ชายหนุ่มนอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา คิดไม่ตกว่าปัญหาที่มารดากังวลอยู่นั้นคือเรื่องอะไร ทำไมถึงต้องจบปัญหาด้วยการให้เขาไปแต่งงานกับใครที่เขาไม่รู้จัก
ตั้งแต่เรียนจบมาเขาก็ทำงานช่วยที่บ้านตลอด ไม่ได้ออกไปใช้ชีวิตที่ไหน ไม่มีเวลาที่จะหาใครมาเป็นคนรัก แต่ถ้ามีจริงๆ ก็คงไม่มีเวลาให้ เพราะกลางดึกช่วงเช้ามืดก็ต้องไปสวนยางพารา กลับมานอนพักเอาแรงไม่กี่ชั่วโมง ช่วงเช้าก็ออกไปคุมคนงานเก็บยางไปเข้ากระบวนการรีดแผ่นตาก บ่ายมาก็เข้าไปช่วยพ่อดูแลสวนผลไม้ต่ออีก
ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ ถ้าไม่นับช่วงที่แวบออกไปเที่ยวหาความสุข เขาเองก็แทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวเลยด้วยซ้ำ เขาจึงเลือกที่จะอยู่บ้านหลังนี้ต่อไป ไม่ได้ย้ายไปอยู่บ้านสวนที่สร้างขึ้นใหม่ของพ่อกับแม่ ถึงมันจะใกล้สวนที่เขาทำงานอยู่มากกว่าก็ตาม
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงคืนกว่า เขาตัดสินใจลุกไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปที่สวนยางพารา เพราะถึงอย่างไรก็คงนอนต่อไม่ได้แล้ว
“ไอ้ส่ง ตื่นได้แล้ว” เขาเดินไปเคาะห้องของบุญส่ง คนงานวัยยี่สิบปีลูกของแม่บ้านที่บ้านสวน ที่มาอาศัยอยู่ด้วยเพื่อรับใช้เขา
“ยังไม่ตีหนึ่งเลยนาย” เขาเปิดประตูออกมาด้วยท่าทางงัวเงียเพราะพึ่งหลับไปได้แค่สามชั่วโมง
“ไอ้ส่ง!”
สิ้นเสียงนั้นบุญส่งรีบวิ่งไปห้องน้ำที่อยู่ข้างๆ ห้องครัว แล้วออกมาต้มน้ำชงกาแฟให้เจ้านายทันที
สุริยนเดินไปนั่งคิดเรื่องแต่งงานต่อ คิดไม่ตกเลยว่าปัญหานั้นหนักหนาขนาดไหนถึงทำให้มารดาหลั่งน้ำตาได้อย่างนั้น
‘จะว่าไปติดหนี้ที่ไหนก็คงไม่ใช่ บ้านเราไม่เคยอยู่จุดนั้น’
‘หรือพ่อแม่เราไปสัญญากับเพื่อนว่าจะให้ลูกแต่งงานกัน ไม่หรอก น้ำเน่าเกินไป’
‘แล้วมันเรื่องอะไรนะ’
เขาได้แต่นั่งคิดวนเวียนในหัว แล้วร้องตะโกนออกมาด้วยความหัวเสีย เมื่อนึกถึงอิสรภาพที่กำลังจะสูญเสียไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว
“โธ่โว้ย!”
“อะไรครับนาย” บุญส่งวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องครัว มองดูนายจ้างที่กำลังหัวเสียอยู่ด้วยความสงสัย
ปกติกลับจากการไปหาความสุขจากข้างนอกมา เขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แต่ในคืนนี้เขากลับดูโมโหและหงุดหงิด จนดูน่ากลัว
“ไปสวนกัน” เขาบอกเสียงเรียบ พยายามข่มอารมณ์ลง เพราะคิดไปก็ปวดหัวเสียเปล่า
“ไม่รอกาแฟก่อนเหรอครับนาย”
“ไม่ล่ะ กลับมาว่าจะนอนต่อ” เขาบอกแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวออกไป
คนงานวัยหนุ่มที่พ่วงตำแหน่งลูกสมุนคู่ใจจึงต้องรีบเดินตามเขาไปที่รถกระบะยกสูงสีดำ ก่อนที่จะโดนเขาหงุดหงิดใส่อีกรอบ
**********************
หลังจากกลับมานอนต่อในช่วงเช้ามืดแล้ว สุริยนตื่นมาอีกทีในตอนเก้าโมงเช้า เขารีบลงไปข้างล่าง เพราะมันเกินเวลามามากแล้ว
“ไอ้ส่ง แกทำไมไม่ปลุกฉันวะ” เขาร้องถามเด็กหนุ่ม ขณะที่เดินลงบันไดไปด้วย
ปกติแล้วเขาต้องไปดูคนงานเก็บน้ำยางที่รองเอาไว้ แล้วไปเข้ากระบวนการผสมน้ำยางแล้วรีดแผ่นตาก ถัดจากนั้นก็ไปทานอาหารเช้าที่บ้านสวนกับครอบครัว
“ผมปลุกแล้วครับ นายไม่ตื่น ผมเลยไปดูให้เรียบร้อยแล้ว และขอให้นายพ่อช่วยให้พี่เชนคุมคนงานแทนนาย แล้วนายแม่ฝากปิ่นโตมาให้ด้วยนะครับ เดี๋ยวผมอุ่นให้”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันหากินเอง ไปทำอะไรก็ไปเถอะ” เขาบอกคนงานหนุ่มที่รู้ใจเขา รู้จักไปขอให้ก้องภพช่วยสั่งงานแทน เพราะรู้ว่าตัวเขาเองไม่มีอำนาจพอ แล้วนึกเอ็นดูเด็กหนุ่มอยู่ไม่น้อย
“นายจะไปดูตอนเก็บแผ่นยางไหมครับวันนี้”
“ไม่ล่ะ ให้เชนคุมคนงานไป สวนก็คงไม่มีอะไรมาก” เขาหมายถึงสวนผลไม้ที่บิดาเป็นคนดูแล ส่วนเขาหน้าที่หลักคือดูแลเกี่ยวกับสวนยางพาราตั้งแต่กระบวนการกรีดยาง ไปจนถึงการตากแห้งเก็บมัดเข้าโกดังไว้รอขาย ส่วนงานในสวนผลไม้ก็เข้าไปช่วยบิดาบ้างตามเหมาะสม
“งั้นข้าวกลางวัน จะเข้าไปทานกับนายพ่อนายแม่ไหมครับ”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะโทรบอกเอง แล้วเย็นนี้ฉันว่าจะเข้าไปในเมืองเสียหน่อย แกก็หากินเองละกัน หรือจะไปกินที่นู่นก็แล้วแต่”
“นายพึ่งไป ‘ในเมือง’ มาเมื่อวาน ไม่ใช่เหรอครับ” เขาถามอย่างสงสัย เพราะคำว่าเข้าเมืองของนายจ้างหนุ่มนั้น เป็นที่เข้าใจกันดีว่าเขาจะเข้าไปใช้บริการของสาวๆ ในบาร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งปกติจะเข้าไปสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น
สุริยนไม่ตอบ หันไปมองบุญส่งด้วยสายตาที่ค่อนไปในทางดุ ทำให้อีกฝ่ายรีบก้มหน้าลงแล้วเดินไปทำงานบ้านต่อจากที่ค้างเอาไว้
เขาส่ายหัวเบาๆ เครียดจนนอนไม่หลับเพราะกำลังจะได้เมีย มันก็ต้องไปเจอสิ่งที่มันทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมา
**********************
“ทำไมวันนี้คุณเอวดุจังเลยค่ะ อืม” สาวสวยคนเดิมกับเมื่อวานถามเขาเสียงกระเส่า ในขณะที่สุริยนนั้นโถมสะโพกเข้าหาเธออย่างหนักหน่วง
เขาไม่ตอบ แต่จับสะโพกเธอรั้งเข้าหาตัวในท่ามาตรฐานแล้วคุกเข่ากระแทกแท่งลำเข้าไปอย่างดุดันแทน
“อื้อ” เธอครางออกมาเสียงหลง ตัวโยกตามแรงกระแทกที่หนักหน่วงนั้น
เขาจับเธอมานั่งตักเขาในท่านั่งหันหน้าเข้าหากัน เอาขาคาบเกี่ยวกันไว้ แล้วให้เธอโยกตัวลงมา ในขณะที่เขาบีบเคล้นหน้าอกขนาดเท่าลูกส้มโอมาดูดเลียด้วยความหื่นกระหาย
ตั้งใจจะระบายความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันลงกับบทรักในครั้งนี้ โดยไม่ออมมือ เพราะไม่รู้ว่าจะได้เต็มที่กับเรื่องบนเตียงแบบนี้ได้อีกเมื่อไหร่
“อืม ไม่ไหวแล้ว เสียวมากเลยค่ะ” เธอบอกเขาก่อนที่จะขย่มบดเบียดเข้าไปด้วยลีลาอันร้อนแรงแล้วเกร็งสะโพกขมิบตอดรัดแท่งลำของเขา
สุริยนจับเธอนอนตะแคง แล้วจับขาเธอข้างที่อยู่ด้านบนให้งอไปข้างหน้า ก่อนจะคุกเข่าแล้วดันแท่งลำเข้าไป ขยับสะโพกด้วยความเร็ว เร่งเร้าให้เธอนั้นตอบสนองเขาอีกครั้ง
“อึก จุก อือ” เธอครางบอกเขา ทำหน้านิ่วเมื่อเขาเล่นท่าตะแคงที่มันทำให้แท่งลำนั้นเข้าไปได้ลึกมากกว่าเดิม
สุริยนไม่ได้ชอบความรุนแรง แต่หากว่าสำหรับเขาแล้ว ยิ่งร่วมรักแบบดุดันมากเท่าไร มันยิ่งแสดงถึงอำนาจของเพศชายที่ผู้หญิงต้องยอมสยบ
แทนที่เขาจะเบามือลง กลับกระแทกต่อไปในท่าตะแคงนั่นจนอีกฝ่ายนั้นทั้งเสียวทั้งจุกระคนกันไปหมด
เขาใช้นิ้วบดบี้จุดกระสันของเธอไปด้วยขณะที่ซอยเข้าไปถี่ๆ ทำให้ตอนนี้จะจุกแค่ไหนเธอก็ไม่สนใจ ความสุขจากการถูกเขาปรนเปรอนั้น มันสุดจะบรรยาย
สักพักสุริยนก็ผละออกจากเธอแล้วเป็นฝ่ายนอนหงายลงไป เธอขึ้นมาขย่มแท่งลำของเขาในท่าหันหลังให้ แล้วเอนตัวหงายค้ำยันที่นอนขณะที่ขย่มลงไปในมุมที่ทำให้เธอนั้นเสียวจนทนไม่ไหว
เขาเองก็เด้งสะโพกสวนเข้าไปในร่องฉ่ำแฉะนั้นไม่รอให้เธอขย่มลงมาเพียงฝ่ายเดียว
ไม่ไหวแล้ว อืม อื้ม” เธอครางเสียงหลงออกมา ก่อนที่จะถึงจุดหมาย
“ไม่ไหวแล้ว” เขาเองก็รู้สึกปริ่มว่าจะเสร็จ
หญิงสาวรีบลุกออกมาจากแท่งลำ ถอดถุงยางอนามัยออกโยนทิ้งไป ก่อนจะใช้ปากและมือของเธอทำหน้าที่ต่อ ดูดอมส่วนปลายเปิดสีชมพูนั้นอย่างคนที่หิวโหย ส่งผลให้สุริยนนั้นพอใจ ปลดปล่อยน้ำคาวสีขาวขุ่นเข้าไปในปากของเธอ ตามแบบที่เขาชอบโดยไม่ต้องร้องขอ
เขายกคอมองดูเธอเลียทำความสะอาดแท่งลำนั้น และดูดกลืนน้ำรักของเขา แล้วยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ที่ทำให้เธอนั้นตกเป็นทาสอารมณ์ของเขาได้
หญิงสาวลอบยิ้มอย่างพอใจ คนอื่นบอกว่าเขาจะนานๆ มาครั้ง แต่พอได้เจอลีลาที่เด็ดดวงของเธอเข้าไป เขาถึงขนาดกลับมาใช้บริการซ้ำเพียงชั่วข้ามคืน
“นอกเวลาหนูก็รับนะคะ ถ้าคุณต้องการ”
เขาไม่ตอบเธอ แต่กลับฉวยบีบหน้าอกหน้าใจนั้นเล่นอย่างมันมือ แล้วมองเธอด้วยสายตาที่เหมือนจะสื่อว่า คืนนี้มันไม่ได้จบแค่ครั้งเดียว
**********************