บทที่ 2

1131 Words
อธิศกระโดดลงจากรถปาเจโร่ พลางเอ่ยถามก่อนจะเดินมาถึงตัวรินรดา “ทำไมถึงกลับเร็วนักละ งานเลี้ยงยังไม่เลิกไม่ใช่หรือ” “ก็บอกแล้วว่าเบื่อ อยากกลับเกาะแล้ว” รินรดาตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ไม่อยากให้อธิศตั้งคำถามที่จะจี้แทงใจดำของตน จึงเลี่ยงด้วยการเอ่ยต่อว่าอีกฝ่ายบ้าง “ว่าแต่นายเถอะ ขึ้นมาบนแผ่นดินใหญ่ทีไร ไม่พลาดไปหาพวกสาวๆ อย่างว่าเลยนะ” อธิศยิ้มกริ่มกับคำต่อว่า เขาไม่เคยโกรธเพื่อนตายคนนี้ ไม่ว่ารินรดาจะดุจะด่าหรือเจริญพรเขามากเพียงใด ก็ยังคงยิ้มรับเสมอ “แน่นอน นานๆ จะได้ขึ้นมาบนแผ่นดินใหญ่ ต้องจัดให้คุ้มค่าทุกนาที” ขณะเอ่ยตอบ ร่างใหญ่กำยำก็ก้าวเดินไปขึ้นรถ ซึ่งรินรดาเดินตามไปขึ้นอีกฝั่ง พอปิดประตูรถได้แล้วก็เอ่ยต่อว่าแกมเตือนอธิศ “เที่ยวผู้หญิงอย่างว่าบ่อยๆ ระวัง HIV (โรคเอดส์) จะถามหานะ...นายนะโม” “ไม่มีทาง” อธิศตอบกลับทันที ก่อนจะคว้าบางอย่างมาจากกระเป๋ากางเกงเอามาชูตรงหน้าให้รินรดาเห็น พร้อมกับลอยหน้าลอยตาตอบกลั้วเสียงหัวเราะ “นี่! ยืดอกพกถุง ฉันเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวติดกระเป๋าไว้เสมอ และไม่ใช่แค่อันสองอันนะ แต่เตรียมไว้เป็นสิบๆ อัน ในเก๊ะรถก็มี” ราวกับกลัวว่ารินรดาจะไม่เชื่อคำพูดของตน อธิศจึงทำท่าจะเปิดเก๊ะลิ้นชักรถให้เพื่อนรักเห็นหลักฐานที่ตนเก็บไว้ด้วย แต่ก็ถูกรินรดาร้องห้ามเสียงหลง “พอแล้วๆ เชื่อแล้วว่าเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวมาเยอะ ไม่ต้องเอามาโชว์ก็ได้ แล้วก็เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิมด้วย” รินรดาปัดมือใหญ่ของอธิศออก พออีกฝ่ายหัวเราะร่วนก่อนจะเก็บถุงยางอนามัยไว้ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม ก็บอกต่อว่า “กลับเกาะเถอะนะโม ฉันอยากกลับไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนเกาะ อยากไปนั่งฟังเสียงคลื่นลมทะเลที่บ้านของพวกเรา ฉันไม่ชินกับการอยู่บนแผ่นดินใหญ่เลย” “กลับก็กลับ” อธิศรับคำ ขณะสตาร์ทรถก็เอ่ยบอกถึงความรู้สึกของตนที่ผูกพันกับเกาะแห่งนี้เช่นเดียวกัน “ฉันก็อยากกลับไปว่ายน้ำที่เกาะเหมือนกัน ไม่มีที่ไหนที่เหมาะสมกับพวกเราเท่ากับเกาะโกลด์ ออฟ เดอะ ซี (Gold Off The Sea) อีกแล้ว” รถปาเจโร่สปอร์ตเคลื่อนตัวออกจากโรงแรมดังบนแผ่นดินใหญ่ มุ่งหน้าสู่ท่าเรือส่วนตัว ซึ่งเป็นท่าเรือของนายหัวราเมศวร์ ผู้เป็นเจ้าของเกาะโกลด์ ออฟ เดอะ ซี และที่ท่าเรือมีเรือเร็วส่วนตัวจอดอยู่หลายลำ เพื่อเป็นพาหนะที่จะพาอธิศและรินรดากลับไปยังเกาะแห่งนี้ บทที่ 2 เกาะโกลด์ ออฟ เดอะ ซี (Gold Off The Sea) มีนายหัวราเมศวร์ กุลธร เป็นเจ้าของเกาะ ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวขนาดใหญ่กลางทะเลอันดามัน บนเกาะแห่งนี้มีครอบ ครัวซึ่งเป็นลูกน้องของนายหัวราเมศวร์อาศัยอยู่เกือบยี่สิบครัวเรือน ทุกคนทำงานให้กับนายหัวราเมศวร์ ซึ่งทำธุรกิจหลักคือรังนกนางแอ่น เน้นการส่งขายในต่างประเทศเป็นหลัก สร้างรายได้ให้กับนายหัวปีละหลายร้อยล้าน บนแผ่นดินใหญ่ นายหัวราเมศวร์มีอาคารพาณิชย์หรูหราทันสมัยเป็นตึกสามชั้นอยู่ย่านใจกลางเมือง ชั้นแรกของอาคารเป็นสำนักงานของบริษัทโกลด์ ออฟ เดอะ ซี สำหรับให้ลูกค้าได้ติดต่อธุรกิจ ส่วนสองชั้นที่เหลือจะเป็นห้องพักสำหรับพนักงานของบริษัท ซึ่งล้วนแต่เป็นลูกหลานของคนงานบนเกาะ ที่ไม่สะดวกเดินทางไปกลับระหว่างเกาะและแผ่นดินใหญ่ ก็สามารถพักอยู่ที่นี่ได้เลย แต่สำหรับรินรดาและอธิศแล้ว ไม่มีที่ไหนที่ดีสำหรับพวกเขาเท่ากับการกลับไปนอนบนเกาะโกลด์ ออฟ เดอะ ซี นอนพักในบ้านแบบชาวเล มีคลื่นลมทะเลให้ความเย็นสบาย มีเสียงคลื่นซาซัดกระทบโขดหินเป็นท่วงทำนองดนตรีที่สรรสร้างจากธรรมชาติอันแสนไพเราะเสนาะหูขับกล่อมทั้งคืน ทันทีที่อธิศออกเรือเร็วจากท่าเรือมุ่งสู่เกาะ เมื่อใบหน้าได้ปะทะกับคลื่นลมทะเล กลิ่นอายของความเค็มของน้ำทะเลโชยเข้าจมูก รินรดาก็หลับตาพริ้ม คลี่ยิ้มกว้างขณะสูดโอโซนอันแสนบริสุทธิ์เข้าสู่ปอดลึกๆ และการกระทำของเธอก็ไม่รอดพ้นสายตาของอธิศที่กำลังทำหน้าที่เป็นกัปตันขับเรือเร็วมุ่งสู่เกาะ จนต้องออกปากเอ่ยสัพยอกว่า “ได้กลับเกาะก็ถึงกับเคลิ้มเลยหรือน้ำขิง” รินรดาลืมตาขึ้นมองอธิศ ซึ่งอีกฝ่ายกำลังแย้มยิ้มกว้างไม่ต่างจากเธอ แถมสีหน้าและแววตาดูเป็นสุขไม่แพ้กัน ในยามได้อยู่ท่ามกลางคลื่นทะเล ก็เอ่ยถามกลับคืนว่า “อย่ามาว่าแต่น้ำขิงเลย นายเองก็มีความสุขมากใช่ไหมละ ที่ได้ขับเรือเร็วแทนการขับรถสปอร์ตหรูๆ บนแผ่นดินใหญ่” “แหม! รู้ทัน” อธิศกลอกตาพร้อมกับหัวเราะร่วน และเอ่ยรับคำพูดของคนที่ต่อว่าเขากลายๆ “ใช่! เราชอบขับเรือเร็ว ชอบนั่งอยู่หลังพวงมาลัยเรือ เราสามารถหลับตาเพื่อขับเรือก็ได้เพราะไม่มีอะไรขวางอยู่ข้างหน้า เราสามารถเพิ่มความเร็วได้เต็มเหนี่ยวโดยไม่ต้องกลัวว่าจะชนกับอะไรเข้า แต่เมื่อไรที่ขับรถ เราเหยียบคันเร่งได้ไม่เกินร้อยกิโลเมตร ขับได้ไม่ถึงสองนาทีรถก็ติดแล้ว” “แถมบนแผ่นดินใหญ่อากาศไม่บริสุทธิ์เหมือนในท้องทะเลและบนเกาะของพวกเราด้วย” เอ่ยบอกไปแล้วรินรดาก็สูดอากาศรับกลิ่นอายของความเค็มน้ำทะเลเข้าปอดอีกครั้ง ซึ่งอธิศก็ทำในท่าเดียวกัน ก่อนจะเอ่ยบอกกลั้วเสียงหัวเราะ “อยู่บนแผ่นดินใหญ่ เราสูดอากาศได้ไม่เต็มปอดเลย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะต้องมาขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดกับพวกสาวๆ จ้างให้เราก็ไม่ไปแผ่นดินใหญ่หรอก” “ขาดไม่ได้เลยนะกับเรื่องนี้” รินรดาต่อว่าพร้อมกับมองค้อนตาคว่ำด้วยความหมั่นไส้ ทำเอาอธิศต้องหัวเราะไม่หยุด “ก็ต้องมีบ้างแหละน่า...เรายังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตน ก็ต้องหาทางระบายความใคร่ออกมาบ้าง ไม่ยังงั้นได้จุกอกตายแน่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD