5

1552 Words
“อะไรของเราห้ะ อยู่ๆ ไม่ชอบเค้า” “ยัยนั่นเอาแต่ใจตัวเอง ปากร้ายด้วย ตอนแสดงละครอีกคาแร็กเตอร์ แต่นิสัยจริงๆ ยิ่งกว่าอะไร ฮึ่ม” พิมพ์นาราฮึดฮัดขัดใจอย่างที่สุด ..ถ้าพี่ชายจะจีบยัยดาราวดีละก็ ข้ามศพเธอไปก่อนเถอะ “ขัดขวางเฮียแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะมีเมียกันล่ะ ไหนบ่นบอกว่าอยากมีพี่สะใภ้” “มีได้ แต่ไม่ใช่คนนี้ ห้ามเฮียไปยุ่งเด็ดขาด ไม่งั้นพิมพ์จะอาละวาดให้น่าดูเลย” “เค้าเป็นถึงนางเอกดังของเมืองไทย ไม่ชอบหรือไง มีพี่สะใภ้ทั้งเก่งทั้งสวยแบบนี้” “แหวะ! ไม่เอาหรอก พิมพ์อยากได้พี่สะใภ้น่ารักใจดี ไม่ใช่ดาราดังคับประเทศแต่นิสัยแย่ยิ่งกว่าอะไร” “ไปว่าเค้าแย่ รู้จักเค้าดีแล้วเหรอไง” “รู้จักดีไม่ดี เห็นนิสัยแค่ไม่กี่ครั้งก็รู้แล้ว มีอย่างที่ไหนจิกกัดคนอื่นเหมือนทาสรองรับอารมณ์ หึ!” พูดแล้วกอดอกเบ้ปากตามนิสัยเอาแต่ใจ แต่ถ้าไม่ชอบใครขึ้นมา เธอไม่สนอะไรทั้งนั้น ลุยแหลกอย่างเดียว “แล้วเรานิสัยดีนักหรือไง” “เอ๊ะ! เฮียนี่ยังไง เข้าข้างคนอื่น ว่าน้องตัวเอง” “เฮียหรือจะกล้าว่าเรา เถียงคำไม่ตกฟาก” พันกรโยกศีรษะน้องสาวไปมา เถียงกันไปมา สุดท้ายก็ยอมอีกฝ่ายอยู่ดี “ดีมากเฮีย” พิมพ์นาราหัวเราะคิกๆ เมื่อพี่ชายยอมเออออไม่ขัดใจอีก“แล้วนี่บัวหายไปไหนซะแล้วล่ะ เฮียนั่นแหละชวนคุย” “อ้าว... เฮียผิดเหรอนี่” “ก็เฮียชวนคุยไง ไม่รู้ว่าบัวหายไปไหนแล้ว” “เค้าคงอยากไปหาผู้ชายในกองถ่ายมั้ง” “เฮียนี่ยังไง ชอบมองบัวในแง่ร้าย” “เฮียก็มองตามจริง เห็นมีข่าวเสียๆ หายๆ ออกบ่อย ถ้าไม่มีมูลจะมีข่าวได้ยังไง” “โธ่... เฮีย ใครเชื่อก็โง่แล้ว ข่าวในวงการบันเทิงมันก็เป็นแบบนี้แหละ ใส่สีตีไข่ไม่ใช่เรื่องจริงก็เอามาเขียนมั่วๆ พิมพ์นี่แหละใกล้ชิดบัวที่สุด พิมพ์รู้ดีว่าบัวไม่ได้เป็นเหมือนในข่าวแน่นอน” “เค้าไปทำอะไรผิด แล้วจะบอกเราหรือไง” พันกรส่ายหน้าไปมา “บัวไม่เคย” “เราน่ะเชื่อคนง่ายเกินไป ขนาดเด็กๆ ที่ทำผิดยังไม่บอกพ่อแม่เลย” “แต่บัว...” “พอเถอะ เลิกแก้ตัวให้กันสักที เห็นแก้ตัวแทนกันมาตลอด แต่เฮียไม่เห็นว่าเพื่อนของเราจะทำตัวดีขึ้นเลย ยังทำงานขายเรือนร่าง” “ขายเรือนร่าง มันจะมากเกินไปแล้วนะเฮีย ทำยังกับเพื่อนพิมพ์เป็นผู้หญิงขายตัว นั่นเพราะบัว...” พิมพ์นาราจะบอกว่าบัวบูชามีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นและมีความจำเป็นมากมายในชีวิต แต่พูดยังไม่ทันจบประโยค พี่ชายก็โต้กลับมาเสียก่อน “พอสักที เฮียขี้เกียจฟัง” “ไม่ฟังแล้วจะเข้าใจได้ยังไงกัน” “หรือเงินที่พ่อแม่ให้มาไม่พอ เลยต้องไปแก้ผ้าถ่ายชุดวาบหวิว” “บัวไม่ได้แก้ผ้านะเฮีย แค่ใส่ชุดว่ายน้ำ ตาเฮียหาเรื่องน่ะสิ ถึงว่าบัวแก้ผ้า” พิมพ์นาราอยากกรี๊ดใส่หน้าพี่ชายนัก ..พูดจาไม่เข้าใจอะไรอย่างนี้ “หึ! เราลองไปใส่ชุดว่ายน้ำแบบนั้นสิ เฮียจะหักคอให้” “ให้พิมพ์ไปใส่ก็ไม่มีใครมองหรอก พิมพ์อ้วน” “อ้วนอะไรกัน ถ้าหุ่นแบบเราเรียกอ้วน หุ่นแบบเพื่อนเราไม่เรียกไม้เสียบลูกชิ้นเหรอ” “ก็เป็นนางแบบกินเยอะได้ยังไง ตามใจปากก็พุงยื่น ถ่ายแบบออกมาไม่สวยสิ แล้วผู้ชายแบบเฮียจะมองรึ เห็นมองแต่ผู้หญิงสวยๆ หุ่นดีๆ เนื้อ นม ไข่ อ้วนๆ เผละๆ ใครจะมอง” “อดๆ อยากๆ ไม่ค่อยกิน แล้วเอาเงินไปทำอะไร” พันกรถามอย่างสงสัย “บัวเค้ามีความจำเป็นต้องใช้เงินนะเฮีย” “มีความจำเป็นจนต้องยืมเราด้วยใช่ไหม” “เฮียรู้เหรอ!” ถามอย่างตกใจ “รู้สิ ก็เราน่ะขอเงินใครใช้อยู่ล่ะ เรื่องแค่นี้ทำไมเฮียจะไม่รู้” “บัวไม่ได้ขอนะ พิมพ์ให้บัวเอง บัวมีความจำเป็น” “จำเป็นๆๆๆ จำเป็นอะไรนักหนา อ้อ... ต้องทันสมัย ซื้อเสื้อผ้าแพงๆ ใส่ใช่ไหม เผื่อลูกผู้ดีมีเงินจะได้สนใจขอไปเป็นเมีย” “เฮีย! มันจะมากไปแล้วนะ อย่าตัดสินคนอื่นแค่ภายนอกสิ” บัวบูชาแต่งตัวธรรมดามากๆ เน้นความสะอาดสะอ้านเท่านั้น เธออยู่กับบัวบูชาตลอด อยู่ด้วยกันทุกวัน ทำไมจะไม่รู้ว่าเพื่อนเป็นคนประหยัดแค่ไหน แต่เพราะเหตุจำเป็นนั่นแหละ “เฮียเชื่อในสิ่งที่เฮียเห็น ที่เฮียทนให้เราคบเพื่อนคนนี้อยู่ก็เพราะว่าเรารั้น” “เฮียจะให้พิมพ์เลิกคบบัวงั้นเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก” พิมพ์นาราแทบเต้น เพราะไม่ชอบให้ใครขัดใจ “ก็นั่นไง เลยต้องจำใจให้คบ” เขากลัวน้องจะเอาอย่าง ใครจะทำอะไรก็ทำไป แต่ถ้าให้น้องสาวไปถ่ายแบบชุดวาบหวิวแบบนั้น เขาไม่ยอมจริงๆ ด้วย พอคิดมาถึงตรงนี้ ใจเขาก็กระหวัดไปถึงคนที่อยู่ในหัวข้อสนทนา ..เอาเข้าจริงๆ เขาก็ไม่ชอบให้เพื่อนน้องสาวไปใส่ชุดแบบนั้นถ่ายแบบเหมือนกัน “เฮียไม่มีเหตุผล” “เฮียโตแล้ว มีไม่มีเฮียก็ตัดสินใจเองได้” “ชิ! ไม่ว่ายังไงพิมพ์ก็ไม่เลิกคบกับบัวหรอก” แกรบ... เสียงเหยียบใบไม้ที่ดังขึ้นทำให้สองพี่น้องหันไปมอง “บัว!!!” พิมพ์นารารีบพุ่งเข้าใส่เพื่อน เห็นหน้าถอดสีของอีกฝ่ายก็นึกโกรธพี่ชายตัวเองนัก “บัวแค่จะเดินมาเอาของที่ลืมไว้ ไม่ได้ตั้งใจฟังนะจ๊ะ” บัวบูชารีบบอกเพื่อน ใบหน้าซีดเผือดลงถนัดใจ พิมพ์นารารู้ได้ทันทีว่าเพื่อนต้องได้ยินบทสนทนาแน่ๆ จึงนึกเคืองพี่ชายเหลือเกิน “บัวได้ยินที่...” “บัวไม่ได้ยินอะไรเลยจ้ะ เพิ่งมาเอง ไม่ได้ตั้งใจมาฟังใครพูดอะไรนะ” บัวบูชารีบบอกเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน “บัวโกหก เพราะเฮียนั่นแหละพูดจาไม่ดี” “พิมพ์ไม่เอานะ” บัวบูชารีบหยิบบทที่เหลือขึ้นมาถือเอาไว้ “บัวจะไปไหน” “จะไปท่องบทจ้ะ บัวขอตัวก่อนนะ” “เดี๋ยวสิบัว” “ไปเซ้าซี้เค้าอยู่ได้ เค้าไม่อยากให้ตามไปไม่ใช่เหรอ” “เพราะเฮียนั่นแหละพูดจาร้ายๆ ว่าบัวตลอด บัวก็แสนดีไม่เคยโต้ตอบเลย” “คนที่ไม่เคยโต้ตอบคือคนแสนดีเหรอไง ไม่เคยได้ยิน” แม้ในใจจะรู้สึกไม่ปกติเมื่อได้สบตาและเห็นสีหน้าของเพื่อนน้องสาว แต่เขาพยายามปัดมันออกไป ..เขารู้สึกผิด!!! พันกรบอกตัวเองอย่างตกใจ “ทั้งแสนดีและจิตใจดีด้วย ไม่ถือสาหาความคนปากร้ายๆ แถวนี้ น่าแช่งไม่ให้มีเมียซะเลย” พิมพ์นาราไม่ยอมลดราวาศอก ..ก็พี่ชายเธอพูดเกินไปจริงๆ นี่นา ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไรเพื่อนเธอหนักหนา “ไม่มีก็ดีแล้ว ไม่อยากมีพันธะอยู่แล้วไง” “ชิ!” พิมพ์นาราสะบัดหน้าใส่พี่ชาย ก่อนจะเดินจากไป พันกรมองตามร่างน้องสาวไปจนลับตา ก่อนจะมองไปยังเส้นทางที่บัวบูชาเดินไป เขาตัดสินใจเดินตามไป .. แม้เขาจะไม่ได้มองเธอในแง่ดีขึ้น แต่บางทีเขาก็อาจจะมองเธอในแง่ร้ายเกินไป ชายหนุ่มคิดได้ดังนั้นก็เดินตามไปทันที “น้องบัวให้พี่ช่วยไหมครับ” ธีรกรพระเอกคนดังที่หาทางปลีกตัวมาหาดาราน้องใหม่รีบนั่งลงใกล้ๆ จนบัวบูชาต้องขยับหนี แต่เขาก็ยังตามมา ความน่ารักสวยหวานจับตาจับใจของบัวบูชาทำให้เขาอยากสานสัมพันธ์กับหญิงสาวเหลือเกิน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณธี บัวเกรงใจ” “เกรงใจทำไม ถ้าพี่ฝึกให้รับรองว่าตอนเข้าฉากบัวจะหายเกร็ง เราจะส่งบทกันได้ดีขึ้น แล้วก็เลิกเรียกคุณเสียที เรียกพี่น่ะดีแล้ว” “เอ่อ... ก็ได้ค่ะ” บัวบูชาเองก็อยากหาคนช่วยเหมือนกัน เพราะฉากต่อไปเธอต้องเข้าฉากกับธีรกร ถ้าทำไม่ได้ก็จะโดนคนอื่นว่าเอาอีก ฉากต่อไปเป็นฉากที่เธอต้องกลับมาที่ไร่องุ่น หลังจากไปเรียนหนังสือ และพบว่าพระเอกของเรื่อง รักผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือนางเอกของเรื่องนั่นเอง เธอเป็นแค่นักแสดงตัวประกอบที่เจ๊มิ้นต์พยายามให้ร่วมงานกับกันต์ ซึ่งเป็นผู้กำกับและสนิทกัน เพื่อจะได้ดันเธอให้เป็นนางเอกในอนาคต พอได้ยินแบบนั้นเธอก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะไปเป็นนางเอกอะไรกับเขาหรอก แต่เจ๊มิ้นต์ยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่าเธอจะต้องดังเป็นพลุแตกแน่นอน เพราะเธอมีรูปเป็นทรัพย์ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD