกครา ทั้งสองสาดกระหน่ำใส่กันอย่างบ้าคลั่ง เปลี่ยนกันรุกพลัดกันรับอยู่นานแสนนาน จนจันจิราแทบคลานออกจากห้องน้ำ          ร่างบางอยู่ในชุดแสนสวย กระโปรงบานเลยเข่านิดๆสีโอลรสอ่อน ด้านบนสวมเเ**กเก็ตยีนส์ แขนกุดสีซีดๆทับทำให้หญิงสาวแลดูสวยขึ้นมาสะดุดตาเชียว ผมสลวยจัดทรงเรียบร้อย ด้วยการถักเปียฝีมือของตนเอง หน้าบางไม่ได้เติมแต่งอะไรมาก ทาแป้งฝุ่นเด็ก และมีการพึ่งพาเครื่องสำอางค์แต่พองามไม่มากไปจนน่าเกลียด เท้าน้อยสวมรองเท้าที่ชายหนุ่มเตรียมไว้ให้ เป็นรองเท้าหุ้มส้นสีขาวสะอาดตาตามแบบสมัยนิยมไม่ใช่รองเท้าส้นสูงที่สูงปรี๊ด “เสร็จแล้วค่ะ ไปกันเถอะ” จันจิราพูดพร้อมกับเดินออกมาหาชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ภายในห้องโถงของบ้านพัก ด้านคนที่นั่งรออยู่ เมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกมาเขาเก็บอาการตะลึงไว้ไม่มิด สีหน้าแววตาโจ่งแจ้งที่สุด ความสวยของหญิงสาวช่างบาดใจเขาเหลือเกิน มองอย่างไรไม่รู้สึกเบื่อ มีแต่อยากมองตลอดชีวิตด้วยซ้ำไป “ครับ” ชายหนุ่มรับปาก หากตาคมยังไม่หยุดมอง จ้องไม่ห่างแล้วรีบเลื่อนมือหนาของตนไปกุมมือบางมาจับไว้ความอบอุ่นที่ได้รับจากร่างสูงใหญ่ แผ่ซ่านเข้าไปทั่วหัวใจดวงน้อยทีละน้อยๆ จนตอนนี้เกือบเต็มทั้งดวงแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD