“ไร่ฉายตะวัน”
เสียงดังกังวานดั่งกับพญาราชสีห์คำราม ประกาศก้องออกไปให้บรรดาพวกลูกน้องผู้มีหน้าที่ติดตามได้รับรู้กันถึงหน้าที่ด่วนที่ถูกเรียกตัวให้มาทำงานกันในยามดึกดื่นผิดเวลาเช่นนี้
แล้วร่างกายใหญ่โตกำยำที่ถูกดูแลมาเป็นอย่างดี แม้ในวัยสามสิบห้าแล้วก็ยังไม่มีไขมันส่วนเกินตรงไหนโผล่ออกมาก่อกวนใจเลยแม้แต่น้อย ทั้งร่างกายของเขามีแต่มัดกล้ามเนื้อสมส่วนสวยงาม ก้าวขึ้นรถคันงามที่ถูกนำมาจอดเทียบท่ารออยู่ก่อนแล้วด้วยท่วงท่าสง่างามราวกับเทพบุตร
“แต่พรุ่งนี้เช้านายมีประชุมด่วนนะครับ”
เสียงของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมือขวาค้านขึ้น เพราะเรื่องของวันพรุ่งนี้ถือได้ว่าสำคัญมากๆไม่แพ้เรื่องด่วนที่นายของเขากำลังจะไปจัดการนี่เลย
“อื้ม”
รับรู้เรื่องที่ลูกน้องรายงานแล้วก็รีบดึงประตูรถที่ตัวเองก้าวขึ้นมานั่งเรียบร้อยให้ปิดลง
เอนร่างกายกำยำใหญ่โตไปกับเบาะหนังราคาแพงพอๆกับรถ หลับตาลงเพื่อพักผ่อนในทันที ด้วยแทบไม่ได้พักเลยมาตั้งแต่เมื่อวาน
“ไม่ต้องหลับต้องนอนกันอีก”
ร่างหนาใหญ่โตเกือบจะพอๆกับผู้เป็นเจ้านาย สะบัดก้นพร้อมกับกระเป๋าเอกสารเดินบ่นพึมพำขึ้นมานั่งหน้ารถประจำตำแหน่งของตัวเอง
เหตุที่เขาต้องออกอาการขนาดนี้ก็เพราะเจ้านายของเขาต้องจัดการเรื่องด่วนที่ไร่ฉายตะวันให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงเมื่อไปถึง และจะรีบกลับมาที่กรุงเทพทันทีเพื่อจะได้ทันการประชุมในตอนเช้า
เจ้านายของเขานั้นจะไม่รู้สึกเลยว่ามันเหนื่อยเพราะแข็งแรงยิ่งกว่าควาย แต่เขานั้นร่างอรชรบอบบางแค่นั่งรถขาไปก็หมดแรงแล้ว ถ้าเงินเดือนไม่เยอะเขาคงลาออกไปแล้ว
“นายเขามีเรื่องด่วนน่ะคุณภัทร”
ประกิตคนขับรถที่มักจะได้พักมากกว่าคนอื่นๆเพราะเมื่อรถจอดเขาจะได้หลับทันที เริ่มพารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย และก็หันมาปลอบใจเพื่อนร่วมงานไปด้วย
”บ่อน บ่อน บ่อน”
ภัทรหันไปมองผู้เป็นเจ้านายที่นั่งอยู่ด้านหลัง เห็นชัดเต็มสองตาว่าหลับไปแล้ว เลยได้แค่หันมาบ่นเบาๆใส่หูประกิตไปเท่านั้น เป็นที่รู้กันดีในหมู่ลูกน้องว่าถ้าเจ้านายต้องการพักใครเข้าไปกวนด้วยเรื่องไม่ใช่เรื่องต้องเจอดีทุกรายไป
“ฟังเพลงคลายเครียดกันดีกว่า”
ประกิตกดเปิดเพลงที่เจ้านายมักฟังตอนหลับขึ้น ไม่ได้จะเอาใจคนนั่งข้างๆอย่างภัทรพ่อเลขาของเจ้านายหรอก แค่อยากให้เจ้านายหลับสนิทไม่ต้องตื่นขึ้นมากลางทาง ด้วยเห็นเจ้านายทำงานหนักมากมายแล้วก็เหนื่อยแทน
“ประสาทจะแดกน่ะสิไอ้กิต”
เพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้องดังขึ้น แต่เขากับประกิตก็ยังมิวายกระซิบกระซาบคุยกันต่อ ด้วยอารมณ์เหวี่ยงวีนยังค้างอยู่
“ติดตามนายมาหลายปี ถ้าบ้าก็คงบ้าไปแล้ว”
ประกิตพูดตอบอย่างคนรู้ทัน ก็มันทุกครั้งไปที่ภัทรจะต้องบ่นแบบนี้ แต่ก็เห็นว่าทำงานได้สำเร็จทุกครั้งไป ก็ไม่เข้าใจว่ามันจะบ่นทำไมของมัน
“รู้มากนักนะไอ้กิต น่าเบื่อจริงๆ เอาล่ะฉันจะหลับ ก่อนถึงปลุกด้วย”
เมื่อไม่มีอะไรจะเถียงภัทรก็จัดการปิดเปลือกตาตัวเอง แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามผู้เป็นเจ้านายไป
“เออ ไอ้เจ้าคุณภัทร”
นอกจากเขาจะมีเจ้านายชื่อสิงหราชที่นั่งอยู่ด้านหลังแล้ว เขายังมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบทำตัวเป็นเจ้านายอีกหนึ่งคน ต้องคอยรับคำสั่งจากมันอยู่เรื่อยไป
“ถึงแล้วครับนาย”
ภัทรโดนปลุกให้ตื่นขึ้นก่อนหน้าเจ้านายไม่นาน ก้าวลงจากรถมาเปิดประตูให้กับผู้เป็นเจ้านายและเรียกปลุกเบาๆ ทั้งที่ผมบนศีรษะของเขานั้นยังฟูไม่เป็นทรงอยู่เลย
“อื้ม”
ดวงตาคมลืมขึ้นตามเสียงที่แว่วเข้ามาในหู ฉายแววดุดันทันที จนลูกน้องที่ลงจากรถไปตั้งขบวนรอเจ้านายลงจากรถเริ่มหัวหดกันเป็นแถวๆ
“พร้อมแล้วครับนาย”
ลูกน้องที่มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของไร่ฉายตะวันเดินก้มหน้าก้มตาแทรกตัวเข้ามาหาผู้เป็นเจ้านาย แล้วรีบถอยหลบทางออกไปด้วยกลัวมีความผิดร่วมกับคนที่กำลังนั่งรอผู้เป็นเจ้านายอยู่ในห้องทำงาน
ร่างหนาขยับร่างกายอันเป็นสง่าลงมาจากรถ สายตายังคงความดุดันจ้องมองไปยังลูกน้องทุกคนให้ได้เกรงกลัวกัน
สองเท้าเตรียมขยับเดินไปด้านหน้า แต่ทว่ามันมีเหตุให้ต้องหยุดชะงัก
"ไม่ส่งข่าวบอกรินบ้างเลยนะคะว่าจะมา เลยไม่ได้เตรียมของว่างเอาไว้ต้อนรับคุณเลย"
ร่างบางในชุดนอนบางเบา เดินอย่างเร็วหรือเรียกได้ว่าวิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้าน และด้วยอาการรีบร้อนนั้นทำให้ชุดของเธอเปิดขึ้นเล็กน้อยจากที่มันก็แทบจะปิดอะไรไม่มิด หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่วันๆคอยเดินตามผู้เป็นเจ้านายต้อยๆถึงกับอ้าปากค้างและอยากลางานกลับไปหาเมียที่บ้านกันเป็นแถวๆ
“ดึกแล้วเธอควรจะขึ้นไปนอน”
ดวงตาที่ยังคงความดุดันเหลือบมองไปยังร่างอวบอั๋นที่หนุ่มๆหลายคนถวิลหาเพียงชั่วครู่ก่อนจะหันกลับมามองตรงไปยังเบื้องหน้า ทำเหมือนกับเธอไม่มีตัวตนต่างจากที่ชายหนุ่มคนอื่นๆเขาจะทำกัน
“รินไปชงชาร้อนๆให้คุณก่อนดีกว่า”
เกศรินสาวสวยหน้าตาดีพอๆกับหุ่นของเธอ ทำเหมือนอย่างที่เคยทำด้วยเพราะคิดถึง กอดแขนเขา เอาลำตัวอวบอั๋นแบบกำลังน่าฟัดซบไปหาลำแขนของเขาพร้อมกับใบหน้าสะสวย
“ฉันพูด เธอก็ควรจะฟัง”
ดวงตาคมที่มีแต่เปลวไฟพร้อมจะแผดเผาทุกคน จ้องมองไปยังคนที่เขามากอดซบ บ่งบอกความไม่พอใจ และถ้าเธอยังไม่ฟังในสิ่งที่เขาพูดเธออาจจะต้องรับกรรมเป็นที่ระบายอารมณ์โกรธเคืองของเขาในตอนนี้ก็เป็นได้
“ฝันดีนะคะ”
เกศรินรับรู้ถึงพลังอันร้อนแรงนั้นได้ เธอขยับตัวออกจากลำแขนอันอบอุ่น เดินจากไปอย่างอ้อยอิ่ง หันหลังกลับมามองคนที่กำลังถอดเสื้อสูทตัวหนาส่งให้ลูกน้องนับสิบๆครั้ง จนสุดสายตาที่เธอจะหันหลังกลับมามองไม่เห็นเขาแล้ว
ถึงแม้เธอจะใหญ่โตในบ้านกลางป่ากลางเขานี้จนไม่มีใครกล้าแตะต้อง แต่เธอก็จำต้องกลัวเขา เพื่อจะได้อยู่ที่นี่ไปให้ได้นานที่สุด