เอาใจไว้หน่อย…3/3

624 Words
คีติกาคิดใคร่ครวญดีแล้วว่าเธอไม่อยากปล่อยเวลาไปอย่างไร้ประโยชน์ แค่อยู่รอปรนนิบัติว่าที่สามีตอนกลับมาบ้านแบบนี้ดูแล้วไม่น่าจะใช่เรื่องที่สมควร เธอไม่อยากให้ความรู้และทักษะการทำอาหารที่มีต้องมาจบอยู่เพียงแค่นี้ จึงอยากจะขอออกไปทำงานข้างนอกบ้าง เมื่อคุณปิยะดามาเยี่ยมว่าที่สะใภ้คนโตของบ้าน คีติกาจึงเอ่ยเรื่องนี้ขึ้น “ม้าคะ หลิวมีเรื่องอยากจะปรึกษาค่ะ” “เรื่องอะไรจ๊ะ บอกม้าได้เลย” มารดาของปกเกศนั้นเอ็นดูเธอมาก ทำให้คีติกากล้าที่จะพูดเรื่องที่คิดไว้ “คือ หลิวอยากออกไปทำงานข้างนอกน่ะค่ะม้าหลิวคิดว่าจะไปสมัครงานที่ครัวของโรงแรมค่ะ เห็นประกาศรับอยู่หลายแห่ง” เธอมีฝีมือมีความรู้และมีความสามารถในการทำอาหาร ทั้งยังมีใบรับรองจากสถานศึกษา และมีประสบการณ์การทำอาหารได้หลากหลายคงมีโรงแรมสักแห่งที่เห็นความสามารถแล้วรับเธอเข้าทำงาน คุณปิยะดาฟังแล้วก็นิ่งไปครู่ใหญ่ สีหน้าครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะยิ้มและเอ่ยตอบ “ม้ารู้ว่าหลิวทำอาหารเก่งอยู่แล้ว เอางี้มั้ย หนูไม่ต้องไปรับจ้างใคร เป็นลูกจ้างคนมันเหนื่อย ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้าง หลิวมาเป็นลูกสะใภ้ม้าแล้ว ม้าจะเปิดร้านอาหารให้หลิวเอง หลิวจัดการทุกอย่างได้เลย จะลงมือทำเองหรือจะจ้างคนมาทำก็ได้ ม้าจะออกทุนให้” “ม้า...” คีติกาตะลึง ว่าที่แม่สามีที่แสนใจดียิ้มแล้วเอ่ยต่อ “ม้ามีตึกแถวเหมาะจะเปิดร้านอาหารแถวราชพฤกษ์อยู่ จริง ๆ ก็ซื้อไว้ให้คนมาเช่า แต่ตอนนี้ม้าจะทำเป็นร้านให้อาหลิวก็แล้วกัน” “ม้า หลิวไม่แน่ใจเลยว่าจะขายได้มากขนาดไหน หลิว...” คีติกายังไม่มีความมั่นใจในตัวเองว่าถ้าเธอเปิดร้านแล้วจะมีลูกค้ามากพอที่จะไม่ทำให้ร้านขาดทุนจนต้องปิดกิจการหรือไม่ ถึงจะมั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตัวเอง แต่การเปิดร้านอาหารนั้นมันมีหลายปัจจัยและร้านจะอยู่รอดหรือไม่ก็มีอีกหลายองค์ประกอบ ฝีมืออย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ ทว่าดูเหมือนว่าผู้เสนอให้ทุนในการเปิดร้านจะไม่ได้สนใจเรื่องผลประกอบการเท่าไรนัก “ไม่เป็นไร ลองทำดูก่อนแล้วกัน ดีกว่าปล่อยที่ร้างไว้” คุณปิยะดายื่นมือมากุมมือว่าที่สะใภ้ที่นางเอ็นดูอย่างเชื่อมั่น ค่ำคืนนี้หลังจากผ่านศึกรบกันมาแล้ว ลมหายใจที่หอบกระเส่ากลับมาเป็นปกติ คีติกาที่นอนหนุนท่อนแขนของปกเกศขยับใบหน้าออกมาเพื่อมองหน้าเขา ดวงตาคมสบมองเธอก่อนจะยกมือหนาขึ้นมาเสยกลุ่มผมนุ่มที่ปกใบหน้าให้อย่างอ่อนโยน ริมฝีปากอิ่มที่ถูกดูดดึงจนบวมเจ่อขึ้นเม้มเป็นเส้นตรงก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้หลิวคุยกับม้าเรื่องงาน...” ชายหนุ่มไม่เอ่ยแทรก เขาลูบศีรษะเธอเบา ๆ เพื่อเป็นการบอกว่ากำลังฟังเธออยู่ น้ำเสียงของเธอกระตือรือร้นขณะที่เล่าสิ่งเธอคุยกับมารดาของเขา “หลิวบอกม้าว่าหลิวอยากออกไปทำงานข้างนอก ไปสมัครเป็นเชฟที่โรงแรม แต่ม้าบอกหลิวว่า ม้าจะเปิดร้านอาหารให้หลิวทำค่ะ เฮียว่ายังไงคะ” “...อืม ก็แล้วแต่ม้า” ^ ^ ^ ***กดติดตามและส่งกำลังใจมาให้กันด้วยน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD