ที่ผ่านมากับนายคนก่อนๆ เขาถูกกระทำไม่ต่างจากสัตว์ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขา รอยแผลเป็นบนตัว ความฟกช้ำทางจิตใจ ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไว้ใจคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ถ้าต้องยอมเป็นทาสต่อไป แล้วอีกเมื่อไรกันที่เขาจะอยู่อย่างไม่หวาดระแวงได้สักที?
ทวิชเงียบไปครู่ใหญ่ ทำเอาคนตรงหน้าต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
“เลิกคิดซะเถอะเรื่องนี้น่ะ ขอในสิ่งที่เป็นไปได้ถ้ายังอยากมีลมหายใจอยู่”
พูดจบก็หมายจะหันหลังกลับไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเด็กหนุ่มไม่ยอมเลิกราง่ายๆ
“แต่ผมอยากจะขอเรื่องนี้จริงๆ นะครับ”
ธามหันมามอง ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงได้ตื๊อนัก ขณะที่ทวิชยกมือขึ้นพนมที่หน้าอก
“ขอร้องล่ะครับคุณธาม ช่วยไปบอกคุณท่านทีว่าของขวัญวันเกิดปีนี้ ผมขอแค่ให้คุณท่านรับปากว่าปีหน้าจะให้ผมปลดแอก เท่านี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว”
ไม่เจียมตัว...
ธามอยากจะพูดคำนี้นัก แต่เพื่อไม่ให้เรื่องมันยืดเยื้อ เขาจึงตัดรำคาญด้วยการรับปากไป
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ฉันจะบอกให้”
สิ้นเสียง รอยยิ้มก็ผุดพรายขึ้นบนใบหน้าเด็กหนุ่มพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นมา
“ขอบคุณมากครับ”
เด็กหนุ่มกลับเข้าไปนั่งรวมกับกลุ่มทาสแล้ว ธามสูดหายใจเข้าปอดด้วยความระอาก่อนจะเดินจากไป
ขอให้นายรับปากว่าจะให้ปลดแอกเมื่ออายุครบเกณฑ์อย่างนั้นหรือ?
ดูท่าแล้วคงจะอยากมีอายุถึงแค่ยี่สิบเท่านั้นล่ะมั้ง...
ของขวัญวันเกิดจากคุณท่าน...
ทวิชทอดสายตามองกล่องของขวัญที่เป็นเพียงกล่องกระดาษสีพื้นด้วยความผิดหวัง หลังจากถูกหัวหน้าทาสเรียกไปรับแล้วเปิดมันออกมา เขาก็พบว่าสิ่งที่เขาได้เป็นของขวัญวันเกิดคือเสื้อตัวใหม่ ไม่ใช่คำมั่นว่าจะให้เขาได้ปลดแอกเมื่ออายุครบเกณฑ์อย่างที่เขาหวังไว้
ธามโกหกเขา โกหกว่าจะไปบอกให้ แต่จริงๆ แล้วคำขอของเขาไม่ได้ถูกเขียนลงในรายงานเลยแม้แต่คำเดียว
เสื้อตัวใหม่...ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าต้องเป็นธามที่บอกให้หัวหน้าทาสเขียนลงไปแน่
ทวิชวางเสื้อลงบนฟูกนอนมอซอของตัวเอง สีหน้าและดวงตาฉายแววผิดหวังออกมาอย่างไม่ปกปิด ทำเอาหัวหน้าทาสที่เป็นคนมอบกล่องของขวัญให้เมื่อครู่นี้หัวเราะร่วนเป็นการใหญ่
“ได้เสื้อก็ดีแล้วไอ้วิช”
“แต่ผมไม่อยากได้เสื้อ”
ทวิชยังคงตอบไปตามความจริง ทำให้เขาถูกตบเข้าที่ข้างศีรษะไม่แรงนัก
“ทาสอย่างมึงมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอวะ อย่าเรื่องมาก”
ทวิชลูบศีรษะตัวเองป้อยๆ ใบหน้าเหยเกเล็กน้อยด้วยเจ็บแปลบขึ้นมา ขณะที่อีกฝ่ายเท้าสะเอวว่า
“กูไม่เข้าใจมึงเลยว่าทำไมจะต้องเอาชีวิตตัวเองไปแลกกับอะไรโง่ๆ ด้วย มึงก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าไอ้โง่นั่นมันเป็นยังไง โน่น ป่านนี้ยังนอนพะงาบๆ หยอดน้ำเกลือไม่ได้สติอยู่เลย ดีนะที่มันเป็นทาสในสังกัดนี้ ถ้าเป็นสังกัดอื่น นายเขาทิ้งให้ตายเป็นหมาข้างถนนแล้ว”
เรื่องนั้นก็จริงอยู่ แต่ทวิชก็อดไม่ได้นี่นาที่จะคิดถึงความอิสระที่ตัวเองโหยหานี่นา ถึงเขาจะโง่ที่ไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ทว่าก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดที่จะไม่รู้ว่าไม่ควรพูดอะไรออกไปหลังจากนี้ เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงต้องถูกหัวหน้าทาสตบอีกแน่
“เลิกคิดฟุ้งซ่านซะ แล้วมาช่วยกูเตรียมข้าวของ คืนพรุ่งนี้คุณท่านจะจัดงานเลี้ยง อย่ามัวขี้เกียจ”
ทวิชลุกขึ้นตามคำสั่ง เขาเตรียมจะไปช่วยทาสผู้ชายคนอื่นๆ ยกโต๊ะเก้าอี้ไปจัดในห้องบอลรูมของคฤหาสน์ ทว่ายังไม่ทันจะได้เดินออกจากเรือนนอนทาส หัวหน้าทาสก็มาขวางหน้าเขาไว้ ก่อนกดเสียงต่ำพูดให้ได้ยินเพียงสองคน
“แล้วก็อย่าคิดทำเรื่องวุ่นวายเป็นอันขาด ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน”
ที่พูดอย่างนี้เพราะระแวงว่าทวิชจะทำอะไรที่ไม่คาดคิดล่ะสินะ ก็แน่ล่ะ ขนาดของขวัญที่ร้องขอยังเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเลย ถูกปฏิเสธอย่างนี้ ถ้าเกิดคิดทำอะไรบ้าๆ ขึ้นมา เดี๋ยวจะพากันซวยไปทั้งบาง
“เข้าใจไหม”
ถูกย้ำถามมาอีกที ทวิชก็พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนที่หัวหน้าทาสจะเดินออกไป ปล่อยให้เด็กหนุ่มก้าวตามหลัง
ทำเรื่องวุ่นวายหรือ?
เขาไม่ทำหรอก เพราะที่เขาจะทำน่ะ...คือขอของขวัญชิ้นใหม่ก็เท่านั้นเอง
เขาไม่อยากได้เสื้อตัวใหม่ ไม่อยากได้สิ่งของมีค่าอะไรทั้งนั้น เขาขอแค่โอกาส...
...โอกาสที่จะได้รับอิสระ
เพียงเท่านี้ ชีวิตเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
การได้ไปช่วยจัดโต๊ะเก้าอี้ที่ห้องบอลรูมในคฤหาสน์ เป็นโอกาสให้ทวิชได้สำรวจทางหนีทีไล่และทางเข้าออกในคฤหาสน์แห่งนี้
ใช่... เขากำลังคิดถึงการประจันหน้ากับนายของเขาซึ่งๆ หน้าเพื่อร้องขอในสิ่งที่เขาต้องการ
ไม่มีทาสคนไหนเคยทำแบบนี้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ทาสสมควรทำด้วย แต่เพื่อแลกกับโอกาสที่จะได้รับอิสระ ทวิชก็รู้สึกว่าเขาไม่มีอะไรที่จะต้องเสียอีกแล้ว ชีวิตอย่างนั้นหรือ? ถ้าเขาตาย มันก็เท่ากับว่าได้รับอิสระเช่นกัน แต่ถ้าพิการ...อย่างน้อยก็ไม่ต้องรับคำสั่งใครล่ะมั้ง
เป็นความคิดตื้นๆ และโง่มาก ถึงอย่างนั้นทวิชก็ยังคงตั้งใจจะทำสิ่งนั้น โชคเป็นของเขาที่นายใหญ่แห่งสังกัดจันทรานิรันดร์มักจะจัดงานเลี้ยงที่คฤหาสน์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง
คืนพระจันทร์เต็มดวงในวันพรุ่งนี้ตรงกับวันเกิดของทวิชเสียด้วย เขาเลยถือโอกาสคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นการขอของขวัญวันเกิดจากนายก็แล้วกัน
หลังจากที่ทำงานประจำวันตามหน้าที่เสร็จ ทวิชก็หลบออกมาจากวงอาหารเย็นเพราะรู้ดีว่าทุกครั้งที่คฤหาสน์มีการจัดงานเลี้ยง เหล่าทาสและไทมักจะได้รับอนุญาตให้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย ดื่มและกินได้มากเท่าที่ใจต้องการเพราะมีอาหารที่เหลือจากงานเลี้ยงถูกส่งต่อมาให้ลิ้มรสไม่อั้น
อันที่จริงก็เป็นช่วงเวลาที่ทวิชชอบที่สุดในการเป็นทาสเหมือนกัน แต่เขาตั้งใจว่าจะไม่เป็นทาสอีกแล้ว ดังนั้นเขาจะพอใจในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ตามประสาทาสไม่ได้