หรือว่าลึก ๆ แล้วเธอก็อยากโดนเสือขย้ำ
“ชอบค่ะ ห้องสวยมาก”
สุดสายตาของเธอเป็นวิวสูงโล่งไม่มีตึกบดบัง ปกเกศยกยิ้ม เดินไปเปิดตู้เย็นหลังเคาน์เตอร์บาร์ ส่วนหญิงสาวเดินมาหยุดมองทัศนียภาพอยู่ตรงผนังกระจก ทอดสายตาออกไปไกล ตลอดชีวิตที่เกิดมาครอบครัวของเธอถือว่ามีฐานะในระดับหนึ่ง ที่บ้านเปิดร้านอาหารจีนซึ่งสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่สามแล้ว แต่เชื่อไหมว่าตัวของคีติกาไม่เคยได้ออกไปไหนมาไหนอย่างที่ใจปรารถนา เธออยู่ในกฎเกณฑ์ที่บุพการีกำหนดมาตั้งแต่จำความได้ อย่างเดียวที่เธอได้รับคือการศึกษาที่ดีในมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งก็มาจากความสามารถที่เธอสอบเข้าเรียนได้ ต่างจากพี่ชายและน้องชายที่ได้รับการตามใจจากบิดามารดาในแทบจะทุกเรื่อง
ในขณะที่ใจเผลอนึกน้อยใจในชะตาชีวิตของตัวเองเสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“คิดอะไรอยู่”
ใบหน้าสวยหันกลับมามอง ริมฝีปากอิ่มเผยอออกจากกันเล็กน้อย ดวงตาเบิกกว้างส่งผลให้คนสวยดูน่ารักน่ามองยิ่งขึ้น
“เอ่อ ไม่มีอะไรค่ะ หลิวแค่มองวิว วิวห้องเฮียสวยมาก มองเห็นไกลเลย”
เขาหัวเราะในลำคอ ยื่นแก้วน้ำเย็นให้เธอ หญิงสาวรับมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ชายหนุ่มจึงเสริมขึ้นว่า “กลางคืนยิ่งสวย อยากเห็นมั้ย”
สายตาเริ่มฉายแววเด่นชัดยามมอง คีติการู้สึกประหม่าจนต้องเสยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ใจเต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน ใครจะรู้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกตื่นเต้นขนาดไหนและรู้ว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้น เธออายุยี่สิบห้าแล้วไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าการที่ผู้ชายชวนมาห้องแบบนี้มันสื่อถึงอะไร ตอนนี้ลืมเรื่องที่เขาบอกว่าจะมาเอาของได้เลยมันไม่มีจริงหรอก
เขายื่นมือมารับแก้วจากมือเธอแล้ววางมันไว้ที่โต๊ะใกล้มือ จากนั้นก็ยกมือมาจับที่ต้นแขนส่งสายตาเล้าโลม ดวงตาสองชั้นหลบในดูมีเสน่ห์ล้ำลึกน่าค้นหาจนคีติกาสั่นสะท้านทั้งตัว หญิงสาวก้มหน้าหลบสายตา โดยหารู้ไม่ว่าดวงตาที่กำลังมองเธออยู่นั้นเห็นเธอเป็นใบหน้าผู้หญิงอีกคน ผู้หญิงที่ไม่ยอมรับรักจากเขา ผู้หญิงที่เขาอยากจะมอบความรักให้แต่เธอปฏิเสธ มันคงถึงเวลาแล้วที่เขาต้องตัดใจอย่างเด็ดขาด การมูฟออนที่ดีที่สุดคือการมีคนใหม่ เมื่อมีคนใหม่เข้ามาเติมเต็ม หัวใจก็จะค่อย ๆ ลบเลือนคนเก่าไปเอง และผู้หญิงที่บิดามารดาแนะนำให้ก็ไม่เลวทีเดียว
“หลิว รู้ใช่มั้ยว่าเฮียต้องการอะไร”
ใบหน้าหล่อเหลาราวกับพระเอกระดับเทพเซียนที่หลุดออกมาจากจอเอ่ยน้ำเสียงทุ้ม หญิงสาวช้อนสายตามอง เห็นความอยากกระหายเต้นระริกอยู่ในแววตาของเขา เธอพยักหน้าหนึ่งครั้งอย่างเหนียมอายเป็นคำตอบ
“อยู่กับเฮียคืนนี้ มองวิวไปด้วยกันนะ”
คำพูดแฝงความหมายที่คนฟังรู้ดี ก่อนทั้งสองจะเริ่มความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน การที่คีติกากลับบ้านช้าหรืออาจจะไม่กลับบ้านเลยไม่ได้อยู่ในความสนใจของเสี่ยสมชัยและภรรยา ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนกำลังชื่นชมยินดีกับลูกชายคนเล็ก ส่วนลูกสาวคนกลางความหวังเดียวตอนนี้คือการที่ให้ฝ่ายชายรีบมาสู่ขอแต่งออกจากบ้านไปเร็ว ๆ เพื่อตนจะได้ค่าสินสอดที่คิดไว้ว่าจะเรียกไม่ต่ำกว่าแปดหลัก
ได้แล้ว... ปกเกศได้ตัวของคีติกาแล้ว ไม่ต้องใช้เวลานานมากเพราะเหมือนฝ่ายหญิงก็พึงพอใจเขาไม่น้อย สายตาผู้ชายที่เป็นที่หมายตาของสาว ๆ อย่างเขาดูเธอออกตั้งแต่แรก คีติกายังผุดผ่องเขาต้องค่อย ๆ ประคองเธอให้ผ่านความรวดร้าวในช่วงแรกให้ได้ก่อนจะบรรเลงเพลงรักให้อย่างถึงใจตามความอัดอั้นของเขา เธอหวานฉ่ำ ผิวกายเนียนนุ่มทุกตารางนิ้ว เขาสำรวจมาทุกซอกทุกมุมแม้แต่ส่วนที่ลึกและแคบที่สุดเขาก็ได้เข้าไปสำรวจเป็นคนแรก หลังจากเสร็จกิจในช่วงบ่ายคีติกาก็นอนหลับยาว มีเพียงร่างสูงที่พันผ้าเช็ดตัวไว้ครึ่งท่อนล่างยืนมองวิวยามค่ำคืนอยู่ตรงผนังกระจกเพียงคนเดียว เขาชินตากับภาพตรงหน้า ไม่ได้มีความตื่นเต้นใด ๆ และไม่ได้คิดว่ามันสวยงามแต่อย่างใดเลย ครู่ใหญ่จึงเดินเข้าไปในห้องนอนซึ่งไม่ใช่ห้องนอนส่วนตัวของเขา เป็นห้องสำรอง บนเตียงกว้างสีขาวมีร่างเปล่าเปลือยของคีติกานอนหลับอยู่ ข้างเตียงมีเศษซากเครื่องป้องกันการตั้งครรภ์ตกอยู่หลายชิ้น ร่างสูงเดินเข้ามาหยุดมองใบหน้าสวยที่กำลังหลับใหล ริมฝีปากอิ่มรูปกระจับตอนนี้บวมเจ่อจากเดิมเล็กน้อยจากการดูดดึงของเขา เหมือนเธอกำลังยิ้มแม้กระทั่งยามหลับสนิท ที่ลำคอระหงมีรอยคิสมาร์ก
ปกเกศปล่อยให้หญิงสาวได้พักผ่อนและเข้ามาดูเธอเป็นระยะ จนกระทั่งเธอตื่น เธอไม่ได้มีอาการตื่นตระหนกหรือเอะอะโวยวายบีบน้ำตาถามหาความรับผิดชอบอย่างในละครหลังข่าวก็โล่งใจ เขาจัดหาอาหารให้หญิงสาวได้รองท้อง ถามไถ่อาการหากเธอรู้สึกไม่สบายเพราะเกรงว่าเขาจะเคี่ยวกรำเธอมากไปจนอาจจะทำให้เธอป่วยไข้ แต่ทุกอย่างดูจะเป็นไปได้ด้วยดี
^
^
^
***โปรดติดตามตอนต่อไปนะค้า... รอเฮียหอน กดหัวใจ คอมเมนต์ให้นักเขียนหน่อยนะค้า