ตอนที่ 4

1145 Words
“แปลกใจเรื่องอะไรเหรอคะ?” “ก็ฉันทำงานมานานหลายปีแต่ไม่เคยเห็นท่านประธานเรียกพนักงานคนไหนไปพบเป็นการส่วนตัวแบบนี้เลย” “พบเป็นการส่วนตัว...บอสหมายถึงพนักงานใหม่ที่เป็นผู้หญิงเอเชียตัวเล็กเมื่อกี๊นี้นะเหรอคะ” “อืม...ใช่...ฉันดูจากโปรไฟล์ส่วนตัวของเธอก็ไม่เห็นมีอะไรเป็นพิเศษแถมยังเป็นตำแหน่งเล็ก ๆ ถ้าเป็นระดับผู้บริหารก็ว่าไปอย่าง ที่สำคัญท่านประธานก็พึ่งกลับมาจากการประชุมที่สวีเดนและพึ่งเข้ามาสำนักงานใหญ่วันนี้ ฉันแค่แปลกใจว่าเธอมีอะไรพิเศษถึงได้ทำให้ท่านประธานอยากพบ” “บอสก็รู้นะคะว่าท่านประธานน่ะเป็นคนที่ทำอะไรค่อนข้างจะเดายากสักหน่อย ท่านอาจอยากเปลี่ยนแปลงนโยบายบางอย่างในที่ทำงานก็ได้นะคะ” “ฉันจะคิดในแง่บวกเหมือนเธอนะลิลลี่” ผู้ช่วยสาวยิ้มให้โดโรธีซึ่งยังนั่งจ้องมองเอกสารบนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิดแม้จะยังรู้สึกตงิด ๆ กับสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในที่ทำงานก็ตาม   “เชิญด้านในเลยนะคะ มิสดารินทรา” พนักงานสาวสวยของบริษัทหันมาเอ่ยกับมษยาเมื่อพาหญิงสาวชาวไทยซึ่งมีฐานะเป็นพนักงานใหม่มาหยุดที่หน้าบานประตูห้องหนึ่งบนชั้นที่หกสิบของตึกนอร์ธเทิร์นซี งหญิงสาวชาวไทยยิ้มให้อย่างประหม่าก่อนผลักประตูห้องเข้าไปเบา ๆ และก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ที่เธอถึงกับตกตะลึงในความโอ่โถงและอลังการของการตกแต่งสมกับเป็นห้องของท่านประธานเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ราวกับนี่เป็นห้องพักส่วนตัวมากกว่าจะเป็นที่ทำงานด้วยซ้ำ ภายในนั้นไม่มีตู้เอกสาร มีแต่โต๊ะทำงานซึ่งมีแลปท็อปเพียงเครื่องเดียว ด้านหลังมีชั้นวางโมเดลรูปเรือหลากหลายรูปแบบซึ่งทำให้หญิงสาวเผลอมองอยู่นานกระทั่งเธอได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น “อรุณสวัสดิ์...มิสดารินทรา” มษยาชะงักกึกเมื่อสดับน้ำเสียงที่เธอเหมือนจะคุ้นเคยกับมันมาก่อน น้ำเสียงห้าวลุ่มลึกและเต็มไปด้วยความหนักแน่นที่ดังอยู่ข้างหลัง และเธอก็ไม่เคยลืมเลือนน้ำเสียงนั้นตลอดระยะเวลาเนิ่นนานหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวไม่ได้หันกลับไปหากได้ยินเสียงฝีเท้าสืบเข้ามาใกล้ขณะร่างบอบบางยืนนิ่งและประสานมือไว้เบื้องหน้าด้วยปลายนิ้วกดเกร็ง เธอเกือบจะกลั้นหายใจกับความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายก่อนค่อย ๆ หันกลับไปเบื้องหลัง “เคน...” ริมฝีปากอิ่มระริกสั่นเปล่งเสียงลอดผ่านออกมาเบาแสนเบาพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างเล็กน้อย บุรุษร่างสูงสง่าในชุดสูทตรงหน้าคือคนคนเดียวกันที่เธอเห็นหน้าลิฟท์ซึ่งก็คือเขาจริง ๆ เคน คลิฟตัน “เคน...” “อรุณสวัสดิ์ครับ มิสดารินทรา” ชายหนุ่มเอ่ยประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง แม้เขาจะเรียกขานชื่อเธอไม่เหมือนดังเก่าทว่าน้ำเสียงที่เธอเคยได้ยินไม่แปลกเปลี่ยน ใบหน้าคร้ามเข้มภายใต้เรือนผมดกหนาสีบรูเน็ตเข้มขลับที่เธอเคยเห็นเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย นัยน์ตาสีน้ำเงินดุจท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรนั้นเปล่งประกายลุ่มลึกบนใบหน้าคมคายโหนกแก้มสูงรับจมูกโด่งยาวและริมฝีปากหยักหนาได้รูป เขาหล่อเหลาและดูภูมิฐานขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แตกต่างไปจากเมื่อก่อนซึ่งเขาเคยเป็นเด็กหนุ่มที่มักมีรอยยิ้มให้เธอเสมอ มษยาเกิดความคิดขึ้นมากมายแต่แล้วเมื่อตั้งสติได้และกำลังจะอ้าปากถามก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียก่อนว่า “ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง...มิสดารินทรา “เคน...เอ้อ...คุณมาทำอะไรที่นี่คะ” “ผมอยู่ที่นี่” เคนกล่าวสั้น ๆ ก่อนจะเดินผ่านหน้าร่างบางตรงไปยังเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานและหย่อนตัวลงนั่งขณะที่มษยามองเขาและเริ่มลำดับความคิด กระทั่งเขากล่าวขึ้นอีกครั้ง “ในฐานะ...ประธานบริหารสูงสุดของนอร์ธเทิร์นซี อิงค์ คอร์ปอเรชั่น” มษยาถึงกับนิ่งอึ้ง เขาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทนี้...ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน คำตอบนั้นสร้างความประหลาดใจให้หญิงสาวอย่างล้นเหลือ เธอเคยรู้ว่าเคนเป็นลูกชายมหาเศรษฐีลำดับต้นของอเมริกา แต่ไม่เคยรู้ว่าเขาคือผู้บริหารลำดับสูงสุดขององค์กรที่เธอพึ่งเข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรก มษยาทำสีหน้าแทบไม่ถูก แม้ว่าเธอจะเคยสนิทกับเขาในขั้นที่เรียกว่า คนรัก มาแต่เก่าก่อนแต่ตอนนี้สถานะระหว่างเธอกับเคนช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว หญิงสาวรู้สึกได้ในทันทีว่าเธอควรต้องวางตัวเช่นไร ซึ่งการรักษาระยะห่างระหว่างกันน่าจะเป็นการดีมากกว่าอย่างอื่น เพราะทุกอย่างไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว.... แต่ไม่ว่าจะอย่างไรถึงตอนนี้เธอก็ยังดีใจที่ได้เห็นความก้าวหน้าในชีวิตของเขาและความรู้สึกหวังดีต่อคนที่ตัวเองรักก็เป็นสิ่งที่เธอคาดหวังมาโดยตลอดแม้ว่าวันเวลาเหล่านั้นจะพ้นผ่านไปจากชีวิตของเธอและเขานานแล้ว หญิงสาวฝืนยิ้ม “ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้งเหมือนกันนะคะ ฉันยินดีด้วยนะคะเคน คือ...ฉันก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณเป็นผู้บริหารของที่นี่” “ผมอาจไม่ค่อยออกงานสังคมกระมังและที่สำคัญนอร์ธเทิร์นซีก็พึ่งก่อตั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ งานของผมคือทำยังไงให้บริษัทขยายตัวและได้ผลกำไรมากที่สุด ส่วนคุณ...ผมนึกว่าคุณจะแต่งงานกับใครไปแล้วเสียอีก” เคนเปลี่ยนท่านั่งไขว่ห้างขณะเอนหลังพิงเก้าอี้และประสานมือทั้งสองไว้บนเข่า ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้ารูปไข่งดงามของหญิงสาวตรงหน้า มษยาดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่เขาเคยเห็น เขาเคยเห็นเธอเป็นเด็กสาวแรกรุ่นงดงามสะพรั่งเหมือนดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ เขาเคยคิดว่าเธอเธออ่อนเยาว์และไร้เดียงสาเพราะแม้แต่ จูบ ครั้งแรกเธอยังทำประหนึ่งว่าไม่เคยได้รับมันจากผู้ชายคนไหน แล้วตอนนี้เธอจะเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า ชายหนุ่มไม่ได้นึกถึงด้วยความประหลาดใจ หากแต่มีบางอย่างคุกรุ่นอยู่ภายใต้ใบหน้าคมคร้ามซึ่งดูเสมือนเรียบเฉยนั้น 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD