3

1222 Words
“พี่แพรวคะ แม่รักพี่แพรวนะคะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้พี่แต่งงานกับพี่ทัชหรอกค่ะ แม่อยากให้พี่แพรวสบาย พี่แพรวเข้าใจแม่นะคะ” เดือนดาราที่ไม่รู้เหตุผลแท้จริงในงานวิวาห์ของพี่สาว จึงพูดปลุกปลอบให้แพรงพรรณรายไม่ต้องคิดมาก และคิดว่ามารดาไม่รัก แต่แท้จริงแล้ว แพรวพรรณรายรู้เหตุผลทุกอย่าง รู้ทุกเรื่องที่เดือนดาราไม่รู้ แม้กระทั่งเรื่องความลับของกรกวินทร์ “ออกไปกันเถอะ พี่ไม่อยากถูกแม่ดุเรื่องที่ออกไปช้า” แพรวพรรณรายพูดตัดบท เธอไม่อาจเปิดเผยหรือแพร่งพรายความลับที่เธอรู้ให้ใครได้รับฟังได้ แท้แต่เดือนดารา สองพี่น้องจึงเดินออกจากห้องแต่งตัว เดินเข้าไปในงานสมรสที่จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ทุกคนที่อยู่ภายในห้องจัดเลี้ยงต่างมองมายังร่างของเจ้าสาวที่เดินเคียงคู่มากับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มีความงามไม่แพ้กัน ทุกสายตาต่างชื่นชมกับความสวยของแพรวพรรณราย แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มองข้ามความสวยของเธอไป แม้ว่าเขาอดจะตะลึงกับความงดงามของเธอไม่ได้ แต่มันแค่เพียงชั่ววินาที ความงามขอแพรวพรรณรายโดดเด่นมาก ดวงหน้าหวานถูกแต่งแต้มพองาม ไม่มากเกินและไม่น้อยเกินไป อาจเป็นเพราะเธอเป็นคนสวยอยู่แล้วจึงไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางมาประทินโฉม รูปร่างของเธอสูงตามมาตรฐานหญิงไทย 165 เซนติเมตร ทรวงอกเอิบอิ่ม เอวคอดเล็กรับกับสะโพกผาย หุ่นของเธอขึ้นชื่อได้ว่าเย้ายวนบุรุษเพศ แต่คงไม่ใช่เจ้าบ่าวสุดหล่อที่เมินเฉยคำว่า พิศวาสกับเจ้าสาวของตน ในสายตาของกรกวินทร์มีเพียงนิสารัตน์ ดาราชื่อดังของเมืองไทยเท่านั้น ความรักที่เพาะบ่มมาหลายปี ทำให้ทั้งคู่วางอนาคตไว้ร่วมกัน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พังครืน เมื่อเขาต้องแต่งงานกับหญิงสาวอีกคน สตรีที่ไม่เคยรู้จักและคิดจะรักสายตาของกรกวินทร์ยามที่มองเจ้าสาวมีแต่ความเฉยชาและห่างเหิน ปะปนมาด้วยสายตาเกลียดชังที่คนถูกมองรู้สึกได้ แพรวพรรณรายหัวใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นเจ้าบ่าวของตน แม้ว่าเธอจะเคยเห็นเขาผ่านรูปถ่ายที่มารดานำมาให้ แล้วยังจะในนิตยสารหลายฉบับที่เขาให้สัมภาษณ์ ข่าววงการบันเทิงที่ลงข่าวเขาบ่อยครั้งเวลาควงคู่ไปกับนิสารัตน์หรือน้องฟ้า คนรักที่คบหากันมาหลายปี รูปร่างหน้าตาของกรกวินทร์ในรูปถ่ายหรือในทุกสื่อ ต่างกันเพียงนิดเดียวคือ ตัวจริงหล่อกว่ามาก ร่างกายของเขาดูสมบูรณ์แข็งแรง สูงใหญ่จนเธอคิดว่าหากยืนใกล้เขาจะต้องเงยหน้าคุย สายตาของเขาดูไม่เป็นมิตรราวกับว่าจะประหัตประหารเธอทางนัยน์ตาคมกล้า เขาคงโกรธและเกลียดเธอที่ต้องทิ้งผู้หญิงอันเป็นที่รัก มาเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้า หรือจะพูดง่ายๆ ว่าไม่รู้จัก แต่มีหรือที่เธอจะแคร์และสนใจ เพราะเธอเองก็ไม่ปรารถนาจะแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว เขาร้ายมาเธอก็จะร้ายกลับ “สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า” แพรวพรรณรายพนมมือไหว้ภวินทร์กับธาริณี พ่อและแม่สามีอย่างเป็นทางการของตนในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า “สวัสดีค่ะคุณกรกวินทร์ คุณกวินภพ” ก่อนจะหันไปไหว้เจ้าบ่าวกับกวินภพที่รับไหว้เจ้าสาวตามมารยาท “ไม่ต้องเรียกทัชกับทอร์ชอย่างเป็นทางการนะจ้ะ เรียกว่าพี่ทัชกับพี่ทอร์ช และก็เรียกแม่กับพ่อแทนลุงกับป้านะแพรวเพราะเราจะมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” เสียงนุ่มนวลของธาริณีดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร “ค่ะคุณแม่” แพรวพรรณรายรับคำ “พ่อว่าทัชกับแพรวไปทักทายแขกผู้ใหญ่ก่อนดีกว่านะ” ภวินทร์พูดขึ้น เมื่อเห็นแขกผู้มีเกียรติที่ตนเชิญมาทยอยเข้ามาในงาน ผู้พูดดูเหมือนจะเป็นคนจอมเผด็จการที่ทุกคนต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้ พอภวินทร์พูดจบก็เดินนำคู่บ่าวสาวไปยังแขกผู้มีเกียรติเพื่อทักทายและกล่าวขอบคุณที่มาร่วมงาน โดยมีร่างของธาริณีกับพริ้งเพราเดินตามไป พิธีแต่งงานของกรวกินทร์กับแพรวพรรณรายเป็นไปด้วยดี แขกที่มาร่วมงานในช่วงเช้าอาจจะไม่มากนักราวหนึ่งร้อยกว่าคนเห็นจะได้ เนื่องจากแขกที่เชื้อเชิญไปจะมาร่วมงานฉลองมงคลสมรสมากกว่า ช่วงเช้าก็จะเป็นญาติและเพื่อนฝูงของครอบครัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว ตลอดงานในช่วงเช้ากรกวินทร์กับแพรวพรรณรายกลายเป็นนักแสดงจำเป็นและทำได้อย่างดีเยี่ยมตามที่บุพการีของทั้งสองกำชับแล้วกำชับอีก แสร้งทำสีหน้ายิ้มแย้มประหนึ่งดีใจเป็นหนักหนาที่ได้แต่งงานกัน รูปถ่ายทุกรูปที่ถ่ายคู่กัน ใบหน้าของทั้งคู่จะเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม แม้แต่ตอนที่ถ่ายกับบุคคลอื่นทั้งคู่ก็ฉีกยิ้มกว้าง ทว่าในใจข่มขื่นยิ่งนัก ภวินทร์กับพริ้งเพรารู้สึกพอใจกับลูกของตัวเองที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ทำให้ทั้งคู่ขายหน้า คงจะมีเพียงธาริณีที่รู้ดีว่า ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มมีความทุกข์ระทมข่มขื่น นางอดที่จะสงสารทั้งคู่ไม่ได้ แต่ก็เข้าขัดขวางงานวิวาห์ในครั้งนี้ไม่ได้เช่นกัน หลังจากเสร็จพิธีรดน้ำสังข์ก็ถึงพิธีสำคัญของงานอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือการจดทะเบียนสมรส เจ้าหน้าที่จากเขตอำนวยความสะดวกเดินทางมาจดทะเบียนนอกสถานที่ พอถึงเวลาพิธีสำคัญอีกพิธีหนึ่งก็เริ่มขึ้น “เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเซ็นตรงช่องว่างนี้นะครับ” เจ้าหน้าที่จากเขตเอ่ยบอกจุดที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องกำกับชื่อลงไป กรกวินทร์ถือปากกาค้างปลายปากกาอยู่ห่างจากช่องที่เซ็นไม่ถึงสองเซ็นติเมตร มองดูใบสำคัญที่เขาจะต้องเซ็นชื่อกำกับนิ่ง จ้องมองไปยังชื่อของคู่สมรสที่เขาอยากจะเปลี่ยนเป็นชื่อนิสารัตน์ วรปรีดาเหลือเกิน แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ หัวอกของกรกวินทร์ตรอมตรมยิ่งนัก “เซ็นสิทัช มัวแต่ถือปากกาค้างอยู่นั่นแหละ ดีใจจนมือแข็งหรือไง” จอมบงการกระตุ้นลูกชายคนโต เจ้าบ่าวตวัดสายตามองผู้พูดเพียงนิด ก่อนจะตัดใจเซ็นชื่อลงในกระดาษแผ่นนั้น หลังจากที่กรกวินทร์เซ็นเสร็จก็ถึงคราวที่แพรวพรรณรายจะต้องเซ็นบ้าง ภวินทร์กับพริ้งเพรามองดูการจะทะเบียนสมรส พิธีการลำดับสุดท้ายของงานในช่วงเช้าด้วยรอยยิ้มแห่งความพอใจ ในที่สุดแผนการของทั้งสองที่วางไว้สำเร็จไปได้ด้วยดี แผนการที่จะไม่มีหญิงสาวคนใดมาช่วงชิงทรัพย์สมบัติของตระกูลเดชาพิพัฒน์ไปจากลูกชายของเขาได้ เป็นอันว่าพิธีการต่างๆ ในช่วงเช้าเสร็จสิ้นลงด้วยดี คงจะเหลือเพียงงานในช่วงเย็นที่คงต้องเหนื่อยกันหนักหน่อย เนื่องจากแขกที่มาร่วมงานจะต้องหนาตาตามฐานะของเจ้าของงาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD