“ไม่ต้อง เดี๋ยวเฮียจัดการเอง หลิวไปที่ร้านเถอะ”
คีติกายิ้มรับ “ค่ะเฮีย”
อนาคตจะตื่นมาแล้วได้เจอหน้าเขาก่อนออกไปทำงานแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ คีติกาไม่อยากจะคิดไปถึงตอนนั้น แค่วันนี้เธอยังอยู่ตรงนี้ก็รู้สึกดีแล้ว เธอเป็นคู่หมั้นของเขาก็จริง แต่ก็เป็นคู่หมั้นที่ถูกยัดเยียด ไม่มีสิทธิ์จะเรียกร้องอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น แค่เขาเมตตาให้อยู่ด้วยโดยไม่ถอนหมั้นก็บุญแล้ว
หญิงสาวออกไปทำงานปล่อยให้ปกเกศอยู่ในห้อง เขาจะทำอะไรบ้างเธอไม่อาจรู้ หลังจากหญิงสาวออกไป ร่างสูงก็เดินไปนั่งที่โซฟา เปิดหน้าจอโทรศัพท์ที่ค้างไว้ อึดใจต่อมาจึงพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
ปกเกศ: เพิ่งตื่นครับ
ตอบกลับเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องนอน ทิ้งโทรศัพท์ไว้บนโซฟาอย่างไม่ได้สนใจอีก
คีติกากลับมาถึงห้องประมาณห้าโมงเย็น วันที่ปกเกศไม่ได้ไปทำงานหญิงสาวจะอยู่ร้านจนถึงราวบ่ายสามถึงสี่โมงเท่านั้นเพื่อไม่ให้กลับบ้านค่ำ เธอกลับมาเตรียมอาหารรับประทานพร้อมกัน หลังเสร็จมื้อเย็นขณะที่เขากำลังนั่งดูรายการกีฬาจากทีวีจอยักษ์ในห้องนั่งเล่น ส่วนคีติกากำลังเก็บทำความสะอาดครัวหลังจากเตรียมวัตถุดิบบางอย่างสำหรับมื้อเช้าเพื่อลดขั้นตอนในการทำในช่วงที่ค่อนข้างเร่งรีบ โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็มีเสียงเรียกเข้า คีติกาเผลอหันไปมองตามโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อเขาหันมามองก็รีบหลบตาเพราะไม่อยากให้คิดว่าเธอจับผิด ปกเกศจึงลุกจากโซฟาเดินไปคุยในห้อง ทำให้เธอรู้ทันทีว่าเขาไม่ต้องการให้เธอรับรู้เรื่องที่คุยด้วย
คีติกาจึงกลับเข้าห้องส่วนตัวของเธอ อาบน้ำชำระร่างกายให้สมองปลอดโปร่งไม่อยากคิดอะไรให้จิตใจต้องเป็นทุกข์ อะไรที่ยังไม่เกิดก็ยังไม่ต้องไปพะวง ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด หญิงสาวใช้เวลาในห้องน้ำนานพอสมควรเพราะคิดว่าเขาคงใช้เวลาในการคุยโทรศัพท์สายนั้น อีกอย่างเขาก็ไม่ได้มาที่ห้องเธอหลายวันแล้ว ครั้นร่างโปร่งบางเดินออกมาจากมุม Walk-in Closet ก็ต้องชะงัก เพราะเห็นเขานั่งอยู่ที่เตียง
“เฮีย”
เสียงเรียกผะแผ่ว มองสบสายตาเขาแล้วคีติกาก็รู้สึกร้อนวูบวาบ
“ตกใจอะไร ทำไมไม่เดินเข้ามา”
เสียงทุ้มพร่าเอ่ย แววตามองเรือนกายเนียนนุ่มของเธอพราวระยับ กลิ่นหอมละมุนจากครีมอาบน้ำลอยกรุ่นกระตุ้นอารมณ์ความต้องการทางเพศของเขาอย่างดีเยี่ยม กลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำขวดเดียวกันเมื่อมาอยู่บนตัวเธอกลับต่างจากที่มันอยู่บนตัวเขา และเขาก็ชอบมันมาก
เท้าเรียวก้าวช้า ๆ เข้ามา หัวใจข้างในเต้นโครมคราม แม้จะมีความสัมพันธ์เร่าร้อนกันเกือบทุกคืนในช่วงที่เธอย้ายเข้ามาอยู่กับเขาใหม่ ๆ และห่างไปบ้างในช่วงหลังมานี้ แต่ทุกครั้งที่เริ่มคีติกาก็ใจสั่นรุนแรงเสมอ จนกระทั่งความเสียดเสียวครอบครองสติของเธอ คีติกาในร่างแม่เสือสาวก็จะปรากฏกายขึ้น
มือใหญ่แข็งแรงยื่นมาจับข้อมือเรียวบางของเธอแล้วดึงเบา ๆ ร่างแบบบางในชุดนอนผ้าซาตินสายเดี่ยวก็เซเข้ามานั่งเกยบนตักเขา จมูกโด่งไซ้ที่ซอกคอหอมกรุ่นทันทีพร้อมกับพลิกร่างของเธอให้นอนลงโดยมีตัวเขาทาบทับอยู่ด้านบน ขณะที่ใบหน้าซุกไซ้อยู่ช่วงบน ฝ่ามือหนาก็ลูบไล้ชุดนอนตัวบางออกจากเรือนร่าง พริบตาเดียวคีติกาก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขา มือซุกซนลูบไล้ลงมาตามสีข้างกอบกุมเนินสวาทที่ตอนนี้ชุ่มชื้นพร้อมรับตัวตนอันแข็งกร้าวของเขา
ปกเกศใช้ปลายนิ้วบดขยี้ยอดเกสรสวาทปลุกปั่นอารมณ์ของเธอจนเพริดไปเพื่อเรียกคีติกาอีกคนออกมา เขารู้ดีว่าตอนที่สติเธอถูกลดทอนลงไปนั้นหญิงสาวร้อนแรงแค่ไหน สะโพกกลมกลึงร่อนส่ายอยู่กลางอากาศตอนที่เขาขยี้ติ่งเนื้อให้เธอไปถึงจุดเสร็จสมก่อน
เมื่อร่างกายของเธอกระตุกเกร็งแล้วอ่อนระทวย เขาจึงขยับเข้าไปแทรกกลางเพื่อสอดใส่ลำกายที่แข็งชันร้อนลวกเข้าไปในร่องอุ่นแคบ แต่ทว่าก็ถูกมือเรียวเลื่อนมาปิดกั้น
“เดี๋ยวค่ะเฮีย”
“อะไร”
“เฮียไม่ใส่ถุงเหรอคะ มันยังเหลืออยู่ อ๊ะ...”
หญิงสาวพลิกตัวจะไปคว้าถุงยางอนามัยที่อยู่ในลิ้นชักหัวเตียงมาให้เขาสวมใส่ แต่ก็ถูกเขาล็อกตัวไว้พร้อมกันนั้นก็ดันท่อนเนื้อเข้ามาด้านใน ทำเอาร่างบางจุกไปทั้งตัว ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียดเสียว
“อ๊ะ...”
เสียงครางหวานเล็ดลอดออกมาติด ๆ กัน เมื่อเขาดันสะโพกเข้ามาลึกยิ่งขึ้นและขยับต่อเนื่องเป็นจังหวะ
“อื้อ เฮีย...”
ปกเกศกระแทกล่างเข้าหาอย่างรัวเร็วดุดันจนความจุกแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวสะท้านไปทั่วร่าง เสียงครางกระเส่าดังต่อเนื่องพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ร่างบางถูกเขาจับพลิกเปลี่ยนท่าตามความต้องการของผู้คุมเกม จนกระทั่งถึงจุดที่เขาไปต่อไม่ไหว สะโพกสอบก็เด้งเข้าหาถี่ยิบ กระทั่งหญิงสาวรู้สึกถึงกระแสธารอุ่นหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับร่างหนาของคนข้างบนทิ้งตัวทาบลงมาบนตัวเธอ จนลมหายใจเข้าสู่สภาวะปกติชายหนุ่มจึงพลิกกายลง
ไม่มีคำพูดหลังจากพายุสวาทสิ้นสุดลง ปกเกศลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องเหมือนทุกครั้ง