“พิมพ์พูดอะไรแบบนั้น” บัวบูชาสะดุ้งรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ถ้าบอกว่าบัวชอบเฮีย พิมพ์เชื่อเลยนะ เข้าข้างเฮียตลอด” พิมพ์นาราก็ถามไปแบบนั้นเอง เพราะไม่เห็นวี่แววว่าคนทั้งสองจะชอบกัน ทั้งๆ ที่เธอแอบเชียร์อยู่ในใจ
“บัวเปล่าเข้าข้างนะพิมพ์ ก็พูดไปตามเหตุผล”
“แต่ก็จริง ไม่เห็นบัวเคยโกรธใครที่ไหน” พิมพ์นาราพยักหน้าเออออ
บัวบูชาลอบผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เพื่อนยอมเชื่อ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่พิมพ์นาราจะเดินไปเปิดประตูให้พี่ชาย
“นินทาอะไรเฮียอยู่ห้ะ”
“นินทาอะไร ที่ร้อนตัวนี่เพราะรู้ใช่ไหมว่าตัวเองไม่ดี” พิมพ์นาราสวนกลับพี่ชาย
“ก็ไม่รู้สิ เกิดมายังไม่เคยเจอใครดีเลิศประเสริฐศรีเลยสักคนเดียว” เขายืนอยู่หน้าประตูนานแล้ว นานพอที่จะได้ยินอะไรต่อมิอะไร ขณะพูดสายตาก็มองเพื่อนน้องสาวเขม็ง
“แต่เพื่อนของพิมพ์ดีเลิศค่ะ ขนาดโดนคนบางคนว่ายังไม่โกรธเลย”
“คนบางคนชอบสร้างภาพให้ตัวเองเป็นคนดี” พันกรนั่งลงบนเตียงใกล้ๆ กับน้องสาว ก่อนจะเอื้อมมือไปโยกศีรษะอีกฝ่าย
พิมพ์นาราทำหน้างอ แต่ก็ยอมให้พี่ชายโยกศีรษะเบาๆ
“เฮียว่าใคร” ปากว่า แต่หยอกล้อพี่ชายโต้ตอบกันไปมาอย่างสนุกสนาน แถมยังหัวเราะอย่างมีความสุข นั่นเป็นภาพที่บัวบูชาเห็นบ่อยๆ ระหว่างพี่น้องคู่นี้
“เรานี่ยังไงชอบขึ้นเสียง เฮียไม่ได้ว่าเราก็แล้วกัน แต่ถ้าใครอยากรับก็รับไปสิ”
“เฮียนี่ยังไง ชอบหาเรื่อง” พิมพ์นาราโถมตัวเข้าใส่พี่ชาย จี้เอวอีกฝ่ายก่อนจะขึ้นนั่งบนพุงแล้วขู่ฝ่อๆ พันกรพลิกร่างน้องสาวลงก่อนจะจี้เอวกลับบ้าง พิมพ์นาราหัวเราะเสียงดัง ร้องให้บัวบูชาเข้ามาช่วย แต่หญิงสาวไม่กล้าเข้าไป เพราะเธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินของพี่น้องคู่นี้
“บัว ช่วยเค้าด้วย คิกๆๆ จั๊กจี้เอวเฮียที” พิมพ์นาราหัวเราะคิกๆ ดิ้นเร่าๆ ไปมา ก่อนจะรีบดึงมือบัวบูชาเข้าไปหา อยากให้ช่วยจัดการจี้เอวพี่ชาย
“อุ๊ย!” บัวบูชาร้องอย่างตกใจเมื่อถลาเข้าไปหาร่างสูงของพันกร เธอทำอะไรไม่ถูกเมื่อเขาพลิกตัวมาทาบทับเธอเอาไว้
ในขณะที่พิมพ์นาราหนีลงจากเตียงไปยืนหอบอยู่อีกด้าน
“ขอโทษค่ะ” บัวบูชาดันอกแกร่งของพี่ชายเพื่อนรักออกห่าง แต่เขาไม่ยอมถอยห่าง ลมหายใจของเขาทำให้เธอหน้าแดงซ่าน สัมผัสใกล้ชิดทำให้เธอหวั่นไหวอย่างประหลาด
“เฮีย!!! ตายซะเถอะ” พิมพ์นาราดูเหมือนจะไม่รู้อีโหน่อีเหน่ รีบโถมตัวเข้าจี้เอวพี่ชายบ้าง สั่งเพื่อนให้ล็อกแขนอีกฝ่ายเอาไว้
บัวบูชาทำตามอย่างเก้ๆ กังๆ เธอหลบสายตาพันกรเมื่อเผลอมองสบตากันอย่างไม่ตั้งใจ น่าแปลกที่เขายอมให้เธอล็อกแขนเอาไว้
เธอกับเขาไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวกันมาก่อน เลยรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด อาจเพราะเธอคิดอะไรกับเขาเกินเลยคำว่าพี่ชายเพื่อนไปแล้วนั่นเอง
“หึหึ... โดนจับเป็นตัวประกันแล้ว หนีไม่รอด ต่อไปนี้จะโดนจกพุงกินตับแล้วนะ” พิมพ์นาราจี้เอวพี่ชายไม่หยุด
พันกรหัวเราะท้องแข็ง ยอมให้น้องสาวจกพุงอย่างสนุกสนาน ตอนเด็กๆ พิมพ์นาราคลอดก็ถูกพันกรเลี้ยงมาโดยตลอด ตั้งแต่ป้อนนม เปลี่ยนผ้าอ้อม ล้างก้น แม้กระทั่งอาบน้ำ พิมพ์นาราชอบปีนขึ้นไปเล่นบนตัวพี่ชาย กอดคอ ให้อุ้ม หยอกล้อกันตามประสาพี่น้อง
บัวบูชาที่เกร็งๆ อยู่เพราะทำตัวไม่ถูก พอถูกใช้ให้ล็อกพันกรเอาไว้ให้แน่น เธอก็รีบทำตาม
พันกรโดนจกพุงจนหัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล พิมพ์นารานอนหอบ วางศีรษะเล็กๆ อยู่บนหน้าท้องของพี่ชายอย่างมีความสุข ในขณะที่บัวบูชาพิงศีรษะกับเตียงอีกด้านมองสองพี่น้องอย่างอิจฉานิดๆ
“ยัยเด็กบ๊อง วันๆ ไม่คิดจะทำอะไร จกพุงพี่กินอย่างเดียว”
“เฮียเริ่มก่อน จี้เอวเค้าทำไม รู้ว่าเค้าจั๊กจี้”
“ตอนเด็กๆ พี่ก็จี้เอวออกบ่อย เราน่ะชอบขี่คอพี่” ความรักของสองพี่น้องทำให้บัวบูชาอมยิ้ม
..ถ้าเธอมีพี่ชาย จะน่ารักแสนดีและดูแลเธอดีแบบนี้ไหมนะ
ถึงแม้พันกรจะปากร้าย ก็ปากร้ายแต่กับคนอื่นเท่านั้น กับน้องตัวเองเขารักและดูแลเป็นอย่างดี จะเถียงกันก็เป็นเรื่องที่ต่างคนอยากยกเหตุผลมาอ้างมากกว่าจะเถียงกันเอาเป็นเอาตายแล้วโกรธกัน
“บัวมานอนนี่เร็ว นั่งแบบนั้นเหนื่อยแย่เลย” พิมพ์นารากวักมือเรียก ก่อนจะดึงเพื่อนรักมานอนด้วย บัวบูชาไม่ทันระวัง เสียหลักทิ้งตัวลงนอนอีกด้าน ศีรษะชนกับศีรษะของพันกรอย่างไม่ตั้งใจ เธอขยับหนีไม่ได้เพราะพิมพ์นาราที่นอนหนุนพุงของพี่ชายโอบกอดเอาไว้ เธอรู้สึกได้ว่าถูกจ้องมองจากอีกคน เลยได้แต่หลุบตาลงมองแค่หน้าของเพื่อนรักเท่านั้น
พิมพ์นาราดูมีความสุขกับการเล่าเรื่องต่างๆ ให้เพื่อนรักฟัง บัวบูชาฟังไปเผลอหัวเราะตามไป แต่พอเหลือบไปมองหน้าอีกคนที่กำลังมองเธออยู่ก่อนแล้ว เธอก็หยุดหัวเราะเกร็งขึ้นมาอีก
นอนพูดคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้จนเผลอหลับไป เธอไม่รู้ตัวว่าใครห่มผ้าให้ และใครแอบทำอะไรกับบางส่วนของร่างกายเธอบ้าง
การถ่ายทำละครเรื่องนี้ดูจะไม่ยุ่งยากอะไรเลย ถ้าพระนางจะไม่เรื่องมากขนาดที่ต้องเลิกกองกะทันหัน ใครจะคิดว่าจากที่วางแผนเอาไว้ว่าจะให้เสร็จเร็วหน่อย ก็กลับล่าช้าออกไปอีก
“ตอนแรกแอบปลื้มพระเอกเรื่องนี้อยู่นะ ตอนนี้พอเห็นนิสัยไม่ไหวเลยอะ” พิมพ์นาราแอบวิจารณ์พระเอกให้บัวบูชาฟัง
“เขาอาจจะอยากให้งานดีก็ได้”
“นางเอกก็เพลียมาก พอเห็นตัวจริงเข้านิสัยแย่พอๆ กับพระเอก เรียกว่าผีเน่ากับโลงผุ” พิมพ์นาราเบ้หน้าอย่างรังเกียจ
..คนเราพอดังแล้วเรื่องมาก
“จุ๊ๆ ไม่เอานะพิมพ์ เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า”
“มันจริงนี่นา พิมพ์ไม่คิดว่าบัวจะโดนจิกกัดขนาดนี้”
“เรื่องธรรมดาหรอกจ้ะ บัวเป็นแค่ตัวประกอบ”
“ตัวประกอบแล้วไง ไม่มีชีวิตจิตใจหรือไงกัน”
“คนอื่นเจอเยอะกว่าบัวอีก เค้ายังไม่บ่นเลย เอาเถอะพิมพ์ เพื่อเงิน”
“คนเรานี่เพื่อเงินทำได้ทุกอย่างนะ” เสียงที่ดังลอยมาทำให้สองสาวหันขวับไปมอง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครที่ชอบหาเรื่องเหลือเกิน
“เฮีย! ว่างงานหรือไง ถึงได้มาถึงนี่ได้ ปกติไม่สนใจนี่นา”
“ไม่สนใจได้ยังไง นี่มันไร่ของเฮีย เผื่อกองถ่ายต้องการอะไร เฮียก็ต้องบริการสิ”
“เมื่อก่อนไม่เคยเห็นสนใจ หรือว่าเฮียมีอะไรในกอไผ่” พิมพ์นารามองหน้าพี่ชายอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร เด็กคนนี้นี่ยังไง” พันกรรวบนิ้วเล็กๆ ที่ชี้หน้าเขาอย่างจับผิดเอาไว้
พิมพ์นาราหน้างอ ดึงนิ้วออกจากมือใหญ่ของพี่ชาย พันกรลอบมองอีกคนที่นั่งเงียบไม่ค่อยมีปากเสียงกับใครนัก
“ฮั่นแน่! พิมพ์รู้แล้ว เฮียสนใจกองถ่ายละครเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะเฮียชอบคนในกองถ่ายใช่ไหม”
“ไม่มี” พันกรเสียงสูงใส่น้องสาว หัวใจของบัวบูชาเต้นแรงเมื่อเผลอเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ชายของเพื่อนรัก
“จริงด้วย เฮียต้องสนใจยัยขี้เหวี่ยงวีนนั่นแน่เลย” สายตาของพิมพ์นาราพุ่งตรงไปยังนางเอกคนสำคัญของเรื่อง บัวบูชาที่หัวใจเต้นแรงในคราแรก เต้นแผ่วลงไปทันที
..นี่เธอเป็นบ้าอะไรนะ ถึงได้คิดไปว่าเขาจะต้องมาสนใจเธอด้วย ก็เห็นๆ อยู่ว่าเขาไม่ชอบหน้าเธอขนาดไหน!!!
“รู้ได้ไง แต่ก็น่าสนนะ สวยด้วย น่ารักด้วย คิดว่าเฮียจะจีบติดหรือเปล่า” พันกรพูดเล่นเมื่อเห็นน้องสาวหน้างอ ไม่ได้สนใจว่าใครอีกคนหนึ่งค่อยๆ ถอยออกมาเงียบๆ
บัวบูชายิ้มเศร้า เธอเดินไปหาที่เงียบๆ ท่องบท ปล่อยให้สองพี่น้องคุยกันตามประสา เพราะไม่อยากเป็นส่วนเกินเหมือนกับทุกๆ ครั้ง
“ห้ามเด็ดขาดเลยนะเฮีย พิมพ์ไม่ชอบยัยนั่น” พิมพ์นาราเสียงดังใส่พี่ชาย... หัวเด็ดตีนขาดเธอก็ไม่ยอมให้พี่ชายจีบยัยนางเอกคนนี้อย่างแน่นอน มีแต่จะแช่งชักหักกระดูกให้ออกไปจากไร่เร็วๆ คนอะไรหน้าตาสวยซะเปล่า นิสัยแย่ยิ่งกว่าอะไร ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน ไม่รู้ว่าเป็นนางเอกได้ยังไงกัน นิสัยแย่แต่ดันดัง คิดแล้วเซ็งจัด