บทที่4 ตอแย

2486 Words
"มันเป็นวันเฮงซวยอะไรของแกวะพิมพ์" "แล้วนี่ต้องลงไปสลับกุญแจสำรองอีกเหรอวะ" พิมพ์ลภัสเดินหากุญแจห้องแล้วเดินบ่นออกจากห้องของคมกริช มือก็ควานหากุญแจสำรองห้องของคมกริชไปด้วยเพื่อจะนำไปสลับ "เอ๊ย ฉิบหาย นี่มันกุญแจห้องเรา แล้วมันมาอยู่กระเป๋าด้านข้างได้ไงวะ ทำไมเมื่อคืนถึงหาไม่เจอวะ เป็นเรื่องจนได้" พิมพ์ลภัสล้วงหากุญแจห้องสำรองจะเดินไปเปลี่ยนด้านล่างแต่ดันไปเจอกุญแจห้องของตัวเองด้านข้างของกระเป๋าถือพอดี "เลิกแล้ว เลิกขาดฉันจะไม่ดื่มไวน์ เครื่องดองของเมาอีกแล้ว" พิมพ์ลภัสพูดบ่นกับตัวเองแล้วใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปในห้อง ลำดับแรกรีบเดินไปในห้องน้ำถอดเสื้อเชิ้ตของคมกริชที่เปื้อนคราบน้ำรักออกแล้วปาทิ้งไว้บนพื้นห้องห้องน้ำ หลังจากนั้นพิมพ์ลภัสก็เดินไปอาบน้ำให้สายน้ำเย็นไหลผ่านร่างกาย ยืนอาบน้ำเช็ดถูร่างกายอยู่อย่างนั้น หวังที่จะให้คราบความสกปรกหลุดหายออกไปจากเรือนร่าง พิมพ์ลภัสยืนอาบน้ำไปร้องไห้ไปด้วยความเสียใจ ก่อนที่จะหมดแรงทรุดนั่งลงร้องไห้ลงกับพื้นห้องน้ำปล่อยให้สายน้ำเย็นไหลรดร่างกายไปเรื่อยๆ "อือๆ ทำไม ทำไมเรื่องนี้มันต้องเกิดขึ้นกับเราด้วย" "ทำไมต้องผิดพลาดไป เพราะไวน์ เพราะไวน์เพียงขวดเดียวขวดนั้น มันทำให้ชีวิตของเรามันพังได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ" "นี่เราต้องมาเสียตัวให้กับผู้ชายแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้" "เสียตัวแล้วยังไม่พอ ผลที่จะตามมาหลังจากนี้อีกล่ะ เราจะท้องมั้ย จะติดโรคหรือเปล่า ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะมาสร้างปัญหาทำให้เรา พี่หมึกและครอบครัวของเราต้องอับอายผู้คนหรือเปล่า" พิมพ์ลภัสนั่งคิดไปเรื่อยๆ น้ำตาแห่งความเสียใจก็ไหลไม่ขาดสาย พิมพ์ลภัสปล่อยให้ตัวเองนั่งร้องไห้อยู่ใต้ฝักบัวแบบนั้นอยู่นานจนร่างกายเริ่มหนาวสั่นและได้สติ "เอาวะ ไอ้ที่เสียไปแล้วถือเสียว่าให้ทานหมามันไป แต่เราต้องมีสติคิดต่อว่าเราจะต้องทำยังไงให้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้มันจบลง" พิมพ์ลภัสเริ่มมีสติคิดได้ "แต่งตัวเก็บของกลับบ้าน แวะซื้อยาคุมฉุกเฉินกินก่อน เคยอ่านเจอว่าถ้ามีเพศสัมพันธ์แบบไม่ตั้งใจถ้ากลัวท้องให้ซื้อยาคุมฉุกเฉินกินป้องกันไว้ก่อน อาจจะป้องกันไม่ได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็น่าจะพอช่วยได้" เมื่อคิดได้ดังนั้นพิมพ์ลภัสจึงค่อยๆ ลุกขึ้น เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดคลุม เช็ดตัวเสร็จพิมพ์ลภัสก็เดินออกจากห้องน้ำไปแต่งตัวเก็บของเพื่อจะกลับบ้าน แต่ก่อนที่จะได้แต่งตัวพี่ชายของพิมพ์ลภัสก็ได้โทรมาหา "ยายพิมพ์เป็นยังไงบ้าง ตื่นแล้วใช่มั้ยเราน่ะ" "ตื่นแล้วค่ะพี่หมึก" "แล้วทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์พี่" "น้องอาบน้ำอยู่ค่ะ" "อ๋อ แล้วเป็นไงเมื่อคืนเมาหนักใช่มั้ยเรานะ พี่ยังไม่ได้จัดการนะ เรื่องแต่งชุดเซ็กซี่ก็ด้วยอีกเรื่องหนึ่ง แล้วยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า จะกลับกรุงเทพพร้อมพี่กับน้องอายมั้ย" พลากรพูดถามและบ่นน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนมาเป็นชุด "น้องจะกลับเองค่ะ พี่หมึกพายายอายกลับไปก่อนเถอะ" "แน่ใจนะว่าไม่เป็นไร ยังปวดหัวอยู่อีกมั้ย พี่เป็นห่วงเรานะ" "น้องโอเคแล้วค่ะ พี่หมึกอย่ามาถามน้องเยอะตอนนี้ได้มั้ย น้องจะแต่งตัวเก็บของแล้ว เดี๋ยวจะลงไปหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยกลับกรุงเทพค่ะ" พิมพ์ลภัสรีบพูดตัดบทไม่อยากให้พี่ชายมาซักไซ้ไล่เลียงตนเองเยอะ แค่นี้พิมพ์ลภัสก็สะท้อนให้หัวอกแทบจะกลั้นน้ำตาและเสียงร้องไห้เอาไว้ไม่ไหวแล้ว "เอาอย่างนั้นเหรอจะกลับเองใช่มั้ย กลับได้แน่นะ ถ้าพิมพ์ยืนยันแบบนั้นพี่กับน้องอายก็จะล่วงหน้ากลับกันก่อน" "ค่ะ น้องมั่นใจ น้องกลับเองได้ พี่หมึกกลับกรุงเทพไปก่อนเถอะค่ะ" "อือ โอเคตามนั้น พี่กลับก่อน ยังไงก็เจอกันที่กรุงเทพนะ" "ค่ะ พี่หมึก" พิมพ์ลภัสรับคำแล้ววางโทรศัพท์ไป ก่อนที่จะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ร่วงเผาะลงมา ตัดใจยอมรับการสูญเสีย ปลอบใจตัวเองมองหาทางแก้ปัญหาแล้วเดินต่อไปข้างหน้า "มันก็แค่ฝันร้ายพิมพ์ แกต้องเข้มแข็ง ชีวิตมันต้องไปต่อ แต่งตัวแต่งหน้าออกไปหาอะไรกินและหายาคุมฉุกเฉินมากินก่อนเป็นอันดับแรก" พิมพ์ลภัสพยายามปลอบใจตัวเอง แต่งตัวแต่งหน้าแล้วเก็บของหยิบกุญแจรถกระเป๋าถือเตรียมตัวออกไปcheck outกลับบ้าน แต่พอเปิดประตูออกมาก็พบว่าคมกริชยืนอยู่หน้าห้อง "แหม อาบน้ำแต่งตัวนานจังเลยนะครับคุณเมีย" คมกริชยิ้มกว้างแล้วพูดทักทายพิมพ์ลภัสออกไปด้วยท่าทีกวนๆ ตามสไตล์ของคมกริช "ไอ้บ้า ใครเมียแก ถอยออกไปเลยนะอย่ามายุ่งกับฉันอีก" พิมพ์ลภัสแหวใส่แล้วไล่คมกริชออกไป "ไม่ให้ยุ่งได้ยังไง คุณเป็นเมียผมแล้วนะ ในท้องของคุณมันก็อาจจะมีลูกของผมอยู่ หลักฐานมันก็ล้นทะลักเต็มมือของคุณหนูพิมพ์ลภัสนะครับ" คมกริชแกล้งพูดเข้าข้างตัวเองและข่มขู่พิมพ์ลภัสไปด้วย "ฉันไม่มีวันปล่อยให้มันโตในท้องของฉันหรอก จำเอาไว้ว่าอย่ามายุ่งกับฉันอีก ที่เสียไปถือเสียว่าให้ทานหมามันกิน" พิมพ์ลภัสพูดออกไปด้วยแรงอารมณ์โกรธ แต่เมื่อคมกริชได้ยินคำพูดของพิมพ์ลภัสก็หน้าร้อนผ่าวด้วยความโกรธแล้วเดินเข้าไปประชิดตัวจู่โจมดึงพิมพ์ลภัสเข้ามากอดแล้วพูดเสียงเย็นยะเยือกว่า "อย่ามาท้าทายพี่นะพิมพ์ เดี๋ยวจะได้ท้องโตให้ได้อายชาวบ้าน อีกอย่างนะไม่ควรให้ทานทำบุญด้วยเรือนร่างให้กับผู้ชายด้วย หรือว่ายังไงนะ เพราะน้องพิมพ์อยากขึ้นสวรรค์เหมือนเมื่อคืนหรือเปล่าถึงได้ทำบุญแบบนั้น" "ไอ้เลว สวรรค์บ้านแกสิ สำหรับฉันเมื่อคืนมันคือนรก นรกที่ไอ้ซาตานอย่างแกลากฉันลงไป ปล่อยฉันแล้วอย่ามายุ่งอย่ามาตอแยกับฉันอีก หรือว่าอยากได้เงินอยากได้เท่าเท่าไหร่ก็ว่ามา ไอ้..." พิมพ์ลภัสทั้งด่าว่าทุบตีคมกริชจนคมกริชทนไม่ไหวจึงประกบปากจูบลงทันฑ์พิมพ์ลภัสทันที คมกริชจูบคนสวยในอ้อมแขนอยู่เนิ่นนานจนพิมพ์ลภัสร้องไห้เพราะสู้แรงชายหนุ่มอย่างคมกริชไม่ได้ เมื่อเห็นว่าพิมพ์ละภัสร้องไห้แล้ว คมกริชจึงได้สติแล้วหยุดจูบ "ปากก็หวาน หน้าก็สวยดีนะ แต่เวลาพูดออกมาทำไมถึงได้เหมือนแม่ค้าในตลาดสดนัก" คมกริชหยุดจูบและยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาให้พิมพ์ลภัส แต่ก็โดนพิมพ์ลภัสปัดมือออกไปในทันที "ปล่อย ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ที่มาตอแยอยู่แบบนี้ต้องการอะไรจากฉันก็บอกมา เงินฉันก็เสนอให้แล้ว" "ผมตามมาเอาเสื้อผมคืน เชิ้ตตัวนั้นตัวละหลายพันเลยนะ" คมกริชแกล้งพูดทวงเสื้อเชิ้ต "ฉันทิ้งถังขยะไปแล้ว อยากได้คืนก็ไปเอาในถังขยะ" "เอ๊ย ได้ยังไงวะ พิมพ์ทิ้งเสื้อของพี่ทำไม" "อย่ามาเรียกชื่อฉันและอย่ามาแทนตัวเองว่าพี่ ฉันมีพี่ชายคนเดียว แล้วถ้าไม่อยากโดนพี่ฉันยิงตายก็ช่วยออกไปให้พ้นจากชีวิตของฉันซะ" "ดุจริงๆ โอเคไม่เรียกแทนว่าพี่แต่จะเรียกแทนตัวเองว่าผัวนะเมียจ๋า" คมกริชยังไม่หยุดกวน "ไอ้บ้า นี่เงินค่าเสื้อของแกได้แล้วก็ไปซะ" พิมพ์ลภัสเปิดกระเป๋าแล้วดึงเงินส่งให้ ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่เอาเงินฟาดหน้าให้หายแค้น "ไม่ได้อยากได้เงิน ผมอยากได้คุณ อยากได้ลูกในท้องคุณ" "ไอ้บ้า ฉันไม่มีลูกให้แก ปล่อยฉันนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนช่วย" "ตอนนี้ยังไม่มีแต่เดียวได้มีแน่ อยากร้องก็ร้องสิ ร้องให้มันดังๆ ด้วยนะ ผมจะได้ประกาศว่าเมื่อคืนผมแอบลักหลับเมีย เมียผมเลยโกรธที่ไม่ปลุกเธอมาสนุกด้วยกันเลยโกรธผมใหญ่เลย ร้องสิครับผมจะได้บอกใครต่อใครว่าเราเป็นอะไรกัน เผื่อมีคนแอบถ่ายเราจะได้เป็นข่าวดังๆ พี่ชายคุณ พ่อแม่คุณจะได้เป็นข่าวดังไปกับคุณด้วย ทีนี้แหละธุรกิจบริษัทของพ่อแม่คุณคงดังระเบิดแตกแบบล่มจมแน่ๆ คุณว่ามั้ยครับคุณหนูพิมพ์เมียรัก" คมกริชร่ายยาว ยังไม่ยอมหยุดพูดกวนทำให้พิมพ์ลภัสโกรธ "ที่แกตามมาตอแยฉันแกอยากได้อะไร แกจะเอาเงินเท่าไหร่บอกมาเลยฉันจะเขียนเช็กให้แกเดี๋ยวนี้ แต่แกอย่ามายุ่งกับพ่อแม่พี่ชายครอบครัวของฉัน" "ไม่ได้อยากได้เงินเว้ย ที่คิดออกตอนนี้ก็อยากไปกินข้าวแล้วก็ขอติดรถกลับกรุงเทพกับคุณด้วยได้มั้ย" "ไม่ได้ ถ้าหิวข้าวก็เอาเงินไปหากินเอง" "แต่พี่ไม่มีรถแล้วนะ พี่ให้ลูกน้องของพี่กลับไปทำงานก่อน ส่วนพี่ก็มายืนคอยพิมพ์อยู่ นี่วันนี้อุตส่าห์ทิ้งการทิ้งงานเพื่อเมียเลยนะ" คมกริชไม่ได้พูดโกหก เขาตั้งใจคอยพิมพ์ลภัสเพื่อจะกลับกรุงเทพพร้อมกันจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้เขาได้สั่งให้พิภพขับรถกลับไปประชุมและจัดการเรื่องงานแทนเขาก่อน โดยอ้างว่าตัวของเขาเองมีธุระที่ต้องอยู่ทำต่อก่อน "ไม่มีรถคุณก็เหมารถตู้โรงแรมกลับไปก็ได้ ฉันออกเงินให้ก็ได้มันเป็นปัญหาของคุณไม่ใช่ปัญหาของฉัน หยุดตอแยกับฉันเสียที ฟังนะเรื่องเมื่อคืนฉันไม่ได้คิดว่าคุณเป็นอะไรกับฉัน แล้วในท้องของฉันก็ยังไม่มีลูกของคุณเพราะฉันไม่ยินยอมให้มันได้เติบโตในท้องของฉัน ขอให้เราจบกันตรงนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีกฉันขอร้อง" "ไม่ ผมไม่หยุด ถ้าอยากให้จบเรื่องวันนี้คุณต้องไปกินข้าวกับผมก่อน กินข้าวกันเสร็จคุณต้องให้ผมติดรถคุณกลับคอนโดของผมที่กรุงเทพด้วย ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้จะถึงหูพี่ชายคุณ ทุกคนจะได้รู้กันหมดว่าคุณเป็นอะไรกับผม" คมกริชพูดจาข่มขู่บีบบังคับพิมพ์ลภัส พิมพ์ลภัสนิ่งคิดไม่รู้จะทำอย่างไรดี ได้แต่คิดว่า "เอาวะ กินข้าวให้จบๆ ไป ไปถึงกรุงเทพแล้วก็ต่างแยกย้าย มันคงไม่พยายามตามสืบเรื่องเราหรอก ถ้ากลับไปถึงกรุงเทพเรามีพี่หมึก เรามีพ่อที่จะคุ้มครองปกป้องเราได้ ถึงตอนนั้นถ้ายังมายุ่งตอแยกับเราไม่เลิกอีกค่อยให้พี่หมึกช่วยจัดการให้ก็ได้" พิมพ์ลภัสคิดในใจ "ตกลงฉันจะไปกินข้าวกับนาย และพานายไปส่งคอนโด แต่นายต้องสัญญาว่าจะไม่ตามตอแยรังแกฉัน ไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราให้ใครฟัง ตกลงมั้ย" "เออ สัญญาว่าวันนี้จะไม่พูดแน่ๆ ไปเถอะผมหิวข้าวแล้วนะ คุณเมีย" คมกริชรับคำแล้วแกล้งพูดล้อว่าคุณเมีย "ไอ้.....ซิ.... บอกว่าอย่าเรียกฉันว่าเมียไงเล่า" พิมพ์ลภัสพูดต่อว่าน้ำเสียงขัดอกขัดใจ อยากจะด่าออกไปแรงๆ แต่ก็กลัวเรื่องมันจะไม่จบลงเสียที "อ้าว เรียกชื่อก็ไม่ได้ เรียกเมียก็ไม่ได้ ให้เรียกอะไรดีล่ะ ที่รัก ดีมั้ยครับ" "หยุดไม่ต้องเรียกอะไรทั้งนั้น ไปกินอาหารเช้าแล้วกลับกรุงเทพเลย ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกเลยแม้แต่วินาทีเดียว" หลังจากนั้นพิมพ์ลภัสก็เดินลงส้นหนักๆ ไปห้องอาหารของโรงแรม นั่งกินอาหารเช้ากับคนที่ตนเองเกลียดมาก กินไปก็ฝืดคอไปผิดกับท่าทางของอีกคนที่นั่งกินอย่างมีความสุขและท่าทางจะเจริญอาหารเป็นอย่างมาก "อิ่มได้แล้วยัง ไปตายอดตายอยากมาจากไหน กะจะกินให้ห้องอาหารโรงแรมเขาล่มจมไปเลยหรือยังไง" พิมพ์ลภัสพูดเหน็บแนมต่อว่าคมกริช "ก็มันอร่อยและคนมันมีความสุขที่ได้นั่งกินข้าวกับคนสวย น้องพิมพ์ก็ต้องกินเยอะๆ นะ ลูกของเราจะได้แข็งแรงโตไวๆ" คมกริชยังพูดแกล้งพิมพ์ลภัสอย่างอารมณ์ดี "ไอ้.... ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ท้องไง อย่าพูดจาแบบนี้อีกนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะทิ้งคุณไว้ที่นี่แล้วถ้าคุณยังคิดจะเอาเรื่องของฉันไปพูดให้เสียหายฉันจะบอกให้พี่ชายฉันสั่งเก็บคุณซะ" "โห ดุเสียด้วย เป็นนางโมราหรือไงถึงได้คิดจะฆ่าผัวได้ลงคอ" "ไอ้บ้าบอกให้หยุดพูด ฉันอิ่มแล้วจะกลับกรุงเทพแล้ว" พิมพ์ลภัสลุกขึ้นพรวด ทำท่าจะเดินออกไป "โอเคๆ พี่ไม่แกล้งพิมพ์แล้ว อย่าทิ้งพี่เลยนะขอพี่กลับกรุงเทพด้วยคน" คมกริชพูดขึ้นและรีบเดินตามพิมพ์ลภัสไปcheck outและพากันขับรถกลับกรุงเทพ โดยคมกริชเป็นคนขับ "พี่ขับเอง พิมพ์มานั่งสบายๆ ดีกว่า" "จะขับได้เหรอ ไม่เป็นไรฉันขับเองรถของฉัน ฉันหวง" "ทำไมจะขับไม่ได้ เจ้าของรถก็ยังเคย..." คมกริชพูดเสียงดัง "ไอ้บ้า พูดเบาๆ นี่มันลานจอดรถจะพูดเสียงดังทำไม" "ไม่อยากให้พูดเสียงดังก็ส่งกุญแจรถมาสิ แล้วขึ้นไปนั่งดีๆ" คมกริชออกคำสั่ง พิมพ์ลภัสจึงส่งกุญแจรถให้แล้วเดินไปขึ้นรถ "ขับให้มันดีๆ ด้วย รถฉันแพงฉันหวง" พิมพ์ลภัสพูดเสียงสะบัดและนั่งนิ่งเงียบเสียง ไม่ยอมพูดยอมจา นั่งไปได้สักครึ่งชั่วโมงพิมพ์ลภัสก็ง่วงและเผลอหลับไปมารู้สึกตัวตื่นอีกทีรถก็มาจอดที่คอนโดของคมกริชแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD